ดวงตาถังซีเป็นประกายเมื่อเห็นเซียวเหยา เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบเขาที่นี่ เขาไม่ได้อยู่ต่างประเทศหรอกหรือ ทำไมจึงมาปรากฏตัวที่งานเลี้ยงรับรองของรัฐบาลครั้งนี้
“ผมไม่คิดว่าประธานเฉียวจะมาร่วมงานนี้ ดูเหมือนว่าประธานเฉียวคงประกอบคุณงามความดีอย่างมากให้กับประเทศของเรา” เซียวเหยาจ้องหน้าเฉียวเหลียง สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา “แต่ผมยังสงสัยว่าประธานเฉียวยังคงมือสะอาดอยู่หรือเปล่า…”
“คุณเซียว” เฉียวเหลียงไม่พอใจ รังสีอำมหิตแผ่กระจายออกมารอบตัว เขาจ้องหน้าเซียวเหยา กล่าวเสียงเข้มว่า “ผมรักษากิริยากับคุณก็เพราะเซียวโหรว คุณคิดหรือว่าจะทำให้ผมกลัวได้ด้วยคำถามพวกนี้ เซียวโหรวรู้ดีทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวผม รวมถึงเรื่องที่คุณไม่เคยรู้ด้วย คุณอย่าเข้ามายุ่งเรื่องของผมเลยจะดีกว่า!”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็หวังว่าคุณจะไม่ทำให้เซียวโหรวได้รับอันตราย!” เซียวเหยามองเฉียวเหลียงด้วยสายตาเย็นชาขณะกล่าวว่า “กองกำลังต่อต้านผู้ก่อการร้ายจับตาดูคุณมาพักใหญ่แล้ว คุณคิดว่าผมไปที่ท่าเทียบเรือฝั่งตะวันตกเพราะได้ข่าวว่าคุณไปที่นั่นงั้นเหรอ คุณคิดหรือว่าตัวเองมีความสำคัญขนาดนั้น คุณควรขอบคุณพระเจ้าที่ผมเป็นพี่ชายโหรวโหรว ไม่อย่างนั้นสินค้าของคุณในเรือลำนั้นไม่มีทางได้ออกจากเมืองหลวงแน่นอน!”
เฉียวเหลียงนิ่วหน้า “คุณรู้อยู่แล้วว่าสินค้าจะเข้ามาทางท่าด้านทิศใต้งั้นเหรอ”
“ใช่ ก็แค่กลลวงง่ายๆ คุณหลอกผมไม่ได้หรอก ผมแค่ปล่อยคุณไปเพราะเห็นแก่โหรวโหรว” เซียวเหยากล่าวพลางมองไปที่ท่านประธานาธิบดีซึ่งกำลังเดินตรงมาทางเขา “คุณควรบอกพวกเขาไปตามตรงว่าตัวตนที่แท้จริงของคุณคือใคร และกำลังทำอะไรอยู่ หลังจากนั้นผมค่อยตัดสินใจว่าในครั้งต่อไป ผมควรปล่อยคุณไปเหมือนเมื่อเช้านี้หรือเปล่า”
เฉียวเหลียงเลิกคิ้ว และยิ้มขณะกล่าวว่า “ผมคิดว่าคุณคงเดาออกแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของผมคือใคร จริงไหม” ขณะมองไปยังท่านประธานาธิบดีซึ่งกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา เฉียวเหลียงก็ยิ้ม “แต่ผมไม่ใช่ศัตรูของประเทศชาติก็แล้วกัน ผมเป็นมิตรต่างหาก คิดว่าเจ้านายคุณจะยืนยันได้ในเรื่องนี้”
“เฉียวเหลียง” ท่านประธานาธิบดีเป็นชายวัยกลางคนในช่วงสี่สิบ ร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลา ดูไม่ด้อยไปกว่าเฉียวเหลียงเลยแม้แต่น้อย ท่านยื่นมือให้เฉียวเหลียง “ยินดีต้อนรับสู่งานเลี้ยงรับรอง ยินดีมากที่ได้พบคุณที่นี่ ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือพวกเราเมื่อคราวที่แล้ว”
