เมืองหลวง
ฉินซินหยิ่งมาปรากฏตัวที่ประตูอุทยานเอ็มไพร์ในชุดเกาะอกสีขาว หญิงสาวที่มาเปิดประตูให้ยินดีมากที่ได้เห็นเธอ “คุณฉิน ไม่ได้มาที่นี่นานแล้วนะคะ มาเยี่ยมคุณหนูเหรอคะ”
เมื่อฉินซินหยิ่งได้ยินสาวใช้พูดถึงถังซีใบหน้าเธอก็แข็งทื่อไปหนึ่งวินาที แต่ในไม่ช้าก็กลับสู่ภาวะปกติ เธอยิ้มให้สาวใช้พร้อมกับถามว่า “ซีซีกลับมาแล้วหรือ”
สาวใช้ส่ายศีรษะ “ยังค่ะ คราวนี้คุณหนูไปเที่ยวนานเหลือเกิน แต่เธอจะโทรหานายท่านเป็นครั้งคราวค่ะ เพื่อให้ท่านทราบว่าเธอปลอดภัย นายท่านบอกว่าเธอเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขจนจำไม่ได้แล้วว่าต้องกลับบ้าน” จากนั้นสาวใช้ก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “แต่คุณหนูไปเที่ยวหลังจากทำงานหนักมาเป็นเวลานาน ไม่ผิดหรอกค่ะที่เธอจะได้เที่ยวสนุกบ้าง แล้วนายท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย”
ประกายถากถางวาบขึ้นในดวงตาฉินซินหยิ่ง แต่เธอรีบกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “ใช่ ซีซีทำงานหนักมาก เธอต้องการพักผ่อนจริงๆ ฉันมาเยี่ยมคุณปู่ถัง มาช่วยเธอตรวจดูสุขภาพท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อได้ยินอย่างนี้สาวใช้ก็ยิ้ม “คุณฉิน คุณช่างรอบคอบจริงๆ ค่ะ ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงสุขภาพนายท่าน เพราะคุณไม่อยากให้คุณหนูเป็นห่วง คุณหนูต้องซาบซึ้งมากถ้ารู้ว่าคุณดีต่อเธอเหลือเกิน”
ฉินซินหยิ่งเลิกคิ้วให้สาวใช้ขณะขึ้นรถที่สาวใช้นำมารับ เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน “ช่วงนี้คุณปู่ถังเป็นอย่างไรบ้าง ความดันโลหิตสูงขึ้นไหม หัวใจท่านปกติหรือเปล่า ให้ท่านทานเนื้อวัวให้น้อยลงนะ เพราะท่านคอเลสเตอรอลสูง…” หลังจากจุกจิกจู้จี้กับรายละเอียดอยู่นานฉินซินหยิ่งก็ถามว่า “แล้วหลังๆ นี่คุณปู่ถังต้องเข้าไปรักษาอาการอะไรบ้างไหม”
สาวใช้รู้สึกซาบซึ้งใจที่เห็นฉินซินหยิ่งห่วงใยถังเจิ้นหวามากเหลือเกิน เธอตอบคำถามฉินซินหยิ่งด้วยรอยยิ้ม “ช่วงนี้นายท่านของเราสุขภาพดีค่ะ คุณหนูได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน นายท่านก็ไม่มีอะไรจำเป็นต้องไปจัดการที่บริษัท ท่านจึงพักผ่อนอยู่บ้านค่ะในช่วงนี้ แล้วพ่อบ้านถังก็ดูแลนายท่านเป็นอย่างดี นายท่านต้องจำกัดอาหารบ้างเล็กน้อย และไม่ต้องไปโรงพยาบาล แต่วันครบรอบเสียชีวิตของนายหญิงกำลังจะมาถึง นายท่านก็เลยอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ ค่ะในช่วงสองวันมานี้”
ฉินซินหยิ่งหรี่ตาลง อารมณ์เขาไม่ดีเอามากๆ อย่างนั้นหรือ
ในไม่ช้ารถก็จอดลงที่หน้าคฤหาสน์ ฉินซินหยิ่งกล่าวขอบคุณสาวใช้ด้วยรอยยิ้ม กระโดดลงจากรถและเดินไปที่ตัวคฤหาสน์ ขณะหันหลังให้สาวใช้รอยยิ้มบนใบหน้าเธอก็หายไป แต่เมื่อมาถึงประตูทางเข้าคฤหาสน์เธอก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วเคาะประตู…
ถังจงมาเปิดประตู เมื่อเขาเห็นฉินซินหยิ่งยืนอยู่หน้าประตูความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาเขาถามด้วยความแปลกใจว่า “คุณฉิน มาทำไมหรือครับ”
“ฉันคิดถึงคุณปู่ถัง ก็เลยมาเยี่ยม ท่านอยู่ที่ไหน” ฉินซินหยิ่งเดินเข้ามาข้างในราวกับว่านี่เป็นบ้านของเธอเอง เธอเดินสำรวจไปทั่วและมองไปรอบๆ บ้าน
ถังจงเดินตามฉินซินหยิ่งเข้าไปข้างในและกล่าวว่า “นายท่านกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องทำงานครับ ไม่ต้องการให้ใครรบกวน” เขาบอกให้ฉินซินหยิ่งไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น และสั่งให้แม่บ้านนำน้ำชาและขนมมาต้อนรับฉินซินหยิ่ง หลังจากนั้นเขาก็หลบไปยืนข้างๆ และถามว่า “คุณฉินครับ เมื่อวานผมเห็นข่าวคุณ คุณไม่ได้อยู่ที่เมือง A หรอกหรือครับเมื่อวานนี้ ทำไมจู่ๆ ถึงกลับมาเมืองหลวง”
ฉินซินหยิ่งยิ้ม มองถังจงและกล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “ฉันได้รับโทรศัพท์จากซีซีเมื่อวานนี้ เธอขอให้ฉันส่งผ้าพันคอไหมที่อยู่ในตู้ไปให้เธอ ฉันเพิ่งกลับมาถึงเมื่อเช้านี้”
ถังจงหรี่ตาลง แต่ปกปิดความสงสัยไว้อย่างรวดเร็ว “ผ้าพันคอไหมหรือครับ” คุณหนูต้องการผ้าพันคอไหมเมื่อไหร่กัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณหนูโทรศัพท์มาได้อย่างไร
ฉินซินหยิ่งไม่เห็นร่องรอยความสงสัยของถังจงแม้แต่น้อย และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แล้วซีซีก็ยังขอให้ฉันช่วยมาดูสุขภาพคุณปู่ถังด้วย ฉันจึงกลับมาจากเมือง A แล้วมาที่นี่”
ถังจงยิ้ม กล่าวขึ้นเบาๆ “คุณหนูของเรานี่ชอบแกล้งคนอื่นเหลือเกิน ทำไมไม่บอกให้เราส่งผ้าพันคอไหมไปให้ตอนที่โทรหาเราเมื่อคืน ทำให้คุณต้องยุ่งยากมากมายที่ต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณลำบาก”
ขณะกล่าวเช่นนั้นน้ำเสียงถังจงเยือกเย็น แต่ฉินซินหยิ่งดูเหมือนจะไม่รู้สึกผิดปกติกับคำพูดของถังจง เธอหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “บางทีเธออาจกลัวว่าคุณจะไม่รู้ว่าเธอต้องการผ้าพันคอผืนไหน ก็เลยขอให้ฉันมาหาให้ แล้วอีกอย่างพ่อบ้านถัง คุณซื่อสัตย์ต่อคุณปู่ถังมาก คุณอาจจะบอกซีซีแค่สิ่งที่คุณปู่ถังต้องการให้เธอรู้จริงไหมคะ เธอจึงเชื่อใจฉันมากกว่า”
ถังจงหัวเราะเพื่อซ่อนประกายตาอันเยือกเย็น จากนั้นเขาก็กล่าวกับฉินซินหยิ่งว่า “คุณฉินรอสักครู่นะครับ ผมจะไปเรียนนายท่าน”
ฉินซินหยิ่งยิ้ม “ได้ค่ะ พ่อบ้านถัง รบกวนด้วยนะคะ”
