โถงดำมืดที่พวยพุ่งไปด้วยความมืดมิด
หมอกสีดำไหลวนเวียนราวกับว่าสามารถกลืนกินความมีชีวิตชีวาทั้งหมดได้ ให้ความรู้สึกหม่นหมองและเย็นเยือก
ในห้องโถงมีที่นั่งสีดำเป็นชั้นๆ ยื่นออกไป มีคนนั่งอยู่บนที่นั่งทุกตัวพร้อมกับรัศมีสีดำครอบคลุมเอาไว้ พลังชั่วร้ายทำให้มิติถึงกับสั่นสะเทือน
โถงแห่งนี้บรรจุไปด้วยกลิ่นอายน่ากลัว เหมือนกับหอหมื่นปีศาจอย่างไรอย่างนั้น
ที่ศูนย์กลางบัลลังก์สามสิบสองแท่นยื่นออกไปด้านข้าง มีร่างบนบัลลังก์ทุกที่ปลดปล่อยรัศมีปีศาจรุนแรงออกจากร่างกาย สร้างภาพมายาปีศาจที่อยู่เบื้องหลังแต่ละคน เอิบอาบด้วยแรงกดดันที่น่ากลัว
ภายใต้แรงกดดันของทั้งสามสิบสองคน คนอื่นๆ ก็ลดศีรษะลงเล็กน้อยด้วยความเคารพ
มีร่างที่พวยพุ่งด้วยเปลวไฟสีดำนั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธาน เพลิงปีศาจนี้มีสีดำมืดราวกับน้ำหมึกและแผ่ซ่านด้วยรัศมีบริสุทธิ์ออกมาในเวลาเดียวกัน ขณะที่คลื่นสองสายไหลเวียน ก็ดูแปลกประหลาดมาก
ภายใต้เพลิงปีศาจ สายตาไม่แยแสก็กวาดมองออกไป ทำให้มิติสั่นไหวราวกับหวาดกลัวอย่างไรอย่างนั้น
“ทุกคนมากันครบหรือยัง?” เสียงเบาหวิวดังขึ้นจากเพลิงปีศาจ
บนบัลลังก์ข้างๆ ภาพเงาที่สวมเสื้อคลุมสีดำก็เงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าซีดขาว แต่ดวงตากลับฉายภาพกระแสน้ำวนสีดำ ช่างแปลกตายิ่งนัก ในขณะที่เกิดปฏิกิริยาหมุนคว้างก็อาบด้วยความลึกลับที่ไม่อาจอธิบาย ซึ่งทำให้ผู้คนหลงทางอยู่ภายใน
ม่านตาของเขากวาดไปที่เพลิงปีศาจก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้น “ครั้งนี้เผ่าเทียนหมัวไม่ได้สายนะ”
ไม่ไกลนักอีกคนก็พูดว่า “เผ่าซือหมัวก็มาแล้ว”
ร่างนั้นถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายซากศพน่าขยะแขยงทำให้แม้แต่อากาศยังกลายเป็นสีเทาขาว ถ้ามู่เฉินอยู่ที่นี่ก็จะสามารถจดจำร่างร่างนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะนี่ก็คือจอมปีศาจเฮยซือเทียนที่เคลื่อนไหวออกมาจัดการเขาในพิภพเขตล่าง
หลังจากเขาพูด คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ก็เอ่ยปาก พวกเขาเป็นตัวแทนแกนนำจักรวรรดิปีศาจต่างมิติ สามสิบสองเผ่าใหญ่
ดังนั้นรัศมีปีศาจในหอหมื่นปีศาจนี้จึงบรรจุด้วยพลังรุนแรงเป็นทบทวีคูณ
เมื่อเห็นผู้นำเผ่าทุกคน ร่างเพลิงปีศาจก็ผงกศีรษะ เสียงแหบพร่าสะท้อนออกมา
“อีกสามเดือนนับจากนี้ สนธิสัญญาพันธมิตรมหาพันภพจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง”
เมื่อเขาพูดประมุขปีศาจทั้งหมดก็มีแสงน่าสะพรึงกลัวกะพริบในดวงตาเล็ดลอดด้วยไอเย็นเยือก
“ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง!” เสียงเยือกเย็นของจอมปีศาจเฮยซือเทียนดังก้อง รัศมีซากศพโดยรอบครางกระหึ่มก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโครงกระดูกนับไม่ถ้วน
“เรารอมาหลายหมื่นปี ถึงเวลาแล้วที่มหาพันภพจะสั่นสะเทือนภายใต้อำนาจของเรา!” ร่างเงาอีกร่างหนึ่งกล่าวขึ้น ร่างนี้มีมือยาวคู่พร้อมกับเล็บสีดำ กระทั่งมิติยังถูกแยกออกอย่างง่ายดายด้วยเล็บที่แผ่ซ่านความคมที่น่ากลัว
นี่ก็คือผู้นำเผ่าเตาหมัว—จอมปีศาจจ่านเทียน
ในโถงคนอื่นๆ ก็ส่งเสียงคำรามด้วยเจตนาฆ่า
ร่างเพลิงปีศาจยื่นมือออกทำให้ทุกคนเงียบลง นี่แสดงให้เห็นถึงอำนาจที่มี เขาก็คือประมุขเผ่าเซิ่งหมัวที่เป็นผู้นำของสามสิบสองเผ่าใหญ่—จอมปีศาจเซิ่งเทียน
เทพปีศาจจักรพรรดิที่ใช้ชีวิตของเทพจักรพรรดินิรันดร์ผนึกเป็นคนของเผ่าเซิ่งหมัว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเผ่าเซิ่งหมัวจึงดำรงตำแหน่งผู้นำของจักรวรรดิปีศาจต่างมิติ
ดังนั้นเมื่อเทพปีศาจจักรพรรดิถูกผนึก จอมปีศาจเซิ่งเทียนจึงขึ้นเป็นผู้นำของจักรวรรดิปีศาจ
“อย่าดูถูกมหาพันภพ ตามรายงานถึงจะไม่มีจอมยุทธ์ที่เหมือนกับเทพจักรพรรดินิรันดร์ แต่พวกมันก็ยังมีจอมยุทธ์ชั้นยอดอีกนับไม่ถ้วนเช่นเทพจักรพรรดิอัคคี เทพจักรพรรดิสงครามที่เป็นภัยคุกคามยิ่งใหญ่ต่อเผ่าเรา” ดวงตาของจอมปีศาจเซิ่งเทียนกะพริบพร้อมกับเพลิงปีศาจสีดำขาว
“ครั้งหนึ่งเจ้าเคยต่อสู้กับเทพจักรพรรดิอัคคีนี่… มันเป็นอย่างไรบ้าง?” ผู้นำเผ่าเทียนหมัวถาม
เผ่าเทียนหมัวได้รับการจัดอันดับต้นๆ ของสามสิบสองเผ่า ส่วนประมุขเผ่าคนนี้ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าจอมปีศาจเซิ่งเทียน ขณะเดียวกันยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อจอมปีศาจอั้นเทียน บอกได้ว่าเขาทรงพลังเพียงใด
เนื่องจากสถานะ เขาจึงรู้ว่าจอมปีศาจเซิ่งเทียนเคยต่อสู้กับเทพจักรพรรดิอัคคีเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ทุ่มสุดแรง
ขณะที่เพลิงปีศาจในดวงตาของจอมปีศาจเซิ่งเทียนวูบไหวก็ตอบว่า “เทพจักรพรรดิอัคคีไม่ธรรมดา มันทรงพลังในศาสตร์แห่งเปลวไฟและมีความรู้แจ้งที่น่ากลัว แม้แต่เพลิงปีศาจเทวะของข้าก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้”
ขณะที่เขาพูดทุกคนภายในโถงก็ตัวสั่นสะท้าน ยังเกิดการกระเพื่อมที่ภาพปีศาจเบื้องหลังพวกเขาด้วย
“ขนาดเพลิงปีศาจเทวะยังทำอะไรมันไม่ได้เลยเหรอ?”
แต่ละคนแลกเปลี่ยนสายตากัน ขณะที่แววตาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด พวกเขารู้ดีว่าเพลิงปีศาจเทวะของจอมปีศาจเซิ่งเทียนทรงพลังเพียงใด แม้แต่คนในระดับเดียวกันก็ไม่กล้าเผชิญหน้า แต่กลับทำอะไรเทพจักรพรรดิอัคคีไม่ได้?
“ดูเหมือนว่ามหาพันภพก็มีรากฐานใช้ได้… มิหนำซ้ำยังมีเทพจักรพรรดิสงครามซึ่งเป็นที่รู้กันว่าอยู่ในระดับเดียวกับเทพจักรพรรดิอัคคี ข้าว่ามันคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ธรรมดาเช่นกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นจอมปีศาจเฮยซือเทียนก็เอ่ยว่า “ข้าได้ปะทะกับเทพจักรพรรดิสงครามคนนั้นแล้ว มันทำให้ข้ากดดันมาก ถ้าต่อสู้กันด้วยร่างหลัก ข้าคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน”
จอมปีศาจเฮยซือเทียนหยุดพูดชั่วครู่ก่อนจะกวาดสายตาไปที่มุมหนึ่งของโถง “ว่ากันว่าพิภพเขตล่างที่เทพจักรพรรดิสงครามถือกำเนิด ครั้งหนึ่งเคยประสบกับการรุกรานของเผ่ายี่หมัว แต่สุดท้ายพวกเจ้ากลับล้มเหลว ยังทำให้ดาวหายนะนั้นมาถึงมหาพันภพ ไม่ได้เรื่องจริงๆ!”
ทุกคนสายตามองไปที่ร่างร่างหนึ่งที่กำลังสั่นสะท้าน รัศมีปีศาจรอบตัวแสดงถึงอารมณ์ที่ผันผวน
นี่ก็คือผู้นำเผ่ายี่หมัวคนปัจจุบัน แต่ในหมู่จักรวรรดิปีศาจตำแหน่งของเขาอยู่ในระดับสามัญเท่านั้น มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขาและสามสิบสองเผ่าใหญ่ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะเหวี่ยงกับการตำหนิของจอมปีศาจเฮยซือเทียน ได้แต่ก้มหน้ายอมรับไป
ทว่าหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอัปยศอดสู การครอบครองพิภพเขตล่างเป็นสิ่งที่ทุกเผ่าปีศาจต้องทำ แต่เผ่ายี่หมัวโชคร้ายไปรุกรานพิภพเขตล่างที่มีเทพจักรพรรดิสงคราม ยิ่งกว่านั้นมันยังข้ามขอบเขตมาที่มหาพันภพและขึ้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของจักรวรรดิปีศาจต่างมิติ
“ไม่ต้องขุดคุ้ยเรื่องนี้แล้ว” จอมปีศาจเซิ่งเทียนโบกมือเพื่อหยุดจอมปีศาจเฮยซือเทียนพูดอย่างเฉยเมยว่า “เทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามเป็นภัยคุกคามต่อเราก็จริง แต่การฆ่าพวกมันจะง่ายแสนง่ายหากเราปลดปล่อยท่านเทพปีศาจจักรพรรดิให้เป็นอิสระได้”
“ออกคำสั่ง เราจะทำการโจมตีแคว้นหวู่จิ้งฮั่งและแคว้นหวู รั้งตัวจอมยุทธ์ทั้งสองไว้ ไม่ให้พวกเขาไปยังพื้นที่ผนึก”
“รับทราบ!”
ทุกคนโห่ร้องรับคำสั่ง
“เซิ่งเทียน ถึงแม้เราจะสามารถยับยั้งเทพจักรพรรดิทั้งสองได้ แต่ผนึกของเทพจักรพรรดินิรันดร์ยังคงอยู่เพื่อต่อต้าน พวกเราจะถูกขัดขวางทันทีที่เข้าใกล้ แล้วเราจะช่วยท่านเทพทำลายผนึกนั้นได้อย่างไร?” คนที่พูดขึ้นร่างเอิบอาบด้วยรัศมีปีศาจ คล้ายกับมหาสมุทรปีศาจ นี่ก็คือผู้นำเผ่าหลิงหมัว หนึ่งในสามสิบสองเผ่าใหญ่—จอมปีศาจหลิงเทียน
จอมปีศาจเซิ่งเทียนหลุบตาตอบว่า “ข้ามีแผนของข้า เพียงทำตามคำสั่งก็พอ”
“พวกเจ้าทุกคนแค่จำไว้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับเรา แม้ว่าเราจะครอบครองครึ่งหนึ่งของมหาพันภพ แต่เราก็แตกต่าง ดังนั้นจึงถูกปฏิเสธจากที่นี่ เว้นแต่จะสามารถครอบครองได้อย่างสมบูรณ์ เพียงเท่านี้เราถึงจะสามารถสร้างโลกที่เหมาะกับเราได้ มิฉะนั้นเราจะค่อยๆ ถูกทำให้บริสุทธิ์โดยมหาพันภพหลังจากผ่านไปหมื่นปี…”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทุกคนก็พล่านด้วยไอหนาวเย็นที่ดุร้ายในดวงตา
“ไปได้”
จอมปีศาจเซิ่งเทียนไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป ทุกคนลุกขึ้นโค้งคำนับมาทางเขาและจากไป
ผู้นำสามสิบสองเผ่าก็ลุกขึ้นเดินออกไปพร้อมกับรัศมีปีศาจรุนแรง
เพียงสิบกว่าลมหายใจหอหมื่นปีศาจก็ว่างเปล่า จอมปีศาจเซิ่งเทียนเงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางของมหาพันภพพร้อมกับดวงตาสั่นไหวด้วยอาการตื่นเต้นและบ้าคลั่ง
“ท่านเทพปีศาจ เมื่อท่านกลับมาก็จะเป็นวันที่เราเหยียบมหาพันภพไว้ใต้ฝ่าเท้า!”
“ในเวลานั้นทุกสรรพสิ่งในมหาพันภพจะต้องชดใช้เวลาสี่หมื่นเก้าพันปีที่ผ่านมา!”