กู่ฉิงซานปาดเหงื่อบนหน้าผาก เขาไม่อาจเอ่ยคำใดได้อยู่เนิ่นนาน
ผู้หญิงคนนี้ จะบ้าเลือดไม่รักชีวิตตัวเองเกินไปแล้ว!
กระทั่งตัวตนอย่างอาจารย์เขา หากจะต้องต่อกรกับศัตรูจำนวนมาก นางยังต้องเค้นสมองขบคิดถึงสถานการณ์บางอย่างก่อนที่จะลงมือเลย
ทว่าสำหรับหญิงคลุ้มคลั่งตรงหน้า นางช่างตรงกันข้าม ในสายตาและความคิดของนาง เป็นในทิศทางตรง ดั่งกระบี่เท่านั้น
ในช่วงวินาทีสุดท้าย กู่ฉิงซานได้กวาดจิตสัมผัสเทวะตนข้ามผ่านตลอดทั้งฝูงปีศาจแกะดำ และตรึงอยู่กับหนิงเยว่ฉาน
เขาเกือบที่จะใช้ออกด้วยย่นระยะเหลือเพียงหนึ่งนิ้วแล้ว
เดชะบุญจริงๆ ที่ตนตัดสินใจช้าไปหน่อย
มิฉะนั้น ทันทีที่หนิงเยว่ฉานหายตัวไป ก็คงจะเป็นเขาที่เสนอหน้าไปกลางดงปีศาจแกะเพียงลำพัง และถูกพวกมันรุมทุบตีระบายความโกรธแค้น
ถ้าเป็นแบบนั้นละก็…
กู่ฉิงซานถอนหายใจ ในเมื่อมันยังไม่เกิดขึ้นก็เลิกคิดเถอะ ปล่อยมันไปเสีย
หนิงเยว่ฉานพุ่งเข้าสังหารราชาปีศาจแกะโดยตรง ด้วยผลงานอันน่าตกตะลึงเช่นนี้ จึงสามารถดึงดูดความสนใจจาก ‘ระบบชีวิต’ และข้ามผ่านอาณาเขตของหน้าใหม่ได้ในที่สุด
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ในหัวใจตนไม่ต้องคอยมามัวพะวงเกี่ยวกับหญิงสาวอีกต่อไป
เมื่อคิดถึงจุดนี้ กู่ฉิงซานจึงค่อยผ่อนคลายลง
ตอนนี้ สิ่งที่เขาควรมุ่งสมาธิ เหลือแค่การหาหนทางให้ตัวเองสามารถดาวน์โหลดระบบชีวิตได้ก็เท่านั้น
สิ่งที่เรียกว่าระบบชีวิต มันคือระบบพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นโดยเหล่าทวยเทพ
เดิมทีแล้วเหล่าทวยเทพน่ะชิงชังในตัวระบบ
เพราะระบบทุกชนิดที่ชั่วร้าย ต่างก็ล้วนงัดทุกประเภทของกลยุทธ์อันหลากหลาย เพื่อหมายจะล่อลวงจิตใจของทุกสิ่งมีชีวิตให้ดาวน์โหลดมัน
ฉะนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเหล่าทวยเทพ ที่จะสามารถปกป้องสิ่งมีชีวิตนับล้านๆ ได้ตลอดเวลา
แม้จะเป็นเทพ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้
หลังจากใช้เวลาอยู่นานปีขบคิดถึงปัญหาดังกล่าว ในที่สุดเหล่าทวยเทพสามารถก็นึกวิธีที่จะต่อกรกับเหล่าระบบออก
นั่นก็คือ การสร้างระบบใหม่ขึ้นมาด้วยตัวเอง และใช้ระบบที่ว่านั่นต่อกรกับระบบชั่วร้ายอื่นๆ
เหล่าทวยเทพได้รังสรรค์ขึ้นมาทั้งสิ้นสองระบบ
หนึ่งคือระบบของเทพสวรรค์
อีกหนึ่งคือระบบชีวิต
ในส่วนของระบบเทพสวรรค์ จะต้องเป็นผู้ศรัทธาของเหล่าทวยเทพเท่านั้น จึงจะได้รับสิทธิ์ในการดาวน์โหลดมัน
ระบบเทพสวรรค์ประกอบไปด้วยหลากหลายกฎเกณฑ์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยทวยเทพ เทคนิคการลงทัณฑ์จากทวยเทพ สกิลเทวะ อำนาจเทวะ โดยผู้ศรัทธาจะได้รับสิทธิ์ในการดาวน์โหลดระบบเทพสวรรค์ จะได้รับหน้าที่แทนทวยเทพทั้งปวง ก้าวเดินในเส้นทางแห่งเทพวิญญาณท่ามกลางสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
ขณะที่ระบบชีวิตจะแตกต่างกันออกไป
นี่คือการรังสรรค์ของทวยเทพ ที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับองค์ประกอบขั้นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ช่วยส่งเสริมให้พวกเขายกระดับขึ้น
ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดก็สามารถดาวน์โหลดระบบชีวิตได้ ทั้งหมดจะได้รับกุญแจแห่งความก้าวหน้าในการพัฒนาสู่ขั้นต่อไป
ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว และธรรมชาติชีวิตของพวกเขาจะถูกวิวัฒน์ สามารถพัฒนาไปได้อย่างก้าวกระโดด เพื่อบรรลุถึงการเติบใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
โดยทั้งสองระบบนี้ มีอยู่ในโลกสองร้อยล้านชั้นภายในดินแดนชิงอำนาจ
ดังนั้น ดินแดนชิงอำนาจจึงเป็นสถานที่ ที่ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนเฝ้าใฝ่ฝันจะได้มาเยือน
แต่ขณะเดียวกัน ดินแดนชิงอำนาจก็เป็นสนามรบขนาดใหญ่ สนามรบที่เหล่าทวยเทพเลือกที่จะทิ้งระบบเอาไว้ที่นี่ เพื่อใช้มันต่อกรกับศัตรูทั้งหมดที่คิดต่อต้าน
ดังนั้นภายในดินแดนชิงอำนาจ มันจึงเต็มไปด้วยทุกชนิดของอันตรายและการเผชิญหน้า
ตั้งแต่การสู้รบไปถึงการลอบสังหาร สงครามขนาดย่อม แก่งแย่งสมบัติ สงครามศาสนา สงครามขนาดใหญ่เต็มรูปแบบ และทุกชนิดของภัยพิบัติแสนอันตรายอันไร้ที่สิ้นสุด
อาจกล่าวได้ว่าที่นี่คือฟาร์มเนื้อขนาดยักษ์ที่คอยเก็บเกี่ยวทุกชีวิตทั้งมวล
หากไม่มีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับ ‘คุณสมบัติหน้าใหม่’ จากสหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้น
หลังจากที่ได้เข้ามาที่นี่ พวก ‘หน้าใหม่’ จะต้องแสวงหาหนทางที่จะแข็งแกร่งขึ้น หรือไม่ก็ตกตายลงระหว่างทาง
กู่ฉิงซานยืนอยู่บนหอคอยในมุมสูง ก้มมองลงไป
เห็นแค่เพียงฝูงแกะที่กำลังโกรธแค้น วิ่งตรงขึ้นมายังหอคอยบนภูเขา
ในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนว่าราชาปีศาจแกะดำองค์ใหม่จะถือกำเนิดขึ้นแล้ว
