หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1189

ตอนที่ 1189

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1189 การเผชิญหน้าของราชัน
ดอกบัวปะทุขึ้นพร้อมกับคลื่นเพลิงครอบงำตระการตาไร้ขอบเขต

พลังอันน่าสะพรึงกลัวเล็ดลอดออกมา ทำให้ทั้งมิติสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างรุนแรงเลยทีเดียว

มิติบริเวณที่ดอกบัวปะทุอยู่ในสภาพพังทลายยุบตัวลง รัศมีหลายหมื่นลี้กลายเป็นสีดำ ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างจะถูกทำลายภายใต้การปะทุนั้น

เมื่อเหล่าจอมยุทธ์เห็นภาพนี้ พวกเขาก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดผวาในดวงตา

ชัดว่าพวกเขาหวาดผวากับการเคลื่อนไหวของเทพจักรพรรดิอัคคี พวกเขาไม่สงสัยเลยว่าถ้าดอกบัวพุ่งตรงมาหา พวกเขาทั้งหมดคงจะสลายกลายเป็นอากาศธาตุในพริบตา

“นี่คือพลังของเทพจักรพรรดิอัคคีหรือ… ช่างน่ากลัวจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงสามารถเป็นยอดยุทธ์แห่งมหาพันภพได้” ผู้คนถึงกับถอนหายใจ แม้ในสงครามโบราณจะมีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนมากมายสละชีพ แต่ก็โชคดีที่มีจอมยุทธ์อย่างเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามถือกำเนิดในอีกหมื่นปีต่อมา

“จอมปีศาจทุนเทียนน่าจะตายแล้วมั้ง?” มู่เฉินมองไปที่มิติยุบลง เผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัวดังกล่าว แม้กระทั่งจอมปีศาจทุนเทียนก็คงต้องได้รับความเสียหายร้ายแรงสินะ

มั่นถัวหลัวพยักหน้า กระบวนท่าจากเซียวเหยียนน่าสะพรึงอย่างแท้จริง ไม่มีใครคาดว่าเขาจะเป็นคนตรงขนาดนี้เปิดโจมตีก็ซัดทักษะยอดเยี่ยมแบบไม่ไว้หน้าจอมปีศาจทุนเทียนเลย

การโจมตีครั้งนั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนยังทนไม่ได้

สายตาทุกคนจ้องมองอย่างกังวลใจไปตรงมิติที่ยุบลง ทันใดนั้นดวงตาก็ต้องหดลงเมื่อเห็นร่างเงาหนึ่ง

นี่ก็คือจอมปีศาจทุนเทียน แต่ในเวลานี้ทั่วสรรพางค์กายเต็มไปด้วยรอยร้าวราวกับตุ๊กตาเครื่องปั้นดินเผา

ดวงตาก็เป็นสีแดงก่ำ ชัดว่าโกรธเกรี้ยวมาก

“หนังเหนียวชะมัด” เซียวเหยียนไม่แปลกใจที่จอมปีศาจทุนเทียนยังไม่ตาย เพราะแม้แต่จักรพรรดิฟ้าก็ยังไม่สามารถฆ่ามันได้เมื่อในอดีต

ทว่าแม้จอมปีศาจทุนเทียนจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ใครๆ ก็สามารถบอกได้ว่าเขาบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว

“ในเมื่อแกบีบบังคับข้านัก งั้นวันนี้ก็ตายด้วยกันเลย!”

จอมปีศาจทุนเทียนคำรามขณะที่พุ่งไปยังทิศทางของเซียวเหยียน

เขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเต็มพิกัด พริบตาก็เข้ามาใกล้ จากนั้นทุกคนก็เห็นเงาปีศาจพุ่งออกมาจากร่างกายปริร้าว พลังงานป่าเถื่อนถูกกลั่นอยู่ในร่างกาย

“มันคิดจะระเบิดตัวเอง!” ใบหน้าของมั่นถัวหลัวเปลี่ยนไป ดูเหมือนจอมปีศาจทุนเทียนจะรู้ซึ้งว่าไม่มีทางที่จะหลบหนี จึงตัดสินใจที่จะระเบิดตัวตายไปด้วยกัน

ตู้ม!

