เมื่อถังเจี๋ยเหรินได้ยินคำถามของถังซี เขาก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย การประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอนั่นแหละ! จุดเปลี่ยนที่จะทำให้เธอต้องร่วงจากจุดสูงสุดลงไปอยู่ก้นเหวเลยทีเดียว เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็อดยิ้มอย่างผู้มีชัยไม่ได้
ถังซีสังเกตเห็นรอยยิ้มของถังเจี๋ยเหรินจึงยิ้มบ้าง นี่พวกเขาคิดจริงๆ หรือว่าเธอไม่รู้ว่าพวกเขาวางแผนชั่วอะไรกันไว้ ผลลัพธ์ยังไม่ปรากฏเลย ทำไมถึงร่าเริงกันนัก โง่กันขนาดนั้นเชียวหรือ
ถังซีใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งเท้าปลายคางไว้ขณะมองไปที่ถังเจี๋ยเหริน “อะไรทำให้คุณมีความสุขได้ขนาดนี้คะ ผู้อำนวยการถัง ทำไมไม่เล่าให้พวกเราฟังบ้างล่ะ”
เมื่อถังเจี๋ยเหรินเห็นท่าทีมั่นอกมั่นใจของถังซี ดวงตาเขาก็จึงฉายแววขบขัน เขายืดกายขึ้น “ฉันแค่นึกถึงเรื่องขำๆ ที่ได้เจอมาเมื่อเช้านี้ ไม่น่าสนใจพอจะเอามาเล่าต่อหรอก”
ถังซีเลิกคิ้ว “จริงหรือคะ ฉันก็ไปเจอเรื่องขำๆ มาเหมือนกัน ตอนเข้ามาที่บริษัทเมื่อเช้านี้” พูดจบเธอก็หันไปมองถังเหาซึ่งนั่งอย่างไม่เป็นสุขอยู่ทางอีกด้านหนึ่ง เธอเลิกคิ้วขึ้นสูง “คุณถังเจอเรื่องเดียวกันนี้หรือเปล่าคะ”
ถังเหาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินถังซีเอ่ยชื่อเขา เขาขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะจ้องถังซีเขม็ง “ถังซี เธออย่ายั่วโมโหฉัน พนันได้เลยว่าอีกสักครู่เธอจะหัวเราะไม่ออก!”
“อ้อ…” ถังซีเลิกคิ้ว เอนพิงไปด้านหลังขณะมองดูถังเหายิ้มๆ “จริงเหรอ พนันกันไหมล่ะ” ถังซีจ้องมองสมาชิกตระกูลถังด้วยประกายตาเย็นเฉียบ ยิ้มหยัน “เรียกประชุมเพื่อตรวจสอบประธานบริษัทอย่างนั้นเหรอคะ พวกคุณคิดว่ามีสิทธิ์ตรวจสอบฉันในขณะที่คุณปู่ไม่อยู่งั้นเหรอ ต่อให้พวกคุณปลดฉัน ฉันก็จะกลับมาเป็นประธานเอ็มไพร์กรุปอีกเมื่อคุณปู่กลับมา และพวกคุณก็จะโดนแบล็กลิสต์ เคยคิดกันบ้างไหมว่าพวกคุณจะมีสภาพเป็นอย่างไร ถ้าโดนฉันสั่งแบล็กลิสต์” แล้วเธอก็ลุกยืนขึ้น วางมือทั้งสองข้างเท้าลงบนโต๊ะ หันมองรอบๆ ห้องไปยังบรรดาผู้ถือหุ้น และกล่าวเสียงเย็นเยียบ “คิดกันจริงๆ หรือว่าจะปลดฉันจากตำแหน่งได้ในวันนี้”
ผู้ถือหุ้นหลายคนมองสบตากันอย่างไม่ค่อยแน่ใจเมื่อได้ยินคำพูดของถังซี บางคนถึงกับแสดงอาการลังเลอย่างชัดเจน ถังเจี๋ยเหรินเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้พูดปลุกระดมเก่งจริงๆ หล่อนสามารถโน้มน้าวใจผู้ถือหุ้นได้เพียงคำพูดไม่กี่คำ เขารีบลุกขึ้นยืนบ้าง จ้องหน้าถังซี กล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกเราทำเช่นนี้ก็เพื่อประโยชน์ของบริษัท! เราไม่ต้องการมีประธานที่แทบจะไม่เคยโผล่มาที่บริษัทเลย” เขายังคงจ้องถังซีเขม็งเมื่อกล่าวต่อไปว่า “นอกจากนี้ คุณเองก็มาที่บริษัทสามหรือสี่เดือนครั้ง จริงไหม ในฐานะผู้มีอำนาจตัดสินใจของบริษัทนี้ คุณไม่เข้ามาที่บริษัทเลยตั้งครึ่งปี ยังคิดว่าคุณมีความเหมาะสมจะเป็นประธานเอ็มไพร์กรุปอยู่อีกเหรอ!”
ถังซียิ้ม “ที่บริษัทมีอะไรผิดปกติตอนฉันไม่อยู่หรือคะ” สีหน้าถังซีเข้มขึ้น ขณะมองจ้องไปยังสมาชิกตระกูลถัง “นอกจากนี้ ผู้อำนวยการถังทราบหรือไม่ว่า ทำไมฉันถึงไม่ได้กลับบ้านเลยเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา”
ขณะกล่าวเช่นนั้น ถังซีก็ก้าวเข้าไปหาถังเจี๋ยเหริน ถังหมิงเหริน และถังเย่าเหริน หยุดยืนตรงหน้าพวกเขา ก้มลงพูดเสียงเบา ซึ่งมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ยิน “ฉันจมอยู่ในน้ำทะเลเย็นเฉียบสองวันสองคืนเต็มๆ พวกคุณรู้ไหมว่าฉันรอดชีวิตจากเครื่องบินตกได้ยังไง พวกคุณคิดจริงๆ หรือว่าฉันจะลืมในสิ่งที่พวกคุณทำกับฉันไว้ คิดจริงๆ หรือว่าฉันไม่ได้ขึ้นเครื่องบินลำนั้น ฉันแค่โชคดีเท่านั้น ถึงแม้ว่าพวกคุณจะฆ่าฉันไม่สำเร็จ แต่ก็ทำให้ฉันต้องทนทรมานมาก! คิดหรือว่าฉันจะปล่อยพวกคุณไปง่ายๆ”
สีหน้าคนทั้งสามซีดขาว จ้องมองถังซีอย่างตกตะลึง ถังซีจ้องตาพวกเขาเขม็งและยิ้มอย่างเลือดเย็น “เพราะฉะนั้นพวกคุณนี่แหละคือคนผิดที่ทำให้ฉันต้องหายไปจากบริษัทถึงครึ่งปี! อีกอย่างนะ ควรจะไปตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีหลักฐานเหลืออยู่อีกแล้ว ไม่อย่างนั้น หากฉันพบหลักฐานขึ้นมา ฉันจะทำให้พวกคุณต้องเสียใจอย่างสุดซึ้ง กับสิ่งที่พวกคุณทำ”
“เอ่อ…” สีหน้าถังหมิงเหรินเหมือนจะรู้สึกละอายใจ ถังซียิ้มเยาะ กล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น “คุณอา ถ้าพี่สามของฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันอาจให้อภัยคุณ แล้วปล่อยให้คุณได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสุขสบาย แต่พวกคุณนั่นแหละที่ขุดหลุมฝังตัวเองจนมิด น่าขำพิลึก จริงไหม!”
เมื่อได้ยินถังซีกล่าวถึงลูกชายของตน ถังหมิงเหรินก็มีกิริยาฮึดฮัดไม่สบอารมณ์ ถังซีรู้สึกพอใจที่ได้ตีตรงจุดอ่อนของเขา แม้จะรู้สึกไม่ดีนักที่ฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากเรื่องของพี่สามที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกพึงพอใจที่ได้แก้แค้น!
ถังซียืดตัวขึ้น พยักหน้าให้เลขานุการของการประชุม “เริ่มประชุมได้”
เลขานุการผู้นี้คือเลขานุการของถังเจี๋ยเหริน เมื่อได้ยินคำสั่งของถังซี เขารีบมองไปทางถังเจี๋ยเหริน แต่ถังเจี๋ยเหริน ยังช็อกอยู่ จึงไม่ได้สนใจเขา เลขานุการจึงได้แต่กล่าวเปิดประชุมตามคำสั่งของถังซี “วาระการประชุมในวันนี้เกี่ยวกับการตรวจสอบความเหมาะสมของประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทนานาชาติของเรา นั่นคือคุณถังซี ขอเปิดการประชุมเพื่อหาข้อสรุปในข้อเสนอนี้ครับ”
ถังซียิ้มเมื่อได้ยินประโยคนี้ พวกเขาต้องการจะปลดเธอจากตำแหน่งด้วยคะแนนเสียงจากหุ้นสี่สิบแปดเปอร์เซ็นต์ เธอไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะรีบร้อนกันถึงเพียงนี้ คราวนี้เธอคงต้องกำจัดพวกเขาออกไปจริงๆ เสียที!
เมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวก่อนนะคะ ขอเพิ่มอีกหนึ่งวาระค่ะ”
เลขานุการมองถังซีด้วยความประหลาดใจ ถังเจี๋ยเหรินนิ่วหน้าใส่เธอ ถังซีลุกขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ จ้องมองถังเหาซึ่งกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ แล้วก็หันไปสบตาผู้ช่วยของเธอ ฝ่ายหลังรีบส่งแฟ้มเอกสารให้กับเลขานุการของการประชุม ถังซีกล่าวขึ้น “หลังจากเสร็จสิ้นการพิจารณาตรวจสอบตำแหน่งประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ฉันอยากเสนอการพิจารณาตรวจสอบตำแหน่งประธานบริหารเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ฉันจะไม่ถอนคำพูดที่พูดไว้อย่างแน่นอน เอาละ มาเริ่มลงคะแนนเสียงกันดีกว่า ถ้าหากมีผู้ถือหุ้นจำนวนมากต้องการปลดประธานถังเหา ทำไมเราจึงจะยังให้เขายังคงดำรงตำแหน่งต่อไป”
“ถังซี นี่เธอกำลังหาเรื่องฉัน ใช่ไหม” ถังเหาโกรธมากเมื่อได้ยินดังนั้น เขาผุดลุกขึ้นยืน จ้องถังซีเขม็ง “เธอต้องการกลั่นแกล้งฉัน!”
“ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้น” ถังซีชำเลืองมองเขาด้วยท่าทีนิ่งเฉย และยิ้มมุมปาก “พวกคุณก็กำลังกลั่นแกล้งฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ วาระการประชุมที่เสนอให้ปลดฉัน จะพิจารณากันก่อนการเสนอให้ปลดคุณ จริงไหม แล้วคุณจะกลัวไปทำไม”