ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games – ตอนที่ 20

ตอนที่ 20

กระนั้นซีเว่ยก็ไม่ได้ประมาท เขาไม่ได้ส่งอวตารของเขาลงมาบนโลกโดยตรงและระเบิดศัตรูทั้งหมดเพื่อเหล่าสาวกของเขา

เขาทำในสิ่งที่เขามักจะทำอยู่เสมอ ใช้ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของเขาค้นหาผู้ศรัทธาที่กำลังมีปัญหา และทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

ผลก็คือ เขาพบว่าผู้ศรัทธาเดิมของเขาไม่ได้เป็นพวกติดการพนันอย่างที่เขาคิด

แม้ว่าพวกเขาจะดูมอมแมม ชุดเกราะและอาวุธบนร่างของพวกเขาล้วนแตกหักและขาดรุ่งริ่งเพราะไม่ได้รับการบำรุงรักษามานาน แต่การเคลื่อนไหวของพวกเขาและตราสัญลักษณ์บนอุปกรณ์ที่แตกหักเหล่านั้น ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดไม่ใช่กลุ่มคนธรรมดา

ขณะที่เขาค้นความทรงจำที่เหลืออยู่ของเทพเจ้าแห่งเกม ซีเว่ยก็ตระหนักได้ทันทีว่าผู้ศรัทธาของเขากำลังลำบากกว่าที่เขาคิด

พวกเขาคือผู้ก่อตั้งศาสนจักรแห่งเกม ผู้รอดชีวิตจากเทียร์ร่าอาณาจักรที่ล่มสลาย

พุ่มไม้หนาทึบและต้นไม้ยักษ์สูงตระหง่านปรากฏอยู่ทั่วไปในป่ารกทึบ ปกติแล้วแทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดอาศัยอยู่ที่นี่ ใบของต้นไม้ปกคลุมท้องฟ้าและปิดบังแสงจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ลอดผ่าน ทั้งป่าดูมืดสลัว ถ้าไม่ใช่เพราะมีแสงแดดส่องทะลุผ่านใบไม้หนาทึบลงมาเป็นระยะจนเกิดเป็นลำแสงเส้นบาง ๆ ก็จะไม่มีใครสามารถแยกความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืนของที่นี่ได้

เด็กสาวในชุดเกราะกำลังวิ่งผ่านทางแคบ ๆ ระหว่างต้นไม้แต่ละต้น ผมหางม้าสีบลอนด์อ่อนของเธอสะบัดตามการเคลื่อนไหว แสงสีทองของเส้นผมนั้นสว่างกว่าแสงของดวงอาทิตย์ในป่าทึบแห่งนี้

นอกจากนั้นยังมีอีกหลายคนที่มีทักษะระดับสูงติดตามคุ้มกันอยู่ข้างกายเธอ พวกเขาดูเหมือนจะเป็นผู้คุ้มกันของเธอ

ทันใดนั้นเด็กสาวก็สะดุดรากไม้และเกือบจะล้มลง โชคดีที่ชายที่อายุมากที่สุดที่ติดตามอยู่ข้างกายเธอคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน

“ขอบคุณ ลุงคาร์โล” เด็กสาวกล่าวขอบคุณ เธอเหงื่อออกและหอบหนักเพราะวิ่งมาเป็นระยะทางไกลอย่างไม่หยุดพัก

“เป็นหน้าที่ของกระหม่อม ฝ่าบาท”

สีหน้าของชายคนนี้ผ่อนคลายกว่าเด็กสาวมาก แต่เขาก็ตอบเธอด้วยท่าทางที่จริงจังและเข้มงวด “ตอนนี้เราอยู่ห่างจากเมืองแลงคาสเตอร์แล้ว ป่าแห่งนี้คงถ่วงเวลาพวกมันได้สักพัก เราก็พักกันสักหน่อยเถอะ”

สีหน้าเคร่งเครียดของเธออ่อนลง เธอไม่ได้ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นทันทีแต่มองหารากไม้ใหญ่และเอนตัวพิงลำต้น เธอพูดอย่างเจ็บใจ “ข้าคิดว่าฐานที่มั่นของเราในแลงคาสเตอร์ถูกทำลายโดยกองทัพของราชากบฏ…ข้าไม่คิดเลยว่าพวกมันจะเป็นคนจากลัทธิชั่วร้าย พวกมันปรากฏตัวออกมาจากที่ใดกัน”

“นั่นเพราะ…เทพเจ้าแห่งเกมทอดทิ้งเรา” ชายวัยกลางคนพูดเสียงเรียบ

“นั่นเป็นการดูหมิ่นเทพเจ้า ลุงคาร์โล” เด็กสาวยิ้มอย่างขมขื่น แต่คำพูดของเธอดูเหมือนจะเป็นการเยาะเย้ยตัวเองมากกว่าที่จะตำหนิเขา

พูดให้ถูกคือแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ลี้ภัยจากเทียร์ร่า และยังคงมีศรัทธาเดิมในเทพเจ้าแห่งเกม แต่เกือบทุกคนก็ตระหนักดีว่าเทพเจ้าของพวกเขาได้ทอดทิ้งพวกเขาไปแล้ว

ถ้าเทพเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อย่างทียร์ร่าซึ่งเคยรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยอำนาจ เมื่อพวกเขาถูกรุกรานและถูกบีบบังคับจนแทบจะสูญพันธุ์โดยศัตรูต่างอาณาจักร เทพเจ้าองค์นั้นจะไม่ได้แสดงปาฏิหาริย์ใด ๆ เลยแม้แต่น้อยได้ยังไง และในตอนนี้ พวกเขาก็เหลือกันอยู่เพียงเท่านี้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะได้รับความเมตตาจากพระเจ้า

เด็กสาวที่เคยชินกับความจริงอันโหดร้ายมานานส่ายหัว เธอทิ้งความเคลือบแคลงในตัวเทพเจ้าแห่งเกมออกไป

“ช่างเถอะ ประเด็นสำคัญตอนนี้คือทำไมคนจากลัทธิชั่วร้าย ถึงรู้ฐานที่มั่นลับของเราในแลงคาสเตอร์ ที่ ๆ แม้แต่สายสืบของราชากบฏก็หาเราไม่พบ…”

“ข้าตอบคำถามนี้ให้ท่านได้ ท่านหญิงลีอา”

ทันใดนั้นน้ำเสียงแหลมเล็กและทิ่มแทงก็ดังขึ้นพร้อมกับบรรยากาศความเป็นศัตรูที่ไม่อาจปิดบัง มันได้ทำให้กลุ่มของเด็กสาวตื่นตัวขึ้นมาทันที

แต่ในไม่ช้าความตื่นตระหนกของพวกเขาก็กลายเป็นความสิ้นหวัง ร่างหลายร่างในเสื้อคลุมดำและหน้ากากขาวดำแปลก ๆ ปรากฏตัวขึ้นมาจากป่าทึบ ล้อมพวกเขาไว้ทุกทิศทาง

เด็กสาวรู้จักพวกมัน ฐานที่มั่นลับของเธอในแลงคาสเตอร์ถูกพวกลัทธิชั่วพวกนี้ทำลาย!

ผู้พูดน่าจะเป็นผู้นำของกลุ่มเสื้อดำ เขาก้าวเข้ามาใกล้พวกเธออย่างช้า ๆ ในตอนที่เขายกมือขวาขึ้น สาบเสื้อคลุมที่หล่นลงก็เผยให้เห็นมือขวาที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น

แมลงที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันสีม่วงเกาะอยู่บนนิ้วชี้ขวาของเขา มันใช้ขาหน้าของมันขยี้ดวงตาขนาดใหญ่ของมัน

“นี่คือแมลงวันซากศพ มันเป็นแมลงปีศาจที่คนในลัทธิของเราเลี้ยงดู แม้ว่าแมลงวันตัวนี้จะไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้ แต่มันก็สามารถระบุกลิ่นเน่าเหม็นที่แฝงอยู่ในตัวสาวกของเทพเจ้า ‘กระดูกเน่า’ ทุกคนได้อย่างแม่นยำ”

“มันง่ายมากที่จะติดตามพวกเจ้า”

ก่อนที่เด็กสาวจะได้โต้กลับ องครักษ์ที่อยู่ข้าง ๆ เธอก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอหันไปมองด้วยความตื่นตระหนกและพบว่าคาร์โล ชายวัยกลางคนองครักษ์ที่อยู่ข้างกายเธอมานานได้ฆ่าองครักษ์คนนั้นโดยไม่กะพริบตา

“หยุดนะ! ท่านกำลังทำอะไรอยู่ ลุงคาร์โล!” เด็กสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ

“ยังไม่เข้าใจอีกหรือ แมลงวันซากศพได้ติดตามกลิ่นของหัวหน้าองครักษ์คาร์โลของท่าน!” หัวหน้าพวกลัทธิปล่อยเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งออกมา “ลุงคาร์โลที่ท่านเคารพรัก อยู่ฝ่ายเดียวกับพวกข้ามาตั้งแต่ต้น เขากลายเป็นสาวกของลัทธิกระดูกเน่า!”

