Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ – ตอนที่ 630

ตอนที่ 630

ณ ขั้วโลกเหนือ

ภายใต้การนำทางของเทพธิดากงเจิ้ง ฝูงชนก็มาถึงกระท่อมบนยอดเขาในที่สุด

“ผู้พิทักษ์แห่งเก้าตระกูลถูกฆ่าตายลงในที่นี้ใช่ไหม” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

“ใช่ แล้วสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่พักของกลุ่มคนลึกลับอีกด้วย” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว

“แล้วยานอวกาศล่ะ อยู่ที่ไหน?”

“ยานอวกาศตั้งอยู่ทั่วทั้งขั้วโลกเหนือ”

“…จะใหญ่เกินไปแล้ว”

“ใต้เท้า ตอนนี้ฉันสามารถทดสอบเจาะระบบของยานอวกาศ เพื่อให้ฉันสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ภายในได้แล้ว ทางคุณต้องการที่จะเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์หรือไม่?”

เมื่อแบรี่ได้ฟัง เขาก็หันไปมองเสี่ยวเหมียว

“พี่ชาย ไม่ต้องมองมาที่ฉันเลย ฉันสามารถพาทุกคนเข้าไปภายในนั้นได้ก็จริง” เสี่ยวเหมียวยกสองแขนขึ้นกอดอก “แต่ตัวยานอวกาศน่ะสร้างขึ้นจากเทคโนโลยี ดังนั้นเราคงไม่มีทางคว้าความลับใดๆ มาได้ จากการแค่เข้าไปภายในมัน”

“ไอ้พวกเรื่องอะไรเกี่ยวกับเทคโนโลยีก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันสันทัดได้เสียด้วยสิ” แบรี่เอ่ยพึมพำ

กู่ฉิงซานกล่าว “เทพธิดากงเจิ้ง คุณเกิดที่นี่ใช่ไหม?”

“ใช่แล้วใต้เท้า”

“ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีที่นี่จะทันสมัยมากจริงๆ” ซางหยิงฮ่าวพูดบ้าง

เทพธิดากงเจิ้ง “ไม่เพียงแต่ทันสมัย แต่สถานที่แห่งนี้ยังมีเทคโนโลยีที่เหนือยิ่งกว่านั้นอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ท่านผู้พิทักษ์กลับเลือกที่จะปกปิดมันและเฝ้ารอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เพราะเกรงว่านี่จะนำไปสู่การดึงดูดความสนใจจากโลกภายนอก ท่านจึงได้ปิดผนึกเทคโนโลยีเหล่านี้เอาไว้ทั้งหมด ไม่เคยนำมันออกมาใช้เลย”

แบรี่พอได้ฟัง ก็ทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์ “ในยุคนี้ ที่วันสิ้นโลกอาจมาถึงได้ตลอดเวลา ผู้คนมากมายต่างมุ่งที่จะเป็นจ้าวโลก แต่ละกองกำลังและอารยธรรมล้วนพยายามที่จะเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้แก่ตนเอง จึงเกิดการแก่งแย่งทรัพยากร สมบัติ และอารยธรรมของผู้ที่ด้อยกว่า ส่งผลให้อารยธรรมส่วนใหญ่ค่อยๆ ถูกทำลายลง”

เสี่ยวเหมียวเห็นด้วย “ใช่ๆ บางทีคนที่เรียกกันว่าผู้พิทักษ์อาจจะต้องการเหลือเชื้อสายอารยธรรมตัวเองให้สืบต่อไป แต่กลยุทธ์ที่เธอใช้มันอนุรักษนิยมจนเกินไป ในความเป็นจริงแล้วที่เธอทำมันคือการปล่อยให้ความก้าวหน้าของอารยธรรมหยุดลง เริ่มล้าหลังและไม่ทันต่อคนอื่นๆ ในที่สุด”

กู่ฉิงซาน “เทพธิดากงเจิ้ง ฉันหวังว่าโลกในปัจจุบันจะได้รับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากกว่านี้ เพราะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันเริ่มยากเกินไป และไม่มีใครล่วงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคต”

“รับทราบแล้วใต้เท้า คุณต้องการเทคโนโลยีทั้งหมดเลยหรือไม่?” เทพธิดากงเจิ้งถาม

กู่ฉิงซาน “ทั้งหมดเลย ยานอวกาศลำนี้ก็มอบให้เป็นหน้าที่คุณก็แล้วกัน จงนำเอาความลับทั้งหมดมาไว้ในกำมือ”

“ใต้เท้าโปรดวางใจ ฉันจะพยายามทำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ภารกิจนี้ลุล่วง”

เบื้องบนท้องฟ้าบังเกิดเสียงคำรามอันแข็งกร้าวค่อยๆ ลอดลงมา

ป้อมปราการดวงดาวเฉินเตี้ยนเฮ่า ได้มายังขั้วโลกเหนือ ค่อยๆ ลดระดับลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้าๆ

ป้อมปราการดวงดาวนี้มีแกนกลางหลักของเทพธิดากงเจิ้งอยู่

ดูเหมือนว่าเธอต้องการที่จะทำมันให้ดีที่สุดจริงๆ

“ฉันต้องการเวลาสักเล็กน้อย เพื่อทำการค้นหาห้องควบคุม และตำแหน่งประตูของยานอวกาศ เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัยสักครู่” เทพธิดากล่าวประโยคหนึ่ง

พร้อมกันกับคำพูดบอกเธอ เห็นแค่เพียงเกราะรบขับเคลื่อนมากมายบินออกมาจากป้อมปราการดวงดาว

เกราะรบขับเคลื่อนบินแยกไปตามเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป และเริ่มทำการสำรวจโครงสร้างของยานอวกาศทั่วทั้งขั้วโลกเหนือ

ในเวลานี้เอง เสี่ยวเหมียวก็ดูเหมือนว่าจะสังเกตเห็นได้ถึงบางอย่าง

เธอหันไปถามในความว่างเปล่า “มีอะไรงั้นเหรอ?”

เสียงดังตอบกลับมา “หนังสือพิมพ์ของวันนี้ได้รับการเผยแพร่แล้ว และข่าวของมิสเตอร์แบรี่ก็ครอบคลุมทั้งพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเลย ทางเราจึงมารายงานให้แก่มิสเตอร์แบรี่ และมอบหนังสือพิมพ์ฟรีให้แก่เขาสิบฉบับ”

“เข้าใจแล้ว ฝากหนังสือพิมพ์ไว้ที่ฉันก็ได้ ว่าแต่เรื่องค่าตอบแทน…” เสี่ยวเหมียวกำลังพูด

“นั่นคือสิ่งที่ทางเรากำลังจะถามอยู่พอดี ว่าคุณต้องการให้ทางเราชำระด้วยเงินสกุลใด”

“เอาเป็นสกุลเงินที่ออกโดยทางหอสูงก็แล้วกัน เพราะอย่างไรเสีย สกุลเงินของทางหอสูงก็เป็นเงินที่สามารถใช้หมุนเวียนได้ในโลกต่างๆ เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว”

“รับทราบ ทางเราจะจัดการให้ในทันที”

ว่าจบ เสียงนั้นก็หายไป

ขณะเดียวกัน กองหนังสือพิมพ์ก็ร่วงตกลงมาจากในความว่างเปล่า และถูกรับเอาไว้โดยเสี่ยวเหมียว

“ไหนมาดูกัน ว่าพวกเขาพูดว่าอะไรบ้าง” เสี่ยวเหมียวยิ้ม

เธอสะบัดมือไปมาแบบสุ่มๆ แล้วหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับก็ลอยไปอยู่เบื้องหน้าของทุกคน

ทุกคนก้มลงมองและอ่านมัน

“ดีล่ะ ทางหอสูงได้ทำการติดต่อกับบุคคลสำคัญๆ จำนวนมากสำหรับเรื่องนี้ และกำลังเริ่มจัดตั้งทีมออกไปสำรวจสถาบันเทพแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมการที่จะเขียนรายงานข่าวสารชุดต่อไปอยู่” แบรี่อ่านหนังสือพิมพ์ ขณะเดียวกันก็เอ่ยปากออกมา

“สามารถจัดตั้งทีมขนาดใหญ่เพื่อรับมือกับสถาบันเทพได้ในทันที ทางสมาคมหอสูงช่างน่ากลัวจริงๆ” กู่ฉิงซานกล่าว

เสี่ยวเหมียวยิ้มเล็กน้อย “ในความเป็นจริงแล้ว เนื่องจากสงครามของวิหคหนามเพิ่งจะสิ้นสุดลงพอดี และหลายคนที่ยากจะปรากฏตัวก็กำลังรวมตัวฉลองกันอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นพอได้ยินข่าวของสถาบันเทพ ทุกคนก็เลยกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วม”

“และต้องไม่ลืมนะว่า ทางหอสูงมักจะจ่ายรางวัลอย่างงามเสมอๆ ดังนั้นการจัดตั้งทีมเพื่อภารกิจนี้จึงสามารถดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็ว”

“เดิมทีผมก็กังวลว่าสถาบันเทพจะตรงมาหาแบรี่เลยเสียอีก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาคงไม่มีแม้กระทั่งเวลาที่จะจัดการตัวเองได้เสียแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว

ระหว่างสนทนา ก็ได้ยินถึงเสียงที่ดังขึ้นจากภายนอก

กู่ฉิงซานเดินออกไปดูนอกกระท่อม

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากพื้นหิมะ ประตูขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้น

และยังมีหุ่นยนต์หลายประเภทที่กำลังวุ่นอยู่ใกล้กับประตูเหล็ก

บางครั้งบางครั้ง หุ่นยนต์บางตัวก็เผลอสัมผัสโดนโครงสร้างทางกลไกตรงประตูโดยไม่ตั้งใจ และถูกทำลายลงด้วยไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพทันที

เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังตามมา “ใต้เท้า ฉันกำลังดำเนินการทำลายมาตรการป้องกันของยานอวกาศ และทำการตรวจสอบข้อมูลของมันอยู่”

กู่ฉิงซานคิดเกี่ยวกับมันอยู่ครู่หนึ่งและกล่าว “ถ้าเป็นอย่างงั้น พวกเราคงไม่น่าจะได้เข้าไปสำรวจยานในเร็วๆ นี้ คุณทำงานต่อเถอะ”

“รับทราบใต้เท้า”

“แต่ถ้าเป็นกรณีที่มีเรื่องไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้น คุณสามารถเรียกพวกเราได้ตลอดเวลา”

“ไม่ขัดข้อง”

กู่ฉิงซานเดินกลับเข้ามาในกระท่อม

เขาปิดประตูเพื่อป้องกันพายุหิมะด้านนอกและเริ่มจุดไฟในเตาผิง

ห้องเริ่มอบอุ่นขึ้นมาทันที

เมื่อทุกคนได้ยินถึงสิ่งที่เขากล่าว ซางหยิงฮ่าวก็ถามขึ้นมา “แล้วตอนนี้พวกเราจะทำอะไรดี?”

“เพื่อไม่เป็นการปล่อยเวลาผ่านไปอย่างน่าเบื่อ พวกเราก็มาตั้งวงดื่ม พูดคุยกันสักพักก็แล้วกัน”

ว่าแล้วเขาก็ตบลงในถุงสัมภาระ และหยิบเหล้าหลายขวดที่เก็บเอาไว้ ผลไม้และอาหารวิญญาณบางชนิดออกมา

ทุกคนต่างลากเก้าอี้ของตัวเองมานั่งรอบเตาผิง

ซางหยิงฮ่าวมองไปที่ขวดเหล้าบนโต๊ะและกล่าว “เหล้าของนาย มาจากโลกอื่นใช่ไหม?”

“อืม มันเป็นสุราของผู้ฝึกยุทธ์” กู่ฉิงซานตอบ

ซางหยิงฮ่าวผุดลุกขึ้นยืนและกล่าวทันที “ถ้าอย่างงั้นฉันคงต้องขอตัวกลับไปเอาไวน์ที่ดีที่สุดของโลกใบนี้มาบ้างแล้ว แขกทั้งสองจะได้ลองชิมรสชาติไวน์ท้องถิ่นของที่นี่บ้าง”

“เป็นความคิดที่ดีนี่นา ถ้านายกลับไปก็จัมป์กลับมาพร้อมเหลียวฮังเลยแล้วกัน”

“จะให้เขามาจริงๆ น่ะเหรอ?” ซางหยิงฮ่าวเริ่มลังเล

ดวงตาของเขาเหลือบไปมองเสี่ยวเหมียวเล็กน้อย ก่อนจะเบนกลับมากะพริบปริบๆ ให้กู่ฉิงซาน

เสี่ยวเหมียวเป็นคนสวย ครอบครองร่างกายอันทรงเสน่ห์ แถมยังมีหูแมวน่ารักๆ บนหัวของเธอ

หากเหลียวฮังผู้บ้ากามมาเห็น แล้วเกิดทำอะไรไม่เหมาะสมให้เสี่ยวเหมียวโกรธขึ้นมา เหตุการณ์มันอาจจะดูไม่ดีเลยก็ได้

กู่ฉิงซานเข้าใจได้ทันทีว่าซางหยิงฮ่าวหมายถึงอะไร

เขาตบหน้าผากตัวเองและกล่าว “ฉันว่าไม่ต้องให้เขามาหาพวกเราหรอก เอาเป็นรบกวนนายพาเขาไปช่วยเทพธิดากงเจิ้งทำลายระบบป้องกันของยานอวกาศก็แล้วกัน”

เย่เฟย์หยูกล่าว “นั่นเป็นความคิดที่ดีนะ เพราะถ้าเหลียวฮังได้เห็นยานอวกาศที่มาจากนอกโลก ฉันว่าเขาน่าจะกระโดดด้วยความตื่นเต้น และนอนไม่หลับไปสามวันสามคืนแน่ๆ”

ว่าจบเขาก็ลุกขึ้น และตามซางหยิงฮ่าวออกไปด้านนอก

“ทำไมนายต้องไปด้วยล่ะ?” กู่ฉิงซานถาม

“ก็ฉันไม่ได้กลับบ้านนานมากแล้ว แฟนฉันบางทีคงจะกำลังเป็นห่วง ฉะนั้นฉันขอกลับไปรายงานตัวกับเธอก่อน แล้วเดี๋ยวจะกลับมา” เย่เฟย์หยูตอบ

แล้วเขาก็ผลักประตู เดินออกไป

ภายในห้องจึงเหลืออยู่แค่เพียงแบรี่ เสี่ยวเหมียว และกู่ฉิงซาน

“นายมีความสัมพันธ์อย่างไรกับเด็กขี้อายที่ชื่อเย่เฟย์หยูนั่น” เสี่ยวเหมียวจู่ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นมา

“เขาเป็นเพื่อนที่คอยติดตามผม” กู่ฉิงซานกล่าว

แบรี่กับเสี่ยวเหมียวชำเลืองมองกันและกัน

แบรี่ครุ่นคิด “เขาดูเหมือนกับ ‘พิฆาตโลก’ ในช่วงแรกเกิดเลย”

“พิฆาตโลก?” กู่ฉิงซานทวนซ้ำด้วยความสงสัย

เสี่ยวเหมียวกล่าว “ใช่ ‘พิฆาตโลก’ คือสิ่งมีชีวิตที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และในขั้นสุดท้ายเขาอาจจะสามารถเทียบเคียงกับเทพบรรพกาลเลยก็ได้ ถึงแม้ว่าพิฆาตโลกแบบนั้นจะเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวก็เถอะ”

“นายพอจะช่วยบอกรายละเอียดแบบเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเขาให้ฟังหน่อยจะได้ไหม?” แบรี่ถามต่อ

หากเป็นคนอื่นถามคำถามนี้ กู่ฉิงซานคงจะต้องคิดทบทวนเกี่ยวกับมัน

แต่กับแบรี่หรือเสี่ยวเหมียว ทั้งสองเป็นคนดีมากจริงๆ กระทั่งน้ำเสียงของแบรี่ที่เปล่งออกมาก็ยังแฝงไปด้วยความห่วงใยและกังวลบางอย่าง

กู่ฉิงซานจึงไม่ลังเลเลยที่จะบอกรายละเอียดของเย่เฟย์หยูอย่างรอบคอบ

“แม้ว่าจะสูญเสียสถานะของการเป็นมนุษย์ แต่ก็ยังสามารถคิดถึงแม่ได้ ฉันถูกใจเขาจริงๆ” แบรี่ถอนหายใจชื่นชม

“แถมเขายังต้องย้อนกลับไปรายงานตัวกับแฟน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เจอกับพิฆาตโลกที่กลัวเมียแบบเขา” เสี่ยวเหมียวกล่าว

ว่าจบเธอก็หยิบสมุดออกมา และเริ่มต้นบันทึกเรื่องราวของเย่เฟย์หยู

“พิฆาตโลกคืออะไรงั้นเหรอ?” กู่ฉิงซานถาม

แบรี่ตอบ“คือสิ่งมีชีวิตที่สูญเสียตัวตนของมนุษย์ไป  เป็นรูปแบบชีวิตระดับสูงในบรรดาระดับสูงที่สูญเสียเหตุและผล มีเพียงแรงผลักดันเดียวคือตนเองจะต้องวิวัฒนาการ เป็นสัตว์ประหลาดที่เรียนรู้ที่แค่การฆ่าสังหารเท่านั้น”

“แต่รูปแบบชีวิตแบบนั้นในโลกของผม ครั้งหนึ่งพวกมันเคยปรากฏขึ้นมากมาย” กู่ฉิงซานกล่าว

“ที่นายพูดถึงนั่นน่ะมันก็แค่มนุษย์ที่ติดเชื้อไวรัส เมื่อฆ่าสังหาร พวกเขาจะสามารถได้รับพลังงานชีวิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่รูปแบบชีวิตระดับสูงแต่อย่างใด”

“แต่ในกรณีเพื่อนของนายน่ะมันแตกต่างกัน ฉันสัมผัสได้ว่าเขามาถึงระดับรากฐานที่สุดของพิฆาตโลกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถใช้แต้มพลังวิญญาณได้อีกด้วย” เสี่ยวเหมียวเอ่ยเสริม โดยไม่เงยหน้าขึ้น สายตาของเธอยังคงจดจ้องอยู่แต่กับสมุดที่กำลังขีดเขียน “รูปแบบชีวิตระดับสูงของเขามีค่ามากต่อการวิจัย องค์กรใหญ่ๆ ทุกแห่งต่างก็เคยประกาศมอบรางวัลมากมายออกไป เพื่อหวังว่าจะได้รับตัวอย่างทางชีวภาพของพิฆาตโลก”

“แต่เย่เฟย์หยูมีสติอารมณ์และเหตุผล เขาไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่รู้จักเพียงแต่การฆ่า” กู่ฉิงซานเริ่มเครียด

แบรี่พยักหน้า “ฉันสังเกตเขามาสักพักแล้ว และความจริงก็เป็นอย่างที่นายว่า นี่มันเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากจริงๆ”

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?”

เสี่ยวเหมียว “การดำรงอยู่ของเขามีค่ามากยิ่งกว่า หากเทียบกับพิฆาตโลกทั่วๆ ไป ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าหากพิฆาตโลกไม่สูญเสียอารมณ์และเหตุผลไป ด้วยความสามารถที่จะได้รับพลังของอีกฝ่ายมาใช้ในการวิวัฒนาการร่างกายและจิตวิญญาณให้แก่ตนเอง นี่จะเป็นอะไรที่น่าหวาดกลัวขนาดไหน”

“ยิ่งไปกว่านั้น โดยไม่ต้องมีระบบของราชามาร ไม่จำเป็นต้องติดต่อกับใครๆ เขาก็สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งด้วยตัวคนเดียว นี่นับว่าเป็นวิธีการที่แม้จะหยาบ แต่ก็ง่ายดายที่สุดที่จะแข็งแกร่งขึ้น”

แบรี่กล่าวต่อ “จะมีองค์กรและอิทธิพลนับไม่ถ้วนไล่ล่าตัวเขา ทั้งหมดจะทุ่มจับตัวเย่เฟย์หยูอย่างบ้าคลั่ง เพื่อนำไปทำการศึกษาร่างกายและจิตวิญญาณของเขา”

กู่ฉิงซานมองไปยังแบรี่ จากนั้นก็มองไปที่เสี่ยวเหมียวอีกครั้ง

เห็นแค่เพียงทั้งสองที่ยังดูสงบ ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ นอกจากความกังวลเล็กน้อย

ต้องไม่ลืมนะว่าด้วยความแข็งแกร่งของสองพี่น้อง พวกเขาย่อมสามารถจับตัวเย่เฟย์หยู นำไปแลกเปลี่ยนเป็นรางวัลใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

และสถานะยากจนของพวกเขาจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้น

ทว่า แม้หลังจากที่สามารถยืนยันสถานะของเย่เฟย์หยูได้แล้ว ทั้งพี่ชายและน้องสาวกลับเพียงแค่กังวลเกี่ยวกับเขา ไม่มีความคิดอื่นใดแอบแฝงอยู่เลย

กู่ฉิงซานถอนหายใจเล็กน้อย

ในที่สุดเขาก็เริ่มเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วว่าทำไมแบรี่กับเสี่ยวเหมียวถึงได้ยากจนนัก

“ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่ผมต้องทำเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เย่เฟย์หยูจะต้องเผชิญคืออะไร?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

เสี่ยวเหมียวมองกู่ฉิงซาน ก่อนจะหันไปมองแบรี่

“พี่ชาย พี่คิดว่าอย่างไร?” เธอเอ่ยถามด้วยคำพูดที่แฝงความหมายบางอย่าง

แบรี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าว “เด็กคนนั้นดูเป็นคนขี้อายนิดหน่อย แต่ฉันคิดว่าเขาไม่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”

เสี่ยวเหมียวเห็นด้วย “ใช่ นี่เป็นพิฆาตโลกที่แสนจะหายาก หากสถานที่ที่เขาอยู่คือในสมาคม พวกเราก็คงวางใจ ว่าเขาคงไม่ถูกคนอื่นๆ จับตัวไปอย่างง่ายดาย”

“และที่สำคัญที่สุดก็คือ เขา ‘เกือบ’ ที่จะวิวัฒนาการไปยังขั้นต่อไปแล้ว”

………………………………….

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

ตอนที่ 1 – 307 อ่านนิยาย
ตอนที่ 308 – 517 อ่านนิยาย


อาณาจักรทั้งมวลถึงคราวล่มสลาย  จอมมารหมายจะเก็บเกี่ยวชีวิตมนุษย์ทุกชีวิต  ท่ามกลางความสิ้นหวังอันมืดมน  ชายคนหนึ่งได้ฉีกเส้นแบ่งของเวลาและมิติ  หวนคืนสู่โลกในช่วงเวลาก่อนที่มันจะถูกทำลายลงโดยสมบูรณ์  หมายมุ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตน  ทว่า  เมื่อวันเวลาได้ผ่านไป เขากลับพบว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด …

ปล. เนื้อหาทั้งหมดในเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องแต่ง หากมีส่วนใดคล้ายคลึงกับความเป็นจริงขอให้รู้ไว้ว่ามันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท