ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games – ตอนที่ 57

ตอนที่ 57

“มันยังไม่จบ…ท่านกระดูกเน่า…จะล้างแค้นให้เรา…”

เมื่อเออร์กัตล้มลงอย่างไม่เต็มใจ ในที่สุดผู้เล่นก็ได้รับชัยชนะ

ผู้เล่นที่กำลังเหนื่อยหอบสมองมึนเบลอ ตอบสนองต่อคำสั่งเสียของเออร์กัตไม่ทัน บางคนยังทุบศพของอาร์คบิชอปต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน

จนกระทั่งศพหายไปและมีการแจ้งเตือนจากระบบ ในที่สุดพวกเขาก็รู้สึกตัว

[ติ้ง!]

[กิจกรรม: รุ่งอรุณแห่งการล้างแค้น ได้สิ้นสุดลงแล้วอย่างเป็นทางการ]

[คะแนน AP จะหมดอายุหลังจากผ่านไป 3 วัน โปรดรีบใช้โดยเร็ว]

[ผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับฉายา ‘Avenger’]

[ฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์ ได้เข้าร่วมเป็นเขตอำนาจของศาสนจักรเทพเจ้าแห่งเกม ผู้เล่นทุกคนที่เลเวลสูงกว่า 5 สามารถเคลื่อนย้ายระหว่างเมืองไร้ชื่อและฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์ได้ผ่านทางไลฟ์สโตน (ใช้เหรียญในเกม)]

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ผู้เล่นทุกคนต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องอย่างตื่นเต้น ผู้เล่นบางคนเรียกหาเพื่อนของพวกเขาเพื่อไปฉลองกันที่เมืองไร้ชื่อและคุยโม้ให้ผู้เล่นใหม่ฟัง

ในฐานะผู้เล่นเกมออนไลน์ที่มีประสบการณ์จากดาวโลก ซีเว่ยคิดว่าครั้งนี้ผู้เล่นของเขามีผลงานที่พอใช้ได้ พวกเขายังมีช่องว่างให้พัฒนาอีกมาก พวกเขาไม่มีประสิทธิภาพเท่าไหร่ในการเอาชนะศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ผู้เล่นที่ช่วยกันปราบซัคคาร่าและได้เข้าร่วมต่อสู้กับเออร์กัต พวกเขาเสีย AP ไปจำนวนมากเมื่อพวกเขาตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกินกำลังของผู้เล่นในตอนนี้มากไปหน่อย ยังไงซะนี่ก็เป็นประสบการณ์แรกของพวกเขา ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ดีมากแล้ว มันดีกว่าที่ซีเว่ยคิดไว้มาก

เมื่อเห็นพวกเขามีความสุข ซีเว่ยก็ยิ้มเล็กน้อยจากนั้นก็ละสายตาออกไป

แม้ว่าโชว์หลักกำลังจะเริ่มขึ้น แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาของผู้เล่นอีกต่อไป ปล่อยให้พวกเขาผ่อนคลายไปเถอะ

“มาแล้ว” ร่างทรงกลมของซีเว่ยกะพริบและสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น

จากนั้นอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ยก็เริ่มสั่นคลอน!

ซากศพของสัตว์ประหลาดที่เขากองไว้ (ส่วนใหญ่เป็นหนูหนึ่งแสนตัว) กระจายไปทั่วพื้นจากแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรง

ซีเว่ยไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เขามองไปยังทิศทางของแรงสั่นสะเทือน

แรงสั่นไม่ได้เกิดขึ้นในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ ดังนั้นมีเพียงคำอธิบายเดียว

เทพเจ้าอีกองค์พยายามรุกรานอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขา!

ในพื้นที่ว่างเปล่าเหนืออาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ซีเว่ย มีรอยแตกหลายแห่งก่อตัวขึ้นเมื่ออาณาจักรสั่นสะเทือน รอยแตกก็ขยายใหญ่ขึ้นภายใต้การจ้องมองของซีเว่ย

แม้ว่าจะไม่มีเสียง แต่ซีเว่ยก็สร้างเสียงเอฟเฟกต์กระจกแตกเพื่อความสมบูรณ์ของเหตุการณ์เข้าไป

ในช่วงเวลาต่อมารอยแยกก็ได้ปรากฏขึ้นในอวกาศ เมื่อรอยแตกแตกเป็นเสี่ยง ๆ กระดูกมือสีดำขนาดใหญ่ก็แทรกเข้ามาในขณะที่พื้นที่ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงดังเอี๊ยด อ๊าด และรอยแตกก็ขยายใหญ่ขึ้น

จากนั้นโครงกระดูกสีดำขนาดใหญ่ที่มีชิ้นเนื้อเน่าติดอยู่ก็ปรากฏขึ้นผ่านรอยแตก

นี่คือร่างที่แท้จริงของเทพเจ้ากระดูกเน่า ซึ่งเป็นเทพกึ่งโครงกระดูกชั่วร้าย ลูกสมุนภายใต้ราชาแห่งความตายฮาเดส

เพียงแค่มองไปที่มัน ก็ทำให้จิตวิญญาณของมนุษย์ได้รับความเสียหาย!

ดวงตาสีม่วงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนองมองไปยังซีเว่ย แม้ว่ามันจะไม่มีเส้นเสียง แต่มันก็สามารถเปล่งเสียงทุ้มลึก ที่เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทและความมืดมิด ที่มนุษย์ไม่อาจทานทนได้ออกมา

“เจ้าจะต้องชดใช้สำหรับความอวดดีของเจ้า เทพเจ้าแห่งเก…ไอ้บ้า ทำไมเจ้าถึงเป็นลูกบอลเรื่องแสง?”

ซีเว่ย “…”

เป็นลูกบอลเรืองแสงแล้วจะทำไม! ลูกบอลเรืองแสงหนักหัวพ่องแกเหรอ!

ซีเว่ยเริ่มกะพริบด้วยความถี่สูง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจ

“ลืมไปเถอะ ไม่เป็นไร” โครงกระดูกกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่เขาแทรกร่างของเขาเข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ย “การต่อสู้ระหว่างผู้ศรัทธาไม่ได้สำคัญอะไรกับพวกเราเหล่าเทพเจ้าเลย แต่เจ้าตั้งใจฆ่าอาร์คบิชอปของข้า และทำลายคริสตจักรของข้า เจ้าใช้อำนาจศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเพื่อปัดเป่าตราแห่งคำสาปที่เขาสร้างขึ้น เจ้าคงคิดว่ามันเป็นแค่การกระทำเล็กน้อยสินะ แต่เจ้าคงคิดไม่ถึงแน่ว่ามันจะเป็นเหตุให้เจ้าต้องตายในวันนี้!”

“ข้าต้องขอชมเชยเจ้าที่ซ่อนตัวได้เป็นอย่างดี จนข้าไม่อาจหาเจ้าพบ หากเจ้าไม่ได้ทิ้งพลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไว้บนหินก้อนนั้น(ไลฟ์สโตน)!” โครงกระดูกมองไปที่ซากศพของสัตว์ประหลาดที่ผู้เล่นฆ่าและสังเวย จากนั้นเขาก็เยาะเย้ยซีเว่ยอยู่ในใจ สำหรับเขาแล้วมีเพียงเทพเจ้าที่อ่อนแอที่สุดและชั้นต่ำที่สุดเท่านั้น ที่จะยอมรับซากหนูเป็นเครื่องสังเวย หากผู้ศรัทธาของเขากล้าที่จะทำสิ่งนี้ เขาจะไม่มอบพรให้พวกมันและเขาอาจจะเข้าสิงใครบางคนและฆ่าพวกมันทิ้งซะ

มันแสยะยิ้มสร้างกลิ่นอายแห่งความอาฆาตพยาบาท โครงกระดูกที่มีเนื้อเน่าและน้ำหนองไหลออกมาจากตัว ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามันดูชั่วร้ายและแปลกประหลาด “ความโลภนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าต้องตาย”

เมื่อมันพูดจบ มันก็แทรกเข้ามาในอาณาจักรอันศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ยได้อย่างสมบูรณ์ ตรงกันข้ามกับซีเว่ยที่เป็นเพียงลูกบอลเรืองแสง เทพเจ้ากระดูกเน่าดูเหมือนกับยักษ์

เมื่อมาถึงจุดนี้ บาเรียที่ที่แข็งแกร่งและทนทานที่สุดในอาณาจักรศักดิ์สิทธิก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อโครงกระดูกอีกต่อไป

พูดได้ว่าในที่สุดเทพเจ้ากระดูกเน่าก็ได้เปิดเปลือกหอยนางรมออก และได้เวลาที่จะเพลิดเพลินไปกับเนื้อหอยนางรมที่นุ่มนิ่มและสดชื่นภายใน

ซีเว่ยที่ถูกมองว่าเป็นเหยื่อของเทพเจ้าชั่วร้ายไม่ได้เอ่ยคำใด ๆ ออกมาเลยตั้งแต่ต้น ทันใดนั้นเขาก็เริ่มเรืองแสงสว่างขึ้นและสว่างขึ้น

ตอนแรกเทพเจ้ากระดูกเน่าคิดว่านี่เป็นการป้องกันตัวด้วยความกลัว ท้ายที่สุดแล้วใครจะสามารถอ่านสีหน้าของลูกบอลเรืองแสงได้?

แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ที่ดูเหมือนกำลังจะแตกสลายเนื่องจากการบุกรุกของเทพเจ้าที่มีตำแหน่งสูงกว่าเจ้าของ ก็เริ่มทำการรักษาตัวเองในอัตราที่รวดเร็วจนน่าตกใจ

ไม่นานรอยแตกร้าวในสายตาของเขาก็หายไป พร้อมกับรอยแยกขนาดใหญ่ในอวกาศที่เขาใช้พลังของอสูร 9 ตัวและมังกร 2 ตัวเพื่อเปิดมันก็หายไปในทันที…

ราวกับว่ามันไม่ใช่รอยแตก แต่เป็นหลุมที่เจ้าของตั้งใจเปิด

ด้วยลางสังหรณ์ร้ายในใจ เทพเจ้ากระดูกเน่าจึงโบกกรงเล็บขนาดใหญ่ของมันไปยังซีเว่ย มันพยายามที่จะฆ่าลูกบอลเรืองแสงนี้ให้ตายในบัดดล

แต่ซีเว่ยเพียงแค่ขยับหนวดเส้นเดียวก็ปิดกั้นกรงเล็บของกระดูกยักษ์ได้สำเร็จ

“หลังจากฉันฟังนายพูดพล่ามมานาน ฉันก็คิดว่านานจะพูดอะไรที่ฉลาด ๆ ออกมาบ้าง แต่นายก็แค่ยั่วให้ตัวเองตายเร็วขึ้น…” หนวดแสงหลายเส้นโผล่ออกมาจากซีเว่ย และห่อหุ้มร่างของเทพเจ้าชั่วร้ายไว้เหมือนกับรังไหม การดิ้นรนอย่างสิ้งหวังของเทพเจ้ากระดูกเน่านั้นไร้ค่า มีแต่จะส่งผลให้ชิ้นเนื้อเน่าและเลือดกระเซ็นไปทั่วเท่านั้น มันก็เป็นเช่นเดียวกับเหยื่อที่ติดอยู่ในทรายดูด ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไหร่ รังหนวดก็จะยิ่งรัดแน่นขึ้นเท่านั้น

“โอ้ได้โปรดหยุดเถอะ นายอ่อนแอมาก โอเค?”

——————————————————————————————————————————

ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games

ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games

Status: Ongoing

นี่คือเรื่องราวของมนุษย์ธรรรมดาผู้ซึ่งได้ข้ามโลกมาเป็นเทพเจ้าชั้นสามที่กำลังจะตาย เขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรวบรวมเหล่าผู้ศรัทธา และก่อให้เกิดมหาสงครามเทพเจ้าครั้งที่สี่ในที่สุด

“เจ้าเคยได้ยินเรื่องเทพเจ้าแห่งเกมไหม?” “เทพเจ้าแห่งเกม…?” เอลีน่าส่ายหัวด้วยความสงสัย “ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระองค์…” “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเทพเจ้าแห่งเกม สามารถมอบพลังให้เจ้าเอาชนะศัตรูตรงหน้าเจ้าได้” ซีเว่ยเกลี้ยกล่อมเธออย่างอดทน เอลีน่านิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างแน่วแน่ และจ้องมองไปที่ซีเว่ย “ถ้าอย่างนั้น ข้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม!” “ความศรัทธาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถมีได้ด้วยปากเจ้า จงหลับตาและจินตนาการถึงพระนามของพระองค์ในใจเจ้า และสัมผัสถึงพลังของพระองค์ด้วยหัวใจของเจ้า” เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท