คฤหาสน์เงียบสงบทางตะวันตกของเมืองวั้นกู่
แม้ว่าเมืองวั้นกู่จะเต็มไปด้วยผู้คน แต่คฤหาสน์แห่งนี้มีแต่ความสุขสงบไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
นั่นเป็นเพราะที่นี่คือที่พักของเผ่าฝูถู
เมื่อมู่เฉินมาถึงที่นี่ ผู้คุ้มกันที่จำเขาได้ก็ก้าวขึ้นมา “นายน้อยมู่เฉิน ผู้อาวุโสใหญ่รออยู่ที่คฤหาสน์แล้วขอรับ”
เนื่องจากความปั่นป่วนที่มู่เฉินสร้างขึ้นในเผ่าฝูถู ทุกคนแทบจำเขาได้หมด บวกกับการที่ชิงเหยี่ยนจิ้งขึ้นดำรงผู้อาวุโสใหญ่และควบคุมอำนาจสูงสุดในเผ่า ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าที่จะดูหมิ่นบุตรชายของผู้อาวุโสใหญ่
“ขอบคุณ”
มู่เฉินพยักหน้า แม้ว่าเขาจะไม่สนใจสถานะนายน้อยของเผ่าฝูถู แต่เขาก็ขี้เกียจแก้ไขคำพูด เขาเข้าไปในคฤหาสน์ เมื่อผ่านลานบ้านก็เห็นชิงเหยี่ยนจิ้งที่ด้านหน้าโถง
“ท่านแม่”
มู่เฉินเร่งฝีเท้าพลางยิ้มเผล่
“เจ้าหนูน้อย เพิ่งกลับไปก็ทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตไปทั่วยุทธภพอีก” ชิงเหยี่ยนจิ้งบ่นขณะลูบศีรษะมู่เฉินอย่างรักใคร่
ท่าทางนางจะได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มู่เฉินต่อสู้กับหวงเฉวียนซวนจือและจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนทั้งห้าคน
“ช่วยไม่ได้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้นี่น่า” มู่เฉินส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่จะยิ้ม “ตาแก่ไม่มาด้วยเหรอ?”
พอได้ยินคำพูดของลูกชาย สีหน้าชิงเหยี่ยนจิ้งก็เคร่งเครียดลง “ที่นี่อันตราย ข้าจะให้เขามาด้วยได้ยังไง?”
ขณะที่พูดนางก็จ้องไปที่มู่เฉิน “เฉินเอ๋อ เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการต่อสู้เพื่อร่างมหาเทพนิรันดร์?”
ใบหน้าของมู่เฉินฉายความจริงจัง เขาพยักหน้าแน่วแน่ “ท่านแม่ ข้าทำงานหนักมาหลายปีเพื่อให้ได้ร่างมหาเทพนิรันดร์ ดังนั้นข้าจะยอมแพ้กับโอกาสนี้ไม่ได้”
นี่เป็นเส้นทางสู่ระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งที่เขาเลือก ถ้าไม่ได้รับร่างมหาเทพนิรันดร์ ความพยายามทั้งหมดก็จะสลายเป็นอากาศธาตุ เขาจะต้องใช้เวลาและพลังงานมากขึ้นในเส้นทางอนาคต
ดังนั้นร่างมหาเทพนิรันดร์จะเป็นเส้นทางไปสู่ระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง
พอมองท่าทางตั้งใจของมู่เฉิน ชิงเหยี่ยนจิ้งก็พยักหน้าและยิ้ม “ในเมื่อเป็นความปรารถนาของลูก แม่ก็จะสนับสนุนเต็มที่ ไม่ต้องห่วง”
“ขอบคุณท่านแม่”
มู่เฉินรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เขารู้ดีว่าการได้ร่างมหาเทพนิรันดร์ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จ เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับเผ่าหมัวเฮอ
เผ่าหมัวเฮอคิดไปเองแล้วว่าร่างมหาเทพนิรันดร์เป็นของพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเทพจักรพรรดินิรันดร์วางเวลาเรื่องงานชุมนุมนิรันดร์เอาไว้ พวกเขาคงไม่ยอมให้ใครมาลองและคว้าเอาไป
ดังนั้นถ้าชิงเหยี่ยนจิ้งสนับสนุนเขา ก็หมายความว่าต้องปะทะกับเผ่าหมัวเฮอ ซึ่งจะทำให้เกิดศึกใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
“เผ่าหมัวเฮอมีรากฐานทรงพลัง ดังนั้นข้าจึงได้เชิญผู้ช่วยมาให้เจ้าด้วย” ชิงเหยี่ยนจิ้งยิ้มขณะที่ชี้มือไปทางหนึ่ง
พอมองตามไปมู่เฉินก็อึ้งไป ชายชรากำลังใช้จอบขุดดินทำสวน
เมื่อเห็นใบหน้าของชายชราคนนั้น เขาก็ร้องอุทานว่า “ฝูถูเฉวียน?”
ชายชราคนนี้เป็นอดีตผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าฝูถู—ฝูถูเฉวียน
มู่เฉินไม่คิดว่าชิงเหยี่ยนจิ้งจะเชิญเขามา
ตอนนี้ฝูถูเฉวียนเงยหน้าขึ้นเดินเข้ามาพลางกวาดสายตามองมู่เฉินก่อนจะเค้นเสียงขึ้นว่า “เจ้าเด็กเหลือขอนี่ได้รับร่างมหาเทพนิรันดร์เหรอ? ข้าไม่เชื่อเลย หมัวเฮอโยว เยี่ยฉิง ทั่วป๋าชางและซื่อหลัวไม่ใช่พวกจัดการได้ง่ายๆ”
ชิงเหยี่ยนจิ้งยิ้มตอบว่า “ตาเฒ่านี่เป็นเรื่องของเฉินเอ๋อ เรามีหน้าที่แค่ปกป้องเขาหากร่างมหาเทพนิรันดร์ยอมรับเขา”
ลังเลครู่หนึ่งฝูถูเฉวียนก็ตอบว่า “ข้าช่วยได้ แต่เจ้าก็รู้เงื่อนไขของข้า”
“เงื่อนไขอะไร?” มู่เฉินพูดแทรกขณะมองไปที่ฝูถูเฉวียนด้วยความระแวง ตาแก่คนนี้ทำให้เขาและมารดาต้องแยกจากกัน เขาเพิ่งจะแก้ไขปัญหานี้ได้ อย่าได้สร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีกเลย
ชิงเหยี่ยนจิ้งตอบแทนว่า “เงื่อนไขก็คือให้เจ้าคารวะบรรพบุรุษและดำรงตำแหน่งประมุขเผ่า หากเจ้าได้รับการยอมรับจากร่างมหาเทพนิรันดร์”
เมื่อได้ยินคำพูดของมารดา มู่เฉินก็อดเยาะเย้ยไม่ได้ “ท่านผู้เฒ่าไม่ได้เรียกข้าว่าเป็นตัวกาลกิณีรึ? ทำไมตอนนี้กลับจะให้ข้ายอมรับตัวตนว่าเป็นสมาชิกเผ่าฝูถูล่ะ?”
ริมฝีปากของฝูถูเฉวียนกระตุก ใบหน้ากลายเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ทว่ามู่เฉินก็ไม่อยากแกล้งคนแก่มากไป เขาหุบรอยยิ้มเยาะเย้ย ขมวดคิ้วเข้าหากัน “ข้าไม่สนใจตำแหน่งประมุขเผ่าฝูถู ให้คนอื่นเป็นแทนไปเถอะ?”
“ในเผ่าตอนนี้เจ้าเป็นคนเดียวที่มีโอกาสบรรลุระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง” ชิงเหยี่ยนจิ้งประกาศอย่างภาคภูมิใจ
คำพูดของมารดาทำให้มู่เฉินปวดหัวจี๊ด แค่ตำหนักมู่ก็ทำให้เขาลำบากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงพวกเผ่าโบราณเลย
“งั้นอย่าให้เขาช่วยเลย ข้าทำหน้าหนาส่งข่าวขอร้องท่านเซียวเหยียนและท่านหลินต้งให้มาช่วยแทน” มู่เฉินเบ้ริมฝีปาก
“หึ ข้ากลัวว่าคราวนี้เจ้าจะเชิญพวกเขาไม่ได้” ฝูถูเฉวียนตอกกลับ ท่าทางไม่พอใจอย่างยิ่ง ในเผ่าตระกูลมั่วและเฉวียนโหยหาตำแหน่งประมุข แต่ไอ้เด็กบ้าคนนี้ดันปฏิเสธ
“ทำไม?” มู่เฉินถามอย่างตกใจ
กระทั่งท่าทางของชิงเหยี่ยนจิ้งยังดูเคร่งขรึมลง “มีการเคลื่อนไหวจากเผ่าปีศาจ แคว้นหวู่จิ้งฮั่วและแคว้นหวูตั้งอยู่ที่ชายแดนของมหาพันภพ ดังนั้นทั้งสองต้องตรึงกำลังไว้”
ดวงตาของมู่เฉินเย็นเยือกลงหลายส่วน เผ่าปีศาจเป็นศัตรูตัวฉกาจของมหาพันภพ เมื่อเทียบกับสิ่งนั้นความขัดแย้งอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรเลย
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาก็ขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสทั้งสองคนไม่ได้แล้ว
“เฉินเอ๋อ แม่รู้ว่าเจ้าโกรธเผ่าฝูถู แต่เจ้าปฏิเสธสายเลือดที่กำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายตัวเองไม่ได้ นอกจากนี้เจ้ายอมทนเห็นแม่รับหน้าที่ไว้คนเดียวอย่างทุกข์ระทมเหรอ” ชิงเหยี่ยนจิ้งจับมือมู่เฉินพร้อมกับดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดง
เมื่อเห็นการแสดงของชิงเหยี่ยนจิ้ง มู่เฉินก็ทำได้เพียงยกมือยอมแพ้พร้อมกับยิ้มขมขื่น “ท่านแม่ ข้ายอมแพ้ ข้าจะยอมรับคำขอของท่าน… ถ้าข้าได้รับร่างมหาเทพนิรันดร์มาจริงๆ ข้าเป็นประมุขเผ่าให้ก็ได้”
“เฉินเอ๋อดีที่สุด” ดวงตาแดงก่ำของชิงเหยี่ยนจิ้งหายวับไปกับตา ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้าง
มู่เฉินถอนหายใจ ‘ทักษะการแสดงของผู้หญิงน่ากลัวจริงๆ’
ฝูถูเฉวียนพยักหน้าขณะที่ท่าทางอ่อนลง เขาก็รู้สึกช่วยไม่ได้กับการให้มู่เฉินเป็นประมุข ท้ายที่สุดแล้วพรสวรรค์ของมู่เฉินมีมากกว่าคนรุ่นใหม่ทุกคนในเผ่าและยังมีโอกาสสูงที่จะบรรลุระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง
จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งทุกคนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเผ่าฝูถู เหตุผลที่เผ่าหมัวเฮอขึ้นเป็นผู้นำของห้าเผ่าโบราณนั้นเป็นเพราะพวกเขามีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งสามคน
หากมู่เฉินบรรลุระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง พวกเขาก็จะพอฟัดพอเหวี่ยงกับเผ่าหมัวเฮอได้
ดังนั้นฝูถูเฉวียนเต็มใจยอมแพ้และยอมให้มู่เฉินเป็นประมุขเนื่องจากเป็นเพราะเห็นแก่เผ่าตนเอง นอกจากนี้แม้ว่าฝูถูเฉวียนจะหัวรั้นไปบ้าง แต่เขาไม่สามารถผลักจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งออกจากเผ่าได้
“การชุมนุมนิรันดร์จะเริ่มพรุ่งนี้ ตามข่าวมีผู้เข้าร่วมทั้งหมดร้อยแปดคน” ฝูถูเฉวียนอธิบาย
“ร้อยแปดคน!”
มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะเดาะลิ้น มหาพันภพกว้างใหญ่ไพศาล อดีตตัวเขาไม่เคยเห็นผู้ฝึกฝนร่างเทพสุริยะนิรันดร์มาก่อน แต่ตอนนี้กลับมีคู่แข่งถึงร้อยเจ็ดคน! ดังนั้นเขาบอกได้ว่ามหาพันภพเป็นสถานที่ที่มีพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนแท้จริง
“นี่คือสิ่งที่เทพจักรพรรดินิรันดร์ตั้งใจทำเอาไว้ เขาต้องการหาผู้สืบทอดที่ดีที่สุดสำหรับร่างมหาเทพนิรันดร์” มู่เฉินครุ่นคิด ดูเหมือนว่าเทพจักรพรรดินิรันดร์ใช้ความคิดหนักมากในการค้นหาผู้สืบทอด
“ท่านแม่ ร่างมหาเทพนิรันดร์ไม่เคยเลือกผู้สืบทอดมาก่อนเลยเหรอ?” มู่เฉินถาม จอมยุทธ์ที่สามารถฝึกฝนร่างเทพสุริยะนิรันดร์ล้วนไม่ได้อ่อนแอ แต่ไม่มีใครที่ได้รับการยอมรับเลย
ชิงเหยี่ยนจิ้งส่ายหัวพลางถอนหายใจ “เพราะนี่คือหนึ่งในห้าร่างมหาเทพปฐมกาลที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล ดังนั้นการได้รับการยอมรับจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร”
มู่เฉินพยักหน้าท่าทางเคร่งเครียดลง เขามองไปที่ใจกลางเมือง เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายโบราณที่คลุมเครือมาจากทิศทางนั้น
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับการยอมรับในร่างมหาเทพนิรันดร์
มู่เฉินเม้มไล่ตามริมฝีปาก ดวงตาฉายความแน่วแน่ขณะที่กำหมัดแน่น
แต่ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด คนอย่างเขาก็ไม่ยอมแพ้แน่…
เพราะนี่เป็นเส้นทางระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งที่เขาเลือกเอง
“พรุ่งนี้…มาสู้กัน!”