ทันทีที่มั่นถัวหลัวพูดจบร่างจอมปีศาจทุนเทียนก็ระเบิดออกพร้อมกับรัศมีปีศาจป่าเถื่อนกวาดหายนะไปทั่ว

คนแรกที่โดนก็คือเซียวเหยียน

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการทำลายชีวิตนั่น เซียวเหยียนก็ไม่ได้ตื่นตระหนกกลับส่ายหน้า “ถ้าคนอย่างข้าตายง่ายขนาดนั้นก็คงตายไปนานแล้วแหละ”

เขากางมือออกเปลวไฟงดงามพวยพุ่งขึ้นถักทอเป็นปราการขนาดใหญ่หลายแสนจั้ง

ปราการนี้ถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายนับไม่ถ้วน แต่ละลายล้วนเป็นตัวแทนของแก่นเพลิงประเภทต่างๆ

ปราการปกคลุมรัศมีปีศาจด้วยอุณหภูมิสูงที่น่ากลัว ทำให้เกิดรอยแตกในมิติ รัศมีปีศาจก็คล้ายกับหิมะต้องลาวาละลายอย่างรวดเร็ว

เวลาเพียงไม่กี่สิบลมหายใจ รัศมีปีศาจก็ถูกลบล้างโดยสมบูรณ์ไม่มีร่องรอยความชั่วร้ายหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย

“จัดการเรียบร้อยแล้วเรอะ?”

เซียวเหยียนพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็โบกมือ เปลวไฟงดงามที่ถาโถมออกมาก็ถูกดึงกลับเข้าไปในร่างกายของเขา

“หืม?”

แต่เมื่อเปลวไฟเข้าสู่ร่างกาย สายตาของเซียวเหยียนก็เปลี่ยนไปทันที

ตู้ม!

กลิ่นอายปีศาจปรากฏในมิติที่ยุบลง กำลังมุดหนีออกไปจากสุสานจักรพรรดิฟ้าอย่างรวดเร็ว

“จอมปีศาจทุนเทียนยังไม่ตายรึเนี่ย?!”

ใบหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปรุนแรง พวกเขาตกใจกับพลังชีวิตทรงประสิทธิภาพของนักรบราชันปีศาจมาก ซึ่งยังสามารถรอดไปได้หลังจากได้รับกระบวนท่าหนักหน่วงจากการโจมตีหนักหนาของเทพจักรพรรดิอัคคีถึงสองครั้ง?

“ไอ้เจ้าเล่ห์นั่นตั้งใจระเบิดตัวเองโดยมีจุดมุ่งหมายซ่อนตัวและหลีกเลี่ยงการรับรู้ของเทพจักรพรรดิอัคคี เพื่อหาโอกาสหลบหนี!” ใบหน้าของมู่เฉินเคร่งเครียดลงเช่นกัน เขาไม่คิดว่าจอมปีศาจทุนเทียนจะฉลาดแกมโกงเป็นกรดแบบนี้

“หัวใจปีศาจถูกทำลายไปแล้ว ทำไมมันถึงยังมีชีวิตอยู่ได้?” เซียวเหยียนก็อึ้งไปกับภาพนี้เช่นกัน หัวใจปีศาจเป็นจุดอ่อนของพวกปีศาจต่างมิติ แต่สำหรับพวกราชันปีศาจหัวใจปีศาจไม่สามารถทำลายได้แบบทั่วไป แต่ตอนที่จอมปีศาจทุนเทียนระเบิดตัวเอง เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าหัวใจปีศาจดวงหนึ่งแตกสลายไปอย่างชัดเจน

โดยปกติราชันปีศาจก็ต้องตายเมื่อหัวใจปีศาจถูกทำลาย แต่ไม่คิดว่าจอมปีศาจทุนเทียนจะยังหนีรอดไปได้

“มิน่าล่ะตอนนั้นถึงชนะจักรพรรดิฟ้าได้ ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างแปลกพิกลจริงๆ”