“…เป็นไปได้ยังไง” เด็กสาวไม่อาจทำใจยอมรับได้

“ข้าขอโทษ ฝ่าบาท”

คาร์โลยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิมทั้ง ๆ ที่เขากล่าวคำขอโทษ “ท่านก็น่าจะรู้ว่าภรรยาและลูกสาวของข้าเสียชีวิตในมหาสงครามเพื่อชาติของเทียร์ร่า ข้าไม่สามารถลืมสภาพร่างไร้วิญญาณที่เลวร้ายของพวกเขาได้ และในแต่ละปีที่ผ่านพ้นไป หัวใจของข้าก็ได้ถูกเผาไหม้ด้วยไฟแค้น…ถึงกระนั้น หลังจากสงครามจบลง ข้าก็ได้รู้แล้วว่าช่องว่างระหว่างกองทัพที่ได้รับพรจากเทพเจ้า กับกองทัพที่ถูกเทพเจ้าทอดทิ้งนั้นเป็นเช่นไร เทพเจ้าแห่งเกมผู้อ่อนแอไม่มีทางช่วยให้ข้าล้างแค้นได้ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงได้ขายวิญญาณของข้าให้กับเทพเจ้าที่สามารถช่วยข้าแก้แค้นได้”

“…และข้าก็เป็นเพียงบันไดให้ท่านปีนขึ้นไปสู่เส้นทางแห่งการแก้แค้นสินะ” ร่างกายของเด็กสาวสั่นสะท้าน เธอรู้สึกราวกับว่าเธอตกอยู่ในถ้ำน้ำแข็งอันเย็นเฉียบและโดดเดี่ยว หลังจากถูกคนที่เธอไว้ใจที่สุดทรยศ

“พูดให้ถูกก็คือ ท่านเป็นเพียงใบรับรองเท่านั้น เราจะจับท่านและมอบท่านเป็นของขวัญให้กับขุนนางของอาณาจักร เราจะติดป้ายท่านไว้ว่า ‘ราชนิกุล’ หรือ ‘เจ้าหญิงแห่งเทียร์ร่า’ ข้าเชื่อว่าเราจะได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทนจากหมูอ้วนเหล่านั้นแน่” หัวหน้าพวกลัทธิพูดแทรกขึ้นมา “พวกเขาชอบอะไรแบบนี้เป็นพิเศษ”

“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้ทำตามที่เจ้าต้องการ!” เด็กสาวกัดปาก เธอปลดดาบออกจากฝัก

องครักษ์คนอื่น ๆ ชักอาวุธของพวกเขาออกมาตามเธอ พวกเขาชี้มันใส่พวกลัทธิและหัวหน้าผู้ทรยศ

“ผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็พูดแบบนี้แหละ และทุกคนก็จบลงด้วยการเป็นของขวัญของเรา เป็นเรื่องดีที่เจ้าแข็งแกร่ง แต่เราก็มีคนที่สามารถจัดการเจ้าได้” หัวหน้ากลุ่มลัทธิไม่สนใจอาวุธในมือเด็กสาวเลยแต่เขากลับตื่นเต้นแทน “ไม่นานหรอก ก่อนที่ท่านจะเชื่องเหมือนผู้หญิงพวกนั้น”

“ข้าขออภัยด้วยเจ้าหญิง” คาร์โลพูดเสียงแหบก่อนที่เขาจะชี้ดาบใส่เด็กสาว

“ท่านละทิ้งเทพเจ้าของเรา ท่านจะต้องได้รับทัณฑ์สวรรค์” เด็กสาวตัวสั่น เธอพยายามรักษาความกล้าหาญของเธอและขู่เขา

“ข้าเคยศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมมากพอ ๆ กับท่าน แต่พระองค์ไม่เคยช่วยเหลือพวกเราเลย ทั้งตอนที่เทียร์ร่าล่มสลายและตอนที่ภรรยาและลูกสาวของข้าถูกฆ่าโดยทหารที่รับใช้ราชากบฏ” คาร์โลพูดอย่างเย็นชา “และครั้งนี้ พระองค์ก็จะไม่ช่วยท่านเช่นกันเจ้าหญิง”

“เพราะเทพเจ้าองค์นั้น เลือดเย็นและไร้หัวใจ”

————————————-

ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games

ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games

Status: Ongoing

นี่คือเรื่องราวของมนุษย์ธรรรมดาผู้ซึ่งได้ข้ามโลกมาเป็นเทพเจ้าชั้นสามที่กำลังจะตาย เขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรวบรวมเหล่าผู้ศรัทธา และก่อให้เกิดมหาสงครามเทพเจ้าครั้งที่สี่ในที่สุด

“เจ้าเคยได้ยินเรื่องเทพเจ้าแห่งเกมไหม?” “เทพเจ้าแห่งเกม…?” เอลีน่าส่ายหัวด้วยความสงสัย “ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระองค์…” “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเทพเจ้าแห่งเกม สามารถมอบพลังให้เจ้าเอาชนะศัตรูตรงหน้าเจ้าได้” ซีเว่ยเกลี้ยกล่อมเธออย่างอดทน เอลีน่านิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างแน่วแน่ และจ้องมองไปที่ซีเว่ย “ถ้าอย่างนั้น ข้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม!” “ความศรัทธาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถมีได้ด้วยปากเจ้า จงหลับตาและจินตนาการถึงพระนามของพระองค์ในใจเจ้า และสัมผัสถึงพลังของพระองค์ด้วยหัวใจของเจ้า” เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท