หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1389

ตอนที่ 1389

บนท้องฟ้า

มู่เฉินยืนอยู่พร้อมกับแสงวูบไหวในนัยน์ตา มีชั้นของแสงปกคลุมพื้นผิวทั้งหมดของร่างกายเขาไว้

แม้ว่าจะไม่มีความปั่นป่วนในฟ้าดิน แต่ในช่วงเวลาที่มู่เฉินลืมตาขึ้น ทุกคนก็สัมผัสได้ว่าแรงกดดันจากจอมปีศาจโลหิตที่ปกคลุมขอบฟ้าถูกยับยั้งไว้

แม้ว่าความผันผวนนั้นจะไม่รุนแรงเท่ากับจอมปีศาจโลหิต แต่ก็คล้ายกับเสาที่ตั้งอยู่ระหว่างสวรรค์และโลกปล่อยให้พายุทรงพลังพัดมา

มู่เฉินลดศีรษะลงค่อยๆ กำมือ ขณะนี้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงจำนวนมหาศาลที่พลุ่งพล่านภายในร่างกาย ซึ่งทำให้เลือด-กระดูก-เนื้อของเขาแสดงสัญญาณของการตกผลึก นี่เป็นสัญญาณว่าคลื่นพลังงานมีขนาดใหญ่เกินไปจนร่างกายของมู่เฉินไม่สามารถบรรจุไว้ทั้งหมด

“พลังแข็งแกร่งอะไรอย่างนี้…”

มู่เฉินชื่นชมในใจ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าขั้นสอง-สามรวมของวิชาสามพิสุทธิ์จะทรงพลังขนาดนี้ เมื่อรวมร่างรองเข้ากับร่างหลักความแข็งแกร่งของเขาก็พุ่งขึ้นไปสู่อีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ถ้าเขาต่อสู้กับผู้บัญชาการใหญ่ปีศาจโลหิตอีกครั้ง เขาคงฆ่าอีกฝ่ายได้ด้วยหมัดเดียว

ขณะที่คลื่นหลิงไร้ขอบเขตระเบิดออกจากร่างกายราวกับภูเขาไฟ มู่เฉินก็เงยหน้าขึ้นจับจ้องไปที่จอมปีศาจโลหิต ไฟแห่งการต่อสู้พวยพุ่งในนัยน์ตา อึดใจต่อมาเขาก็กระทืบเท้า มิติพังทลายลง ร่างเขาราวกับภูตผีไปปรากฏตัวที่ด้านหลังจอมปีศาจโลหิต

เขากางมือออก จากนั้นก็ตบลง ตอนนี้ฝ่ามือราวกับหยกเปล่งแสงระยิบระยับดูเหมือนจะบรรจุท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

ฉับพลันพื้นที่ในรัศมีหมื่นจั้งก็พังทลายลง ฝ่ามือขนาดใหญ่ประทับลงบนพื้น

พลังที่อยู่เบื้องหลังฝ่ามือน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ

ทว่าเมื่อฝ่ามือบีบกดลงมา จอมปีศาจโลหิตก็ยิ้มตอบกลับไปด้วยฝ่ามือ ฝ่ามือของเขาเป็นสีแดงเข้ม ขณะที่ซัดออกไปก็ส่งกลิ่นคาวเลือดบนท้องฟ้า

ปัง!

ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันที่เบื้องบน จังหวะที่สัมผัสกันแสงสีแดงเข้มและแสงสีขาวก็ระเบิดออกมาขณะที่ยึดครองท้องฟ้า ทันใดนั้นขอบฟ้าทั้งหมดถูกแยกออกเป็นสองสี…

เมื่อพลังงานมหาศาลสองสายปะทุออกมา มู่เฉินและจอมปีศาจโลหิตก็ร่างสั่นสะท้าน ก่อนที่มู่เฉินจะถลาออกไปใน ขณะที่จอมปีศาจโลหิตตัวสั่นถอยหลังไปสิบกว่าก้าว

จอมปีศาจโลหิตสลายคลื่นกระแทกได้ทันที สายตาจดจ้องไปที่มู่เฉินด้วยรอยยิ้มอำมหิต “ไม่เลวแกไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลย แกมีพลังที่จะเผชิญหน้ากับข้าจริงๆ”

“มีเพียงพลังที่ทรงศักยภาพแบบนี้เท่านั้นจึงจะสามารถปรับแต่งแก่นโลหิตของแกให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น หลังจากที่ข้ากลืนกินมันเข้าไป ข้าก็จะสามารถฟื้นฟูจุดบกพร่องที่เกิดจากการกำเนิดที่เร่งรีบเกินไปได้”

“ฮ่าๆๆๆ!”

