เลขานุการทุกคนออกจากห้องทำงานเซียวจิ่งด้วยดวงตาแดงก่ำ เซลินาและลินดาผู้ถูกดุมากที่สุดร้องไห้แล้วด้วยซ้ำ แม้แต่เลขานุการกลางก็ดูท่าทางแย่มาก แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เย่ว์เย่ว์ยืนอยู่ข้างนอก มองดูพวกเธออย่างไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร เธอทำได้แค่เม้มปากนิ่งและทำงานต่อไป อย่างไรก็ตามในสายตาเลขานุการคนอื่นเธอดูเฉยเมยไม่แยแส บางคนถึงกับคิดว่าเย่ว์เย่ว์สะใจในความโชคร้ายของพวกเธอ ลินดาเดินเข้าไปหาเย่ว์เย่ว์ด้วยความโกรธและจ้องหน้าเธอ “เธอรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือเธอแค่อยากเห็นพวกเราเป็นตัวตลก เย่ว์เย่ว์ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอเป็นคนแบบนี้!” เธอกล่าวหาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เย่ว์เย่ว์ขมวดคิ้วและกล่าวขึ้นอย่างจริงจัง “ฉันบอกพวกเธอแล้วว่าอย่าส่งเอกสารที่ยังไม่ได้ตรวจสอบเข้าไปให้เขา แต่พวกเธอไม่เชื่อฉัน! ท่านประธานเซียวไม่ใช่คนที่เข้าหาได้ง่ายๆ อย่างที่พวกเธอจินตนาการ และเขาไม่ใช่คนโง่ ถ้าเขาไม่มีความสามารถจริงๆ อย่างที่พวกเธอคิด เขาจะทำงานในเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปได้อย่างไร แทนที่จะทำในเซียวกรุป บริษัทของตระกูลเขา”
เลขานุการคนอื่นๆ อยากแย้งเธอ แต่แมร์รี่ห้ามไว้โดยกล่าวว่า “พวกเธอยังโดนด่าไม่พอหรือไง พวกเธอทำผิด แต่ฉันต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้ เย่ว์เย่ว์พูดถูก เราประเมินความสามารถท่านประธานเซียวต่ำเกินไป และประเมินอารมณ์เขาสูงเกินไป ประธานเซียวสามารถช่วยให้ประธานเฉียวหลุดพ้นจากปัญหาในปีนั้นได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ธรรมดา จากนี้ไปจงทำงานให้หนัก! ถ้าใครยังขืนกล้าจับกลุ่มคุยกันที่ห้องพักทานอาหาร ยื่นจดหมายลาออกมาที่ฉันได้เลย และเตรียมหางานใหม่ด้วย!”
จากนั้นเธอก็มองไปที่เย่ว์เย่ว์ และกล่าวโดยไม่แสดงออกใดๆ ทางสีหน้า “เย่ว์เย่ว์ทำได้ดีมาก พยายามต่อไป” แล้วหันไปมองเลขานุการคนอื่นๆ “พวกเธอควรเรียนรู้จากเย่ว์เย่ว์! พวกเธอทำไม่ได้แม้แต่การตรวจสอบเอกสารอย่างนั้นหรือ ถ้าไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้ทำได้ตามความคาดหวังของท่านประธานเซียว ก็ส่งจดหมายลาออกและกลับไปเรียนโรงเรียนประถมซะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเลขานุการกลาง เย่ว์เย่ว์ก็ไม่มีความสุขเลย