เฉียวเหลียงยิ้ม กล่าวเรียบๆ ว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ ในฐานะพลเมืองของประเทศ นั่นเป็นสิ่งที่ผมควรทำ ถึงจะเป็นเพียงนักธุรกิจ แต่ผมก็อยากเห็นประเทศของเรามั่นคงแข็งแกร่งด้วยใจจริง เป็นสิ่งสมควรที่จะมอบงานวิจัยของเราเพื่อรับใช้ประเทศของเรา แทนที่จะนำไปมอบให้กับประเทศอื่น”
ท่านประธานาธิบดีก้มศีรษะรับด้วยรอยยิ้ม ท่านมองไปยังประธานาธิบดีของประเทศเล็กๆ ผู้มาเยือน ซึ่งมองมาทางพวกเขาไม่หยุด แล้วถามขึ้น “ดูเหมือนท่านประธานาธิบดีประเทศนั้นก็สนใจคุณเหมือนกัน อยากคุยกับท่านไหม”
เฉียวเหลียงส่ายศีรษะ “ไม่ละครับ ขอบคุณครับ ท่านประธานาธิบดี” เขาเบี่ยงกายเปิดทางให้ท่านประธานาธิบดี ท่านยิ้มให้ มองหน้าเซียวเหยาและกล่าวว่า “พันโทเซียว คุณช่วยรับรองคุณเฉียวเหลียงแทนผมด้วย เขาให้ความร่วมมือในการป้องกันประเทศของเราอย่างเต็มที่มาตลอด”
หลังจากท่านประธานาธิบดีเดินจากไป เซียวเหยาก็มองเฉียวเหลียงด้วยคิ้วขมวดมุ่น “ดูเหมือนคุณจะมีสัมพันธภาพอันดีกับรัฐบาลของเรา แต่คุณก็ยังมีศัตรูอยู่มากมายในต่างประเทศ”
เฉียวเหลียงยิ้ม “แต่พวกเขาก็ไม่เคยฆ่าผมได้” ใครจะคาดเดาได้ว่าคุณเฉียวแห่งหลงเซี่ยวกรุป คือคนเดียวกับท่านประธานแห่งเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป และใครจะคาดคิดว่าเขาไม่เพียงมีกองกำลังของตนเอง แต่ยังมีกองกำลังทหารของประเทศ Z คอยคุ้มครองอีกด้วย
แม้เขาจะไม่ได้คาดหวังว่าทางกองทัพจะยื่นข้อเสนอให้ความคุ้มครอง เมื่อเขาให้การสนับสนุนประเทศ Z แต่เขาย่อมไม่ปฏิเสธที่จะรับการคุ้มครองอยู่แล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้นถังซีก็เดินเข้ามาหา เธอหลิ่วตาให้เซียวเหยา หยุดยืนห่างจากพวกเขาราวสองก้าว และถามเซียวเหยาว่า “พี่เหยา ทำไมพี่ไม่กลับบ้านเลย ตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศ”
เซียวเหยาไม่ค่อยชินกับใบหน้าของถังซีในตอนนี้ แต่สักครู่ก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ถามกลับว่า “คุณถัง พูดกับผมเหรอครับ”
ถังซีหัวเราะคิก พี่เหยาช่างระวังตัวเหลือเกิน! แล้วเธอก็ยักไหล่ เดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของเธอ เฉียวเหลียงคว้าแขนถังซีไว้ บอกเธอว่า “ให้ผมพาคุณกลับไปนั่งนะ”
ถังซีฝืนตัวไว้ สีหน้าก็แข็งขืนด้วยเช่นกัน เธอกะพริบตาถี่ๆ จ้องมองเฉียวเหลียง เฉียวเหลียงจูงแขนเธอกลับไปที่เก้าอี้ ดูแลให้เธอนั่งลง ถังซีถามอย่างไม่สบายใจว่า “นี่คุณทำอะไรของคุณ ที่นี่ห้องจัดเลี้ยงรับรองของรัฐบาลนะ! นักข่าวเต็มไปหมด! ถ้ามีคนเห็นเราสนิทสนมกันอย่างนี้ จะเป็นเรื่อง!”
“เรื่องวุ่นวายไม่ได้แย่เสมอไปหรอก” เฉียวเหลียงยิ้ม เมื่อรู้ตัวว่าเป็นที่จับตามองรอบด้าน เขายิ้มสะใจเล็กน้อย “ไม่น่าสนุกเหรอ ที่จะได้เห็นชื่อถังซีคู่กับเฉียวเหลียงติดอันดับค้นหาสุดฮอตอีกครั้ง”
“แล้วเซียวโหรวล่ะ จะเป็นยังไง!” ถังซีมองเฉียวเหลียงตาคว่ำ “ฉันเตือนคุณแล้วนะว่าอย่าให้ฉันต้องเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น!”
