ชายหนุ่มกอดคอเธอพาเดินเข้าไปในอาคาร “ไปกันเถอะ วันนี้เธอมาที่นี่เพื่อมาสัมภาษณ์ที่แผนกบุคคลไม่ใช่หรือ ฉันจะไปกับเธอเอง”
“เรื่องอะไรของเธอด้วยล่ะ ที่จะไปสัมภาษณ์ที่แผนกบุคคล ฉันไปคนเดียวได้!” ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่ใบหน้าหญิงสาวแอบเต็มไปด้วยความสุข “กลัวฉันจะหลงทางหรือไง”
“ฉันเป็นห่วงว่าเธอจะมาสร้างความวุ่นวาย เข้าใจไหม” ชายหนุ่มคว้าแขนหญิงสาวพาเดินไปทางซ้าย แล้วลากเธอไปทางขวา “แผนกบุคคลอยู่ทางขวา!”
“เฮ้ นี่เธอจูงมือฉันก็ได้ ลากฉันไปแบบนี้อายคนเขา” หญิงสาวบ่นและตบที่หลังมือเขา ชายหนุ่มไม่หลบ แม้จะไม่ยิ้มออกมาแต่ใบหน้าหล่อเหลาก็เต็มไปด้วยความสุข เขาแกล้งทำสีหน้านิ่งเฉย “เธอเดินไปไม่ถูกหรอก ถ้าฉันไม่ลากเธอไป”
“เฮ้ จินฮั่นทำไมเธอถึงชอบทำให้ฉันขายหน้า” หญิงสาวดิ้นรน “กลับไปเลย ฉันจะไปสัมภาษณ์เองคนเดียว!”
เมื่อเห็นเธอเดินนำหน้าไปด้วยความโกรธ จินฮั่นก็ทำปากยื่น ตามเธอไปจนทันและจูงมือเธอ “ก็ได้ ฉันจูงมือเธอแทน ไม่ลากเธอก็ได้”
หญิงสาวยิ้มให้จินฮั่น ปล่อยให้เขาจูงมือ ขณะมองเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเธอก็ถามเสียงอ่อย “ครอบครัวเธอไม่อนุญาตให้เธอมาที่นี่ใช่ไหม”
“ฮื่อ ครอบครัวฉันบังคับฉันได้แต่ตัว บังคับหัวใจฉันไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นตอนนี้หัวใจฉันอยู่กับเธอ” รอยยิ้มถมึงทึงปรากฏบนใบหน้าจินฮั่น หญิงสาวแกล้งทำเป็นกลัว “โอ ช่างน่ากลัวจริงๆ! นี่เธอเป็นผีหรือเป็นคนกันแน่”
“ตอนยังมีชีวิตฉันเป็นคนของเธอ ตอนฉันตายไปแล้วฉันก็เป็นผีของเธอ ตกลงไหม”
“ตกลงตามนั้น!” หญิงสาวจับมือจินฮั่น “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หรือในอนาคตของอนาคต เธอเป็นของฉันได้คนเดียวเท่านั้น ฉันจะไม่ยอมยกเธอให้ผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น เข้าใจไหม”
“หลี่ม่านหยาง เธอต้องจำสิ่งที่เธอพูดวันนี้ไว้ให้ดี ถ้าเธอกล้าเลิกกับฉัน เธอก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
หลี่ม่านหยางหัวเราะ “โอ ใจฉันละลายอีกแล้ว!”
จินฮั่นจ้องหน้าหลี่ม่านหยาง “ฉันจริงจัง!”
