หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1270

ตอนที่ 1270

บทที่ 1270 หนึ่งกระบี่
ตู้ม!

คลื่นหลิงไร้ขอบเขตกวาดออกโดยมีร่างหลิงตงอยู่ใจกลาง ท้ายที่สุดก็พุ่งเข้าไปโจมตีขอบเขตของมู่เฉินและลั่วหลี

ปัง!

ภายใต้การโจมตี มู่เฉินกับลั่วหลีก็ตัวสั่นสะท้าน อึดใจร่างเวทสวรรค์ก็ระเบิดออกมาพร้อมกับคลื่นหลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดก่อตัวเป็นแนวตั้งรับ แต่ก็ยังค่อยๆ สึกกร่อน

ถึงแม้ว่าทั้งสองจะมีความโดดเด่นในหมู่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นและมีแม้กระทั่งมีความสามารถก้าวข้ามขึ้นไปต่อสู้ในขั้นที่สูงกว่า แต่หลิงตงไม่ได้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย ทว่าอยู่ในขั้นเต็มต่างหาก!

จอมยุทธ์ระดับนี้สามารถปราบปรามทั้งสองด้วยคลื่นหลิงเพียงอย่างเดียว

และโชคดีที่พวกเขาใช้คลื่นหลิงเพื่อรุกรานและยึดครองขอบเขตเท่านั้น หากพวกเขาต่อสู้แม้แต่มู่เฉินกับลั่วหลีรวมพลังกันก็ไม่สามารถจัดการกับผู้อาวุโสตงได้

เพราะไม่ว่าอย่างไร ช่องว่างระหว่างขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นกับขั้นเต็มก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเติมเต็มได้

หลิงตงมองไปที่เขตแดนมู่เฉินและลั่วหลีที่ถูกยึดครองก็เค้นเสียงเยือกเย็น ตามความเร็วนี้เขาอาจจะครอบครองได้ถึงเจ็ดหรือแปดส่วนเมื่อถึงเวลาที่กำหนด!

แค่คิดเกี่ยวกับการได้ครอบครองพลังงานชำระล้างถึงแปดส่วน ในใจของหลิงตงก็อดไม่ได้ที่จะปลื้มปีติ

“ของขวัญจากสวรรค์แท้จริง!”

หลิงตงหัวเราะในใจ หากไม่ใช่เป็นมู่เฉินและลั่วหลีที่ได้รับตำแหน่งนี้ไป จักรพรรดิสัประยุทธ์ก็อาจไม่ให้โอกาสนี้แก่เขา เพราะตามกฎในอดีตเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของจอมยุทธ์ระดับอื่น พลังชำระล้างจะถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรมโดยจักรพรรดิสัประยุทธ์

ในขณะที่หลิงตงกำลังสุขล้น ลั่วหลีก็ขมวดคิ้วก่อนที่หันไปมองมู่เฉินพลางส่งเสียงออกไป “มู่เฉิน เราควรจะทำยังไง? ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปข้าเกรงว่าเราจะไม่มีเหลืออะไรแล้ว”

มู่เฉินสูดหายใจลึก รู้สึกประหลาดใจจากแรงกดดันที่หลิงตงกำจายมาให้ เห็นได้ชัดว่าเมื่อเทียบกับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย ต่อให้เป็นจอมยุทธ์อัจฉริยะอย่างหลิงจั้นจื่อ จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็ทรงพลังกว่ามาก

ทว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะฉกพลังงานชำระล้างซึ่งเป็นของพวกเขา!

ด้วยความคิดนี้ แสงเย็นก็วาบขึ้นในดวงตาของมู่เฉิน ก่อนที่เขาจะเริ่มวาดตราประทับ มิติเบื้องหลังเกิดความผันผวน เงาร่างสองร่างปรากฏขึ้นพวกเขาก็มู่เฉินชุดดำและชุดขาว

เมื่อมู่เฉินทั้งสองปรากฏขึ้น พวกเขาก็นั่งลงทันที คลื่นหลิงไร้ขอบเขตระเบิดออกมา ช่วยต่อต้านการรุกรานของหลิงตง

ด้วยการเข้าร่วมของเหล่ามู่เฉิน ความเร็วในการรุกรานของผู้อาวุโสตงก็ช้าลง บางครั้งก็ต้องใช้เวลานานสำหรับผลลัพธ์เกี่ยวกับขอบเขตเล็กๆ นี่

“ไอ้ตัวปัญหา!”

หลิงตงขมวดคิ้วในสถานการณ์นี้ เนื่องจากเขาไม่คิดว่าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นจะทำให้เขาเดือดร้อนปานนี้

ถ้าตอนนี้ทั้งสองสู้กันซึ่งหน้า หลิงตงก็ไม่ต้องกลัวมู่เฉิน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีร่างดวงจิตถึงสองร่าง แต่หลิงตงก็ยังมั่นใจในชัยชนะ

แต่ตอนนี้พวกเขากำลังแย่งชิงปริมาณพลังชำระล้าง ถ้าเขาปราบอีกฝ่ายในฐานะจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็จะดูไม่ค่อยเหมาะสม

ดังนั้นหลิงตงจึงไม่ได้เปรียบอย่างสมบูรณ์เมื่อเผชิญหน้ากับมู่เฉินและลั่วหลีในขณะนี้

“หึ แต่ข้อได้เปรียบก็ยังอยู่ที่ข้า เพียงแค่ทำให้กระบวนการช้าลง หากสิ่งนี้ดำเนินต่อไปข้าก็ยังคงได้รับถึงเจ็ดส่วน”

หลิงตงเยาะเย้ยในหัวใจ แม้ว่ามู่เฉินจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อต่อต้านและหยุดยั้งการยึดพลังถึงแปดส่วน แต่ได้รับเจ็ดส่วนก็ทำให้เขาพอใจมากแล้ว

ด้วยความคิดนี้ผู้อาวุโสตงก็ระงับความกังวลในใจ ค่อยๆ เริ่มฮุบเขตแดนของทั้งสองต่อ

เมื่อเห็นมู่เฉินหยุดสถานการณ์ไว้ได้ ลั่วหลีก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย แต่ใบหน้ายังคงเคร่งเครียด เนื่องจากนางรู้สึกได้ว่าแม้จะมีการกีดขวางนี้ ส่วนแบ่งของพวกนางก็ยังคงถูกกลืนหายอย่างช้าๆ โดยผู้อาวุโสตง ซึ่งเป็นเพียงการชะลอตัวลงเท่านั้น

“หากสิ่งนี้ดำเนินต่อไปข้ากลัวว่าจะสามารถรักษาได้เพียงสามส่วน นี่น้อยเกินไปสำหรับเราสองคน” ลั่วหลีกัดฟันแน่น นางตัดสินใจว่าหากสิ่งนั้นเกิดขึ้น นางจะทิ้งการจัดสรรปล่อยให้มู่เฉินได้รับไป มิฉะนั้นถ้าต่ำกว่าสามส่วนจะไม่เพียงพอสำหรับการชำระล้างที่สมบูรณ์แบบ

มู่เฉินไม่รู้ความคิดของนาง แต่ท่าทางของเขาสงบมาก เขาไม่แสดงความวิตกกังวลหรือความโกรธจากสถานการณ์นี้

ราวกับว่าเขาได้ทิ้งความหวังไปแล้ว

หลิงตงเย้ยหยันด้วยความดูถูก มู่เฉินฉลาดเฉลียว รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะแข่งขันกับเขา

“เห็นว่าเจ้ารู้สถานการณ์ดี ข้าจะเหลือพลังให้สักสามส่วน เดี๋ยวคนอื่นหาว่าข้ารังแกเด็ก” หลิงตงยิ้มกริ่ม

จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่อยู่ภายนอกก็เห็นภาพนี้ก็กลับขมวดคิ้ว จากความเข้าใจของเขามู่เฉินไม่ใช่คนอ่อนแอ ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งเพียงใด คนอย่างมู่เฉินใส่เต็มเสมอ ไม่เช่นนั้นมู่เฉินคงไม่แม้แต่จะขี้เกียจแสดงความเคารพต่อผู้มีอำนาจเช่นเขาหรอก

แต่เผชิญหน้ากับหลิงตง ทำไมเขาถึงทำแค่ป้องกันเท่านั้น?

“เขายอมแพ้จริงๆ หรือ…เขายังมีไพ่ตายอีกนี่?” สายตาของจักรพรรดิสัประยุทธ์วูบไหว แต่เขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่ามู่เฉินจะแข่งขันกับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มได้อย่างไร

เวลาค่อยๆ ผ่านไปขณะที่จักรพรรดิสัประยุทธ์อยู่ในภวังค์

เวลาหนึ่งก้านธูปใกล้จะหมดลงแล้วและตอนนี้โดยประมาณเจ็ดส่วนของเขตแดนก็ถูกครอบครองโดยผู้อาวุโสตง คลื่นหลิงโบราณไร้ขอบเขตไหลเวียนอยู่ในเขตแดนของเขา

“ฮ่าๆ!”

เมื่อใกล้จะถึงเวลาที่กำหนด ผู้อาวุโสตงก็ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นในใจได้ เขาหัวเราะลั่น ด้วยการรับการชำระล้างถึงเจ็ดส่วน ตอนนี้เขามีความมั่นใจในการบุกทะลวงระดับเทียนจื้อจุนในอนาคตแล้ว

ลั่วหลีกำกำปั้นมองไปที่มู่เฉิน ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงไม่มีริ้วอารมณ์ใดๆ

เวลาไหลไป คลื่นหลิงโบราณก็ค่อยๆ เปล่งประกายออกมา เห็นได้ชัดว่ากำลังจะเกิดการชำระล้างในไม่ช้านี้แล้ว

นิ้วมู่เฉินเคาะที่เข่าเบาๆ ทันใดนั้นเมื่อเขารู้สึกว่าช่วงเวลาสุดท้ายมาถึง ม่านตาสีดำก็พราวแสงขึ้น

เขาลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับกระบี่โบราณในมือ

ขณะที่ถือกระบี่ไว้ก็ปล่อยรัศมีทรงพลังออกมาราวกับเทพเซียน จากนั้นก็กรีดผ่านไปในทิศทางของหลิงตง!

ฟิ้ว!

ลำแสงพุ่งทะลุบินไปหาหลิงตง

ไม่มีเสียงใดๆ แต่แค่กระบี่นี้ก็ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิงตงหยุดชะงัก วินาทีต่อมาความสิ้นหวังก็ลุกโชนขึ้นในหัวใจ ความกลัวคืบคลานบนใบหน้า

นั่นเป็นเพราะเขาสามารถรู้สึกถึงความผันผวนที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้จากกระบี่เล่มนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารู้สึกเมื่อเผชิญหน้ากับจักรพรรดิสัประยุทธ์!

นั่นคือรัศมีเทียนจื้อจุนที่แท้จริง!

“ระดับเทียนจื้อจุน?!”

หลิงตงร้องลั่นวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง เขาถอยห่างออกไปทันที คลื่นหลิงที่กำลังแผ่ขยายก็ดีดกลับ สร้างการป้องกันรอบตัว

ปัง ปัง ปัง!

ทว่าการป้องกันก็พังครืนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใบหน้าของเขาซีดลง เมื่อผลึกแสงกระบี่กำลังจะตกมาถึง เขาก็คำรามปลดปล่อยคลื่นหลิงในร่างทั้งหมด เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นกระแสเย็นเยือกสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากปาก

แม้ว่ากระแสเย็นนี้ไม่ได้ดูน่าทึ่ง แต่ดวงตาเขาก็หม่นแสงลงชัดว่าทุ่มพลังทั้งหมดแล้ว

ปัง!

กระแสเย็นและกระบี่ปะทะกันและเป็นกระแสเย็นที่ทรุดลงก่อน แต่เมื่อกระแสถล่มมลง แสงกระบี่ก็จางลงก่อนที่จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เช่นกัน

ชี่

แสงกระบี่แตกสลายทิ้งบาดแผลลึกไว้ที่หน้าอกของผู้อาวุโสตง แต่เขากลับอึ้งไป เขาสกัดการโจมตีที่มีรัศมีเทียนจื้อจุนไว้ได้หรือ?

เมื่อครู่นี้ เขารู้สึกว่ากำลังจะตายภายใต้คมกระบี่นั่น!

แต่ดูเหมือนว่าแม้จะมีอันตราย แต่กระบี่นั้นก็ไม่น่ากลัวเท่าที่เขาจินตนาการ

หลิงตงตกใจช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนจะฟื้นตัวและเงยหน้าขึ้น จากนั้นเขาก็ต้องใจแทบขาดเมื่อเห็นว่าตอนที่เขาถูกข่มด้วยกระบี่ มู่เฉินได้เร้าคลื่นหลิงเข้ายึดครองเขตแดนที่เขาฮุบไว้ก่อนหน้านี้!

ตอนนี้ตัวเขาเหลือเขตแดนสามส่วนเท่านั้น!

“สารเลว!”

ผู้อาวุโสตงคำราม คลื่นหลิงที่น่าสะพรึงกวาดออกมา ทว่าขณะที่เขากำลังจะตอบโต้ คลื่นหลิงโบราณก็พลุ่งพล่าน ริ้วแสงปกคลุมแล้วแช่แข็งมิติเอาไว้ แม้แต่หลิงตงก็ยังแข็งทื่อเหมือนยุงในอำพัน

ร่างกายแข็งเกร็ง เขาค่อยๆ บิดคอมองไปทางมู่เฉินด้วยความโกรธเคือง ก่อนจะเห็นรอยยิ้มเยาะบนใบหน้าอีกฝ่าย

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler บางส่วนของนิยาย

บทนำ

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป

‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้

แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์

แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว

ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ

เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง?

ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน…

เรื่องย่อ

เมื่อคำพูดของมู่เฉินกระจายออกไป ไม่เพียงแต่จะไม่มีการตอบสนอง แม้แต่ด้านนอกเจดีย์ก็ถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศราวกับป่าช้า…

ทุกคนตกตะลึงไปกับฉากนี้ พวกเขาจ้องมองจุดที่ลู่สุยหายตัวไป ราวกับว่ายังไม่สามารถฟื้นจากอาการตะลึงงันที่เกิดขึ้นได้

ก่อนหน้าเมื่อลู่สุยออกกระบวนท่าที่น่าสะพรึง ผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกกำหนดแล้ว ทว่าพวกเขาไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะพลิกสถานการณ์ได้อีกครั้ง เตะลู่สุยที่เหมือนจะคว้าชัยชนะออกไป

ทุกคนตะลึงไปพักใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะหลุดออกจากอาการได้ สายตาเคร่งเครียดลง การประลองกันครั้งนี้มู่เฉินไม่ได้ใช้ค่ายกล แต่เขาก็สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดอย่างลู่สุยได้ด้วยความแข็งแกร่งที่อยู่ในขั้นหกเท่านั้น แม้ว่าจะมีผลจากลู่สุยประมาทเองในตอนแรก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามู่เฉินน่ากลัวแค่ไหน

พลังเช่นนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์อันดับต้นๆ ในเจดีย์ฝึกพลังกายได้เลยทีเดียว

ทางฝั่งกลุ่มกระเรียนฟ้า ใบหน้าของหลิ่วชิงกลายเป็นเขียวสลับขาว นางมองไปที่ร่างสูงโปร่งบนหน้าจอ กลืนน้ำลายเหนียวหนืด ความกลัวปรากฏในดวงตาของนางเป็นครั้งแรก

มาถึงจุดนี้นางคงโง่แน่ถ้ายังคิดปฏิบัติต่อมู่เฉินเหมือนกับจอมยุทธ์ขั้นหกทั่วไป

ด้วยพลังในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมา บวกกับค่ายกลทรงพลัง แม้แต่จงเถิงก็ยากจะได้เปรียบหากพวกเขาต่อสู้กัน

ก่อนหน้านี้นางหัวเราะเยาะและมองจิ่วโยวด้วยความดูถูก แต่ตอนนี้นางอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ซึ่งจุดนี้รู้ได้จากสายตาเยาะเย้ยเหล่านั้นที่ปรายมองเข้ามา

“ทำไมมู่เฉินถึงทรงพลังเช่นนี้?” จงฮั้วที่พ่ายแพ้ให้กับมู่เฉินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดเช่นกันว่ามู่เฉินพึ่งพาเพียงค่ายกลเพื่อจัดการกับศัตรู แต่ใครจะคิดว่าเมื่อไม่มีการใช้ค่ายกลมู่เฉินก็สามารถเอาชนะลู่สุยแบบดุร้ายยิ่งกว่าอะไร

“ดูเหมือนว่ามีเพียงพี่ใหญ่จงเถิงเท่านั้นที่สามารถจัดการกับเขาได้” จอมยุทธ์อีกคนของเผ่ากระเรียนฟ้าพยักหน้า

หลิ่วชิงพยักหน้าเบาๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะพิจารณาพลังของมู่เฉินพลาดไปเท่านั้น แม้แต่จงเถิงก็ตัดสินอีกฝ่ายผิดไป ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง

ฟิ้ว!

ขณะที่นอกเจดีย์ต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่มู่เฉินนำมา ทันใดนั้นแสงก็กะพริบบนแท่นนอกเจดีย์ ร่างน่าสังเวชปรากฏขึ้น

เมื่อร่างนั้นออกมาก็รีบถอยกลับไปปรากฏตัวขึ้นในกลุ่มอีกาสายฟ้าทันควัน นี่ก็คือลู่สุยที่มีสีหน้าซีดขาว คลื่นหลิงของเขาถดถอยลงอย่างมาก

สายตาโดยรอบยิงเข้าหาในเวลานี้ทันที

ใบหน้าของลู่สุยเขียวคล้ำ สายตาเกลียดชังมองไปที่มู่เฉินที่อยู่บนหน้าจอ ก่อนที่จะหันหัวสาดสายตาดุร้ายใส่จิ่วโยวและมั่วหลิง ที่ข้างๆ พรรคพวกของเขาก็มีท่าทางไม่ดีเช่นกัน

ทว่าจิ่วโยวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น นางเค้นเสียงอย่างเย็นชา “ลูกหมาที่ถูกฟาดยังกล้าที่จะออกมาแยกเขี้ยวอีกเหรอ?”

ตอนนี้ลู่สุยบาดเจ็บสาหัส สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปหมด ส่วนคนที่เหลือก็ไม่มีอะไรต้องกลัว หากพวกเขากล้าที่จะคิดบัญชีกับพวกนาง จิ่วโยวก็ไม่คิดปล่อยพวกเขาไว้เป็นภัยคุกคามในอนาคตหรอก

สายตาแสดงความเกลียดชังของลู่สุยจ้องเขม็งอยู่ที่จิ่วโยว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องถอนสายตาออกไปอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะถอยกลับนั่งลงบนซากปรักหักพังเข้าสมาธิเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

จอมยุทธ์กลุ่มอีกาสายฟ้าก็ปรากฏรอบตัวเขาเพื่อปกป้อง

เมื่อจิ่วโยวเห็นการตอบสนองนั่น นางก็ไม่ได้ใส่ใจกับพวกเขาอีก นางมองไปที่หน้าจออีกครั้งโดยพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างเงาอ่อนเยาว์ มือที่กำแน่นผ่อนคลายลง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับนางที่มู่เฉินจะเอาชนะได้เด็ดขาดแบบนี้ นั่นเป็นเพราะตามการประเมินของนางแม้ว่ามู่เฉินจะยืนยงอยู่ได้ก็เป็นยากที่จะเอาชนะลู่สุยด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นหกและถ้าการต่อสู้ถูกลากไปจนสุดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึง

ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ก็ทำให้นางทั้งประหลาดใจและดีใจ

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินได้รับประโยชน์มหาศาลจากสามชั้นแรกของเจดีย์ฝึกพลังกาย ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถแสดงพลังเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้ได้

“ว่ากันว่าในชั้นสี่มหัศจรรย์กว่านี้มาก หากใครสามารถเข้าไปได้ พวกเขาจะสามารถได้รับผลประโยชน์เกินกว่าสามชั้นแรกมาก…”

จิ่วโยวยิ้มบาง ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่น่ามีปัญหาใดๆ ที่มู่เฉินจะเข้าสู่ชั้นสี่ สำหรับมั่วเฟิงความแข็งแกร่งของเขาเป็นหนึ่งในอันดับต้นของกลุ่มที่เข้าไป ดังนั้นจึงไม่ยากสำหรับเขาที่จะได้หนึ่งในห้าที่นั่งนี้ไปเช่นกัน

ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่เจดีย์ฝึกพลังกายโบราณครั้งนี้เผ่าวิหคโลกันตร์อาจเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บนลานเมฆสายฟ้า

ไม่มีใครตอบคำถามของมู่เฉิน ขณะนี้แม้แต่จอมยุทธ์ทรงอำนาจอย่างหานซันและสีคุนก็ยังรู้สึกหวาดระแวงมู่เฉินอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ไปปะทะกับมนุษย์ผู้นี้

ดังนั้นคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่จึงเงียบลง ก่อนที่จะถอยออกจากรัศมีโดยรอบมู่เฉินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการต่อสู้กับเขา

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็ไม่มีอารมณ์ใดบนใบหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอก คนอื่นๆ เห็นเพียงฉากการต่อสู้ตระการที่เขาเอาชนะลู่สุยได้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าหมัดที่เขาชกออกไปก่อนหน้านี้คือพลังงานส่วนเกินจากสามชั้นแรก

ร่างกายของมู่เฉินก่อนหน้าเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำจนถึงขีดจำกัด หมัดของเขาจึงเท่ากับบีบน้ำออกจนหมด ทำให้ร่างกายที่อัดแน่นกลับสู่สภาพเดิม

ดังนั้นถ้าให้เขาโจมตีแบบนั้นอีกครั้ง พลังก็จะไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนเมื่อครู่แน่นอน

ประสิทธิผลพิเศษชนิดนี้ของการสะสมพลังงานในร่างกายเป็นทักษะที่ได้มาจากกายามังกรหงส์ ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ กลายเป็นไพ่ลับอีกใบหนึ่ง

“คัมภีร์หลงเฟิ่งทรงพลังจริงๆ”

แม้แต่มู่เฉินก็ยังชื่นชมในสิ่งนี้ คัมภีร์หลงเฟิ่งสมแล้วที่เป็นทักษะยอดเยี่ยมแท้จริง จากการประเมินของเขาคัมภีร์นี้ต้องอยู่ในระดับเสินทงแน่นอน ซึ่งไม่ธรรมดาแม้จะอยู่ในกลุ่มวิทยายุทธระดับเสินทงด้วย

มู่เฉินชื่นชมก่อนที่จะใจเย็นลง แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครท้าทายเขา แต่เขาก็ไม่ตั้งใจที่จะท้าทายคนอื่นด้วยเช่นกัน เขายืนนิ่งบนตำแหน่งตนเองรอผลการคัดออก

สำหรับจงเถิง มู่เฉินรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกยุแยงให้ลู่สุยมาปะทะกับเขา แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการจัดการ เขาจึงได้แต่ผลักแผนไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นสายตาคมกล้าของมู่เฉินก็ยังจ้องเขม็งไปที่จงเถิง รอบตัวเต็มไปด้วยคลื่นหลิงราวกับเสือดาวที่กำลังจะจ้องตะครุบเหยื่ออัดแน่นด้วยภัยคุกคาม

เมื่อเห็นท่าทางของมู่เฉิน จงเถิงที่ประจันหน้ากับมั่วเฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจ เขาต้องแยกสมาธิอยู่ตลอดเพื่อจับตามองมู่เฉิน ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวมาประสานพลังกับมั่วเฟิง

ด้วยวิธีนี้สมาธิของจงเถิงจึงค่อนข้างฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาได้แต่กัดฟัน ถอนคลื่นหลิงและถอยออกจากบริเวณของมั่วเฟิง

“พี่มั่วยากสำหรับการต่อสู้ของเราที่จะได้ข้อสรุป ทำไมเราไม่ไปจัดการคนอื่นและรับที่นั่งมาล่ะ?” ขณะที่จงเถิงถอยกลับเสียงก็สะท้อนก้องไปด้วย

มั่วเฟิงจ้องมองจงเถิงอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพยักหน้า นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าหากพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ยืนจ้องหน้ากันก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใด หากเขาร่วมมือกับมู่เฉิน พวกเขาอาจทำให้จงเถิงบ้าดีเดือดขึ้นมา แม้แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคามหาศาลจากการตีโต้

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือการได้ที่นั่งเพื่อเข้าสู่ชั้นสี่

เมื่อจงเถิงเห็นคำตอบของมั่วเฟิงก็รู้สึกโล่งใจในใจ เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วออกจากจุดที่มู่เฉินและมั่วเฟิงอยู่ เขาครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะเลือกปะทะกับคนที่อ่อนแอกว่า

พอมู่เฉินเห็นจงเถิงไปแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป สายตาหันมามองมั่วเฟิงแล้วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแสดงความขอบคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้

สายตาของมั่วเฟิงเป็นมิตรมากขึ้น คิดว่าการที่มู่เฉินเอาชนะลู่สุย ทำให้มั่วเฟิงมองมู่เฉินในฐานะจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ดังนั้นจึงไม่ได้มีท่าทางเฉยเมยเหมือนเมื่อก่อน

มั่วเฟิงพยักหน้าให้มู่เฉิน ก่อนที่จะหันหลังกลับและเริ่มเลือกคู่ต่อสู้ของตนเอง

ครืน!

เมื่อทุกคนเลือกคู่ต่อสู้แล้ว ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็ระเบิดรุนแรงบนลานเมฆสายฟ้า คลื่นกระแทกกวาดออก ทำให้มิติเกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไม่หยุด

บนลานเมฆสายฟ้าพลังงานหลิงกวาดหายนะ มีเพียงตรงมู่เฉินเท่านั้นที่ไม่ถูกรบกวน เนื่องจากไม่มีใครกล้าเหยียบเข้ามาในรัศมีพันจั้ง ยามนี้เขาเหมือนผู้ชมที่ดูการต่อสู้ติดขอบ ในเวลาเดียวกันก็บันทึกกระบวนท่าที่ทรงพลังของบางคนไว้ในสมอง

แม้ว่าในชั้นนี้พวกเขาอาจไม่ได้ประลองกัน แต่ก็ยังมีอีกสองชั้นรอพวกเขาอยู่ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการลดจำนวนลงในชั้นต่อไป?

ดังนั้นถ้ามีโอกาสเขาต้องพยายามจดจำข้อมูลผู้อื่นเก็บไว้

ภายใต้การสังเกตของมู่เฉิน การประลองบนลานเมฆสายฟ้าก็คงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนที่แต่ละคู่จะมาถึงจุดสิ้นสุด ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้

หลังจากมู่เฉินก็เป็นหานซันที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ที่นั่งที่สองไป

จากนั้นมั่วเฟิงและจงเถิงก็คว้าชัยชนะตามมา

ที่นั่งสุดท้ายตกเป็นของสีคุนที่ก่อนหน้านี้เคยแพ้หานซันที่ด้านนอกเจดีย์ ชายนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าตกใจ แม้แต่หานซันยังต้องใช้ทักษะเต็มที่ถึงจะได้รับชัยชนะมา

เมื่อสีคุนได้รับที่นั่งสุดท้ายลานเมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ก็เงียบลงอีกครั้ง ร่างทั้งห้ายืนอยู่ ขณะรัศมีไร้ขอบเขตทั้งห้าสายพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าชนกันเปรี้ยงปร้าง

ทว่าการชนกันก็ดำเนินไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ทั้งห้าจะถอนคลื่นพลังพร้อมกัน พวกเขาเหลือบมองกันและกัน จากนั้นก็ไม่ลังเลทะยานออกไปปรากฏตัวบนเบาะทั้งห้า

สายตาพวกเขาพุ่งตรงไปยังมิติด้านหลังลานเมฆสายฟ้าด้วยความโลภ ตรงนั้นเส้นดาวหางจำนวนมากกวาดผ่านราวกับฝนดาวตก

ในแสงเหล่านั้นแก่นหยดสายฟ้ากำลังกะพริบด้วยความแวววาว


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท