หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1189 การเผชิญหน้าของราชัน
ดอกบัวปะทุขึ้นพร้อมกับคลื่นเพลิงครอบงำตระการตาไร้ขอบเขต
พลังอันน่าสะพรึงกลัวเล็ดลอดออกมา ทำให้ทั้งมิติสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างรุนแรงเลยทีเดียว
มิติบริเวณที่ดอกบัวปะทุอยู่ในสภาพพังทลายยุบตัวลง รัศมีหลายหมื่นลี้กลายเป็นสีดำ ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างจะถูกทำลายภายใต้การปะทุนั้น
เมื่อเหล่าจอมยุทธ์เห็นภาพนี้ พวกเขาก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดผวาในดวงตา
ชัดว่าพวกเขาหวาดผวากับการเคลื่อนไหวของเทพจักรพรรดิอัคคี พวกเขาไม่สงสัยเลยว่าถ้าดอกบัวพุ่งตรงมาหา พวกเขาทั้งหมดคงจะสลายกลายเป็นอากาศธาตุในพริบตา
“นี่คือพลังของเทพจักรพรรดิอัคคีหรือ… ช่างน่ากลัวจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงสามารถเป็นยอดยุทธ์แห่งมหาพันภพได้” ผู้คนถึงกับถอนหายใจ แม้ในสงครามโบราณจะมีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนมากมายสละชีพ แต่ก็โชคดีที่มีจอมยุทธ์อย่างเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามถือกำเนิดในอีกหมื่นปีต่อมา
“จอมปีศาจทุนเทียนน่าจะตายแล้วมั้ง?” มู่เฉินมองไปที่มิติยุบลง เผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัวดังกล่าว แม้กระทั่งจอมปีศาจทุนเทียนก็คงต้องได้รับความเสียหายร้ายแรงสินะ
มั่นถัวหลัวพยักหน้า กระบวนท่าจากเซียวเหยียนน่าสะพรึงอย่างแท้จริง ไม่มีใครคาดว่าเขาจะเป็นคนตรงขนาดนี้เปิดโจมตีก็ซัดทักษะยอดเยี่ยมแบบไม่ไว้หน้าจอมปีศาจทุนเทียนเลย
การโจมตีครั้งนั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนยังทนไม่ได้
สายตาทุกคนจ้องมองอย่างกังวลใจไปตรงมิติที่ยุบลง ทันใดนั้นดวงตาก็ต้องหดลงเมื่อเห็นร่างเงาหนึ่ง
นี่ก็คือจอมปีศาจทุนเทียน แต่ในเวลานี้ทั่วสรรพางค์กายเต็มไปด้วยรอยร้าวราวกับตุ๊กตาเครื่องปั้นดินเผา
ดวงตาก็เป็นสีแดงก่ำ ชัดว่าโกรธเกรี้ยวมาก
“หนังเหนียวชะมัด” เซียวเหยียนไม่แปลกใจที่จอมปีศาจทุนเทียนยังไม่ตาย เพราะแม้แต่จักรพรรดิฟ้าก็ยังไม่สามารถฆ่ามันได้เมื่อในอดีต
ทว่าแม้จอมปีศาจทุนเทียนจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ใครๆ ก็สามารถบอกได้ว่าเขาบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว
“ในเมื่อแกบีบบังคับข้านัก งั้นวันนี้ก็ตายด้วยกันเลย!”
จอมปีศาจทุนเทียนคำรามขณะที่พุ่งไปยังทิศทางของเซียวเหยียน
เขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเต็มพิกัด พริบตาก็เข้ามาใกล้ จากนั้นทุกคนก็เห็นเงาปีศาจพุ่งออกมาจากร่างกายปริร้าว พลังงานป่าเถื่อนถูกกลั่นอยู่ในร่างกาย
“มันคิดจะระเบิดตัวเอง!” ใบหน้าของมั่นถัวหลัวเปลี่ยนไป ดูเหมือนจอมปีศาจทุนเทียนจะรู้ซึ้งว่าไม่มีทางที่จะหลบหนี จึงตัดสินใจที่จะระเบิดตัวตายไปด้วยกัน
ตู้ม!
ทันทีที่มั่นถัวหลัวพูดจบร่างจอมปีศาจทุนเทียนก็ระเบิดออกพร้อมกับรัศมีปีศาจป่าเถื่อนกวาดหายนะไปทั่ว
คนแรกที่โดนก็คือเซียวเหยียน
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการทำลายชีวิตนั่น เซียวเหยียนก็ไม่ได้ตื่นตระหนกกลับส่ายหน้า “ถ้าคนอย่างข้าตายง่ายขนาดนั้นก็คงตายไปนานแล้วแหละ”
เขากางมือออกเปลวไฟงดงามพวยพุ่งขึ้นถักทอเป็นปราการขนาดใหญ่หลายแสนจั้ง
ปราการนี้ถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายนับไม่ถ้วน แต่ละลายล้วนเป็นตัวแทนของแก่นเพลิงประเภทต่างๆ
ปราการปกคลุมรัศมีปีศาจด้วยอุณหภูมิสูงที่น่ากลัว ทำให้เกิดรอยแตกในมิติ รัศมีปีศาจก็คล้ายกับหิมะต้องลาวาละลายอย่างรวดเร็ว
เวลาเพียงไม่กี่สิบลมหายใจ รัศมีปีศาจก็ถูกลบล้างโดยสมบูรณ์ไม่มีร่องรอยความชั่วร้ายหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย
“จัดการเรียบร้อยแล้วเรอะ?”
เซียวเหยียนพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็โบกมือ เปลวไฟงดงามที่ถาโถมออกมาก็ถูกดึงกลับเข้าไปในร่างกายของเขา
“หืม?”
แต่เมื่อเปลวไฟเข้าสู่ร่างกาย สายตาของเซียวเหยียนก็เปลี่ยนไปทันที
ตู้ม!
กลิ่นอายปีศาจปรากฏในมิติที่ยุบลง กำลังมุดหนีออกไปจากสุสานจักรพรรดิฟ้าอย่างรวดเร็ว
“จอมปีศาจทุนเทียนยังไม่ตายรึเนี่ย?!”
ใบหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปรุนแรง พวกเขาตกใจกับพลังชีวิตทรงประสิทธิภาพของนักรบราชันปีศาจมาก ซึ่งยังสามารถรอดไปได้หลังจากได้รับกระบวนท่าหนักหน่วงจากการโจมตีหนักหนาของเทพจักรพรรดิอัคคีถึงสองครั้ง?
“ไอ้เจ้าเล่ห์นั่นตั้งใจระเบิดตัวเองโดยมีจุดมุ่งหมายซ่อนตัวและหลีกเลี่ยงการรับรู้ของเทพจักรพรรดิอัคคี เพื่อหาโอกาสหลบหนี!” ใบหน้าของมู่เฉินเคร่งเครียดลงเช่นกัน เขาไม่คิดว่าจอมปีศาจทุนเทียนจะฉลาดแกมโกงเป็นกรดแบบนี้
“หัวใจปีศาจถูกทำลายไปแล้ว ทำไมมันถึงยังมีชีวิตอยู่ได้?” เซียวเหยียนก็อึ้งไปกับภาพนี้เช่นกัน หัวใจปีศาจเป็นจุดอ่อนของพวกปีศาจต่างมิติ แต่สำหรับพวกราชันปีศาจหัวใจปีศาจไม่สามารถทำลายได้แบบทั่วไป แต่ตอนที่จอมปีศาจทุนเทียนระเบิดตัวเอง เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าหัวใจปีศาจดวงหนึ่งแตกสลายไปอย่างชัดเจน
โดยปกติราชันปีศาจก็ต้องตายเมื่อหัวใจปีศาจถูกทำลาย แต่ไม่คิดว่าจอมปีศาจทุนเทียนจะยังหนีรอดไปได้
“มิน่าล่ะตอนนั้นถึงชนะจักรพรรดิฟ้าได้ ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างแปลกพิกลจริงๆ”
“เฮ้ ตาแก่ทำไมไม่ขยับล่ะ? มันจะหนีไปแล้วนะ!” เสียงของเซียวเซียวเปล่งออกมาอย่างรีบร้อน หากจอมปีศาจทุนเทียนสามารถหลบหนีไปได้ก็เท่ากลับปล่อยเสือกลับเข้าป่า อนาคตไม่รู้จะมีสิ่งมีชีวิตในมหาพันภพเท่าไรที่ต้องตายด้วยน้ำมือพวกมัน
หากราชันปีศาจที่สามารถต่อสู้กับจักรพรรดิฟ้าฟื้นฟูพลังขึ้นมาได้ แม้เทพจักรพรรดิอัคคีจะเผชิญหน้าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อกรได้ง่ายขนาดนี้
เมื่อได้ยินคำเรียกของเซียวเซียวมุมหางตาของเซียวเหยียนก็กระตุกก่อนจะเหลือบมองบุตรสาว “ไอ้ปีศาจนั่นใช้ชีวิตเดิมพันในการหลบหนี จะขัดขวางง่ายๆ ขนาดนี้ได้ยังไง?”
เมื่อทุกคนได้ยินประโยคดังกล่าวก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ หรือว่าวันนี้จอมปีศาจทุนเทียนจะหนีรอดไปได้? หากเป็นเช่นนั้นผนึกที่จักรพรรดิฟ้าซึ่งใช้ชีวิตเดิมพันไว้ก็จะไร้ผลแล้วไม่ใช่หรือ?
ทว่าเมื่อเห็นท่าทางเสียดายของผู้คน เซียวเหยียนก็ยิ้มพลางมองไปทิศทางนั้น “แต่ยังไงมันก็ไม่สามารถหลบหนีได้ในวันนี้”
ทุกคนอึ้งไป หรือว่าเทพจักรพรรดิอัคคียังมีไพ่ตายอยู่ในแขนเสื้ออีก?
เซียวเหยียนมองหลินจิ้งพลางยิ้ม “ข้าไม่ใช่คนเดียวที่สัมผัสได้ถึงศัตรูทรงพลังที่เข้าใกล้ลูกสาว”
หลินจิ้งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่ความสุขจะกระจายบนใบหน้า “อา? ท่านพ่อก็มาด้วยหรือ?”
ทุกคนถึงกับงงงวย ในขณะที่หัวใจมู่เฉินเต้นไม่เป็นส่ำ บิดาของหลินจิ้ง? นั่นคือประมุขแคว้นหวูซึ่งมีพลังอยู่ในระดับเดียวกับเทพจักรพรรดิอัคคี เทพจักรพรรดิสงครามไม่ใช่เหรอ?!
เขาก็มาที่นี่เหมือนกันเหรอ?
ขณะที่หัวใจของมู่เฉินสั่นระรัว รัศมีปีศาจยังคงส่งผ่านมิติซึ่งกำลังจะหายไป
ฮึ่ม!
แต่ทันใดนั้นมิติก็สั่นสะท้านรุนแรงแล้วแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่ทุกคนจะเห็นมือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
มือนั้นแปลกมาก ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดมังกรสีเขียวมรกตพร้อมกับพลังที่ไม่อาจพรรณนาล้อมรอบทั่วพื้นที่แห่งนี้ทั้งหมดไว้ ภายใต้รัศมีมู่เฉินสามารถสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณมังกรแท้จริงของตนเองสั่นไหวราวกับว่าได้เจอผู้ยิ่งใหญ่
มู่เฉินตกตะลึงในใจ ต้องรู้ว่าจิตวิญญาณมังกรแท้จริงครอบครองสายเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งนับว่าเป็นจักรพรรดิของเผ่ามังกรเลยทีเดียว!
แต่ตอนนี้จิตวิญญาณมังกรแท้จริงกลับรู้สึกถูกคุกคามจากรัศมีที่มาจากมือนั่น!
ครืน!
ขณะที่มู่เฉินกำลังตกตะลึงสงสัย มือก็สาวรัศมีปีศาจออกมาจากนั้นก็บีบไว้ในกำมือ ใบหน้าปีศาจชั่วร้ายปรากฏขึ้น เสียงคำรามเต็มไปด้วยความต่อต้านรุนแรง
เขากำลังหนีได้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะได้พบกับศัตรูทรงพลังอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ได้อ่อนแอกว่าเทพจักรพรรดิอัคคี!
เขาทำลายร่างไปแล้ว ดังนั้นจึงอ่อนแอลงอย่างมาก ตัวเขาจะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นเมื่อมือบีบกดลงมา ประกายสีฟ้าอมเขียวก็ก่อร่างเป็นผนึกห่อหุ้มจอมปีศาจเอาไว้ภายใน
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันทำให้สีหน้าของทุกคนผันแปรไปรุนแรง พวกเขาจ้องมองไปในความว่างเปล่า ขณะนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าที่แท้ยังมียอดยุทธ์ทรงพลังอีกคนซ่อนอยู่ในบริเวณนี้ รอเวลาให้จอมปีศาจทุนเทียนตกหลุมพราง
แต่พวกเขาต่างสงสัยว่าบุคคลผู้นี้เป็นใคร?
ท่ามกลางสายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วนมิติก็ฉีกขาดก่อนที่ร่างเงาหนึ่งจะเยื้องย่างออกมา เขามีรัศมีที่น่าเกรงขาม คลื่นหลิงเชี่ยวกรากหมุนวนรอบตัว พลังงานของเขามีคุณสมบัติที่แตกต่างไป มีทั้งน้ำแข็ง-เพลิง-สายฟ้า-ความมืด… ช่างดูลึกลับมาก
เมื่อทุกคนมองไปที่ร่างเงานั้น ม่านตาก็หดลงก่อนที่จะสูดลมหายใจอัดอากาศเย็นเข้าไป
“นะ…นั่นคือเทพจักรพรรดิสงคราม?!”