“มัณฑนากรชั้นนำที่พี่อ่านเจอในหนังสือพิมพ์อย่างนั้นเหรอ” ถังซีขมวดคิ้วเล็กน้อย “ค่าจ้างต้องแพงมากเลยใช่ไหม”
โดยปกติแล้วมัณฑนากรจะทิ้งแบบที่พวกเขาร่างบนกระดาษไว้กับคนงาน ให้ตกแต่งต่อเติมตามนั้น พวกเขาจะได้ไม่เหนื่อยมาก แต่สำหรับบ้านหลังนี้ แม้แต่มัณฑนากรก็ต้องทำงานล่วงเวลาตลอดทั้งคืน ดูเหมือนผู้ที่กำลังจะย้ายเข้ามาอยู่ต้องรวยมากอย่างแน่นอน!
“เงินทำให้แม่ม้ายอมวิ่ง ตราบใดที่คุณจ่ายเงินได้มากพอ” เซียวจิ่งเบ้ปาก แล้วหันหลังเดินเข้าบ้าน เขาเดินไปหาวไป “เข้านอนได้แล้ว เธอจะไปเขาหงสือไม่ใช่หรือ พี่สองคนจะไปกับเธอพรุ่งนี้ ต้องตื่นกันแต่เช้านะ”
เซียวส่าพยักหน้า ตามเขาเข้าไปในบ้าน ถังซีก็กำลังตามพวกเขาเข้าไปเช่นกัน เมื่อจู่ๆ เซียวเหยาเรียกเธอไว้ “โหรวโหรว”
ถังซีหยุดชะงัก หันกลับไปมองเซียวเหยา เมื่อเผชิญกับสายตาร้อนรนของเขา เธอก็ยิ้มเจื่อนถามว่า “พี่เหยา มีอะไรเหรอคะ”
เซียวเหยาตอบด้วยเสียง “ฮื่อ” ในลำคอ ขณะก้าวมาข้างหน้าและกล่าวเบาๆ “พี่จะเข้าเมืองหลวงพรุ่งนี้ ไปรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับการกำจัดคลอสที่เมือง J และเข้าร่วมพิธีรำลึกถึงสหายผู้ร่วมภารกิจ พี่ไปถ่ายโฆษณาทีวีกับเธอไม่ได้ ดูแลตัวเองด้วยนะ”
ถังซีรู้สึกโล่งอก แต่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเธอเห็นความเศร้าในสายตาเซียวเหยา เธอพยักหน้าและยิ้มขณะกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะพี่เหยา พี่ส่ากับพี่จิ่งอยู่ด้วย ฉันจะไม่ได้รับอันตรายอะไรค่ะ” เธอชะงัก ก่อนจะกล่าวต่อไป “พี่เหยาอย่าเศร้าเลยนะคะ ทหารที่ร่วมภารกิจ พวกเขาสละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศของเรา”
เซียวเหยายิ้ม “ขึ้นบ้านเถอะ พี่อยากสูบบุหรี่อยู่ตรงนี้ก่อน”
ถังซีพยักหน้า แล้วหันหลังกลับเดินเข้าบ้าน แต่หลังจากก้าวไปได้สองก้าวเธอก็หันกลับไปมองร่างเซียวเหยาที่ยืนอยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว แล้วกล่าวว่า “พี่เหยา อย่าสูบบุหรี่มากนักนะคะ ไม่ดีต่อสุขภาพของพี่”
เซียวเหยาตอบรับด้วยเสียง “ฮื่อ” ในลำคอ แล้วบอกให้เธอเข้าบ้าน หลังจากถังซีเข้าไปข้างในเซียวเหยาก็ละสายตาและหยิบบุหรี่ออกมา เขาเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่กลับมาจากสโมสรเมื่อคืนก่อน เมื่อใดก็ตามที่กลุ้มใจ เขาจะสูบบุหรี่เพื่อให้จิตใจผ่อนคลาย วันสองวันนี้เขาจึงสูบหนักมาก
เซียวเหยาคาบบุหรี่ไว้ที่ปากและจุดด้วยไฟแช็ก ขณะยืนพิงฝาผนัง ขาสูบเข้าไปลึกๆ แล้วผ่อนลมหายใจออก เป่าควันออกมา จากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ
ขณะยืนอยู่หลังหน้าต่างฝรั่งเศสภายในห้องนอน เฝ้ามองเซียวเหยาผู้โดดเดี่ยวอ้างว้าง ถังซีบีบมือตัวเองแน่น แล้วหันหลังให้ พี่เซียว ฉันขอโทษ ฉันไม่สามารถตอบสนองต่อความรักของพี่ได้
เพราะพื้นที่หัวใจฉันแคบเกินไปที่จะมีผู้ชายอยู่ในนั้นสองคน
เฉียวเหลียงครอบครองทั้งหัวใจของฉันแล้ว จึงไม่มีที่ว่างให้ใครอีกคน
หลังจากพ่นควันออกไปสองรอบ เซียวเหยาก็ดับบุหรี่และยืนอยู่ที่สนามครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับเดินเข้าไปในบ้าน ทุกครั้งที่ก้าวเท้าเขาเตือนตัวเองอยู่ในใจ
นายคือเซียวเหยา ไม่มีอะไรในโลกจะเอาชนะนาย หรือรบกวนจิตใจนายได้ คนเดียวที่สามารถทำให้นายทุกข์ร้อนได้ คือตัวนายเอง
ถังซีตายไปแล้ว
คนที่อยู่ข้างๆ นายตอนนี้ไม่ใช่ถังซี แต่เป็นเซียวโหรว
เซียวโหรวคือน้องสาวของนาย เธอเพิ่งตกหลุมรักคนที่ถังซีรัก และตอนนี้พวกเขาคบกันอยู่
ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยเซียวเหยา พอได้แล้วกับความคิดพวกนี้ มันไม่ดีสำหรับตัวนายเอง และไม่ดีสำหรับเซียวโหรว หรือแม้แต่ถังซีก็ตาม
บางทีเขาอาจโน้มน้าวตัวเองสำเร็จ เซียวเหยารู้สึกดีขึ้นมาก
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ถังซีอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้วก็ไปออกกำลังกายที่ชั้นล่าง มีเพียงเซียวหงลี่ เซียวส่า และเซียวจิ่งอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ถังซีเริ่มเล่นโยคะ หลังจากเซียวส่ากับเซียวจิ่งออกกำลังกายเสร็จ ทั้งสองก็มายืนใกล้ๆ เธอ ดูเธอเล่นโยคะ ถังซีมีความยืดหยุ่นร่างกายที่ดี และรักษาสมดุลของร่างกายได้ดี วางท่าทางได้อย่างสวยงาม ขณะยืนอยู่ข้างๆ เซียวจิ่งพยายามเลียนแบบการเคลื่อนไหวของเธอ พร้อมกับกล่าวว่า “โหรวโหรว วันนี้เธอตื่นสายนะ รู้ไหมพี่เหยาไปเมืองหลวงแล้ว”
ถังซีหาวขณะยังคงอยู่ในท่าโยคะ และตอบว่า “ไม่ใช่ฉันตื่นสาย แต่พี่ตื่นเช้าเกินไปต่างหาก” เธอดึงโทรศัพท์มือถือออกมาดูเวลา “นี่เพิ่งหกโมงครึ่ง พี่ตื่นเช้ากว่าทุกวันเห็นไหมล่ะ”
เซียวหงลี่เดินเข้ามาและมองถังซีขณะกล่าวพร้อมด้วยรอยยิ้ม “โหรวโหรว ชวนคุณแม่ด้วยสิ เวลาที่ลูกเล่นโยคะ คุณแม่น่ะไม่ชอบเล่นกีฬาเอาเสียเลย เมื่อไม่นานมานี้พ่อได้ยินเธอบ่นว่าปวดไหล่และกระดูกสันหลัง พ่อเป็นห่วงว่าคุณแม่ของหนูอาจเป็นโรคกระดูกพรุนและกระดูกสันหลังเสื่อม”
ถังซีพยักหน้า “ได้ค่ะ คุณพ่อคะ วันนี้คุณพ่อไม่ได้ไปทำงาน ทำไมไม่พาคุณแม่ไปนวดล่ะคะ แล้วหลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป หนูจะสอนวิธีทำโยคะในตอนเช้าให้คุณแม่เองค่ะ”
เซียวหงลี่ยิ้ม บอกว่าได้เลย ไม่มีปัญหา
หลังจากถังซีฝึกโยคะต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง หยางจิ้งเสียนก็เรียกทุกคนไปทานอาหารเช้า ขณะรับประทานอาหารหยางจิ้งเสียนบอกว่า เธออยากไปดูถังซีถ่ายโฆษณาทีวีที่ภูเขาหงสือกับลูกชายทั้งสองด้วย เซียวจิ่งคิดว่าเป็นความคิดที่ดี เขากล่าวว่า “มีน้ำพุร้อนที่ดีต่อสุขภาพที่เขาหงสือ คุณแม่สามารถแช่น้ำพุร้อนและนวดไปด้วย ในขณะดูโหรวโหรวถ่ายโฆษณา สุดยอดเลยใช่ไหมครับ”
เซียวหงลี่ก็เห็นด้วยว่าเป็นความคิดที่ดี เขาจึงตัดสินใจทำตามข้อเสนอของเซียวจิ่ง ไปภูเขาหงสือด้วยกัน
ถังซีรู้สึกภูมิใจมาก นี่เป็นงานชิ้นแรกของเธอ และทุกคนในครอบครัวจะไปอยู่ที่นั่นกับเธอ… “จริงๆ แล้ว คุณ…”
แต่แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ถังซีหยุดพูดเมื่อหยางจิ้งเสียนลุกไปรับโทรศัพท์ ขณะฟังคำพูดจากปลายสายอีกด้านหนึ่งเธอก็ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวว่า “ตกลง เราจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” จากนั้นก็วางสาย ทุกคนมองไปที่เธอเป็นตาเดียว เธอกล่าวทั้งยังขมวดคิ้ว “เกิดเรื่องไม่ดีกับเพื่อนแม่คนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากแม่” เธอหันไปหาเซียวหงลี่แล้วกล่าวต่อไปว่า “ไปกับฉันนะคะ” จากนั้นเธอก็หันไปกล่าวเสริมกับพี่น้องเซียว “ลูกสองคนไปส่งโหรวโหรวถ่ายทำโฆษณา และดูแลน้องให้ดี เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ แม่คุณไว้ใจพวกเราเถอะครับ” เซียวจิ่งตอบ แล้วบอกให้ถังซีขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า “พวกพี่จะไปรอเธอที่ลานจอดรถด้านล่าง”
ถังซีกระโดดขึ้นบันไดไปชั้นบน เซียวหงลี่มองหยางจิ้งเสียนแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“คุณจำได้ไหม ที่พ่อแม่ของพี่สะใภ้คุณมาวันนั้น” หยางจิ้งเสียนเริ่มเรื่องด้วยอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด “เช้านี้พวกเขาเริ่มสร้างปัญหาแล้ว เฮ้อ… เดี๋ยวไปถึงคุณก็รู้” เธอขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ขณะบ่นกับตัวเอง “เฮ้อ… พี่สะใภ้คุณนี่ช่างโชคร้ายจริงๆ ที่มีพ่อแม่แบบนั้น!”
เซียวจิ่งกับเซียวส่าไม่พูดอะไร อีกเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาไม่ชอบป้าหลินหรู ก็เพราะพ่อแม่เธอเห็นลูกสาวเป็นธุรกิจที่ทำกำไร… ทุกครั้งที่มาเมือง A พวกเขาจะขอแต่เงิน…
พวกเขาจะสร้างเรื่องขึ้นทุกครั้ง หลังจากครอบครัวหลินแบ่งทรัพย์สินกันไปแล้ว ในที่สุดหลินหรูก็ไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีกต่อไป แต่ทำไมพวกเขาถึง…
ถังซีลงมาชั้นล่างหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ในเวลานั้นหยางจิ้งเสียนกับเซียวหงลี่ออกจากบ้านไปแล้ว ถังซีอยู่ในชุดลำลอง สวมกางเกงยีนขาสั้น เสื้อเชิ้ตสีขาว และรองเท้าผ้าใบสีขาว เป็นชุดที่เน้นให้เห็นขาเรียวยาว เซียวจิ่งเป่าปากแล้วกล่าวว่า “โหรวโหรว ดูเหมือนเธอจะชอบเสื้อผ้าชุดนี้จริงๆ เลยนะ!”
ถังซียักไหล่แล้วตอบว่า “ดูไม่ดีเหรอคะ”