ชั่วขณะนั้นเอง ถังซีรู้สึกว่าอากาศรอบตัวนิ่งสงัดไม่มีการเคลื่อนไหว จนเธอหายใจไม่ออก แต่เธอก็ยังคงจ้องหน้าเฉียวเหลียงนิ่งอย่างดื้อดึง พยายามไม่สนใจสีหน้าเขาที่แสดงออกถึงความผิดหวังสุดหัวใจ และกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงเรียบสงบว่า “ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ความรักและการดูแลของคุณทำให้ฉันหายใจไม่ออก แม้จะเป็นความรู้สึกที่ดีมากที่ได้เป็นที่รัก แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกกดดันมากที่เป็นที่รักของคุณ และมีคุณคอยปกป้องคุ้มครอง ก็เหมือนกับการที่คุณรู้สึกกดดันกับการที่ฉันเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อไปช่วยคุณนั่นแหละ ฉันไม่ต้องการคอยรับแต่การคุ้มครองจากคุณ ราวกับคนไม่มีศักยภาพอะไรเลย เพราะฉะนั้นในเมื่อคุณเองไม่จำเป็นต้องมีฉันแล้ว ก็ปล่อยฉันไปเถอะ”
“ผมไม่จำเป็นต้องมีคุณงั้นเหรอ” เฉียวเหลียงจ้องหน้าถังซี ยิ้มอย่างเย้ยหยัน “นี่คุณยังมีหัวใจอยู่ไหม คุณก็รู้ว่าผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ! แต่คุณก็ยังพูดแบบนี้เพียงเพื่อทำร้ายจิตใจผม! ทำไมถึงใจร้ายอย่างนี้”
“ไม่จริง” ถังซีเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง เม้มริมฝีปาก กล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกว่า “คุณอยู่ได้โดยไม่ต้องมีฉัน คุณใช้ชีวิตอยู่มาได้อย่างดีตลอดเวลาห้าปีที่ไม่มีฉันอยู่เคียงข้างไม่ใช่หรือ เฉียวเหลียง ฉันไม่คิดว่าฉันมีความสำคัญสำหรับคุณขนาดนั้น คุณแค่ใช้ฉันเติมช่องว่างในใจคุณเท่านั้น”
“พอได้แล้ว!” เฉียวเหลียงตวาด “ผมไม่ต้องการคุยเรื่องนี้อีกแล้ว ผมจะไปส่งคุณไปดูสถานที่จัดงาน”
“ไม่ต้อง ฉันจะไปเอง” ถังซีเดินออกไปข้างนอก กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “ฉันไม่คิดว่าเราจะสานต่ออนาคตร่วมกันได้ เราโดนกำหนดมาแล้วให้ต้องแยกจากกันด้วยบุคลิกที่แตกต่าง ในเมื่อคุณก็ไม่ต้องการเปลี่ยน ฉันเองก็หมดความอดทน เราเลิกกันเถอะ”
“เซียวโหรว!” เฉียวเหลียงคว้ามือเธอไว้ กล่าวเสียงแข็ง “อย่าให้ผมพูดซ้ำ! คุณก็รู้ว่าผมทำได้ทุกอย่างเวลาโกรธ! ผมจะส่งทุกคนที่ทำให้เราต้องทะเลาะกันไปลงนรกให้หมด!”
เมื่อได้ยินคำขู่ของเฉียวเหลียง ถังซีก็หยุดชะงัก หันขวับมาจ้องหน้าเฉียวเหลียง เฉียวเหลียงจ้องกลับ แสยะยิ้มอย่างเย้ยหยัน หันไปหาอาห้า สั่งเสียงเย็นเยียบว่า “เอาตัวพวกที่เธอเจอเมื่อคืนทุกคน ไปที่ห้องสอบสวนที่สำนักงานสาขา อย่าให้หลุดรอดแม้แต่คนเดียว!”
“เฉียวเหลียง!” ถังซีตกตะลึง เธอคว้าแขนเฉียวเหลียงไว้ ร้องออกมาทั้งน้ำตาว่า “คุณขู่ฉันแบบนี้ได้ยังไง คุณจะแสดงความรักที่มีต่อฉันด้วยการข่มขู่แบบนี้ไม่ได้ ฉันเกลียดคุณ!”
พูดจบเธอก็หันหลังเดินจากไปทันที โดยไม่หันกลับมามองอีกเลย พอกันที เขาจะทำอะไรก็ช่างเขา! ถึงเขาจะฆ่าใครเพื่อเธอ ก็ไม่เกี่ยวกับเธออยู่ดี! และถ้าเขาฆ่าใครเพราะเธอจริงๆ เธอก็จะขอให้ไม่ต้องพบเจอกับเขาอีกเลยตราบชั่วชีวิต ด้วยความช่วยเหลือจาก 008! เธอขอสาบานว่าเขาจะหาเธอไม่พบอีกเลย!
เฉียวเหลียงมองตามหลังถังซีที่เดินจากไป เขากำมือทั้งสองข้างแน่น หยุดนิ่งอยู่เพียงสองวินาที แล้วเดินไปเปิดประตูรถให้ถังซี เธอมองหน้าเขาเงียบๆ เม้มริมฝีปาก แล้วก้าวขึ้นรถ เฉียวเหลียงขึ้นนั่งที่นั่งคนขับ แล้วสตาร์ตรถ
เจ้าหน้าที่ของหลงเซี่ยวทุกคนต่างเฝ้ามองไปที่รถ แล้วหันมามองหน้ากันเองอย่างไม่เชื่อสายตา นี่พวกเขาเพิ่งจะได้เจออะไรเข้าไป นายน้อยของพวกเขาซึ่งตามปกติเป็นคนนิ่งเฉย ไม่ใส่ใจโลก เพิ่งทะเลาะกับ…ผู้หญิงคนหนึ่ง! นี่มัน…
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งแอบส่งคลิปวิดีโอที่แอบถ่ายไว้ไปให้ใครบางคน เมื่อเก็บโทรศัพท์มือถือแล้ว เขาก็ถามขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “เราควรจะตามนายน้อยไป หรือกลับไปจัดการกับเจ้านายน้อยคลอสนั่นดี”
อาห้าคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “…อาหก นายตามนายน้อยไป นายมีหน้าที่ติดตามคุ้มครองคุณเซียวในฐานะบอดีการ์ดอยู่แล้ว พวกเรามีธุระต้องจัดการที่สำนักงานสาขา ต้องกลับไปก่อน”
หลินหย่วนซึ่งอยู่ที่ประเทศ M มองดูโทรศัพท์มือถือ เห็นว่าใครบางคนส่งคลิปวิดีโอมาให้ เขาเปิดดูวิดีโอนั้น แล้วดวงตาก็เป็นประกายสดใสขึ้นทันที เมื่อดูจบเขาก็หัวเราะออกมาดังๆ “เฉียวเหลียงเอ๊ย สาวน้อยคนนี้คือสารพิษสำหรับชีวิตคุณจริงๆ! คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่คุณไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงกับคนคนหนึ่ง!”
ผู้ช่วยเขาเห็นเจ้านายหัวเราะราวกับคนเสียสติ ก็อดถามขึ้นไม่ได้ “มีอะไรหรือครับ คุณเก้า”
หลินหย่วนหันไปมอง แต่ยังหัวเราะไม่หยุด “ไม่มีอะไรหรอก ช่วยจองตั๋วเครื่องบินไปปารีสให้ฉันด้วย พรุ่งนี้นะ ถ้าไม่ได้ก็วันมะรืน”
ผู้ช่วยของเขามองหลินหย่วน เลิกคิ้วขึ้นถามว่า “คุณเพิ่งบอกว่าจะไม่ไปปารีสไม่ใช่หรือครับ ทำไมถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน เรากำลังจะเดินทางไปตะวันออกกลาง ผมควรยกเลิกการเดินทางไปตะวันออกกลางไหมครับ”
หลินหย่วนจ้องหน้าผู้ช่วยเขม็ง เบ้ปากถามว่า “นี่นายโง่หรือไง ฉันก็ต้องไปหาผู้ช่วยชีวิตของฉันน่ะสิ! นายนั่นแหละไปจัดการธุระที่ตะวันออกกลาง ทำไมฉันจะต้องไปเอง” เขายังไม่เคยเห็นเฉียวเหลียงโดนกำราบอย่างหนัก ขนาดไม่กล้าเถียงกลับอย่างนี้มาก่อน เขาจึงต้องรีบไปปารีสเพื่อไปพบคุณเซียวโหรวผู้น่ารักคนนั้น และบางทีเขาอาจได้หาทางแก้แค้นไอ้บ้าเฉียวเหลียงผ่านทางคุณเซียวโหรว!
…
ณ สถานที่จัดงานแฟชั่นโชว์ ฉู่หลิงกำลังเฝ้าดูคนงานประกอบเวทีและที่นั่งชม โครงสร้างทุกอย่างเกือบสำเร็จเรียบร้อยโดยใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน ถังซีลงจากรถแล้วเดินตรงไปหาฉู่หลิง เมื่อฉู่หลิงเห็นเธอ เขาก็หันไปสั่งงานผู้ควบคุมคนงานสองสามคำ แล้วเดินเข้ามาหาเธอ ถามว่า “มาทำอะไรที่นี่”
ถังซีพยายามเก็บอารมณ์ และมองไปที่บรรดาคนงานซึ่งกำลังยุ่งกับการก่อสร้างบริเวณริมทะเลสาบ เธอยิ้มและตอบว่า “ฉันอยากมาดูว่าทำอะไรไปถึงไหนกันแล้ว ฉันจะไปตรวจดูเสื้อผ้ากับเครื่องประดับทีหลัง นี่เป็นงานโชว์ครั้งแรกของฉัน ก็เลยรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย อยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง จะได้ไม่ต้องประสาทเสียจนเกินไป”
ฉู่หลิงพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ดีเหมือนกัน รอสักครู่นะ ให้ผมไปสั่งงานให้เรียบร้อยก่อน” ตอนนั้นนั่นเองที่เขาเห็นเฉียวเหลียงนั่งรถบัสเล็กรับส่งภายในเข้ามาที่บริเวณสถานที่จัดงาน ดวงตาเขาฉายแววประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จึงหันกลับไปปรึกษางานกับบรรดาช่างก่อสร้าง
เฉียวเหลียงเดินเข้าไปหาถังซี ถังซีเม้มริมฝีปาก เดินหนีห่างไปจากเขา หยิบโทรศัพท์มือถืออกมาสื่อสารกับเฮ่อหว่านอีและหนิงเหยี่ยนทางวีแชต
เมื่อเห็นถังซีแสดงท่าทีเย็นชาเฉยเมยต่อเขา เฉียวเหลียงก็นิ่วหน้า ประกายตาเยือกเย็นวาววับ อย่างไรก็ตามถังซีไม่ได้สนใจมองมาทางเขา เธอจึงไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร
ฉู่หลิงเดินกลับมา แล้วก็พบว่าสองคนนี้มีท่าทีแปลกๆ ทั้งสามขึ้นไปบนรถรับส่ง เฉียวเหลียงนั่งลงตรงแถวหน้า ถังซีมองดูเขา เม้มริมฝีปาก แล้วไปนั่งแถวหลัง ฉู่หลิงกะพริบตาปริบๆ แล้วนั่งลงตรงแถวกลาง เขามองถังซี หันไปมองเฉียวเหลียง แล้วขมวดคิ้วถามว่า “ทำไมคู่รักหวานแหววถึงไม่นั่งด้วยกัน”
ถังซีชำเลืองมองเขาแล้วมองไปทางอื่น ส่วนทางด้านเฉียวเหลียงไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