เสียงหัวเราะของจอมปีศาจโลหิตดังก้องไปทั่วขอบฟ้า ก่อนที่เขาจะอ้าปาก แม่น้ำสีแดงเข้มพุ่งหวือออกมา แม่น้ำทั้งสายส่งกลิ่นเหม็นเลือดราวกับว่าอะไรก็ตามที่ถูกกวาดเข้าไปจะละลายเป็นน้ำเลือด

“ในเมื่อเหยื่อสมบูรณ์แบบแล้ว ก็ถึงเวลาที่ข้าจะเก็บเกี่ยว!”

“แม่น้ำโลหิตกร่อนวิญญาณ!”

ขณะที่จอมปีศาจโลหิตหัวเราะ แม่น้ำเลือดก็ไหลบ่าไปหามู่เฉิน

เมื่อเห็นแม่น้ำเลือดพุ่งลงมา มู่เฉินก็หดดวงตา เขาสัมผัสได้ถึงพลังกัดกร่อนที่น่าสะพรึงกลัวที่มีอยู่ภายใน ถ้าเขาถูกกวาดเข้าละก็งานนี้บาดเจ็บหนักแน่

ดังนั้นเขาไม่กล้าที่จะประมาท มือสะบัดออก แสงหลิงไร้ขอบเขตควบแน่นอยู่เบื้องหลังก่อเป็นร่างเทพสุริยะนิรันดร์ เปรียบเทียบกับก่อนหน้าร่างเทพสุริยะนิรันดร์แข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงแค่ขยายใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่ความเปล่งปลั่งที่มียังทรงพลังมากขึ้นอีกด้วย คล้ายกับดวงอาทิตย์สีม่วงทองอย่างไรอย่างนั้น

มือของมู่เฉินประสานเข้าด้วยกัน รหัสเทพอมตะสีม่วงทองก็ควบแน่นเร็วจี๋จากร่างเทพสุริยะนิรันดร์ เพียงไม่กี่ลมหายใจก็มีถึงสามร้อยลายอยู่บนท้องฟ้า

การยกระดับเข้าสู่ขั้นสามรวม ทำให้จำนวนรหัสเทพอมตะที่เขาสามารถควบแน่นได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ฮึ่ม ฮึ่ม!

รหัสเทพอมตะสามร้อยลายทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า รวมตัวกันเหนือมู่เฉินกลายเป็นน้ำเต้าสีม่วงทองขนาดเท่าฝ่ามือ

“น้ำเต้าเทพ จองจำ!”

มู่เฉินวาดตราประทับด้วยมือเดียวเปล่งเสียงร้องเย็นชา น้ำเต้าเอียงลงแรงดูดทรงพลังพุ่งออกมา

แม่น้ำเลือดสั่นสะท้านชั่วครู่เมื่อเจอแรงดูดก่อนที่จะถูกดึงเข้าไปในน้ำเต้า

เมื่อจอมปีศาจโลหิตเห็นว่าแม่น้ำเลือดถูกดูดเข้าไปในน้ำเต้า แสงสีแดงเข้มก็วาบในดวงตาขณะที่แค่นเสียงขึ้นจมูก เตรียมเร้าแม่น้ำให้ทำลายล้างเพื่อระเบิดน้ำเต้าจากภายใน

ทว่าขณะที่เขาคิดจะควบคุมแม่น้ำเลือดเพื่อสร้างความหายนะใหม่ มู่เฉินก็สะบัดแขนเสื้อ น้ำเต้าทะลุผ่านมิติ พริบตาก็หายสาบสูญไป

น้ำเต้าหายไปพร้อมกับแม่น้ำเลือด มู่เฉินและจอมปีศาจโลหิตเสียการเชื่อมต่อทั้งคู่…

“ฉลาดนัก”

จอมปีศาจโลหิตหรี่ตาลง แสงสีแดงเข้มกะพริบอยู่ภายใน เขาจ้องมองไปที่มู่เฉินพลางหัวเราะเยาะ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะใช้กระบวนท่านี้เพื่อแก้ไขแม่น้ำเลือดของเขา

“ขอบคุณสำหรับคำชม”

มู่เฉินไม่แสดงสีหน้าใด แม้ว่าเขาจะสามารถแก้ไขการโจมตีของจอมปีศาจโลหิตได้ สายตาเขาก็ยังเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดรุนแรง แม้ว่าเขาจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับจอมปีศาจโลหิตได้ด้วยขั้นสามรวม แต่เขาก็รู้ดีว่านั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะเอาชนะอีกฝ่ายได้

นักรบราชันปีศาจแท้จริงทรงพลังเกินไป

“ขอข้าดูว่าหนูอย่างแกจะดิ้นรนได้อีกสักกี่ครั้ง”

จอมปีศาจโลหิตเผยให้เห็นรอยยิ้มน่าขนพองสยองเกล้า ก่อนที่จะกัดนิ้วโบกไปมาบนท้องฟ้า ไม่กี่ลมหายใจต่อมาอักขระก็วาดขึ้นตรงหน้าเขา

อักขระบิดตัวไปมาอย่างต่อเนื่อง ปล่อยรัศมีลางร้ายออกมา ดูราวกับมีภูตผีปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนพร้อมเสียงกรีดร้องอันแหลมคมดังก้องจากมัน

เมื่อมองไปที่อักขระโลหิตมู่เฉินก็หดดวงตา เขารู้สึกได้ถึงอันตรายร้ายแรง

จอมปีศาจโลหิตแสยะยิ้มไม่แยแส ขณะที่พลิกนิ้วอักขระก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า

ในเวลาเพียงสิบลมหายใจสั้นๆ ทุกคนก็สามารถเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีมืดมนพร้อมกับเมฆสีแดงเข้มขนาดใหญ่รวมตัวกันข้ามขอบฟ้า ล้อมรอบพื้นที่ในรัศมีล้านลี้เอาไว้

เมฆสีแดงเข้มหนาแน่นสั่นสะเทือนพร้อมกับฟ้าร้องดังก้องไปทั่ว สะท้อนทั่วขอบฟ้า

ทั้งสวรรค์และโลกโยกคลอน

ร่างกายของมู่เฉินเกร็งขึ้น ความหนาวเหน็บห่อหุ้มตัวไว้ ทำให้ใบหน้าเครียดอย่างที่สุด

จอมปีศาจโลหิตปรายตามองไปที่มู่เฉินราวกับว่ากำลังมองมด เขาหายใจเข้าลึกมือค่อยๆ ประสานเข้าด้วยกันพร้อมกับเสียงไม่แยแสดังก้องไปทั่ว

“สายฟ้าโลหิตล้ำลึก!”

ครืน!

ทันใดนั้นสายฟ้าก็ระเบิดออกมาจากภายในก้อนเมฆสีแดงเข้ม อึดใจถัดมาสายฟ้าสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้าไปหามู่เฉิน

สายฟ้าสีแดงเข้มทุกสายมีพลังทำลายล้าง เมื่อฟาดลงมาพื้นดินก็โยกคลอน

มู่เฉินหดดวงตาไม่กล้าประมาท พร้อมกับเสียงคำรามร่างเทพสุริยะนิรันดร์ที่อยู่ข้างหลังก็ระเบิดรัศมีทรงกลดออกมา กลายเป็นดอกบัวขนาดใหญ่

“ดอกบัวอมตะ!”

เสียงมู่เฉินดังขึ้น ดอกบัวก็ปิดลงและห่อหุ้มร่างเขาไว้

เผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัวของจอมปีศาจโลหิต มู่เฉินก็นำการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาโดยไม่ลังเลใดๆ

ตู้ม ตู้ม!

สายฟ้าสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาจากท้องฟ้า กระแทกกับดอกบัวสีทองจังใหญ่

เมื่อไป๋ซู่ซู่และชาวโลกเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าก็ฉาบด้วยความตกใจหวาดกลัว ขณะมองไปที่สายฟ้าทำลายล้าง สายฟ้าทุกสายที่มีพลังในการทำลายสวรรค์และโลกทะยานเข้าไปหามู่เฉิน ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะสามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้หรือไม่…

“ท่านเทพ…”

ไป๋ซู่ซู่กำมือแน่นพลางกัดริมฝีปากขณะมองไปทางมู่เฉิน นางรู้ดีว่าถ้าดอกบัวแตกสลาย แม้แต่มู่เฉินก็จะถูกสายฟ้าทำลาย

ครืนๆๆๆ

สายฟ้าวาวแสงนานเกือบครึ่งก้านธูป ก่อนที่เมฆสีแดงเข้มจะเริ่มสลายไป

สายตาทุกคู่รวมกันอยู่ตรงตำแหน่งที่สายฟ้าหายไป…

เมื่อมันสลายไปก็เห็นดอกบัวปกคลุมไปด้วยรอยดำไหม้ รัศมีทรงกลดจางหายไปแล้วในตอนนี้

แกร็ก

จู่ๆ ก็เกิดรอยแตกปรากฏขึ้นบนดอกบัวก่อนที่จะแตกออก…

จอมปีศาจโลหิตหรี่ตามองไปที่ดอกบัว ก่อนที่ดวงตาจะหดเกร็งเนื่องจากเขาไม่พบร่างเงาของมู่เฉิน

“กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบ?”

คิ้วของจอมปีศาจโลหิตเลิกขึ้น

ตู้ม!

แต่ขณะนั้นเองเขาก็จับอะไรบางอย่างในความรู้สึกพลางเงยหน้า เขาเห็นเมฆบนท้องฟ้าถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ขณะที่เจดีย์ผลึกแก้วขนาดใหญ่พุ่งลงมาด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อก่อนที่จะห่อหุ้มเขาไว้…

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler บางส่วนของนิยาย

บทนำ

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป

‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้

แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์

แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว

ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ

เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง?

ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน…

เรื่องย่อ

เมื่อคำพูดของมู่เฉินกระจายออกไป ไม่เพียงแต่จะไม่มีการตอบสนอง แม้แต่ด้านนอกเจดีย์ก็ถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศราวกับป่าช้า…

ทุกคนตกตะลึงไปกับฉากนี้ พวกเขาจ้องมองจุดที่ลู่สุยหายตัวไป ราวกับว่ายังไม่สามารถฟื้นจากอาการตะลึงงันที่เกิดขึ้นได้

ก่อนหน้าเมื่อลู่สุยออกกระบวนท่าที่น่าสะพรึง ผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ถูกกำหนดแล้ว ทว่าพวกเขาไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะพลิกสถานการณ์ได้อีกครั้ง เตะลู่สุยที่เหมือนจะคว้าชัยชนะออกไป

ทุกคนตะลึงไปพักใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะหลุดออกจากอาการได้ สายตาเคร่งเครียดลง การประลองกันครั้งนี้มู่เฉินไม่ได้ใช้ค่ายกล แต่เขาก็สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดอย่างลู่สุยได้ด้วยความแข็งแกร่งที่อยู่ในขั้นหกเท่านั้น แม้ว่าจะมีผลจากลู่สุยประมาทเองในตอนแรก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามู่เฉินน่ากลัวแค่ไหน

พลังเช่นนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์อันดับต้นๆ ในเจดีย์ฝึกพลังกายได้เลยทีเดียว

ทางฝั่งกลุ่มกระเรียนฟ้า ใบหน้าของหลิ่วชิงกลายเป็นเขียวสลับขาว นางมองไปที่ร่างสูงโปร่งบนหน้าจอ กลืนน้ำลายเหนียวหนืด ความกลัวปรากฏในดวงตาของนางเป็นครั้งแรก

มาถึงจุดนี้นางคงโง่แน่ถ้ายังคิดปฏิบัติต่อมู่เฉินเหมือนกับจอมยุทธ์ขั้นหกทั่วไป

ด้วยพลังในการต่อสู้ที่เขาแสดงออกมา บวกกับค่ายกลทรงพลัง แม้แต่จงเถิงก็ยากจะได้เปรียบหากพวกเขาต่อสู้กัน

ก่อนหน้านี้นางหัวเราะเยาะและมองจิ่วโยวด้วยความดูถูก แต่ตอนนี้นางอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ซึ่งจุดนี้รู้ได้จากสายตาเยาะเย้ยเหล่านั้นที่ปรายมองเข้ามา