“เฮ้ ตาแก่ทำไมไม่ขยับล่ะ? มันจะหนีไปแล้วนะ!” เสียงของเซียวเซียวเปล่งออกมาอย่างรีบร้อน หากจอมปีศาจทุนเทียนสามารถหลบหนีไปได้ก็เท่ากลับปล่อยเสือกลับเข้าป่า อนาคตไม่รู้จะมีสิ่งมีชีวิตในมหาพันภพเท่าไรที่ต้องตายด้วยน้ำมือพวกมัน

หากราชันปีศาจที่สามารถต่อสู้กับจักรพรรดิฟ้าฟื้นฟูพลังขึ้นมาได้ แม้เทพจักรพรรดิอัคคีจะเผชิญหน้าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อกรได้ง่ายขนาดนี้

เมื่อได้ยินคำเรียกของเซียวเซียวมุมหางตาของเซียวเหยียนก็กระตุกก่อนจะเหลือบมองบุตรสาว “ไอ้ปีศาจนั่นใช้ชีวิตเดิมพันในการหลบหนี จะขัดขวางง่ายๆ ขนาดนี้ได้ยังไง?”

เมื่อทุกคนได้ยินประโยคดังกล่าวก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ หรือว่าวันนี้จอมปีศาจทุนเทียนจะหนีรอดไปได้? หากเป็นเช่นนั้นผนึกที่จักรพรรดิฟ้าซึ่งใช้ชีวิตเดิมพันไว้ก็จะไร้ผลแล้วไม่ใช่หรือ?

ทว่าเมื่อเห็นท่าทางเสียดายของผู้คน เซียวเหยียนก็ยิ้มพลางมองไปทิศทางนั้น “แต่ยังไงมันก็ไม่สามารถหลบหนีได้ในวันนี้”

ทุกคนอึ้งไป หรือว่าเทพจักรพรรดิอัคคียังมีไพ่ตายอยู่ในแขนเสื้ออีก?

เซียวเหยียนมองหลินจิ้งพลางยิ้ม “ข้าไม่ใช่คนเดียวที่สัมผัสได้ถึงศัตรูทรงพลังที่เข้าใกล้ลูกสาว”

หลินจิ้งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่ความสุขจะกระจายบนใบหน้า “อา? ท่านพ่อก็มาด้วยหรือ?”

ทุกคนถึงกับงงงวย ในขณะที่หัวใจมู่เฉินเต้นไม่เป็นส่ำ บิดาของหลินจิ้ง? นั่นคือประมุขแคว้นหวูซึ่งมีพลังอยู่ในระดับเดียวกับเทพจักรพรรดิอัคคี เทพจักรพรรดิสงครามไม่ใช่เหรอ?!

เขาก็มาที่นี่เหมือนกันเหรอ?

ขณะที่หัวใจของมู่เฉินสั่นระรัว รัศมีปีศาจยังคงส่งผ่านมิติซึ่งกำลังจะหายไป

ฮึ่ม!

แต่ทันใดนั้นมิติก็สั่นสะท้านรุนแรงแล้วแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่ทุกคนจะเห็นมือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

มือนั้นแปลกมาก ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดมังกรสีเขียวมรกตพร้อมกับพลังที่ไม่อาจพรรณนาล้อมรอบทั่วพื้นที่แห่งนี้ทั้งหมดไว้ ภายใต้รัศมีมู่เฉินสามารถสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณมังกรแท้จริงของตนเองสั่นไหวราวกับว่าได้เจอผู้ยิ่งใหญ่

มู่เฉินตกตะลึงในใจ ต้องรู้ว่าจิตวิญญาณมังกรแท้จริงครอบครองสายเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งนับว่าเป็นจักรพรรดิของเผ่ามังกรเลยทีเดียว!

แต่ตอนนี้จิตวิญญาณมังกรแท้จริงกลับรู้สึกถูกคุกคามจากรัศมีที่มาจากมือนั่น!

ครืน!

ขณะที่มู่เฉินกำลังตกตะลึงสงสัย มือก็สาวรัศมีปีศาจออกมาจากนั้นก็บีบไว้ในกำมือ ใบหน้าปีศาจชั่วร้ายปรากฏขึ้น เสียงคำรามเต็มไปด้วยความต่อต้านรุนแรง

เขากำลังหนีได้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะได้พบกับศัตรูทรงพลังอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ได้อ่อนแอกว่าเทพจักรพรรดิอัคคี!

เขาทำลายร่างไปแล้ว ดังนั้นจึงอ่อนแอลงอย่างมาก ตัวเขาจะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์เช่นนี้ได้อย่างไร?

ดังนั้นเมื่อมือบีบกดลงมา ประกายสีฟ้าอมเขียวก็ก่อร่างเป็นผนึกห่อหุ้มจอมปีศาจเอาไว้ภายใน

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันทำให้สีหน้าของทุกคนผันแปรไปรุนแรง พวกเขาจ้องมองไปในความว่างเปล่า ขณะนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าที่แท้ยังมียอดยุทธ์ทรงพลังอีกคนซ่อนอยู่ในบริเวณนี้ รอเวลาให้จอมปีศาจทุนเทียนตกหลุมพราง

แต่พวกเขาต่างสงสัยว่าบุคคลผู้นี้เป็นใคร?

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วนมิติก็ฉีกขาดก่อนที่ร่างเงาหนึ่งจะเยื้องย่างออกมา เขามีรัศมีที่น่าเกรงขาม คลื่นหลิงเชี่ยวกรากหมุนวนรอบตัว พลังงานของเขามีคุณสมบัติที่แตกต่างไป มีทั้งน้ำแข็ง-เพลิง-สายฟ้า-ความมืด… ช่างดูลึกลับมาก

เมื่อทุกคนมองไปที่ร่างเงานั้น ม่านตาก็หดลงก่อนที่จะสูดลมหายใจอัดอากาศเย็นเข้าไป

“นะ…นั่นคือเทพจักรพรรดิสงคราม?!”

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler บางส่วนของนิยาย

บทนำ

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป

‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้

แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์

แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว

ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ

เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง?

ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน…

เรื่องย่อ

เมื่อคำพูดของมู่เฉินกระจายออกไป ไม่เพียงแต่จะไม่มีการตอบสนอง แม้แต่ด้านนอกเจดีย์ก็ถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศราวกับป่าช้า…

ทุกคนตกตะลึงไปกับฉากนี้ พวกเขาจ้องมองจุดที่ลู่สุยหายตัวไป ราวกับว่ายังไม่สามารถฟื้นจากอาการตะลึงงันที่เกิดขึ้นได้

ก่อนหน้าเมื่อลู่สุยออกกระบวนท่าที่น่าสะพรึง ผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกกำหนดแล้ว ทว่าพวกเขาไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะพลิกสถานการณ์ได้อีกครั้ง เตะลู่สุยที่เหมือนจะคว้าชัยชนะออกไป

ทุกคนตะลึงไปพักใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะหลุดออกจากอาการได้ สายตาเคร่งเครียดลง การประลองกันครั้งนี้มู่เฉินไม่ได้ใช้ค่ายกล แต่เขาก็สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดอย่างลู่สุยได้ด้วยความแข็งแกร่งที่อยู่ในขั้นหกเท่านั้น แม้ว่าจะมีผลจากลู่สุยประมาทเองในตอนแรก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามู่เฉินน่ากลัวแค่ไหน

พลังเช่นนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์อันดับต้นๆ ในเจดีย์ฝึกพลังกายได้เลยทีเดียว

ทางฝั่งกลุ่มกระเรียนฟ้า ใบหน้าของหลิ่วชิงกลายเป็นเขียวสลับขาว นางมองไปที่ร่างสูงโปร่งบนหน้าจอ กลืนน้ำลายเหนียวหนืด ความกลัวปรากฏในดวงตาของนางเป็นครั้งแรก

มาถึงจุดนี้นางคงโง่แน่ถ้ายังคิดปฏิบัติต่อมู่เฉินเหมือนกับจอมยุทธ์ขั้นหกทั่วไป

ด้วยพลังในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมา บวกกับค่ายกลทรงพลัง แม้แต่จงเถิงก็ยากจะได้เปรียบหากพวกเขาต่อสู้กัน

ก่อนหน้านี้นางหัวเราะเยาะและมองจิ่วโยวด้วยความดูถูก แต่ตอนนี้นางอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ซึ่งจุดนี้รู้ได้จากสายตาเยาะเย้ยเหล่านั้นที่ปรายมองเข้ามา

“ทำไมมู่เฉินถึงทรงพลังเช่นนี้?” จงฮั้วที่พ่ายแพ้ให้กับมู่เฉินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดเช่นกันว่ามู่เฉินพึ่งพาเพียงค่ายกลเพื่อจัดการกับศัตรู แต่ใครจะคิดว่าเมื่อไม่มีการใช้ค่ายกลมู่เฉินก็สามารถเอาชนะลู่สุยแบบดุร้ายยิ่งกว่าอะไร

“ดูเหมือนว่ามีเพียงพี่ใหญ่จงเถิงเท่านั้นที่สามารถจัดการกับเขาได้” จอมยุทธ์อีกคนของเผ่ากระเรียนฟ้าพยักหน้า

หลิ่วชิงพยักหน้าเบาๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะพิจารณาพลังของมู่เฉินพลาดไปเท่านั้น แม้แต่จงเถิงก็ตัดสินอีกฝ่ายผิดไป ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง

ฟิ้ว!

ขณะที่นอกเจดีย์ต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่มู่เฉินนำมา ทันใดนั้นแสงก็กะพริบบนแท่นนอกเจดีย์ ร่างน่าสังเวชปรากฏขึ้น

เมื่อร่างนั้นออกมาก็รีบถอยกลับไปปรากฏตัวขึ้นในกลุ่มอีกาสายฟ้าทันควัน นี่ก็คือลู่สุยที่มีสีหน้าซีดขาว คลื่นหลิงของเขาถดถอยลงอย่างมาก

สายตาโดยรอบยิงเข้าหาในเวลานี้ทันที

ใบหน้าของลู่สุยเขียวคล้ำ สายตาเกลียดชังมองไปที่มู่เฉินที่อยู่บนหน้าจอ ก่อนที่จะหันหัวสาดสายตาดุร้ายใส่จิ่วโยวและมั่วหลิง ที่ข้างๆ พรรคพวกของเขาก็มีท่าทางไม่ดีเช่นกัน

ทว่าจิ่วโยวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น นางเค้นเสียงอย่างเย็นชา “ลูกหมาที่ถูกฟาดยังกล้าที่จะออกมาแยกเขี้ยวอีกเหรอ?”

ตอนนี้ลู่สุยบาดเจ็บสาหัส สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปหมด ส่วนคนที่เหลือก็ไม่มีอะไรต้องกลัว หากพวกเขากล้าที่จะคิดบัญชีกับพวกนาง จิ่วโยวก็ไม่คิดปล่อยพวกเขาไว้เป็นภัยคุกคามในอนาคตหรอก

สายตาแสดงความเกลียดชังของลู่สุยจ้องเขม็งอยู่ที่จิ่วโยว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องถอนสายตาออกไปอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะถอยกลับนั่งลงบนซากปรักหักพังเข้าสมาธิเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

จอมยุทธ์กลุ่มอีกาสายฟ้าก็ปรากฏรอบตัวเขาเพื่อปกป้อง

เมื่อจิ่วโยวเห็นการตอบสนองนั่น นางก็ไม่ได้ใส่ใจกับพวกเขาอีก นางมองไปที่หน้าจออีกครั้งโดยพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างเงาอ่อนเยาว์ มือที่กำแน่นผ่อนคลายลง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับนางที่มู่เฉินจะเอาชนะได้เด็ดขาดแบบนี้ นั่นเป็นเพราะตามการประเมินของนางแม้ว่ามู่เฉินจะยืนยงอยู่ได้ก็เป็นยากที่จะเอาชนะลู่สุยด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นหกและถ้าการต่อสู้ถูกลากไปจนสุดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึง

ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ก็ทำให้นางทั้งประหลาดใจและดีใจ

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินได้รับประโยชน์มหาศาลจากสามชั้นแรกของเจดีย์ฝึกพลังกาย ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถแสดงพลังเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้ได้

“ว่ากันว่าในชั้นสี่มหัศจรรย์กว่านี้มาก หากใครสามารถเข้าไปได้ พวกเขาจะสามารถได้รับผลประโยชน์เกินกว่าสามชั้นแรกมาก…”

