หยางจิ้งเสียนยิ้มแล้วกล่าวว่า “ตกลงจ้ะ ทุกคนรอฟังผลอยู่ที่นี่ได้ น้าจะกลับไปทำซุป” จากนั้นเธอบอกเซียวจิ่งกับเซียวส่าให้ดูแลเซียวโหรวและเซียวเหยาให้ดี
สองพี่น้องพยักหน้ารับ หยางจิ้งเสียนจึงกลับไป ทุกคนจับตามองพี่น้องทั้งสอง ขณะที่หยางมู่คุนยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมกับเร่งเร้า “น้องๆ ทั้งสอง ตกลงนายจะบอกเราไหม”
สองพี่น้องทำสีหน้าที่บ่งบอกว่า ‘ให้ฉันตายเสียดีกว่าจะยอมบอก’
แล้วเสียงเยือกเย็นของเซียวเหยาก็ดังออกมาจากห้องพักคนไข้ “เข้ามานี่!”
เซียวส่าและเซียวจิ่งยักไหล่ ผลักหยางมู่คุนออกไป แล้วเดินเข้าไปในห้องพักของเซียวเหยา ถึงแม้ หยางมู่คุนจะเก่งในศิลปะการต่อสู้ แต่เขาเทียบเซียวเหยาไม่ติดในเรื่องนี้! ตอนนี้เซียวเหยาเรียกให้พวกเขาเข้าไปในห้องแล้ว สองพี่น้องจึงไม่กลัว
เซียวเหยามองดูผู้คนที่ยืนอยู่หน้าเตียงคนไข้ และกล่าวขึ้นอย่างจริงจัง “ฉันมียศพันโท เป็นผู้บังคับการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สังกัดกองกำลังพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ”
ทุกคนตกตะลึง
เซียวส่ากับเซียวจิ่งอดหัวเราะอย่างสะใจไม่ได้ สองพี่น้องคาดเดาไว้แล้วว่าพวกเขาจะต้องตกใจอย่างมาก เมื่อได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเซียวเหยา ดูสิ ทุกคนตะลึงงันกันแค่ไหน…
ว่าแต่เมื่อไหร่กันที่เขาได้เลื่อนยศเป็นพันโท?
นายพลเห่ามาแจ้งเรื่องนี้ใช่หรือเปล่า โอ พระเจ้า! เขาได้เลื่อนตำแหน่งเร็วเกินไปไหม!
หยางมู่คุนกระพริบตาปริบๆ มองหน้าเซียวเหยาซึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง จ้องเขาด้วยสีหน้านิ่งงันพร้อมกับเอ่ยพึมพำ “ญาติเหยา เมื่อกี้นายเพิ่งบอกว่าตอนนี้นายเป็นอะไรนะ ตำแหน่งนายมันยาวเกินไป ฉันจำไม่ได้”
“ฉันเป็นพันโท ผู้บังคับการหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองกำลังต่อต้านการก่อการร้าย”
เฮ่อหว่านโจวมองเซียวเหยาซึ่งนอนอยู่บนเตียง เขายิ้มมุมปากขณะกล่าวว่า “จริงหรือ”
สุดยอดมาก ถ้าเป็นเรื่องจริง!
บิดาหยางมู่คุนตอนนี้เป็นเพียงนายพลตรี! แม้ท่านจะอายุหกสิบเศษแล้ว! แต่เซียวเหยาได้เป็นพันโทแล้ว ไม่น่าตกใจหรือ
เซียวเหยาพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “จริง”
ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความอึ้งและทึ่ง เฮ่อหว่านอีไม่อยากจะเชื่อ เธอรู้มาตลอดว่างานของเซียวเหยาเป็นงานที่พิเศษ แต่ไม่เคยรู้ว่าเขาเป็นวีรบุรุษเช่นนี้ และงานของเขานั้นอันตรายมาก เธอถามอย่างอ่อนโยนว่า “เธอไม่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ใช่ไหม”
เซียวเหยาตอบด้วยการพยักหน้า “ฉันถูกยิงระหว่างปฏิบัติภารกิจ แต่อาชญากรก็ถูกฆ่าตาย นั่นคุ้มค่าแล้ว”
หนิงเหยี่ยนเป่าปากดังวี๊ด กล่าวว่า “นายคือวีรบุรุษ! ไม่น่าแปลกใจที่น้องสาวนายตกใจมากจนตกบันได นายอาจได้โชคลาภมหาศาลจากการฟาดเคราะห์ครั้งนี้”
เซียวเหยายังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ “ใช่ ฉันเพิ่งได้เลื่อนยศเป็นพันโท”
เซียวจิ่งกับเซียวส่ามองสบตากันอย่างรวดเร็ว เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดา ท่านนายพลมาเพื่อแจ้งข่าวการได้เลื่อนยศแก่เซียวเหยา!
แต่การได้เลื่อนยศโดยแลกมาด้วยชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องดีนัก
ขณะมุมปากหยางมู่คุนเหยียดกว้างก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น จากนั้นประตูห้องพักของเซียวเหยาก็เปิดออกและหยางจิ้งเชาปรากฏตัว เขากวาดสายตามองทุกคนในห้องพักคนไข้ ก่อนจะหน้านิ่วคิ้วขมวดหันกลับไปมองผู้ติดตามและถามว่า “คุณได้รับรายงานมาผิดพลาดหรือเปล่า”
ผู้ติดตามส่ายศีรษะตอบว่า “รายงานจากระบบคอมพิวเตอร์ไม่มีทางผิดพลาดครับ ท่านนายพลเห่าเดินทางมาที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลหลินอันห้องนี้ เพื่อเยี่ยมผู้ป่วย ครับผม”
หยางจิ้งเชาขมวดคิ้ว มองไปรอบๆ ห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง พบเพียงว่าผู้ป่วยที่นอนอยู่บนเตียงคือเซียวเหยา จากนั้นเขาก็เดินก้าวยาวๆ เข้าไปมองหน้าเซียวเหยา บารมีเขาน่าเกรงขามจนไม่มีใครกล้าพูดอะไร แม้แต่หยางมู่คุนลูกชายเขาก็ยังอึ้งและก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว มีเพียงเซียวเหยาเท่านั้นที่ดูสงบนิ่งด้วยรอยยิ้มขณะกล่าวว่า “คุณลุง มาเยี่ยมผมหรือครับ”
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ” หยางจิ้งเชาถาม ขณะจ้องหน้าหลานชายผู้ไม่เคยเกรงกลัวเขามาตั้งแต่เด็กๆ “ตำแหน่งหน้าที่การงานที่แท้จริงของเธอคืออะไร”
ทุกคนอึ้ง “…”
โอ ท่านช่างเป็นคนตรงจริงๆ!
เซียวเหยาไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด นี่คือบุคลิกลักษณะความกล้าหาญและตรงไปตรงมาของทหาร เขากล่าวว่า “ผมคือพันโทเซียวเหยา แห่งกองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายครับ!”
น้ำเสียงเขาเรียบเฉยไร้ความรู้สึกใดๆ แม้จะฟังดูอ่อนล้าไปบ้าง แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์อันน่าประทับใจแม้แต่น้อย
หางตาหยางจิ้งเชาหรี่ลง และราวกับว่าได้ยินไม่ชัดเจน เขาถามซ้ำอีกครั้ง “เธอว่าอะไรนะ”
เซียวเหยากล่าวคำพูดก่อนหน้านี้ซ้ำอีกครั้ง หยางจิ้งเชาหันมาจ้องหน้าลูกชายทันที ด้วยความรู้สึกว่าทำไมลูกชายเขาถึงแย่กว่าเซียวเหยามากมายขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เขามักคุยโวถึงลูกชายอีกคนมาตลอดว่าเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยม ได้ติดยศร้อยเอกในวัยยังไม่พ้นยี่สิบปลายๆ เขาคิดไม่ถึงว่าลูกชายของน้องเขย ซึ่งเขาเคยดูหมิ่นนั้น แท้จริงแล้วคือนายทหารยศพันโท!
ช่างน่าอายเสียจริง!
จู่ๆ เขาก็อยากแลกเปลี่ยนลูกชายกับน้องเขยขึ้นมาเสียอย่างนั้น! ใครก็ได้ช่วยห้ามเขาที!
“ท่านนายพลเห่ามาเยี่ยมเธอหรือ” หยางจิ้งเชาใช้เวลานานกว่าจะสงบจิตใจลงได้ และนึกออกว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่
เซียวเหยาพยักหน้าตอบว่า “ใช่ครับ”
“ทำไม” หยางจิ้งเชาขมวดคิ้ว แม้หลานชายจะเป็นถึงพันโท แต่คนใหญ่คนโตอย่างนายพลเห่าก็ไม่ควรมาเยี่ยมเพียงเพราะเขาป่วย
“ผมอยู่ภายใต้บังคับบัญชาโดยตรงของท่านนายพลเห่าครับ”
“เธออยู่หน่วยไหนในกองทัพ”
“กองกำลังพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายครับ” เซียวเหยาไม่ลงลึกในรายละเอียดมากนัก
หยางจิ้งเชาถอนหายใจ มองหน้าหลานชายและถามว่า “เธอเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ผมเข้าเมืองหลวงเพื่อรับการฝึกอบรมหลังจากเรียนจบมัธยมต้น และจบหลักสูตรที่นั่นครับ” เซียวเหยาไม่ตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เขารู้ว่าคุณลุงต้องตรวจสอบแน่นอนถ้าท่านรู้เรื่องนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาบอกท่านด้วยตัวเองจะดีกว่า
หยางจิ้งเชาพยักหน้า มองเซียวเหยาด้วยสายตาอันเฉียบคม “เธอนี่เก็บความลับเก่งจริงๆ พ่อแม่เธอรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่”
“วันนี้ครับ”
หยางจิ้งเชาหรี่ตาลง เอ่ยชื่นชมเขา “ไม่เลว หลายชาย”
เซียวเหยายังคงมีสีหน้าเรียบเฉย “เนื่องจากตำแหน่งหน้าที่ของผมค่อนข้างมีความพิเศษครับ ยิ่งคนรู้เรื่องนี้น้อยเท่าไรก็จะยิ่งดี และผมคิดว่าคงไม่ค่อยมีใครอยากทราบอาชีพที่แท้จริงของผมสักเท่าไหร่ เพราะถ้าหากทราบแล้วพวกเขาอาจตกอยู่ในอันตราย”
ทุกคน “…”
ทำไมจู่ๆ เราถึงเกิดไม่อยากรู้เรื่องตัวตนที่แท้จริงของเขาขึ้นมาในฉับพลันก็ไม่รู้สิ สายเกินไปแล้วใช่ไหม ที่เราจะออกจากห้องนี้
หยางจิ้งเชากะพริบตาปริบๆ ไม่ถามอะไรอีกต่อไป เพียงแค่กล่าวอย่างจริงจังว่า “หลังจากอาการดีขึ้นแล้วไปที่บ้านลุงด้วย ไปอธิบายเรื่องนี้กับคุณตาของเธอ”
เซียวเหยาพยักหน้า “ครับ!”
หยางจิ้งเชาหันกลับมามองหยางมู่คุน แล้วตะคอก “สำหรับแก ออกจากห้องนี้ไปได้แล้ว!” จากนั้นก็ก้าวออกจากห้องโดยไม่หันกลับมามอง
ทุกคนมองหยางมู่คุนอย่างเห็นอกเห็นใจ ในขณะที่เฮ่อหว่านโจวตบไหล่เขาแล้วกล่าว่า “ดูแลตัวเองนะ มู่คุน!”
หยางมู่คุนเดินออกไปด้วยใบหน้าเศร้าสลด คิดอยู่ในใจว่าทำไมเขาช่างโชคร้ายเหลือเกิน ที่บังเอิญต้องมารับรู้อาชีพการงานที่แท้จริงของลูกพี่ลูกน้อง พร้อมๆ กับการมาปรากฏตัวในที่เดียวกันของบิดา ผู้ซึ่งเกลียดเขามากที่สุด!
โอ ฉันอยากกลับเข้าไปอยู่ในท้องแม่!
เซียวเหยากวาดตามองทุกคน และถามว่า “มีคำถามอะไรอีกไหม”
หนิงเหยี่ยนส่ายศีรษะ “ไม่ ฉันไม่อยากรู้อยากเห็นอะไรอีกเลย ฉันคิดว่าชีวิตของฉันสำคัญกว่า”
เซียวเหยาพ่นลมหายใจอย่างแรง “แล้วพวกนายกลับมาทำไม สายเกินไปแล้วล่ะที่พวกนายจะเสียใจ”
เฮ่อหว่านหนิงถามว่า “คุณหมอที่อยู่ในห้องข้างๆ คือคณะแพทย์ที่คุณเชิญมาที่นี่ใช่ไหมครับ” เขาเป็นห่วงเซียวโหรวมากกว่า
เซียวเหยาพยักหน้า หันไปมองเซียวส่าพร้อมกับกล่าวว่า “ไปฟังผลซิ”