ถังซีจ้องมองหลินหรูอย่างุนงง เธอยังคงซีดเซียวและท่าทางยังไม่หายดี แต่ดูใจดีกว่าเมื่อก่อน ที่เธอมักมีท่าทางหยิ่งยโสและจองหอง บางทีนี่อาจเป็นตัวตนที่แท้จริงของหลินหรู จริงๆ แล้วเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน ถังซีมองหน้าหลินหรูและถามว่า “แม่ยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่าคะ”
หลินหรูส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “ไม่จ้ะ ถึงแม่จะยังเดินไม่ค่อยคล่อง แต่แม่คิดว่าแม่จะสบายดีในสองสามวันนี้”
ถังซีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เยี่ยมมากเลยค่ะ” จากนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และกล่าวว่า “แต่แม่ยังต้องให้หนูฝังเข็มรักษาต่อไปก่อนนะคะ วันนี้หนูจะฝังเข็มครั้งสุดท้ายของการรักษารอบแรกค่ะ”
…
หลังจากถังซีฝังเข็มให้หลินหรูเสร็จ หลินหรูก็กล่าวขึ้นทันทีว่า “แม่อยากไปที่เรือนจำ ไปเยี่ยมเถาเยี่ยน กับหลินเจียว และ… เซียวจิ้นหนิง”
ถังซีขมวดคิ้ว กำลังจะปฏิเสธ แต่หลินหรูกล่าวว่า “แม่รู้ว่าหนูไม่อยากให้แม่ต้องไม่สบายใจจากการกระทำของคนพวกนั้นอีก แต่ไม่ต้องห่วง แม่เตรียมพร้อมแล้ว แม่จะไม่ยอมให้พวกเขาก่อกวนแม่ได้ หรือถ้าหนูยังกังวล หนูไปเยี่ยมพวกเขากับแม่ก็ได้ แม่แค่อยากเห็นว่าพวกเขาลงเอยแบบไหนด้วยตาของแม่เอง”
“เรือนจำเป็นสถานที่อันตราย แม่ยังไม่หายดี หนูคิดว่าแม่ไม่ควรไปที่นั่น เอาไว้ค่อยไปตอนที่แม่หายดีแล้วดีกว่านะคะ” ถังซีไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่จะไปที่นั่นในตอนนี้ แม้ว่ามารดาจะบอกว่าสบายดีแล้วก็ตาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าเถาเยี่ยนจะพูดจาหยาบคายอะไรกับเธออีก และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอถูกยั่วยุอีก!
“แต่แม่อยากถามอะไรเธอบางอย่างจริงๆ แม่อยากถามตั้งแต่ตอนที่แม่ยังอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว ถ้าแม่ไม่ได้ถามพวกเขา แม่…”
“ตกลงค่ะ” ถังซีขัดจังหวะและพยักหน้า “ไปกันค่ะ หนูจะไปกับแม่เอง แม่อยากถามอะไรพวกเขาก็ถามได้เลย นี่น่าจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของแม่”
หลินหรูมองถังซีอย่างอ่อนโยน จับมือเธอแล้วกล่าวเบาๆ “ขอบใจจ้ะ ลูกรักของแม่”
ถังซียิ้มแล้วไปจัดการเรื่องการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังให้หลินหรู เซียวหงอี้กับเซียวเจี่ยนอยากเป็นคนพาพวกเธอไปที่เรือนจำแต่ถูกปฏิเสธ พวกเขาจึงทำได้เพียงปล่อยให้ถังซีกับหลินหรูไปกันเอง เซียวเจี่ยนกลับไปทำงานที่บริษัท และเซียวหงอี้รอพวกเธออยู่ที่บ้าน
เมื่อถังซีและหลินหรูมาถึงเรือนจำ ถังซีก็ตรงไปหาผู้บัญชาการ ซึ่งจัดการให้พวกเธอได้เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในเวลาไม่ช้า หลินหรูเลือกเข้าเยี่ยมเถาเยี่ยนก่อน มนุษย์ไม่ควรใจร้ายแม้แต่กับสุนัขของตน แต่เพราะเหตุใดเถาเยี่ยนจึงทำสิ่งเลวร้ายทั้งหมดนั้นกับเธอ นางผลักเธอตกบันได และพยายามจะฆ่าเธอ เธอต้องถามนางให้ได้ว่าทำไม
ถังซีเม้มริมฝีปาก แล้วพาหลินหรูเข้าไปในบริเวณที่คุมขัง ผู้บัญชาการบอกทางให้พวกเธอ พร้อมกับกล่าวกับถังซีว่า “โดยหลักการแล้ว ไม่อนุญาตให้คนสองคนเข้าเยี่ยมนักโทษพร้อมกัน แต่เราทำเรื่องขอเป็นข้อยกเว้นให้คุณในครั้งนี้ ดังนั้นคุณจะมีเวลาแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น เยี่ยมให้เสร็จโดยเร็วที่สุดนะครับ”
ถังซีขอบคุณผู้บัญชาการด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะ ท่านผู้บัญชาการ เราจะเยี่ยมให้เสร็จโดยเร็ว กรุณาจัดการเรื่องให้เราเข้าเยี่ยมหลินเจียวด้วยนะคะ…” ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และถามว่า “ว่าแต่ เซียวจิ้นหนิง หลินเจียว และเถาเยี่ยนถูกขังแยกกันหรือเปล่าคะ”
ผู้บัญชาการหัวเราะเบาๆ “แน่นอนครับ ผู้บังคับบัญชาของเราได้สั่งการมาเป็นพิเศษให้คุมขังแยกกัน เราจะไม่ลืมเรื่องนี้ ไม่ต้องห่วงครับ เราปฏิบัติต่อพวกเขาตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาทุกประการ ทั้งสามคนได้รับการดูแลเป็นพิเศษ คุณวางใจได้”
ถังซีพยักหน้าให้ผู้บัญชาการ ในขณะที่หลินหรูซึ่งเดินอยู่ข้างๆ ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้าทีละก้าวด้วยความยากลำบาก ใบหน้าเธอไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินการสนทนา
ในห้องเยี่ยม ระหว่างผู้เข้าเยี่ยมกับนักโทษจะมีแท่งเหล็กกั้นแทนที่จะเป็นกระจกกันกระสุน สภาพในเรือนจำไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นจึงไม่ใช่แต่เพียงเก้าอี้สำหรับนักโทษเท่านั้นที่เป็นไม้ ผู้เข้าเยี่ยมก็ต้องนั่งบนเก้าอี้ไม้ทรงกลมสองตัว ถังซีช่วยพยุงหลินหรูให้นั่งลงบนเก้าอี้กลม และเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้กลมอีกตัว รอให้ตำรวจนำตัวเถาเยี่ยนมาที่นี่
หลินหรูดูสงบนิ่งมากตามที่เธอให้สัญญากับถังซี แม้เมื่อเถาเยี่ยนเดินเข้ามาในห้องเยี่ยมเธอก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ถังซีจับมือหลินหรูไว้ พยายามให้กำลังใจให้เธอเข้มแข็ง
เถาเยี่ยนหัวเราะเยาะเมื่อนางเห็นพวกเธอ แล้วทำเสียงดูถูก “ไม่คิดเลยว่าแกจะยังไม่ตาย ฉันควรฆ่าแกให้ตายต่อหน้าต่อตาฉัน แกจะได้ไม่มีโอกาสมาหัวเราะเยาะฉัน”
หลินหรูเงยหน้ามองเถาเยี่ยนเมื่อเธอได้ยินเสียงนาง เถาเยี่ยนดูซูบซีดกว่าเดิมมาก ผมขาวบนหัวนางก็มีมากขึ้น ดวงตานางขุ่นมัว ไม่สดใสวาววับเหมือนเมื่อก่อน หลินหรูมองดูนาง กะพริบตาแล้วถอนหายใจ “ถ้าคุณไม่ผลักฉันตกบันได คุณก็จะยังคงเป็นแม่ของลูกสาวที่ร่ำรวย และยังคงมีลูกเขยเป็นประธานเซียวกรุป น่าเสียดาย…”
“ไม่ต้องพูดพล่าม ฉันไม่อยากฟังเรื่องตอแหลของแก! ให้ฉันเดาไหมล่ะ แกมาที่นี่เพื่อถามฉันว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดแกคือใครใช่ไหม” เถาเยี่ยนหัวเราะ จ้องมองหลินหรูอย่างเย็นชา และกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ฉันไม่บอกหรอก แกจะไม่มีวันได้พบพ่อแม่ที่แท้จริงของแก ไม่ว่าแกจะเกลียดฉันมากแค่ไหนก็ตาม ฉันจะทำให้แกกับพ่อแม่แกถูกพรากจากกันตลอดกาล ในชั่วชีวิตนี้แกจะต้องเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีใครต้องการ!”
หลินหรูยิ้มเล็กน้อย “ฉันกำลังฟังอยู่ คุณไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นหรอก จะไม่ดีต่อสุขภาพของคุณ”
ถังซีมองมารดาด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่ามารดาจะกล้าพูดจาเย้ยหยันเถาเยี่ยนเช่นนี้ เถาเยี่ยนแทบสติแตกเมื่อถูกยั่วประสาท แต่ในไม่ช้านางก็หัวเราะ มองหลินหรูและกล่าวว่า “ฮ่าๆ แกฉลาดขึ้นแล้วนี่…”
“แต่คุณโง่ลง” หลินหรูกล่าวแทรกอย่างเยือกเย็น “คุณรู้ไหมว่าทั้งลูกสาวและหลานสาวของคุณก็ถูกคุมขังในเรือนจำนี้เหมือนกัน ฉันคิดว่าคุณคงไม่รู้เรื่องนี้ เพราะฉันขอท่านผู้บัญชาการที่นี่ให้แยกขัง ไม่ให้พวกคุณสามคนพบกัน…” อาจเป็นเพราะเธอพูดยาวเกินไป หลินหรูต้องหยุดพักเพราะความเหนื่อย แต่แล้วเธอก็พูดต่อไปว่า “คงเป็นภาพที่น่าประทับใจ ถ้าคนสามรุ่นในครอบครัวได้มารวมตัวกัน จะต้องเป็นวันที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง แต่สำหรับครอบครัวของคุณ ทั้งสามรุ่นกำลังรวมตัวกันในคุก ช่าง…น่าสมเพชอะไรอย่างนี้”
“หลินหรู!” เถาเยี่ยนเบิกตาที่ฝ้าฟาง “ปล่อยหลินเจียวไป! และ…”
“คุณเป็นใครหรือถึงจะมาสั่งฉัน” หลินหรูสูดลมหายใจเข้า จับมือถังซีแน่น จ้องมองเถาเยี่ยนขณะกล่าวอย่างเยือกเย็น “คุณบอกว่า คุณจะทำให้ฉันกับพ่อแม่ฉันถูกพรากจากกันไปตลอดกาลใช่ไหม ฉันไม่ใช่คนโหดร้ายอย่างนั้น เพราะฉะนั้นฉันแค่จะปล่อยให้คุณ และครอบครัวของคุณไปอยู่รวมกันในนรก”