แม้ว่าเลขานุการกลางจะชื่นชมเธอ แต่ก็เป็นการสร้างศัตรูให้กับเธอ คราวนี้ถ้าเธอมีศัตรูมากมาย เธอจะทำงานอย่างสงบสุขในแผนกเลขานุการได้อย่างไรในอนาคต แต่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เธอเตือนและแนะนำให้เลขานุการกลางห้ามทุกคนแล้ว แต่เลขานุการกลางไม่สนใจเธอนี่ ใช่ไหม นี่เป็นความผิดของเธอหรือ
เซลิน่าโดนดุหนักที่สุด เมื่อได้ยินคำพูดของเลขานุการกลางเธอก็เอ่ยขึ้นทันที “เราไม่ดีเท่าเย่ว์เย่ว์ เราทุกคนโดนดุ แต่เย่ว์เย่ว์ไม่โดน เราไม่มีความสามารถเท่าเย่ว์เย่ว์ ในเมื่อเย่ว์เย่ว์เก่งมาก ก็ให้เธอตรวจสอบเอกสารทั้งหมดนี้สิ”
เย่ว์เย่ว์ขมวดคิ้วและกล่าวด้วยความโกรธ “ฉันต้องทำงานของฉัน นอกจากนี้นั่นไม่ใช่ความผิดของฉัน เธอไม่ตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง แล้วยังจะกล้าดื่มกาแฟของท่านประธานเซียวอีก ฉันบอกเธอแล้วว่าท่านประธานเซียวไม่ได้ใจดีอย่างที่เธอคิดกันไปเอง แต่เธอไม่เชื่อฉัน ตอนนี้เธอมาว่าฉันได้ยังไง”
เหวินเหมยเหน็บแนม “ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเราถึงโดนดุกันหมด ยกเว้นเธอ เป็นเพราะเธอมีเรื่องชู้สาวกับท่านประธานเซียวใช่ไหม”
“อย่ามาหยาบคายอย่างนี้นะ ครั้งก่อนฉันถูกท่านประธานเซียวตำหนิเพราะฉันผิดพลาดในการทำงาน ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ไม่กล้าละเลยงานของฉัน!” เย่ว์เย่ว์หน้าบึ้ง ทำไมเธอถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนพวกนี้มีบุคลิกภาพและการกระทำที่น่ารังเกียจขนาดนี้
“โดนดุอย่างนั้นเหรอ ฉันคิดว่าหลายๆ ครั้งเขาเอาใจเธอเสียอีก!” เสี่ยวซิงจ้องหน้าเย่ว์เย่ว์อย่างจะกินเลือดกินเนื้อ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “อย่ามาเล่นบทผู้บริสุทธิ์ต่อหน้าพวกเราเลย พวกเราสิบริสุทธิ์ที่สุด เราถูกดุด่าโดยไม่มีเหตุผล และ…”
“บอกผมมาซิ เรื่องชู้สาวอะไรที่ผมมีต่อเธอ ผมเอาใจเธอยังไง” เสียงเซียวจิ่งดังขึ้น เขาโน้มตัวเข้าหาประตูกระจกของห้องทำงานแผนกเลขานุการด้วยใบหน้าเย็นยะเยือก “ถ้าคุณหาหลักฐานมาไม่ได้ในวันนี้ ผมจะให้ฝ่ายกฎหมายฟ้องคุณ ข้อหาทำลายชื่อเสียงและใส่ร้ายป้ายสี” เซียวจิ่งโบกโทรศัพท์มือถือในมือไปมา เขาบันทึกคำพูดของเหวินเหมยและเสี่ยวซิงทั้งหมดที่พูดเมื่อกี้ไว้
ใบหน้าแมร์รี่สลดลงทันที เซียวจิ่งมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อกี้เธอมัวแต่สนใจเย่ว์เย่ว์ ไม่ได้สังเกตเห็นเซียวจิ่งเลย!
“ท่านประธานเซียว… เราแค่ล้อเล่น…” เหวินเหมยพูดตะกุกตะกัก “เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“คุณไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น… งั้นหรือ” เซียวจิ่งมองไปทางพวกเธออย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ผมเพิ่งบอกพวกคุณว่าห้ามรวมหัวกันนินทา พวกคุณลืมได้รวดเร็วอย่างนี้เลยหรือ” จากนั้นเซียวจิ่งก็กล่าวต่อไปเสียงแข็งว่า “ในเมื่อพวกคุณชอบนินทามากนัก ก็ออกไปให้พ้นจากที่นี่ ยกเว้น…” เซียวจิ่งมองเย่ว์เย่ว์และถามว่า “คุณชื่ออะไร”
“ฉันชื่ออันเฮาค่ะ แต่ทุกคนเรียกฉันว่าเย่ว์เย่ว์” เซียวจิ่งพยักหน้าแล้วมองไปที่เลขานุการคนอื่นๆ “ยกเว้นอันเฮา ทุกคนถูกไล่ออก! เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป ไม่สามารถจ้างคนอย่างพวกคุณได้ ออกไปให้พ้นจากที่นี่ ได้ยินไหม…
…นอกจากนี้ เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปจะฟ้องร้องพวกคุณข้อหาทำผิดกฎระเบียบของบริษัท” เมื่อจบคำพูดเซียวจิ่งก็หันหลังกลับและเดินไปห้องทำงานเขา เลขานุการคนอื่นๆ รวมทั้งเลขานุการกลางมองตามเซียงจิ่งพร้อมกับอ้าปากค้าง และรีบวิ่งตามเขาไปอย่างรวดเร็ว แมร์รี่วิ่งไปยืนขวางทางเขาและกล่าวขึ้นด้วยความโกรธ “ท่านประธานเซียวคะ ดิฉันเป็นเลขานุการกลางของสำนักงานท่านประธาน คุณไม่สามารถไล่ดิฉันออกอย่างนี้ได้ อย่างน้อยที่สุดคุณต้องให้เหตุผลที่สมควรค่ะ”
“ทำผิดกฎระเบียบของบริษัทยังไม่เพียงพออีกหรือ หรือจะให้ผมแสดงหลักฐานคดีรับสินบน” เซียวจิ่งเย้ยหยัน และกล่าวต่อไปอย่างโหดเ**้ยมว่า “ออกไปให้พ้นจากที่นี่ แล้วจงไปอย่างเงียบๆ จะดีกว่านะ อย่าพยายามมีเล่ห์กลใดๆ ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณเข้าไปอยู่ในคุกเป็นเวลาหลายปี ด้วยหลักฐานที่ผมมีอยู่ในมือ คุณก็รู้ดีใช่ไหม ว่าคุณทำมาหลายปีแล้ว”
บรรดาเลขานุการต่างตกใจและก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว พวกเธอไม่กล้าเดินตามเซียวจิ่งอีกต่อไป อันเฮายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ตรงที่ทุกคนทิ้งเธอไว้ ด้วยความงุนงงอย่างแท้จริง เวลาเพิ่งผ่านไปชั่วโมงกว่า และตอนนี้เหลือเพียงเธอคนเดียวในแผนกเลขานุการจริงๆ หรือ แม้แต่เลขานุการกลางก็ถูกไล่ออก!
เซียวจิ่งเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานและเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาเฉียวเหลียง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ปัญหาถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นายจัดคนของนายเข้ามาในแผนกเลขานุการได้เลย จากนี้ไปแผนกเลขานุการจะอยู่ในมือเรา…
…ฉันสอบประวัติอันเฮาดูแล้ว เธอไม่มีภูมิหลังอะไรเป็นพิเศษ และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับคนพวกนั้น” เซียวจิ่งมองภาพในจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า เลิกคิ้วขึ้นและยิ้มเล็กน้อย “นายมั่นใจได้แน่นอน ปัญหาเรื่องนี้ไม่มีแล้ว และฉันจะจับตาดูรองประธานเอง… ใช่… นายจะกลับมาเมื่อไร”
ทางอีกด้านหนึ่ง เฉียวเหลียงตอบมาว่า “ฉันอยู่สวีเดน”
เซียวจิ่งโกรธขึ้นมาทันทีเพราะความคาดไม่ถึง เขาตะโกนออกมา “เฉียวเหลียง ไอ้บ้าเอ๋ย!” ทุกครั้งที่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในบริษัท ไอ้บ้านี่ไม่เคยอยู่เลย!