“ทำไมมู่เฉินถึงทรงพลังเช่นนี้?” จงฮั้วที่พ่ายแพ้ให้กับมู่เฉินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดเช่นกันว่ามู่เฉินพึ่งพาเพียงค่ายกลเพื่อจัดการกับศัตรู แต่ใครจะคิดว่าเมื่อไม่มีการใช้ค่ายกลมู่เฉินก็สามารถเอาชนะลู่สุยแบบดุร้ายยิ่งกว่าอะไร

“ดูเหมือนว่ามีเพียงพี่ใหญ่จงเถิงเท่านั้นที่สามารถจัดการกับเขาได้” จอมยุทธ์อีกคนของเผ่ากระเรียนฟ้าพยักหน้า

หลิ่วชิงพยักหน้าเบาๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะพิจารณาพลังของมู่เฉินพลาดไปเท่านั้น แม้แต่จงเถิงก็ตัดสินอีกฝ่ายผิดไป ชายคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง

ฟิ้ว!

ขณะที่นอกเจดีย์ต่างตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่มู่เฉินนำมา ทันใดนั้นแสงก็กะพริบบนแท่นนอกเจดีย์ ร่างน่าสังเวชปรากฏขึ้น

เมื่อร่างนั้นออกมาก็รีบถอยกลับไปปรากฏตัวขึ้นในกลุ่มอีกาสายฟ้าทันควัน นี่ก็คือลู่สุยที่มีสีหน้าซีดขาว คลื่นหลิงของเขาถดถอยลงอย่างมาก

สายตาโดยรอบยิงเข้าหาในเวลานี้ทันที

ใบหน้าของลู่สุยเขียวคล้ำ สายตาเกลียดชังมองไปที่มู่เฉินที่อยู่บนหน้าจอ ก่อนที่จะหันหัวสาดสายตาดุร้ายใส่จิ่วโยวและมั่วหลิง ที่ข้างๆ พรรคพวกของเขาก็มีท่าทางไม่ดีเช่นกัน

ทว่าจิ่วโยวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น นางเค้นเสียงอย่างเย็นชา “ลูกหมาที่ถูกฟาดยังกล้าที่จะออกมาแยกเขี้ยวอีกเหรอ?”

ตอนนี้ลู่สุยบาดเจ็บสาหัส สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปหมด ส่วนคนที่เหลือก็ไม่มีอะไรต้องกลัว หากพวกเขากล้าที่จะคิดบัญชีกับพวกนาง จิ่วโยวก็ไม่คิดปล่อยพวกเขาไว้เป็นภัยคุกคามในอนาคตหรอก

สายตาแสดงความเกลียดชังของลู่สุยจ้องเขม็งอยู่ที่จิ่วโยว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องถอนสายตาออกไปอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะถอยกลับนั่งลงบนซากปรักหักพังเข้าสมาธิเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

จอมยุทธ์กลุ่มอีกาสายฟ้าก็ปรากฏรอบตัวเขาเพื่อปกป้อง

เมื่อจิ่วโยวเห็นการตอบสนองนั่น นางก็ไม่ได้ใส่ใจกับพวกเขาอีก นางมองไปที่หน้าจออีกครั้งโดยพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างเงาอ่อนเยาว์ มือที่กำแน่นผ่อนคลายลง

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับนางที่มู่เฉินจะเอาชนะได้เด็ดขาดแบบนี้ นั่นเป็นเพราะตามการประเมินของนางแม้ว่ามู่เฉินจะยืนยงอยู่ได้ก็เป็นยากที่จะเอาชนะลู่สุยด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นหกและถ้าการต่อสู้ถูกลากไปจนสุดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึง

ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ก็ทำให้นางทั้งประหลาดใจและดีใจ

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินได้รับประโยชน์มหาศาลจากสามชั้นแรกของเจดีย์ฝึกพลังกาย ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถแสดงพลังเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้ได้

“ว่ากันว่าในชั้นสี่มหัศจรรย์กว่านี้มาก หากใครสามารถเข้าไปได้ พวกเขาจะสามารถได้รับผลประโยชน์เกินกว่าสามชั้นแรกมาก…”

จิ่วโยวยิ้มบาง ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่น่ามีปัญหาใดๆ ที่มู่เฉินจะเข้าสู่ชั้นสี่ สำหรับมั่วเฟิงความแข็งแกร่งของเขาเป็นหนึ่งในอันดับต้นของกลุ่มที่เข้าไป ดังนั้นจึงไม่ยากสำหรับเขาที่จะได้หนึ่งในห้าที่นั่งนี้ไปเช่นกัน

ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่เจดีย์ฝึกพลังกายโบราณครั้งนี้เผ่าวิหคโลกันตร์อาจเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บนลานเมฆสายฟ้า

ไม่มีใครตอบคำถามของมู่เฉิน ขณะนี้แม้แต่จอมยุทธ์ทรงอำนาจอย่างหานซันและสีคุนก็ยังรู้สึกหวาดระแวงมู่เฉินอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ไปปะทะกับมนุษย์ผู้นี้

ดังนั้นคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่จึงเงียบลง ก่อนที่จะถอยออกจากรัศมีโดยรอบมู่เฉินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการต่อสู้กับเขา

เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็ไม่มีอารมณ์ใดบนใบหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอก คนอื่นๆ เห็นเพียงฉากการต่อสู้ตระการที่เขาเอาชนะลู่สุยได้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าหมัดที่เขาชกออกไปก่อนหน้านี้คือพลังงานส่วนเกินจากสามชั้นแรก

ร่างกายของมู่เฉินก่อนหน้าเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำจนถึงขีดจำกัด หมัดของเขาจึงเท่ากับบีบน้ำออกจนหมด ทำให้ร่างกายที่อัดแน่นกลับสู่สภาพเดิม

ดังนั้นถ้าให้เขาโจมตีแบบนั้นอีกครั้ง พลังก็จะไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนเมื่อครู่แน่นอน

ประสิทธิผลพิเศษชนิดนี้ของการสะสมพลังงานในร่างกายเป็นทักษะที่ได้มาจากกายามังกรหงส์ ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ กลายเป็นไพ่ลับอีกใบหนึ่ง

“คัมภีร์หลงเฟิ่งทรงพลังจริงๆ”

แม้แต่มู่เฉินก็ยังชื่นชมในสิ่งนี้ คัมภีร์หลงเฟิ่งสมแล้วที่เป็นทักษะยอดเยี่ยมแท้จริง จากการประเมินของเขาคัมภีร์นี้ต้องอยู่ในระดับเสินทงแน่นอน ซึ่งไม่ธรรมดาแม้จะอยู่ในกลุ่มวิทยายุทธระดับเสินทงด้วย

มู่เฉินชื่นชมก่อนที่จะใจเย็นลง แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครท้าทายเขา แต่เขาก็ไม่ตั้งใจที่จะท้าทายคนอื่นด้วยเช่นกัน เขายืนนิ่งบนตำแหน่งตนเองรอผลการคัดออก

สำหรับจงเถิง มู่เฉินรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกยุแยงให้ลู่สุยมาปะทะกับเขา แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการจัดการ เขาจึงได้แต่ผลักแผนไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นสายตาคมกล้าของมู่เฉินก็ยังจ้องเขม็งไปที่จงเถิง รอบตัวเต็มไปด้วยคลื่นหลิงราวกับเสือดาวที่กำลังจะจ้องตะครุบเหยื่ออัดแน่นด้วยภัยคุกคาม

เมื่อเห็นท่าทางของมู่เฉิน จงเถิงที่ประจันหน้ากับมั่วเฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจ เขาต้องแยกสมาธิอยู่ตลอดเพื่อจับตามองมู่เฉิน ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวมาประสานพลังกับมั่วเฟิง

ด้วยวิธีนี้สมาธิของจงเถิงจึงค่อนข้างฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาได้แต่กัดฟัน ถอนคลื่นหลิงและถอยออกจากบริเวณของมั่วเฟิง

“พี่มั่วยากสำหรับการต่อสู้ของเราที่จะได้ข้อสรุป ทำไมเราไม่ไปจัดการคนอื่นและรับที่นั่งมาล่ะ?” ขณะที่จงเถิงถอยกลับเสียงก็สะท้อนก้องไปด้วย