ถังจงยิ้มและหันหลังเดินไปที่ห้องทำงานถังเจิ้นหวา ขณะเขาหันหลังให้เธอรอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็หายไป
ฉินซินหยิ่งกำลังโกหก เขาน่าจะขอให้นายท่านห้ามเด็ดขาด ไม่ให้คุณหนูคบเธอเป็นเพื่อนอีกต่อไปตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คุณหนูกับคุณเฉียวก็จะไม่แยกจากกัน แล้วคุณหนูก็จะไม่…
เมื่อได้ยินคำพูดของถังจง ถังเจิ้นหวาก็ขมวดคิ้ว ใคร่ครวญอยู่สองวินาทีแล้วลุกขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ไปดูกันว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมาที่นี่”
“นายท่านครับ เธอต้องอยากเข้าไปในห้องคุณหนูแน่ๆ ผมจะไม่ปล่อยให้เธอทำอย่างนั้น เธอไม่รู้หรือไงว่าก่อนหน้านี้เธอทำอะไรไว้กับคุณหนูบ้าง ยังจะมีหน้าเข้าไปในห้องคุณหนูอีก” ถังจงกล่าวอย่างขุ่นเคือง “เราควรห้ามไม่ให้เธอเข้ามาที่อุทยานเอ็มไพร์เลยด้วยซ้ำ!”
ถังเจิ้นหวามองหน้าถังจง ส่ายศีรษะกล่าวว่า “เธอนี่แก่แล้วจริงๆ ทำไมถึงอารมณ์เสียง่ายอย่างนี้ ลองไปพบเด็กคนนั้นดูก่อน”
ฉินซินหยิ่งมองหน้าถังเจิ้นหวาที่ดูทรงพลังและรู้สึกตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นเป็นความจริง คุณปู่ถังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการเสียชีวิตของถังซี! ไม่น่าแปลกใจที่เขายังคงดูมีพลัง!
ถังเจิ้นหวาขมวดคิ้วเมื่อเห็นฉินซินหยิ่ง แต่เมื่อฉินซินหยิ่งมองตอบมาเขาก็ยิ้มกว้างทันที เขาถือไม้เท้าเดินเข้ามา ฉินซินหยิ่งยืนขึ้นทักทาย “คุณปู่ถัง ท่านดูดีมากเลยค่ะ ดูเหมือนซีซีจะไม่จำเป็นต้องห่วงใยท่านตลอดเวลาที่เธอเดินทางไปไหนๆ”
ถังเจิ้นหวายิ้มและบอกให้ฉินซินหยิ่งนั่งลง ท่านเองก็นั่งลงบนเก้าอี้นวม ท่านส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “ฉันแก่เกินกว่าจะมีประโยชน์อะไรแล้ว ยายหนูหัวเราะฉันตอนที่โทรหาฉันเมื่อคืน เธอยังดีกว่ายายหนูของฉัน ยังรู้จักมาเยี่ยมฉันบ้าง ยายเด็กจอมซนคนนั้นเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขจนจำไม่ได้แล้วว่าต้องกลับบ้าน”
ฉินซินหยิ่งยิ้ม “ก็กว่าซีซีจะได้เดินทางท่องเที่ยวนี่คะ คุณปู่ถัง ทำไมไม่ให้เธอสนุกกับตัวเองให้เต็มที่ล่ะคะ ถึงอย่างไรซีซีก็มีความสามารถมากอยู่แล้ว ถึงจะอยู่ในระหว่างเดินทาง แต่เธอก็สามารถจัดการกับงานในบริษัทได้ดี ด้วยการควบคุมจากทางไกลจริงไหมคะ”
ถังเจิ้นหวาหัวเราะและพยักหน้า จากนั้นก็มองหน้าฉินซินหยิ่งแล้วกล่าวว่า “ฉันได้ยินว่าเธอได้เป็นนักออกแบบพิเศษให้กับเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป ขอแสดงความยินดีด้วยนะ!”
ฉินซินหยิ่งยิ้ม และนึกออกทันทีว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่