…
เฉียวเหลียงพาถังซีไปที่ห้องทำงานเขา บอกเธอว่าเดี๋ยวจะมีคนมาที่นี่ ขอให้เธอจัดการด้วยตัวเอง ก่อนที่ถังซีจะเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น เฉียวเหลียงก็ไปประชุม เธอจึงเดินไปนั่งที่โซฟาและเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ “เขาอยากให้ฉันช่วยงานเขาเหรอ หรือฉินซินหยิ่งจะมาที่นี่”
เมื่อคิดถึงตอนที่ฉินซินหยิ่งมาที่ห้องทำงานเฉียวเหลียงคราวก่อน ถังซีก็ขมวดคิ้ว คิดว่าถ้าฉินซินหยิ่งมาอีกจริงๆ เธอควรจะคุยให้รู้เรื่อง!
เป็นไปตามที่เฉียวเหลียงคาดไว้ ฉินซินหยิ่งเห็นเฉียวเหลียงกับถังซีจูบกันจากโซเชียลมีเดีย เธอระเบิดความโมโหออกมาอย่างแรง เหวี่ยงโทรศัพท์มือถือลงกับพื้นและกัดฟันแน่น “บัดซบที่สุด! เซียวโหรว ในเมื่อแกไม่เชื่อคำแนะนำของฉัน ก็อย่าโทษฉัน ถ้าฉันจะร้ายกับแก!”
เธอเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดหมายเลข “หาคนให้ฉัน…”
ถังซีนั่งอยู่ในห้องทำงานเฉียวเหลียงด้วยความเบื่อหน่ายอยู่ประมาณยี่สิบนาที ทันใดนั้นก็มีคนมาเคาะประตู ถังซีลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รีบสวมหน้ากากและหมวกทันที “เข้ามาค่ะ”
อันเฮาเดินเข้ามา ยิ้มให้ถังซีและกล่าวว่า “ฝ่ายบุคคลแจ้งว่า ท่านประธานเฉียวจัดให้มีคนสองคนมารับการสัมภาษณ์จากคุณที่ห้องท่านประธานค่ะ คุณจะให้พวกเขาเข้าพบเลยไหมคะ”
ประกายความประหลาดใจกะพริบในดวงตาถังซี เธอเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย “รับการสัมภาษณ์จากฉันหรือ”
“ใช่ค่ะ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลจะพาพวกเขามาที่นี่ คุณต้องการพบพวกเขาไหมคะ” อันเฮายิ้ม
ด้วยไม่ทราบจุดประสงค์ของเฉียวเหลียง ถังซีจึงพยักหน้า “ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ ให้พวกเขาเข้ามาได้เลย”
อันเฮายิ้ม กล่าวว่า “ยินดีค่ะ” จากนั้นก็หันหลังกลับ เดินไปเรียกผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้ามา ผู้จัดการเข้ามาพร้อมกับคนสองคน หนึ่งในสองนั้น คนที่เป็นหญิงสาวร้องอุทานว่า “แฟนตัวจริงท่านประธาน!” ทันทีที่เห็นถังซี
ถังซีมองหญิงสาวด้วยความงุนงง ชายหนุ่มที่เดินตามเธอมาดึงคอเสื้อเธอ และกล่าวกับถังซีว่า “ขอโทษด้วยครับ บางครั้งเธอก็ไม่ค่อยมีสติ”
ถังซีส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม มองไปที่ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ผู้จัดการเป็นชายหนุ่มวัยสามสิบ ท่าทางเรียบร้อยและนิ่งขรึม ถังซีลุกขึ้นจับมือกับผู้จัดการ “สวัสดีค่ะ จะให้ฉันสัมภาษณ์พวกเขาใช่ไหมคะ”
ผู้จัดการพยักหน้าและกล่าวว่า “ท่านประธานเฉียวแจ้งให้ผมทราบเมื่อเช้านี้ว่า จะมีคนสองคนมารับการสัมภาษณ์ในตำแหน่งนักออกแบบและนักออกแบบศิลป์ของเดอะควีนวันนี้ครับ ท่านสั่งให้ผมพาคนทั้งสองมาพบคุณที่ห้องทำงานท่านประธาน”
ถังซีเลิกคิ้ว “เดอะควีนหรือ” ท่ามกลางความประหลาดใจของเธอ นี่เขาเริ่มคัดเลือกคนที่มีความสามารถสำหรับบริษัทของเธอแล้วเหรอ! พระเจ้า เธออยากจูบเขาให้หนักๆ จริงๆ!
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลยิ้ม “ใช่แล้วครับ ท่านประธานบอกอย่างนั้น มีแต่ผมเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ คนอื่นไม่มีใครรู้”
ถังซีกล่าวขอบคุณผู้จัดการฝ่ายบุคคล และมองตามขณะเขาเดินออกไป จากนั้นเธอก็เชิญทั้งสองคนนั่งลง ถอดหน้ากากและหมวกออก แล้วยิ้มให้พวกเขา “สวัสดีค่ะ”
จินฮั่นตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าแสนสวยของถังซี แต่ดูเหมือนความสวยของเธอจะไม่มีผลใดๆ ต่อความรู้สึกเขา เขาพยักหน้าให้เธอ “ครับ ผมชื่อจินฮั่น ส่วนเธอ…”
“ฉันหลี่ม่านหยางค่ะ!” หลี่ม่านหยางจ้องมองถังซีด้วยดวงตาเป็นประกายวาววับ และอุทานด้วยความตื่นเต้น “ฉันสงสัยอยู่ว่าทำไมคุณถึงสวมหน้ากากและหมวก ตอนนี้ฉันรู้เหตุผลแล้วค่ะ เพราะถ้าคุณเดินไปตามถนนโดยเปิดเผยใบหน้า คุณจะต้องเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนแน่ๆ!”
ถังซีมองหลี่ม่านหยางด้วยท่าทางเคอะเขิน จินฮั่นยิ้มให้ถังซีในเชิงขอโทษ แล้วคว้าคอปกเสื้อด้านหลังหลี่ม่านหยางอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวเสียงเรียบ “นี่เธอมาสัมภาษณ์งานนะ อย่าพูดเยอะ!”
ในที่สุดหลี่ม่านหยางก็นึกออกว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ เธอหยุดยิ้ม จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่และนั่งอย่างเรียบร้อย
ถังซีรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้ตลกมาก เธอนั่งลงบนโซฟา ยิ้มแล้วมองไปที่พวกเขา “คุณสองคนเป็นแฟนกันเหรอ”
“ฮึ? …” ดวงตาหลี่ม่านหยางเป็นประกายขึ้น เธอกำลังจะพูดบางอย่างออกมา เมื่อจินฮั่นจับแขนเธอไว้และกล่าวกับถังซี “ถ้าคุณไม่รับคู่รักให้ทำงานด้วยกัน ผมก็จะไม่สมัครงานนี้ครับ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” ถังซียิ้ม “ฉันแค่อยากรู้ ขอดูประวัติส่วนตัวของคุณหน่อยได้ไหม หรือจะดีมากถ้าจะให้ฉันดูผลงานออกแบบของคุณด้วย ได้ไหมคะ”
เมื่อพูดถึงผลงานออกแบบ หลี่ม่านหยางก็กลับคืนสู่อารมณ์ปกติในทันที เธอหยิบภาพสเก็ตช์งานออกแบบสองแผ่นออกมาจากกระเป๋าเป้ แล้วส่งให้ถังซี “นี่คืองานออกแบบของฉันที่ได้รับรางวัล ในการแข่งขันออกแบบของมหาวิทยาลัยค่ะ อีกชุดหนึ่งคือชุดที่ฉันออกแบบมาสำหรับการสัมภาษณ์ในวันนี้ ชื่อชุดว่า ‘ความกล้าหาญ’ ค่ะ”
ถังซีมองดูชุดสีทอง ดูคล้ายเสื้อคลุมจักรพรรดิ ซึ่งจะช่วยให้คุณดูทรงอำนาจเมื่อสวมใส่ เธอยิ้ม “หลี่ม่านหยาง ยินดีต้อนรับสู่เดอะควีนค่ะ”