มั่วเฟิงจ้องมองจงเถิงอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพยักหน้า นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าหากพวกเขายังอยู่ในสถานการณ์ยืนจ้องหน้ากันก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใด หากเขาร่วมมือกับมู่เฉิน พวกเขาอาจทำให้จงเถิงบ้าดีเดือดขึ้นมา แม้แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคามหาศาลจากการตีโต้

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือการได้ที่นั่งเพื่อเข้าสู่ชั้นสี่

เมื่อจงเถิงเห็นคำตอบของมั่วเฟิงก็รู้สึกโล่งใจในใจ เขาถอยกลับอย่างรวดเร็วออกจากจุดที่มู่เฉินและมั่วเฟิงอยู่ เขาครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะเลือกปะทะกับคนที่อ่อนแอกว่า

พอมู่เฉินเห็นจงเถิงไปแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป สายตาหันมามองมั่วเฟิงแล้วก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแสดงความขอบคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้

สายตาของมั่วเฟิงเป็นมิตรมากขึ้น คิดว่าการที่มู่เฉินเอาชนะลู่สุย ทำให้มั่วเฟิงมองมู่เฉินในฐานะจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ดังนั้นจึงไม่ได้มีท่าทางเฉยเมยเหมือนเมื่อก่อน

มั่วเฟิงพยักหน้าให้มู่เฉิน ก่อนที่จะหันหลังกลับและเริ่มเลือกคู่ต่อสู้ของตนเอง

ครืน!

เมื่อทุกคนเลือกคู่ต่อสู้แล้ว ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็ระเบิดรุนแรงบนลานเมฆสายฟ้า คลื่นกระแทกกวาดออก ทำให้มิติเกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไม่หยุด

บนลานเมฆสายฟ้าพลังงานหลิงกวาดหายนะ มีเพียงตรงมู่เฉินเท่านั้นที่ไม่ถูกรบกวน เนื่องจากไม่มีใครกล้าเหยียบเข้ามาในรัศมีพันจั้ง ยามนี้เขาเหมือนผู้ชมที่ดูการต่อสู้ติดขอบ ในเวลาเดียวกันก็บันทึกกระบวนท่าที่ทรงพลังของบางคนไว้ในสมอง

แม้ว่าในชั้นนี้พวกเขาอาจไม่ได้ประลองกัน แต่ก็ยังมีอีกสองชั้นรอพวกเขาอยู่ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการลดจำนวนลงในชั้นต่อไป?

ดังนั้นถ้ามีโอกาสเขาต้องพยายามจดจำข้อมูลผู้อื่นเก็บไว้

ภายใต้การสังเกตของมู่เฉิน การประลองบนลานเมฆสายฟ้าก็คงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนที่แต่ละคู่จะมาถึงจุดสิ้นสุด ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้

หลังจากมู่เฉินก็เป็นหานซันที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ที่นั่งที่สองไป

จากนั้นมั่วเฟิงและจงเถิงก็คว้าชัยชนะตามมา

ที่นั่งสุดท้ายตกเป็นของสีคุนที่ก่อนหน้านี้เคยแพ้หานซันที่ด้านนอกเจดีย์ ชายนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าตกใจ แม้แต่หานซันยังต้องใช้ทักษะเต็มที่ถึงจะได้รับชัยชนะมา

เมื่อสีคุนได้รับที่นั่งสุดท้ายลานเมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ก็เงียบลงอีกครั้ง ร่างทั้งห้ายืนอยู่ ขณะรัศมีไร้ขอบเขตทั้งห้าสายพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าชนกันเปรี้ยงปร้าง

ทว่าการชนกันก็ดำเนินไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ทั้งห้าจะถอนคลื่นพลังพร้อมกัน พวกเขาเหลือบมองกันและกัน จากนั้นก็ไม่ลังเลทะยานออกไปปรากฏตัวบนเบาะทั้งห้า

สายตาพวกเขาพุ่งตรงไปยังมิติด้านหลังลานเมฆสายฟ้าด้วยความโลภ ตรงนั้นเส้นดาวหางจำนวนมากกวาดผ่านราวกับฝนดาวตก

ในแสงเหล่านั้นแก่นหยดสายฟ้ากำลังกะพริบด้วยความแวววาว


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท