จากนั้นพลซุ่มยิงหลายคนก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ ฉู่หลิงยิ้ม มองหน้าถังซีแล้วกล่าวว่า ‘คนพวกนี้เก่งมากในการกำหนดเป้าหมายไปยังผู้คน คอยดูผลงานพวกเขาสิ’
‘พวกเขาทำงานอะไรเหรอ’
‘เป็นพลซุ่มยิง’ ฉู่หลิงกล่าว ‘พลซุ่มยิงของหลงเซี่ยว พวกเขาเป็นพลซุ่มยิงมือดีที่ไว้วางใจได้มากที่สุดของลู่หลี คุณพอใจไหมล่ะ’
‘พลซุ่มยิงสามารถเป็นวิศวกรระบบไฟฟ้าได้ด้วยเหรอ’ ถังซีกะพริบตาปริบๆ มองฉู่หลิง
‘ก็ให้พวกเขาลองทำดูสิ’
ด้วยเหตุนี้พลซุ่มยิงอันดับต้นๆ ของหลงเซี่ยวจึงกลายเป็นวิศวกรควบคุมระบบแสงของแฟชั่นโชว์…
เมื่อนึกเช่นนี้ถังซีก็ส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม ถ้าหลี่มั่นเหยียนรู้ว่าวิศวกรระบบไฟฟ้าที่เธอบอกว่า ‘สุดยอด’ คือพลซุ่มยิงที่ฉู่หลิงได้มาจากลู่หลี่ เธอคงจะอึ้ง… ถังซีจำได้ว่าตนเองก็ยังตกตะลึงเมื่อรู้ความจริงเรื่องนี้
บนเวทีมีนางแบบสามถึงสี่คน ถังซีกลับออกมาจากภวังค์ และยิ้มให้หลี่มั่นเหยียน “แล้วนายแบบผู้ชายล่ะจ๊ะ”
เดอะควีนไม่เพียงแต่ผลิตเครื่องแต่งกายสำหรับสตรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องแต่งกายบุรุษด้วย สำหรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มหลังคือผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ หญิงสาวอาจเก็บสะสมเงินไว้หลายเดือนเพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยให้ตัวเอง ในขณะที่ผู้ชายนั้นแตกต่างกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าแล้วพวกเขาชอบสูบบุหรี่มากกว่าด้วยซ้ำ ผู้ชายทั่วไปจะไม่ใช้จ่ายกับเสื้อผ้ามากเกินไป ดังนั้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเธอจึงเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ หรือพูดตามตรงก็คือ… ผู้ชายที่ร่ำรวย
โดยเฉพาะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสวมชุดสูทคุณภาพสูงเป็นชุดเกราะป้องกันตัวในแวดวงธุรกิจ ดังนั้น…
หลี่มั่นเหยียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “นายแบบก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้วเหมือนกันค่ะ แต่ท่านประธานเซียวคะ ทำไมไม่มีชุดลำลองในคอลเลกชั่นนี้เลยล่ะคะ”
ส่วนใหญ่จะเป็นชุดสูทอย่างเป็นงานเป็นการ หรือเสื้อแจ็กเกตกันลมในแฟชั่นชุดนี้…
“แล้วท่านประธานเซียวเตรียมเครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชายเมื่อไหร่คะ! เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเตรียมเสื้อผ้าพวกนั้นไว้แล้ว!”
ถังซียิ้มมองหลี่มั่นเหยียนและกล่าวว่า “ฉันออกแบบไว้นานแล้วล่ะ พูดตามตรงคือฉันออกแบบให้อาเหลียง แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าบางทีฉันอาจนำมาขายได้ และเก็บเฉพาะชุดลำลองเท่านั้นไว้ให้อาเหลียง มีคนจำนวนไม่มากที่ยินดีจ่ายเงินแพงๆ ไปกับชุดลำลอง ฉันว่าวิธีนี้จะทำให้ฉันทำกำไรได้มากที่สุด”
หลี่มั่นเหยียนมองหน้าเธอด้วยความสงสัย ถังซียิ้มให้และตบไหล่หลี่มั่นเหยียน กล่าวว่า “ไปช่วยฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า ใกล้ถึงเวลาโชว์ในชุดโอร์ กูตูร์แล้วล่ะ”
ถังซีจะเป็นคนสุดท้ายที่ขึ้นเวที
หลี่มั่นเหยียนพยักหน้า แต่ยังสงสัยว่าคำพูดของถังซีหมายถึงอะไร…
ถังซีหันกลับไปมองหลี่มั่นเหยียนซึ่งยังคงจ้องมองถังซีด้วยดวงตาเบิกกว้าง “พระเจ้า ท่านประธานเซียว คุณช่างเป็นคนมองการณ์ไกล!”
“แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ชอบซื้อชุดลำลองแบรนด์เนมนะคะ อย่างเช่นพวกคนดัง” หลี่มั่นเหยียนเดินตามหลังถังซี และถามด้วยความสับสน “ชุดลำลองก็น่าจะสร้างผลกำไรได้เหมือนกันนี่คะ”
ถังซียักไหล่ “แบรนด์เครื่องแต่งกายลำลองที่ประสบความสำเร็จมีทั้งแบรนด์หรูราคาประหยัด หรือไม่ก็แบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก แบรนด์ของเราไม่อยู่ในหมวดหมู่ทั้งสองประเภท เพราะฉะนั้นเราควรเน้นไปที่ชุดที่เป็นทางการมากกว่า”
ถังซีกล่าว กะพริบตามองหลี่มั่นเหยียน “ส่วนชุดที่เป็นงานเป็นการนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ เรามีผู้คนมากมายที่พร้อมจะตัวแทนภาพลักษณ์ให้เราฟรี ไม่ดีกว่าเหรอ”
หลี่มั่นเหยียนยังคงมองหน้าถังซีด้วยความสับสน เมื่อเห็นท่าทางอันน่ารักน่าเอ็นดูของเธอ ถังซีก็เข้าใจในที่สุดว่าทำไมจิ้นหันจึงคอยปกป้องเธอและติดตามเธอตลอดเวลา ถ้าเขาทิ้งเธอไว้คนเดียวเธออาจต้องโดนคนเลวหลอกเอาได้ง่ายๆ
ถังซียิ้มจับมือหลี่มั่นเหยียนเดินเข้าไปในพื้นที่จัดโชว์ พาเธอเข้าไปยืนด้านหลัง ชี้ไปยังแถวที่เซียวจิ่งกับเพื่อนๆ นั่งอยู่ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอเห็นที่นั่งแถวนั้นไหม พวกเขายินดีที่จะนั่งตรงนั้น ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเต็มใจจะใส่เสื้อผ้าของบริษัทเรา และเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ให้เราฟรี ซึ่งเธอก็รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ใช่ไหม”
หลี่มั่นเหยียนยิ้ม “ผู้ชายคนนั้นคือประธานชิงเฉิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และประธานบริหารเฮ่อซิงกรุป ซึ่งมักปรากฏตัวทางโทรทัศน์และในข่าวแวดวงธุรกิจ ใครๆ ก็รู้ว่าคุณเฮ่อหล่อเหลา มีอารมณ์ขัน และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วไป เขาเป็นเหมือนคนดังแถวหน้าของชายหนุ่มที่ร่ำรวย”
ถังซีพยักหน้า และรอยยิ้มบนใบหน้าเธอก็กว้างขึ้น “แล้วคนที่นั่งข้างๆ เขาล่ะ คือใคร”
“ผู้กำกับหนิงค่ะ คนนี้มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไปอีก ฉันคิดว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ผู้กำกับเท่านั้น แต่ยังเป็นคนดังระดับเดียวกับนักแสดงชั้นนำอีกด้วย ฉันคิดว่าเขาปรากฏตัวในข่าวบันเทิงมากกว่าคุณหว่านอีเสียอีก” หลี่มั่นเหยียนอุทาน
ถังซีเลิกคิ้ว “ก็นั่นน่ะสิ นี่ฉันเพิ่งเอ่ยไปไม่กี่ชื่อ แล้วเธอคิดอย่างไรกับตัวแทนภาพลักษณ์ของฉันล่ะ”
หลี่มั่นเหยียนอ้าปากค้างมองถังซี แล้วยกนิ้วให้เธอด้วยความชื่นชม “เยี่ยมมากเลยค่ะ! และยังมีประธานเซียว ประธานเฉียว และคนอื่นๆ อีกมากมาย ทุกคนล้วนเป็นผู้ดีมีระดับที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง ผู้ชายจำนวนมากพยายามเลียนแบบวิธีการแต่งกายของพวกเขา ถ้ามีพวกเขาเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของคุณ เดอะควีนก็จะ…”
“แล้วพวกเขาจะสวมชุดลำลองไหม เวลาออกไปข้างนอก” ถังซีถาม
หลี่มั่นเหยียนส่ายศีรษะทันที “ ไม่ค่ะ ไม่สวมแน่”
“เพราะฉะนั้นเราควรทำเสื้อผ้าที่พวกเขาจะสวมใส่เมื่อออกไปข้างนอก” ถังซียิ้ม ที่สำคัญคือเธอจะไม่อนุญาตให้เฉียวเหลียงปรากฏตัวในที่สาธารณะในชุดลำลองเป็นอันขาด เธอรู้ว่าเขามีเสน่ห์มากแค่ไหนเมื่ออยู่ในชุดลำลอง ไม่เหมือนชุดสูทที่เป็นทางการ ชุดลำลองทำให้เขาดูน่ารักและมีเสน่ห์ดึงดูดใจ ผู้หญิงจะต้องคลั่งไคล้เขา… เธอจะกล้าให้เขาออกไปข้างนอกในชุดลำลองได้อย่างไร!
เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทำแบบนั้น!
ในที่สุดหลี่มั่นเหยียนก็เข้าใจในกลยุทธ์ของถังซี เธอมองถังซีอย่างชื่นชม ถังซีเลิกคิ้ว เดินเข้าไปหลังเวที “เอาล่ะ ตอนนี้เธอมาช่วยฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าได้แล้ว มาเร็ว ไม่อย่างนั้นเราจะสาย”