ขณะนั้นนั่นเองเซียวเหยาก็ก้าวเข้ามายืนคั่นกลางระหว่างคนทั้งคู่ เขามองหน้าที่ถังซีซึ่งรีบขยับตัวให้ห่างออกไป เฉียวเหลียงหรี่ตามองเซียวเหยา ถามเสียงเย็นว่า “นี่หมายความว่ายังไง”
“อย่าก่อเรื่องยุ่งยาก ตกลงไหม” เซียวเหยาจ้องหน้าเฉียวเหลียงอย่างอดกลั้นเต็มที่ “คุณเป็นคนรักของเซียวโหรว ถึงแม้พวกเราจะรู้ว่าความจริงเป็นยังไง แต่พ่อแม่ผมไม่รู้ คุณแน่ใจหรือว่าพวกท่านจะยอมรับคุณ ถ้าคุณยังประพฤติตัวแบบนี้”
เฉียวเหลียงหน้านิ่ว นิ่งเงียบไป แล้วหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะขึ้นจิบ ขณะที่ถังซีเมินไปทางอื่น…
น่าประหลาดใจที่เหตุการณ์เล็กน้อยที่เกิดขึ้นนี้ ไม่อาจหลุดรอดสายตาของบรรดานักข่าวไปได้ ถังซีไม่คาดคิดว่านอกจากนักข่าวที่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการแล้ว จะมีนักข่าวสายบันเทิงมาร่วมงานคืนนี้ด้วย…
นักข่าวสาวคนนั้นลอบเข้ามาในงานทางประตูหลัง เธอปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเสิร์ฟ และต้องการเพียงแอบถ่ายภาพดาราที่มีชื่อเสียง เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นเฉียวเหลียงกับถังซีปรากฏตัวในงานพร้อมกัน! ด้วยความตื่นเต้น เธอจึงใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพของทั้งคู่ไว้ แล้วรีบหนีออกจากห้องจัดเลี้ยงเพื่อส่งภาพเหล่านั้นกลับไปที่บริษัท…
ต่อมาเพียงไม่กี่นาทีชื่อของเฉียวเหลียง ถังซี และเซียวเหยา ก็ปรากฏขึ้นติดอันดับประเด็นค้นหายอดนิยมในอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังจากที่งานเลี้ยงเสร็จสิ้นลง ขณะเดินออกมาจากงานถังซีก็เห็นข่าวบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เธอถึงกับปวดศีรษะขึ้นมาทันที…
[ถังซีกับเฉียวเหลียง] [ถังซี เฉียวเหลียง และชายชุดดำ] [ถังซีกับบอดีการ์ด]
ขณะดูข่าวตามรายการค้นหายอดนิยม ถังซีรู้สึกว่ายังโชคดีที่นักข่าวไม่ได้ภาพใบหน้าของเซียวเหยา มีเพียงภาพด้านหลังของเขาเท่านั้น ส่วนเธอกับเฉียวเหลียงก็ไม่ได้ดูใกล้ชิดสนิทสนมกันในภาพ ดังนั้นคงไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะกลับมาคืนดีกัน… แต่มีอยู่ภาพหนึ่งที่เฉียวเหลียงจับแขนเธอ… อันนี้ก็คงต้องไปอธิบายกันอีกที!
ถังซีโทรศัพท์หาเฉียวเหลียง “คุณเห็นอันดับค้นหาสุดฮอตหรือยัง”
ดูเหมือนเฉียวเหลียงจะไม่ใส่ใจ เขาคำรามเบาๆ “รูปพวกนั้นคุณภาพไม่ได้เรื่อง มาเป็นนักข่าวกันได้ยังไง คงมีคนแอบเข้ามาในงานทางประตูหลัง”
“ฉันพูดถึงเรื่องนี้เหรอ” ถังซีโมโห “คุณจงใจทำให้เกิดเรื่องใช่ไหม ตอนนี้ข่าวของเรากระจายไปทั่วแล้ว! เราจะทำยังไง!”
“ไม่รู้สิ” เฉียวเหลียงตอบ “ถ้าใครจะซุบซิบนินทาเรื่องของเรา ก็ปล่อยเขา