ถังซีเดินออกมานอกบ้าน แล้วก็เห็นรถเฉียวเหลียงจอดอยู่ข้างนอก เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความถึงเฉียวเหลียง จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งบนรถเซียวเหยา เซียวเหยามองหน้าถังซีแล้วเลิกคิ้ว มองไปที่รถเฉียวเหลียง ถามเบาๆ ว่า “ไม่ทักทายเขาก่อนไม่เป็นไรเหรอ”
เขาจำได้รางๆ ว่าเฉียวเหลียงแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของถังซีมากมาย ผู้ชายคนนั้นจะยอมให้ซีซีขึ้นรถผู้ชายอีกคนโดยไม่สนใจเขาเลยได้หรือ
ในใจถังซีไม่แน่ใจ แต่เธอยังคงยิ้มเหมือนไม่มีอะไร “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันส่งข้อความถึงเขาแล้ว เขามีธุระต้องไปทำเหมือนกัน เขาคงจะกลับไป เราไปกันเถอะค่ะ”
เซียวเหยาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม สตาร์ทรถแล้วขับออกจากบ้านตระกูลเซียว เฉียวเหลียงนั่งอยู่ในรถกะพริบตาปริบๆ และกำมือแน่น เมื่อคืนนี้เธอลงรถแล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเขาเลย แล้วตอนนี้เธอยังไปขึ้นรถผู้ชายอื่นต่อหน้าต่อตาเขา! เขาใจดีกับเธอเกินไปใช่ไหม!
เฉียวเหลียงสูดลมหายใจลึกๆ หลายครั้ง ทันใดนั้นโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
[ที่รัก ฉันขอโทษ แต่คุณพ่อคุณแม่และพี่ชายมาหาฉันวันนี้ ถ้าพวกเขาเห็นคุณ พวกเขาต้องรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราแน่นอน ขอโทษนะคะที่ฉันไม่สนใจคุณเลยเช้าวันนี้ มารับฉันที่โรงเรียนตอนบ่ายนะคะ แล้วเราไปบ้านคุณกัน เป็นเด็กดีนะคะ อย่าโกรธนะ รักคุณค่ะ]
เฉียวเหลียงนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาคิดว่าเขาตาฝาด แต่หลังจากอ่านข้อความอย่างละเอียดหลายครั้ง เขาก็มั่นใจว่าข้อความนี้ส่งมาจากถังซี ซึ่งไม่เคยพูดคำหวานๆ แบบนี้กับเขามาก่อนเลย
…
ในสำนักงานประธานบริษัทเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป เซียวจิ่งนอนค้างที่โซฟาในห้องทำงานเฉียวเหลียงมาหลายวันแล้วในช่วงที่ผ่านมา คางเขาครึ้มไปด้วยหนวดเครา ในมือเขาถือกาแฟถ้วยหนึ่ง เนกไทบิดเบี้ยว เขาไม่ได้สวมรองเท้าหนัง แต่สวมรองเท้าแตะ มองเห็นถุงเท้าสีดำที่เขาสวมอยู่ รอบตัวเขาห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย เขาเดินไปเดินมา ทั่วทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขามีรหัสที่ลงเครื่องหมายไว้เป็นสีต่างๆ
เซียวจิ่งเดินวนไปมา แล้วทันใดนั้นก็หยุด พร้อมกับกล่าวว่า “ซื้อหุ้นทั้งหมด! ซื้อทั้งหมดไม่ว่าพวกเขาจะขายแพงเท่าไร!” จากนั้นเขาก็ต่อสายโทรศัพท์ อีกสองวินาทีต่อมาทางปลายสายก็รับ เขาถามว่า “เป็นไงบ้าง พวกเขายอมขายหุ้นหรือเปล่า”
ปลายสายอีกด้านหนึ่งพูดอะไรบางอย่าง เซียวจิ่งส่งเสียงในลำคอและออกคำสั่ง “จำไว้ว่า ต้องซื้อหุ้นทั้งหมด ถ้าใครปฏิเสธไม่ยอมขายส่วนของเขา ทำให้เขาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา!”
จบคำพูดเซียวจิ่งก็วางสายโทรศัพท์ จิบกาแฟ และเฝ้าดูความผันผวนของหุ้นต่อไป
ในขณะนั้นใครคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้น “ลู่หงคุนปล่อยขายหุ้นเหยาเหว่ยกรุปยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เขาเป็นเจ้าของ”
เซียวจิ่งกล่าวอย่างเคร่งเครียด “ซื้อทั้งหมด!”
ชายหนุ่มคนนั้นรับคำ และตอบกลับทันที “ซื้อแล้วครับ”
เซียวจิ่งกล่าวว่า “ปล่อยให้ราคาหุ้นหงคุนอิเล็กทรอนิกส์แตะระดับต่ำสุด เก็บไว้สิบนาที แล้วขายหุ้นหงคุนอิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นรายงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจว่าหงคุนปั่นหุ้น”
หลังจากเดินวนไปเวียนมาอีกสองรอบ เซียวจิ่งก็กล่าวด้วยความโมโห “เฮ้ย! ทำไมเฉียวเหลียงยังไม่มาอีก! เขาออกจากบริษัทไปตั้งแต่เมื่อเช้าวาน ป่านนี้ยังไม่กลับเข้ามาเลย ฉันจะขายหุ้นเฉียวให้หมดถ้าเขายังไม่เข้ามา!
ทันใดนั้นเองประตูก็เปิดออก เฉียวเหลียงโยนเสื้อโค้ตไปที่โซฟา เดินไปที่โต๊ะทำงานด้วยใบหน้าเรียบเฉย นั่งลงแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ “นายก็ลองดูสิ”
เซียวจิ่งจ้องหน้าเขาขณะกล่าวว่า “ตอนนี้เราควบคุมบริษัทบางแห่งที่ลู่กวงสยงเป็นเจ้าของได้แล้ว รวมถึงลู่ซิงกรุป ที่เขาจดทะเบียนในเมืองชิงด้วย เวลานี้เราสามารถคว่ำเขาได้เพียงแค่ผลักเบาๆ”
เฉียวเหลียงยิ้มเยาะ เงยหน้าขึ้นมองเซียวจิ่ง แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น “ถ้าอย่างนั้นก็ผลักเขาเบาๆ ฉันอยากเห็นเขาพินาศ”
เซียวจิ่งเลิกคิ้ว มองกลับไปยังกลุ่มหัวกะทิที่สวมชุดลำลองนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ถามพวกเขาว่า “พวกคุณ ได้ยินคำพูดของนายน้อยของพวกคุณแล้วใช่ไหม เริ่มเลย!”
เฉียวเหลียงเคยยกโทษให้ลู่กวงสยงไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อห้าปีก่อน เพราะว่าลู่กวงสยงเป็นพ่อเขา แต่ลู่กวงสยงไม่ยอมแพ้ และพยายามครอบครองเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปในช่วงห้าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฉียวเหลียงมอบอำนาจทั้งหมดของเขาให้เซียวจิ่งและรองประธานอีกคนหนึ่ง ลู่กวงสยงแทบรอไม่ไหวที่จะลงมือ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ลู่กวงสยงไม่รู้ก็คือ ถึงแม้เฉียวเหลียงจะไม่ค่อยอยู่ที่บริษัท แต่ไม่มีอะไรพ้นจากสายตาเขาได้ เฉียวเหลียงเหมือนสุนัขป่าที่นอนหลับ อาจดูไม่เป็นอันตราย หากคุณไม่ทำให้เขาขุ่นเคือง แต่เมื่อคุณเหยียบหางเขา เขาจะกระโจนขึ้นมาทันที แล้วฝังเขี้ยวจมลงไปที่คอของคุณ และฆ่าคุณ!
เซียวจิ่งมองหน้าเฉียวเหลียง ซึ่งทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจไม่สนใจอย่างอื่น เขาเลิกคิ้ว แล้วหันกลับไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา สื่อทางการเงินที่สำคัญหลายสื่อก็เริ่มออกอากาศรายงานวิกฤตทางการเงินล่าสุด ตลาดหุ้นพุ่งแตะระดับต่ำสุด แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ถือหุ้นเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปจำนวนมากเทขายหุ้น… และหลังจากนั้นราคาหุ้นของบริษัทอื่นก็แตะระดับต่ำสุด แม้แต่นักลงทุนก็เริ่มขายหุ้นของตัวเอง อย่างไรก็ตามในบรรดาบริษัททั้งหมด มีเพียงลู่ซิงกรุปเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบเลย… เมื่อมาถึงจุดนี้สื่อทางการเงินก็รายงานว่า …ลู่ซิงกรุปแอบปั่นหุ้นในตลาด…
จากนั้นก็มีข่าวออกมาว่าลู่ซิงกรุปรับสินบนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีรายงานด้วยว่าลู่ซิงกรุปเลี่ยงภาษีเป็นเงินถึงสามร้อยล้านหยวน แล้วทันใดนั้นข่าวก็รายงานว่าลู่ซิงกรุปกำลังเผชิญวิกฤติล้มละลาย
ตัวแทนทางกฎหมายของลู่ซิงกรุปถูกตรวจสอบโดยองค์กรป้องกันและปราบปรามการทุจริต และถูกจับกุม
เฉียวเหลียงดูข่าวโดยไร้ความรู้สึก จากนั้นก็หยิบรีโมทขึ้นมาปิดทีวี และลุกขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “นำตลาดหุ้นกลับสู่ภาวะปกติ”
สามนาทีต่อมาตลาดหุ้นก็กลับคืนสู่ปกติ เซียวจิ่งมองใบหน้าอันเฉยชาของเฉียวเหลียง และถามว่า “นายจะเอาเขาเข้าคุกจริงๆ หรือ”
เฉียวเหลียงยิ้มหยัน “ใช่ คงเป็นเรื่องดี ถ้าภรรยาเขาเต็มใจจะให้ลูกชายเข้าคุกแทนเขา หรือจะให้ฉันช่วยให้พวกเขาได้อยู่ร่วมกัน ให้เขาเข้าไปอยู่กับลูกชายในคุก”
เซียวจิ่งชะงักไปชั่วครู่ นิ่งมองเฉียวเหลียงแล้วกล่าวว่า “แม้เราจะใช้วิธีของเราจัดการกับพวกเขา แต่หลักฐานเล่นงานพวกเขาที่เราส่งไปเป็นของจริงทั้งหมด เพราะฉะนั้นนายมั่นใจได้เลยว่าพวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้ในเวลานี้ แล้วนายจะจัดการกับคนทรยศในบริษัทต่อไปยังไง”
เฉียวเหลียงลุกขึ้น “ในเมื่อพวกเขาทรยศเรา พวกเขาจึงไม่สามารถอยู่ในบริษัทได้อีกต่อไป คิดบัญชีพวกเขา”
“แล้วนี่นายจะไปไหน” เซียวจิ่งมองหน้าเฉียวเหลียงซึ่งกำลังเดินไปทางประตู จากนั้นก็ตะโกนว่า “ฉันไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว ฉันไม่ได้อาบน้ำมาสามวันแล้วนะ ในสภาพอากาศร้อนจัดอย่างนี้ วันนี้ฉันต้องกลับบ้าน!”
เฉียวเหลียงหันกลับมามอง “ฉันห้ามไม่ให้นายกลับบ้านหรือ” เขากล่าวขณะเดินไป “ทุกคนทำได้ดีมาก พวกคุณได้วันหยุดห้าวัน นับจากวันนี้” จากนั้นเขาก็หันไปหาเซียวจิ่ง “บริษัทจะกลับมาเป็นปกติในอีกห้าวัน นายจัดการกับคนพวกนั้นได้เลย เมื่อกลับมาทำงานหลังจากวันหยุด”