และเห็นได้ชัดว่าราชาแกะองค์ใหม่ ก็ต้องการที่จะเดินตามรอยราชาแกะตัวก่อนหน้า คิดหมายในเป้าประสงค์เดียวกัน
บรรดาหน้าใหม่หลายคนที่กระจายตัวกันอยู่รอบๆ ฝูงแกะ เมื่อพวกเขาสบโอกาสก็โจมตีและเก็บเกี่ยวชีวิตของพวกมันทันที
ฝูงแกะที่ถูกโจมตีก็เริ่มต่อต้านกลับด้วยความโกรธ
รูปร่างของพวกมันปราดเปรียว คู่เขาที่ม้วนงอเหนือหัวไม่เพียงแต่จะคมกริบ แต่มันยังสามารถใช้โจมตีได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย
เบื้องล่างตน กู่ฉิงซานเห็นหน้าใหม่คนหนึ่งกำลังถูกแกะหลายสิบตัวตีวงล้อมในเวลาเดียวกัน และสุดท้ายก็ไปไม่รอด ถูกปีศาจแกะดำกระแทกหัวเข้าใส่ ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาแหลกกระจาย แยกจากกันเป็นหลายสิบส่วนทันที
และแล้ว เลือดของหน้าใหม่คนที่ว่าก็กลายมาเป็นพลังงานให้แก่ปีศาจแกะดำ
รูปร่างของปีศาจแกะดำบริเวณนั้นค่อยๆ ใหญ่โตขึ้น
คู่เขาบนหัวของพวกมันเริ่มขยายขนาด พร้อมด้วยรูปแบบลึกลับที่ปรากฏตามมา
แต่เมื่อมีคนตาย ก็ย่อมต้องมีคนที่สามารถทำได้สำเร็จเช่นกัน
หน้าใหม่อีกคนหนึ่งที่กำลังจะหลบหนี หลังจากสังหารปีศาจแกะดำไปมากกว่าสามสิบตัวติดต่อกัน จู่ๆ เขาก็ชะงักฝีเท้าไปอย่างกะทันหัน
“ฮ่าๆๆ! ฉันขอตัวไปก่อนล่ะ!” เขาตะโกนหัวเราะร่า
วินาทีต่อมา ม่านแสงก็ห่อหุ้มรอบกายเขา และส่งเจ้าตัวหายวับไป
ฉากนี้ได้กระตุ้นให้ผู้คนตัดสินใจเลือกที่จะเสี่ยงมากขึ้น
คนอื่นๆ ที่เหลือต่างรีบวิ่งลงมาจากหอคอยปราการ และกระโจนเข้าต่อสู้กับปีศาจแกะดำโดยตรง
ข้อได้เปรียบของกลยุทธ์การต่อสู้นี้ก็คือ คุณสามารถวิ่งย้อนกลับไปหลบบนหอคอยได้ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันคุณก็สามารถหาโอกาสที่คอยสังหารปีศาจแกะดำหนึ่งหรือสองตัวในเวลาที่มันพลั้งเผลอ
การต่อสู้ได้ถูกโยนเข้าสู่ช่วงโหดร้ายและรุนแรงที่สุดแล้ว
ทว่ากู่ฉิงซานก็ยังมิได้เข้าร่วม
เขาหันซ้ายหันขวา มองไปรอบๆ
ตอนนี้ ไม่มีใครอยู่บนเหนือสุดหอคอยอีกต่อไป
เข้าไปหลบอยู่หลังฉากในหอคอยปราการอันแข็งแกร่ง กู่ฉิงซานตบลงในถุงสัมภาระของเขา หยิบดิสก์ค่ายกลขนาดเล็กออกมา และเริ่มจัดวางมัน
ค่ายกลป้องกันหลายสิบชั้นถูกจัดตั้งขึ้น และสุดท้ายก็เป็นค่ายกลเก็บเสียง
“เจ้าออกมาได้แล้ว”
กู่ฉิงซานกล่าว
ในความว่างเปล่าเบื้องหลังเขา ดาบขุนเขาเทวะหกโลกาค่อยๆ ผุดออกมา
ดาบยาวกลายร่างเป็นฉานนู่ ตกลงเบื้องหน้ากู่ฉิงซาน
ฉานนู่ “ข้ามาแล้วนายน้อย”
“อืม ในช่วงเวลาคัดกรองหน้าใหม่ เจ้าได้ยินท่านหญิงแบล็กซีเอ่ยถึงสิ่งใดหรือไม่?” กู่ฉิงซานถาม
“นายน้อย เรื่องนั้นสำคัญมากเลยหรือ?” ฉานนู่ถามอย่างระแวดระวัง
“มันสำคัญมาก ข้าต้องการจะทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“เข้าใจแล้ว” ฉานนู่พยักหน้า
“นายน้อย ข้าค่อนข้างมั่นใจว่าท่านหญิงแบล็กซีมิได้ปลดปล่อยเทคนิคมนตราใดๆ กับท่าน แต่ข้ากลับไม่สามารถมองเห็นนางได้อย่างชัดเจน จึงไม่รู้ว่านางได้กระทำสิ่งใดกับท่าน”
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น มิใช่ว่าเจ้าสามารถแหกได้ทุกกฎเกณฑ์หรอกหรือ?” กู่ฉิงซานสวนกลับอย่างไม่ยินยอม
“ข้าสามารถทำมันได้ แต่อีกฝ่ายมิได้ใช้มนตราใดๆ กับท่าน ดังนั้นพลังแหกกฎของข้าจึงไม่มีประโยชน์ใดๆ”
“ในพื้นที่มิติที่ข้าอยู่ มันไม่มีเทคนิคมนตราใดๆ ปรากฏขึ้นมาเลย”
“ดังนั้นข้าจึงไม่อาจทราบถึงสิ่งที่นางทำได้”
“แต่ในทะเลลึก ข้ามั่นใจว่ามิอาจมองเห็นรูปลักษณ์ที่ปรากฏตัวของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้ข้าเลยคิดว่าพวกเรากับอีกฝ่าย ไม่น่าจะอยู่ในมิติและเวลาเดียวกัน”
“ไม่ได้อยู่ในมิติและเวลาเดียวกัน?”
“ใช่ น่าเสียดายที่นางมิได้หลอมรวมเข้ากับมิติและเวลาบนตัวนายน้อย มิฉะนั้นข้าคงสามารถแหกกฎเกณฑ์เทคนิคมนตราของนางได้ และเห็นถึงรูปลักษณ์ที่ปรากฏของนางไปแล้ว” ฉานนู่อธิบายด้วยความเสียใจ
ขณะที่กู่ฉิงซานพอได้ฟังก็ช็อก
หากอ้างอิงตามผลจากการคัดกรองคุณสมบัติของพวกหน้าใหม่ ท่านหญิงแบล็กซีอยู่ในมิติและเวลาที่แตกต่าง แต่กลับสามารถตรึงหน้าใหม่ทั้งหมดให้หยุดนิ่งได้ในเวลาเดียวกัน และสามารถตรวจสอบความแข็งแกร่งของหน้าใหม่ทุกคนได้ในเวลาเพียงลมหายใจเดียว!
จำเป็นต้องใช้ความแข็งแกร่งในระดับใดกัน ถึงจะสามารถทำเช่นนั้นได้!!
กู่ฉิงซานถอนหายใจ ยังคงถามต่อ “แล้วนางกล่าวอะไรหรือเปล่า?”
“นางคล้ายจะกล่าวอยู่หลายประโยค แต่ข้าจดจำได้เพียงในช่วงเวลาที่ห้วงอารมณ์ของนางรุนแรงที่สุดเท่านั้น”
“นางพูดว่าอะไร?”
“เหมือนกับว่านางจะปรารถนาอย่างยิ่งยวดให้ท่านแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็วที่สุด”
“แข็งแกร่งขึ้นโดยเร็ว…”
กู่ฉิงซานหายไปในความคิด
‘ปรารถนาให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็วอย่างนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นแสดงว่าอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ’
‘ถ้าเช่นนั้นทำไมอีกฝ่ายถึงได้มอบสถานะ ‘ผู้หวนคืน’ ให้แก่ฉันล่ะ?’
ถ้าอนุมานว่านี่เป็นความประสงค์ดีของอีกฝ่าย สถานะนี้คงจะช่วยให้เขานั้นสะดวกสบายมากขึ้น ส่งผลให้เขาได้รับผลประโยชน์มากขึ้นนั่นเอง
กู่ฉิงซานตริตรองอย่างเงียบๆ ไปสักพัก ก่อนที่จะหยิบยกเอาคำพูดหนึ่งในความคิดของเขาขึ้นมา
“แข็งแกร่งขึ้น…”
ปากขมุบขมิบพึมพำ สองเท้าก้าวออกจากหอคอยปราการ มุ่งหน้าลงไปยังภูเขาชันเบื้องล่าง
ช่วงเวลานี้ ปริมาณของปีศาจแกะดำที่บุกเข้ามาเริ่มทวีจำนวนมากขึ้นแล้ว ผลพวงที่ตามมาก็คือ ทางฝั่งหน้าใหม่เลยค่อยๆ ทยอยลดจำนวนลงเช่นกัน
หน้าใหม่บางส่วนก็ถูกฆ่าตาย และกลายเป็นพลังงานเลือดให้แก่ฝูงแกะ
ขณะที่หน้าใหม่คนอื่นๆ ก็ได้ถูกส่งหายไปเลยโดยตรง หลังจากที่ได้สำแดงพลังอันโดดเด่นของพวกเขา ได้รับความสนใจจากระบบชีวิต
พวกเขากำลังรีบถอยหนีขึ้นมาบนเนินด้วยความหวาดกลัว
ในขณะเดียวกัน ฝูงปีศาจแกะก็ทยอยกันยกพลปีนขึ้นมา
กู่ฉิงซานยืนอยู่ท่ามกลางสายลม เฝ้ามองดูฝูงแกะเบื้องล่างอย่างเงียบๆ
…ผู้หญิงคนนั้นต้องการให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น
นั่นสินะ เพราะถ้าไม่แข็งแกร่ง แล้วฉันจะมีคุณสมบัติไถ่ถามเธอได้อย่างไร ว่าทำแบบนี้ไปเพราะอะไร?
หากเขาล่วงรู้ความลับนี้ในช่วงที่ยังอ่อนแอ แล้วเขาจะใช้อะไรในการปกป้องมันเล่า?
ในวันสิ้นโลก หากอาณาจักรทั้งมวลถูกทำลายลง สิ่งที่เป็นบาปมหันต์ที่สุดของสิ่งมีชีวิตมันก็คือความอ่อนแอนี่แหละ!
มีเฉพาะเพียงสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดเท่านั้น จึงจะสามารถค้นหาหรือครอบครองความลับที่ล่มสลายกระทั่งโลกทั้งใบได้อย่างอิสระ! ต้องแกร่งเท่านั้นถึงสามารถรับรู้ความจริงที่อยู่เบื้องหลังสถานการณ์อันน่าสลดในปัจจุบันนี้ได้!!
กู่ฉิงซานถอนหายใจ เขาไม่เสียเวลาคิดมากอีกต่อไป
ตนเองได้มาถึงดินแดนชิงอำนาจแล้ว
และเส้นทางแห่งความแข็งแกร่ง มันก็กำลังอยู่เบื้องล่างฝ่าเท้าของตนเองนี่เอง
เขามองไปยังฝูงปีศาจแกะที่กำลังจะปีนขึ้นมาใกล้ส่วนบนของเนินเขา ช่วงเวลานี้เจ้าตัวก็เอื้อมมือเข้าไปในความว่างเปล่า
ทันใดนั้นคันธนูอันงดงามก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
เป็นธนูเย่หยู
ขณะเดียวกัน ถุงใส่ลูกศรก็ถูกสะพายไว้เบื้องหลัง
เขายกคันธนูยาวขึ้น เล็งลงไปยังฝูงปีศาจแกะดำที่อยู่เบื้องล่าง
ทว่าสายธนูยังไม่ทันจะขยับไหว สองภาพติดตาก็ระเบิดคลื่นอัดอากาศ ทิ้งตัวลงไปยังกลางดงของพวกมันเสียแล้ว
เป็นดาบเช่าหยิน
และดาบขุนเขาเทวะหกโลกา
‘ต้องการให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นใช่ไหม…ถ้าเช่นนั้นก็ขอจัดให้ตั้งแต่ตอนนี้เลยก็แล้วกัน!’
………………………………….