The Dark King – Chapter 503 บุตรศักดิ์สิทธิ์คนใหม่
“ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้” ชายที่นอนฟุบกับโต๊ะค่อยๆลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “ผมสงสัยว่าอาจจะเป็นตระกูลแฟเทอร์หรือไม่ก็ตระกูลร็อคที่ส่งคนแทรกซึมเข้ามาและวางแผนทุกอย่างเพื่อให้พวกเราลงโทษบุตรศักดิ์สิทธิ์ บางทีอาจจะเป็นองค์หญิงเฮลี่ย์… แล้วเรื่องหลักฐานล่ะ?”
“โอ้.. ” เด็กหญิงตัวเล็กยิ้ม “มีหลักฐานแน่นอนและไม่ต้องสงสัยเลย!”
ชายชราร่างผอมเพรียวมองเธอ “ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลดราก้อน! ทำไมคุณถึงคิดอะไรง่ายๆแบบนี้? ทำไมคุณถึงต้องรีบตัดสินเรื่องนี้?”
“ ไร้สาระ…” เด็กหญิงตัวเล็กมองเขา “พวกเรานั่งอยู่ที่นี่และโต้เถียงกันมานานซึ่งมันไม่ได้อะไรเลย คงดีกว่าถ้าเราตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง”
“ทุกคนน่าจะทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว” ชายชราร่างผอมตอบ
“ไม่จำเป็น” ผู้นำตระกูลกล่าวอย่างช้าๆ “หลักฐานชัดเจนอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกท่านถูกเรียกให้หารือเกี่ยวกับบทลงโทษของไอช่า เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อวิเคราะห์หรือสนทนาเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของหลักฐาน”
“ท่านผู้นำตระกูล!” ชายชราร่างผอมอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา
ผู้นำตระกูลโบกมือเพื่อขัดจังหวะและหันกลับไปมองทุกคน “ผมกำลังฟังความเห็นของทุกคน…”
เด็กหญิงตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ในความคิดของฉันเราต้องทำตามกฎของตระกูล กฏจะไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปถ้ามีข้อยกเว้นสำหรับคนพิเศษเพียงไม่กี่คน”
“ฮึ่ม!” ชายที่ผมยุ่งเหยิงพูดขณะวางมือไว้บนโต๊ะ
…
…
นอกห้องประชุมของตระกูลดราก้อน
มีร่างผอมเพรียวที่มีความสูงไล่เลี่ยยืนอยู่ข้างกัน หนึ่งในนั้นถือดาบยักษ์ในขณะที่อีกคนหนึ่งถือหอกยักษ์ ทั้งสองคือไอช่าและหญิงสาวที่สวมชุดคลุมสีม่วง
“ท่านพ่อและผู้อาวุโสกำลังหารือกัน” ไอช่ายิ้มขณะมองไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกัน “ท่านพี่รักของข้า ท่านพอเดาได้ไหมว่าผู้นำตระกูลจะลงโทษท่านอย่างไร? ข้าเดาว่าพวกเขาจะตัดแขนขาของท่านและโยนท่านเข้าคุกเป็นเวลาร้อยปีตามกฎของตระกูล!”
หญิงสาวที่สวมชุดคลุมสีม่วงสีม่วงมองไปที่ประตู ทำทีเป็นไม่สนใจไอช่า
“โอ้ข้าเกือบลืมไปเลย” ไอช่ายิ้ม “ท่านพี่เป็นถึงพี่ใหญ่! ผู้อาวุโสต้องพึ่งพาท่านในการปกป้องจากสิ่งมีชีวิตจากแดนรกร้างแล้วพวกเขาจะกักขังท่านได้อย่างไร?”
สายลมพัดผ่านมาเบาๆผมของหญิงสาวในเสื้อคลุมสีม่วงปริวขึ้นเล็กน้อย เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ไอช่าหรี่ตาลง “แต่ถ้าสถานะบุตรศักดิ์สิทธิ์…ถูกแต่งตั้งให้ท่าน…ข้าสงสัยเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้น…” ดวงตาของไอช่าเบิกกว้าง
หญิงสาวที่สวมชุดคลุมสีม่วงกระซิบ “การเป็น ‘บุตรศักดิ์สิทธิ์!’ มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?”
ไอช่าเห็นว่าในที่สุดก็ได้รับการตอบสนองจากพี่สาว “ท่านไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าอย่างนั้นหรอ! ท่านพี่แค่โชคดีที่ท่านพ่อรักท่าน มากกว่าข้า! มิฉะนั้น… “
“รัก? เจ้ากำลังพูดถึงคนที่ไม่มีหัวใจอย่างท่านพ่อหรอ?” หญิงสาวที่สวมเสื้อคลุมหันหน้าอย่างช้าๆแล้วมองไปยังไอช่าที่มีใบหน้าคล้ายกัน” พลังของข้าที่ตื่นขึ้นมา! มันไม่ใช่เพราะโชคช่วยหรอกนะ!”
สีหน้าของไอช่าบูดเบี้ยวทันทีที่เธอได้ยิน “ท่านเกิดมาพร้อมกับพลังนั่น! มันไม่ได้เรียกว่าโชคดีอย่างนั้นหรอ ท่านเคยฝึกฝนอย่างหนักหรือทุ่มเทกับมันเหมือนข้าหรือเปล่า? ไม่เลย!”
ไอช่าตะคอกขณะที่เธอพูดต่อ “ข้าแตกต่างจากท่านมาก! ข้าอาจไม่มีโชคเหมือนท่าน แต่ข้าพยายามมาก! พลังของข้าถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาจากการฝึกฝนอย่างหนักในขณะที่ท่านไม่ต้องทำอะไรเลย! ท่านแค่โชคดีเท่านั้น!”
หญิงสาวที่สวมชุดคลุมสีม่วงยิ้ม “มีคำที่เรามักได้ยินอยู่บ่อยๆ – ‘อัจฉริยะ’ ปุถุชนและสามัญชนคนทั่วๆไป เจ้าไม่เคยได้ยินหรอ!”
“ท่าน!” ใบหน้าของไอช่ากลายเป็นสีแดงก่ำและเธอกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่งความโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าของเธอก็จางหายไปขณะที่เธอกระซิบ “ที่ท่านพูดมาอาจจะถูกก็ได้ แต่อีกไม่นานข้าก็จะได้อยู่สถานะเดียวกับท่าน!”
ไอช่าหันขึ้นมองท้องฟ้า “มีผู้อาวุโส 80% ที่จะสนับสนุนข้าพวกเขาจะเสนอบางอย่างให้กับท่านและนั่นคือ…”
…
…
“พวกเราต้องการบุตรศักดิ์สิทธิ์คนใหม่!” ชายวัยกลางคนที่รูปร่างสูงใหญ่พูดขึ้นมาว่า“ ท่านไอช่าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์และเราไม่สามารถลงโทษเธอได้โดยตรง แต่เธอได้ทำผิดกฏของตระกูล! ฉันขอแนะนำให้ท่าน ไอช่าลาออกจากหน้าที่และให้ท่านเฮลี่ย์เข้ารับตำแหน่งแทน”
“ฉันเห็นด้วย” เด็กหญิงตัวเล็กพยักหน้า “เธอเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี แต่เธอทำผิดซ้ำหลายครั้ง! เธอควรถูกไล่ออก!”
“ฉันก็เห็นด้วย”
มีคนเจ็ดถึงแปดคนยกมือขึ้น
คนที่เหลือต่างมองไปยังผู้นำตระกูลเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา
ใบหน้าของผู้นำตระกูลดูย่ำแย่ “ไม่ได้! ตอนนี้ตระกูลแฟเทอร์และตระกูลร็อคกำลังตรวจสอบการเคลื่อนไหวของเรา! ยิ่งกว่านั้นเราต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลสำหรับการเปลี่ยนแปลงของบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
“ใช่” ชายร่างผอมเสริม “นอกจากนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ต้องทำการปลุกพลังแห่งสายเลือด ท่านเฮลี่ย์ยังเด็กและเกรงว่าพลังของท่านเฮลี่ย์จะไม่สามารถปกป้องกำแพงจากการรุกรานของสิ่งมีชีวิตในแดนรกร้างได้! ”
ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำมองไปที่เขา “ดูเหมือนว่าท่านเฮลี่ย์จะสามารถปลุกพลังแห่งสายเลือดได้นานแล้วนะเท่าที่ผมรู้มา เธอก็เป็นผู้บุกเบิกเช่นกันแม้ว่าเธอจะไม่ได้ทรงพลังเท่ากับท่านไอช่า แต่เธอก็มีพละกำลังพอที่จะเป็นผู้พิทักษ์ดินแดนรกร้างได้!”
“องค์หญิงเฮลี่ย์ปลุกพลังแห่งสายเลือดตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เป็นไปได้ยังไง!”
“ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย?”
ชายชราร่างผอมบางและคนอื่นๆ รู้สึกตกใจเมื่อได้ยินข่าว
“สถานะของบุตรศักดิ์สิทธิ์เป็นของคนที่มีความแข็งแกร่ง” เด็กหญิงตัวเล็กหัวเราะ “เป็นความจริงที่ว่าคุณสมบัติของท่านเฮลี่ย์ไม่ผ่านเกณฑ์ เธอไม่ได้รับทรัพยากรหรือการสนับสนุนจากตระกูล แต่เธอก็ได้ฝึกฝนอย่างหนัก! ในขณะที่พลังของท่านไอช่าตื่นขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ! ในความคิดของข้าเราควรปล่อยให้ทั้งสองประลองฝีมือกัน! แต่ท่านไอช่าไม่สามารถใช้เคล็ดวิชาลับของเผ่ามังกรได้ พวกเธอจะต่อสู้กันแบบธรรมดาเท่านั้น หากองค์หญิงเฮลี่ย์สามารถรับการโจมตีได้ 10 ครั้งถือว่าชนะพวกท่านเห็นว่าอย่างไร?”
*****************************************************
เพิ่มเติมตรงนี้ สำหรับคนที่งงกับเนื้อเรื่องนะครับ คือ ไอช่าที่ไปพบเทียนทุกๆครั้งก่อนหน้านี้คือ เฮลี่ย์ ที่ปลอมตัวเป็น ไอช่า (สรุปคือจริงๆแล้ว ไอช่าเป็นพี่ เฮลี่ย์เป็นน้อง)