บทที่ 1250 การตายของเสี่ยหลิงจื่อ
เจดีย์ผลึกแก้วใสตั้งเงียบๆ บนฝ่ามือของมู่เฉิน
ร่างเงาโลหิตอมตะและเสี่ยหลิงจื่อที่ใบหน้าปกคลุมด้วยความตกใจถูกกักขังไว้อยู่ภายใน
เขาไม่เคยคิดว่าแค่ไม่ใส่ใจวูบเดียว ตัวเองก็จะถูกกักขังอยู่ในเจดีย์ผลึกแก้วใสของมู่เฉินแล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเจดีย์นี้มีความสามารถอะไร แต่เขาสัมผัสถึงอันตรายหนาแน่นได้ ทันใดนั้นเขาจึงปลดปล่อยคลื่นหลิงออกมาโดยไม่ลังเล ควบคุมร่างเงาโลหิตอมตะหมายจะทำลายเจดีย์
“ในเมื่อเข้าไปแล้วก็อย่าหวังว่าจะได้ออกมาอีก”
ทว่าเผชิญหน้ากับการดิ้นรนนี้ มู่เฉินกลับแย้มยิ้มสดใสกระบวนท่าในมือเปลี่ยนแปลงวูบไหว ผลึกเพลิงกวาดออกภายในเจดีย์ ติดบนร่างเงาโลหิตอมตะทันที
ผลึกเพลิงลุกโชน ใบหน้าเสี่ยหลิงจื่อก็เปลี่ยนไปรุนแรง เขาตระหนักได้ว่าพร้อมกับการเผาไหม้ของผลึกเพลิง ร่างเงาโลหิตอมตะก็ลดลงอย่างรวดเร็วและเริ่มเหือดหาย
นี่ให้ความรู้สึกราวกับว่าคลื่นหลิงที่สนับสนุนร่างเงาโลหิตอมตะได้สูญเสียประสิทธิภาพไป
หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากคลื่นหลิง แม้แต่ร่างเวทสวรรค์ที่ทรงพลังก็จะสลายไปโดยไม่มีความสามารถในการต่อสู้
“เพลิงเหล่านี้…ผนึกคลื่นหลิงของข้าไว้รึ?!”
ทว่าทันใดนั้นเสี่ยหลิงจื่อก็หาเหตุผลได้ ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมด้วยความขนพองสยองเกล้า คลื่นหลิงเป็นต้นกำเนิด ช่วงเวลาที่คลื่นของเขาถูกผนึกไว้จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม
ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุน ถ้าสูญเสียการคุ้มครองของคลื่นหลิงก็จะอ่อนแออย่างยิ่ง
ทว่ามู่เฉินไม่ได้สนใจอาการตกใจนั่น เพลิงในเจดีย์ถูกสร้างขึ้นจากคลื่นหลิงผลึกใส ความสามารถในการปิดผนึกเป็นสิ่งที่ครอบงำโดดเด่น ดังนั้นเมื่อเสี่ยหลิงจื่อติดอยู่ภายในก็ไม่มีหวังที่จะหนีออกมาได้ตลอดกาล
แม้ว่าเจดีย์ผลึกแก้วใสจะครอบงำ ก็เป็นไปไม่ได้ที่มู่เฉินจะจับเสี่ยหลิงได้ ถ้าเขาระมัดระวังตัวมาก
การก้าวผิดครั้งเดียวทำให้แพ้ศึกทันที!
ผลึกเพลิงวูบวาบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก่อนที่ร่างเงาโลหิตอมตะจะสลายตัวในเวลาไม่กี่สิบอึดใจ ร่างเสี่ยหลิงจื่อเปิดเผยออกมาทันที
การหายไปของร่างเงาโลหิตอมตะ ทำให้เสี่ยหลิงจื่อรู้สึกหวาดกลัว เขาไม่เคยคิดเลยว่าร่างเงาโลหิตอมตะที่มู่เฉินทำอะไรไม่ได้ในโลกภายนอก จะถูกจัดการง่ายดายในเจดีย์นี้
ตู้ม!
ดังนั้นเสี่ยหลิงจื่อจึงไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อ คลื่นหลิงระเบิดออกจากร่าง แม่น้ำโลหิตครางกระหึ่มไปรอบๆ กระแทกกำแพงทั้งสี่ด้านของเจดีย์
ฮึ่ม!
ทันใดนั้นผลึกเพลิงก็พัดเข้ามาปะทะกับแม่น้ำโลหิตที่ไร้ขอบเขต ในช่วงเวลาที่สัมผัสก็คล้ายกับแม่น้ำเจอกับลาวา จางลงไปอย่างรวดเร็ว เกิดหมอกเลือดระเหยออกไป
ทั่วสรรพางค์กายเสี่ยหลิงจื่อเย็นเยือกลงด้วยความกลัวจับใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าเจดีย์ผลึกใสของมู่เฉินจะสามารถครอบงำได้ขนาดนี้ ตราบใดที่ติดแหง็กอยู่ภายในก็ไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้
ฟู่ ฟู่!
เมื่อผลึกเพลิงห่อหุ้มเขาจากทุกทิศทาง เสี่ยหลิงจื่อก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าคลื่นหลิงในร่างกายถูกผนึกอย่างรวดเร็ว หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป อีกไม่นานคลื่นพลังในร่างกายก็จะถูกผนึกไว้อย่างสมบูรณ์ เวลานั้นเขาก็จะสูญเสียพลังในการต่อสู้ไป
“มู่เฉิน ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะมอบป้ายสัประยุทธ์ให้ทั้งหมด! นอกจากนี้ยังจ่ายค่าทดแทนให้เจ้าเป็นของเหลวจื้อจุนห้าร้อยล้านหยดจากตระกูลเสี่ยเสินด้วย!” เมื่อเผชิญหน้ากับความตายในที่สุดเสี่ยหลิงจื่อก็สูญเสียความสงบ เริ่มที่จะขอร้อง
“ของเหลวจื้อจุนห้าร้อยล้านหยด?”
มู่เฉินยกคิ้วขึ้น เสี่ยหลิงจื่อยอมจ่ายจริงๆ จำนวนนี้อาจทำให้แม้แต่ตระกูลเสี่ยเสินสิ้นเนื้อประดาตัวเลยทีเดียว
นี่เป็นราคาที่สามารถซื้ออาวุธมหสารรค์ขั้นกลางได้เลย
ทว่ามู่เฉินยังคงไม่เคลื่อนไหว เพราะเสี่ยหลิงจื่อเป็นพวกเจ้าเล่ห์เลวทราม ตอนนี้เขาได้โอกาสดีที่จะกำจัดภัยคุกคามนี้ แล้วจะให้ปล่อยให้เสือกลับไปภูเขาได้อย่างไร?
ดังนั้นเขาจึงเผยรอยยิ้มไม่แยแส กระบวนท่าในมือก็เปลี่ยนไป เพลิงในเจดีย์ผลึกแก้วใสลุกโชนขึ้นทีละน้อย เปลวไฟร้อนแรงเผาไหม้คลื่นหลิงที่ไร้ขอบเขตรอบตัวเสี่ยหลิงจื่อ
ในเวลาไม่กี่นาที เสี่ยหลิงจื่อก็ดูสิ้นหวังเนื่องจากไม่สามารถรู้สึกถึงคลื่นหลิงในร่างกาย
ตามความรู้สึกเขาจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อให้พลังงานฟื้นขึ้น ส่วนมู่เฉินก็สามารถฆ่าเขาได้นับหมื่นครั้งในเวลาดังกล่าว
“มู่เฉิน ถ้าแกกล้าฆ่าข้าก็จะจุดชนวนความเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลเสี่ยเสินแน่นอน! ในเวลานั้นตระกูลเสี่ยเสินของข้าจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตระกูลลั่วเสิน ทำให้ตระกูลลั่วเสินต้องจ่ายราคาแพงระยับเช่นกัน!” เสี่ยหลิงจื่อคำรามด้วยน้ำเสียงโหดร้ายและสิ้นหวัง
“งั้นแบบนี้…”
มู่เฉินยิ้มกับคำพูดของอีกฝ่าย “ถึงเวลานั้นค่อยล้างบางตระกูลเสี่ยเสินเอาก็แล้วกัน”
พูดจบเขาก็ไม่ลังเลอีกแล้ว เขารู้สึกว่าคลื่นหลิงของเสี่ยหลิงจื่อได้รับการผนึกอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะฆ่าอีกฝ่าย
แค่คิดผลึกเพลิงก็ระเบิดภายในเจดีย์ ก่อนที่จะควบแน่นเป็นมือใหญ่โตจับเสี่ยหลิงจื่อเอาไว้
ตู้ม!
ผลึกเพลิงกัดกร่อนร่างกายของเสี่ยหลิงจื่อ เมื่อสูญเสียการป้องกันของคลื่นหลิง ร่างเขาก็ไม่ได้ทรงพลังเหมือนเมื่อก่อน เริ่มละลายภายใต้เปลวไฟเสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วพื้นที่
อ๊าก!
เสียงเขย่าประสาทดังก้อง
ทว่าเสียงร้องก็คงอยู่ไม่กี่สิบลมหายใจ ก่อนที่จะหายไปอย่างสมบูรณ์ ร่างเสี่ยหลิงจื่อเหลือเพียงขี้เถ้าในเจดีย์ไว้ดูต่างหน้า
โชคดีที่คลื่นหลิงของเสี่ยหลิงจื่อถูกผนึก ไม่อย่างนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมู่เฉินที่จะฆ่าเขา เนื่องจากพลังชีวิตของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายทรงพลังเกินไป ต่อให้ร่างกายของพวกเขาจะละลายไปหมด พวกเขาก็สามารถใช้คลื่นหลิงฟื้นฟูกลับมาใหม่ได้
แต่น่าเสียดายนักแม้แต่พลังแข็งแกร่งก็ยังอ่อนแอเมื่ออยู่ในเจดีย์ผลึกแก้วใส
“เจดีย์นี้ครอบงำจริงๆ”
มู่เฉินถอนหายใจในใจ ไม่น่าแปลกใจว่าเผ่าฝูถูสามารถมีรากฐานเช่นนี้ในมหาพันภพ พลังแห่งสายเลือดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ยามนี้เสียงกรีดร้องของเสี่ยหลิงจื่อยังสะท้อนไปทั่วมหาสมุทร ทำให้ใบหน้าเหล่าผู้ชมเปลี่ยนไปเมื่อจ้องมองมู่เฉินด้วยสายตาหวาดกลัวหนาแน่น
ไม่มีใครคิดว่ามู่เฉินจะน่าสะพรึงกลัวที่สามารถสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายในเวลาเพียงสิบกว่านาทีเท่านั้น!
พวกเขารู้ว่าเสี่ยหลิงจื่อถูกฆ่าหมดจดโดยไม่เหลือร่องรอยพลังชีวิต เนื่องจากพวกเขาไม่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังงานเสี่ยหลิงจื่อได้อีกต่อไป
สังหารจอมยุทธ์ระดับนี้ในช่วงเวลาอันสั้น มู่เฉินน่าสะพรึงกลัวขนาดไหนกัน?
ในเวลานี้พวกคนที่ตอนแรกยังมีความคิดที่จะจัดการกับมู่เฉินก็รู้สึกว่าหนังหัวาหนึบไปหมด แต่ละคนถอนสายตาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามู่เฉินเปรียบได้กับหมาป่าห่มหนังแกะ!
หากพวกเขาต้องการเลือกอีกฝ่ายเพราะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้น คงเป็นพวกเขาที่อาจตกลงไปในนรกแทน!
“ดูเหมือนว่ามู่เฉินจะมีคุณสมบัติสู้เพื่อตำแหน่งจริงๆ”
ผู้ชมพากันถอนหายใจในใจ
จัตุรัสเมืองซีเทียนจั้น
เสียงกรีดร้องของเสี่ยหลิงจื่อทำให้ความปั่นป่วนด้านนอกเงียบลง สายตาจำนวนมากจ้องมองร่างอ่อนเยาว์บนหน้าจอด้วยความกลัว
พวกเขาไม่คิดว่าเสี่ยหลิงจื่อที่ปราบมู่เฉินได้เมื่อไม่นานจะลงเอยด้วยสถานการณ์เช่นนี้และสิ้นชีพลง
นอกจากนี้พวกเขารู้ว่าเสี่ยหลิงจื่อตายจริงแน่นอน จากน้ำเสียงโหยหวนที่เปล่งร้องยาวออกมา
นี่เป็นผลลัพธ์ที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงมาก เพราะนี่คือจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย! แม้แต่ในมหาพันภพก็ยังถือว่าเป็นยอดยุทธ์!
ในทวีปซีเทียนคนเหล่านี้สามารถเป็นถึงผู้นำภูมิภาค ได้รับความจงรักภักดีจากผู้คนนับไม่ถ้วน
แต่เบื้องหน้าสายตาพวกเขา บุคคลเช่นนี้ถูกฆ่าโดยจอมยุทธ์หนุ่มขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้น
หลายคนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เมื่อพวกเขามองดูร่างอ่อนเยาว์บนหน้าจอก็มีร่องรอยของความกลัวในสายตา หากใครยังคิดว่ามู่เฉินเดินอยู่บนปากขอบนรกเมื่อเขาเข้าสู่สนามรบ ตอนนี้พวกเขาก็เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่ามู่เฉินมีความสามารถแท้จริง
นอกจากนี้พวกเขายังต้องยอมรับว่ามู่เฉินกลายเป็นม้ามืดเจิดจรัสที่สุดในสนามรบระดับตี้จื้อจุนขั้นปลาย
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้คงไม่มีใครกล้าประมาทเขาอีกเลย
ในขณะที่ทุกคนจ้องมองไปที่มู่เฉินด้วยความเคารพ ลั่วเทียนเสินก็อึ้งไปเมื่อมองมู่เฉิน ครู่ต่อมาเขาใช้ความพยายามอย่างมากในการเรียกสติกลับมา ก่อนที่เขาจะพึมพำจนริมฝีปากสั่น “เสียหลิงจื่อ…ตายแล้ว?”
ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เสี่ยหลิงจื่อเป็นศัตรูตัวฉกาจของตระกูลลั่วเสินและลั่วเทียนเสินก็อยากฆ่าอีกฝ่ายมานานแสนนาน แต่เขาไม่สามารถทำได้สำเร็จจนถูกพิษเอง หากไม่ได้เป็นเทพจักรพรรดิอัคคี ตอนนี้เขาคงต้องตายจากพิษไปแล้ว
ตอนแรกเขายังคิดว่าอาจต้องรอจนกว่าลั่วหลีเติบใหญ่กว่านี้เพื่อสังหารเสี่ยหลิงจื่อ ทว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่าเสี่ยหลิงจื่อจะมาตายด้วยน้ำมือมู่เฉินในวันนี้
เขาเงยหน้าขึ้นมองมู่เฉินด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
“ถ้าลั่วหลีรู้เรื่องนี้ นางจะต้องดีใจอย่างแน่นอน”