จิ่วโยวยิ้มบาง ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่น่ามีปัญหาใดๆ ที่มู่เฉินจะเข้าสู่ชั้นสี่ สำหรับมั่วเฟิงความแข็งแกร่งของเขาเป็นหนึ่งในอันดับต้นของกลุ่มที่เข้าไป ดังนั้นจึงไม่ยากสำหรับเขาที่จะได้หนึ่งในห้าที่นั่งนี้ไปเช่นกัน

ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่เจดีย์ฝึกพลังกายโบราณครั้งนี้เผ่าวิหคโลกันตร์อาจเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บนลานเมฆสายฟ้า

ไม่มีใครตอบคำถามของมู่เฉิน ขณะนี้แม้แต่จอมยุทธ์ทรงอำนาจอย่างหานซันและสีคุนก็ยังรู้สึกหวาดระแวงมู่เฉินอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ไปปะทะกับมนุษย์ผู้นี้

ดังนั้นคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่จึงเงียบลง ก่อนที่จะถอยออกจากรัศมีโดยรอบมู่เฉินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการต่อสู้กับเขา

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็ไม่มีอารมณ์ใดบนใบหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอก คนอื่นๆ เห็นเพียงฉากการต่อสู้ตระการที่เขาเอาชนะลู่สุยได้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าหมัดที่เขาชกออกไปก่อนหน้านี้คือพลังงานส่วนเกินจากสามชั้นแรก

ร่างกายของมู่เฉินก่อนหน้าเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำจนถึงขีดจำกัด หมัดของเขาจึงเท่ากับบีบน้ำออกจนหมด ทำให้ร่างกายที่อัดแน่นกลับสู่สภาพเดิม

ดังนั้นถ้าให้เขาโจมตีแบบนั้นอีกครั้ง พลังก็จะไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนเมื่อครู่แน่นอน

ประสิทธิผลพิเศษชนิดนี้ของการสะสมพลังงานในร่างกายเป็นทักษะที่ได้มาจากกายามังกรหงส์ ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ กลายเป็นไพ่ลับอีกใบหนึ่ง

“คัมภีร์หลงเฟิ่งทรงพลังจริงๆ”

แม้แต่มู่เฉินก็ยังชื่นชมในสิ่งนี้ คัมภีร์หลงเฟิ่งสมแล้วที่เป็นทักษะยอดเยี่ยมแท้จริง จากการประเมินของเขาคัมภีร์นี้ต้องอยู่ในระดับเสินทงแน่นอน ซึ่งไม่ธรรมดาแม้จะอยู่ในกลุ่มวิทยายุทธระดับเสินทงด้วย

มู่เฉินชื่นชมก่อนที่จะใจเย็นลง แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครท้าทายเขา แต่เขาก็ไม่ตั้งใจที่จะท้าทายคนอื่นด้วยเช่นกัน เขายืนนิ่งบนตำแหน่งตนเองรอผลการคัดออก

สำหรับจงเถิง มู่เฉินรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกยุแยงให้ลู่สุยมาปะทะกับเขา แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการจัดการ เขาจึงได้แต่ผลักแผนไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นสายตาคมกล้าของมู่เฉินก็ยังจ้องเขม็งไปที่จงเถิง รอบตัวเต็มไปด้วยคลื่นหลิงราวกับเสือดาวที่กำลังจะจ้องตะครุบเหยื่ออัดแน่นด้วยภัยคุกคาม

เมื่อเห็นท่าทางของมู่เฉิน จงเถิงที่ประจันหน้ากับมั่วเฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจ เขาต้องแยกสมาธิอยู่ตลอดเพื่อจับตามองมู่เฉิน ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวมาประสานพลังกับมั่วเฟิง

ด้วยวิธีนี้สมาธิของจงเถิงจึงค่อนข้างฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาได้แต่กัดฟัน ถอนคลื่นหลิงและถอยออกจากบริเวณของมั่วเฟิง

“พี่มั่วยากสำหรับการต่อสู้ของเราที่จะได้ข้อสรุป ทำไมเราไม่ไปจัดการคนอื่นและรับที่นั่งมาล่ะ?” ขณะที่จงเถิงถอยกลับเสียงก็สะท้อนก้องไปด้วย

มั่วเฟิงจ้องมองจงเถิงอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพยักหน้า นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าหากพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ยืนจ้องหน้ากันก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใด หากเขาร่วมมือกับมู่เฉิน พวกเขาอาจทำให้จงเถิงบ้าดีเดือดขึ้นมา แม้แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคามหาศาลจากการตีโต้

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือการได้ที่นั่งเพื่อเข้าสู่ชั้นสี่

เมื่อจงเถิงเห็นคำตอบของมั่วเฟิงก็รู้สึกโล่งใจในใจ เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วออกจากจุดที่มู่เฉินและมั่วเฟิงอยู่ เขาครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะเลือกปะทะกับคนที่อ่อนแอกว่า

พอมู่เฉินเห็นจงเถิงไปแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป สายตาหันมามองมั่วเฟิงแล้วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแสดงความขอบคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้

สายตาของมั่วเฟิงเป็นมิตรมากขึ้น คิดว่าการที่มู่เฉินเอาชนะลู่สุย ทำให้มั่วเฟิงมองมู่เฉินในฐานะจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ดังนั้นจึงไม่ได้มีท่าทางเฉยเมยเหมือนเมื่อก่อน

มั่วเฟิงพยักหน้าให้มู่เฉิน ก่อนที่จะหันหลังกลับและเริ่มเลือกคู่ต่อสู้ของตนเอง

ครืน!

เมื่อทุกคนเลือกคู่ต่อสู้แล้ว ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็ระเบิดรุนแรงบนลานเมฆสายฟ้า คลื่นกระแทกกวาดออก ทำให้มิติเกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไม่หยุด

บนลานเมฆสายฟ้าพลังงานหลิงกวาดหายนะ มีเพียงตรงมู่เฉินเท่านั้นที่ไม่ถูกรบกวน เนื่องจากไม่มีใครกล้าเหยียบเข้ามาในรัศมีพันจั้ง ยามนี้เขาเหมือนผู้ชมที่ดูการต่อสู้ติดขอบ ในเวลาเดียวกันก็บันทึกกระบวนท่าที่ทรงพลังของบางคนไว้ในสมอง

แม้ว่าในชั้นนี้พวกเขาอาจไม่ได้ประลองกัน แต่ก็ยังมีอีกสองชั้นรอพวกเขาอยู่ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการลดจำนวนลงในชั้นต่อไป?

ดังนั้นถ้ามีโอกาสเขาต้องพยายามจดจำข้อมูลผู้อื่นเก็บไว้

ภายใต้การสังเกตของมู่เฉิน การประลองบนลานเมฆสายฟ้าก็คงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนที่แต่ละคู่จะมาถึงจุดสิ้นสุด ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้

หลังจากมู่เฉินก็เป็นหานซันที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ที่นั่งที่สองไป

จากนั้นมั่วเฟิงและจงเถิงก็คว้าชัยชนะตามมา

ที่นั่งสุดท้ายตกเป็นของสีคุนที่ก่อนหน้านี้เคยแพ้หานซันที่ด้านนอกเจดีย์ ชายนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าตกใจ แม้แต่หานซันยังต้องใช้ทักษะเต็มที่ถึงจะได้รับชัยชนะมา

เมื่อสีคุนได้รับที่นั่งสุดท้ายลานเมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ก็เงียบลงอีกครั้ง ร่างทั้งห้ายืนอยู่ ขณะรัศมีไร้ขอบเขตทั้งห้าสายพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าชนกันเปรี้ยงปร้าง

ทว่าการชนกันก็ดำเนินไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ทั้งห้าจะถอนคลื่นพลังพร้อมกัน พวกเขาเหลือบมองกันและกัน จากนั้นก็ไม่ลังเลทะยานออกไปปรากฏตัวบนเบาะทั้งห้า

สายตาพวกเขาพุ่งตรงไปยังมิติด้านหลังลานเมฆสายฟ้าด้วยความโลภ ตรงนั้นเส้นดาวหางจำนวนมากกวาดผ่านราวกับฝนดาวตก

ในแสงเหล่านั้นแก่นหยดสายฟ้ากำลังกะพริบด้วยความแวววาว


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท