The Dark King – Chapter 504 กฏการประลอง
“10 ครั้ง? มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ?” ผู้นำตระกูลกล่าว “องค์หญิงเฮลี่ย์เป็นถึงผู้บุกเบิกด้วย หากเธอปลุกพลังแห่งสายเลือดของเธอแล้วละก็ พลังของเธอก็เทียบเท่ากับบุตรศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เอาชนะเธอด้วยการโจมตีแค่ 10 ครั้ง”
“ใช่” ชายร่างผอมพูดออกมา “บุตรศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนเคล็ดวิชาการต่อสู้ของท่านราชามังกรจนชำนาญและความแข็งแกร่งถูกฝังเข้าไปในกระดูกของเธอ มันคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่จะต่อสู้โดยถูกจำกัดการโจมตีสำหรับผมแล้ว 30 ครั้งดูสมเหตุสมผลกว่า!”
“ ใช่” คนที่ร่างกายซ่อนอยู่ในเงามืดกล่าวว่า “10 ครั้งไม่ยุติธรรม 30 ครั้งดูสมเหตุสมผลกว่า!”
เด็กหญิงตัวเล็กหัวเราะ “ท่านไอช่าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์และต่อสู้ในแดนรกร้างมานานหลายปี ทักษะของเธอแตกต่างจากผู้บุกเบิกทั่วไปอยู่แล้ว เธอจะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรหากไม่สามารถล้มองค์หญิง เฮลี่ย์ได้ใน 10 ครั้ง”
มีคนกล่าวเสริมขึ้นมาว่า “10 ครั้งนั้นมากเกินพอสำหรับการแข่งขันที่เดิมพันด้วยชีวิตและความตาย! 30 ครั้งก็เปรียบเสมือนกับการประลองเรื่องความอดทนเท่านั้น!”
“ความอดทนเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ! หากความอดทนของท่านเฮลี่ย์ต่ำเธอก็ไม่สามารถเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้!”
“ไร้สาระ! เราไม่ได้ต้องการการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ แต่ต้องการการต่อสู้ที่รวดเร็ว!”
“ตราบใดที่ท่านเห็นด้วย”
“ท่าน…”
ทุกคนที่นั่งรอบๆโต๊ะกลมโต้เถียงกัน
“หุบปาก!” ผู้นำตระกูลที่รับฟังด้วยความเงียบสงบมาโดยตลอดตะโกนออกมาและเสียงของเขาดังก้องไปทั่วห้องโถง ทุกคนเงียบในทันทีต่างพากันมองไปยังผู้นำตระกูล
“10 ครั้งคือ 10 ครั้ง” ผู้นำตระกูลพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส “ถ้าไอช่าไม่สามารถเอาชนะเฮลี่ย์ได้ใน 10 ครั้งเธอจะสูญเสียฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ให้กับเฮลี่ย์!”
“ท่านผู้นำตระกูล นี่มัน……” ชายชราผู้ผอมบางและคนอื่นๆมองไปที่เขา
ผู้นำตระกูลส่ายหัวอย่างช้าๆ “ไอช่าจะยังคงรับใช้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ต่อไปถ้าเฮลี่ย์แพ้ หากเฮลี่ย์ชนะแล้วพวกเราจะมาช่วยกันหาทางออกเรื่องการเปลี่ยนตำแหน่งทีหลัง”
“เห็นด้วย!” เด็กหญิงตัวเล็กยิ้ม
ทุกคนเห็นด้วยหลังจากผู้นำตระกูลเข้าแทรกแซง
“ท่านราชินีมังกร ท่านคิดยังไงกับเรื่องนี้?” ผู้นำตระกูลหันไปมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนบัลลังก์มังกร
ทุกคนหันไปมองบัลลังก์มังกรซึ่งมีร่างที่สง่างามนอนอยู่
หญิงสาวคนนี้เอนกายพิงด้านข้างของบัลลังก์อย่างเกียจคร้าน สีหน้าของเธอไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยในขณะที่เธอได้ยินคำถามของผู้นำตระกูลเธอกวาดสายตาไปยังโต๊ะกลม ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัวเพราะไม่มีใครกล้ามองเธอโดยตรง
“เจ้าคือผู้นำตระกูล เจ้าควรตัดสินใจด้วยตัวเอง” ผู้หญิงคนนั้นกวาดสายตากลับมาอย่างช้าๆ “ในเมื่อผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับสิ่งนี้ องค์หญิงทั้งสองคงร้อนใจกันอยู่เรียกพวกเธอเข้ามาที่นี่สิ”
เด็กหญิงตัวเล็กๆและคนอื่นๆ รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าราชินีมังกรไม่ได้เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้
มีร่องรอยของความผิดหวังในสายตาของชายชราผอม
“ให้พวกเขาเข้ามา” ผู้นำตระกูลมองไปยังความมืด
สายลมพัดผ่านทางที่มืดมิด
หลังจากนั้นครู่หนึ่งประตูไปยังห้องประชุมก็ถูกเปิดออก หญิงสาวสองคนกำลังเดินเข้ามาทีละก้าว
รูปร่างหน้าตาของพวกเธอค่อนข้างคล้ายกัน หนึ่งในนั้นคือไอช่าที่พาเทียนเข้ามาที่นี่ก่อนหน้านี้และอีกคนคือผู้หญิงที่สวมชุดคลุมสีม่วง
ทั้งคู่มีความสูงเท่ากันและสวมเสื้อผ้าที่คล้ายกันต่างกันแค่เฉดสีของเสื้อคนหนึ่งเป็นสีม่วงอีกคนเป็นสีเขียว
การแสดงออกทางสีหน้าของหญิงสาวที่สวมชุดคลุมสีม่วงนั้นเย็นชา
‘ไอช่า’ กำลังยืนอยู่ข้างเธอและมีรอยยิ้มบนใบหน้า
“เฮลี่ย์คารวะท่านราชินีมังกร ท่านผู้นำตระกูลและผู้อาวุโสทุกๆท่าน!” หญิงสาวที่สวมชุดชุดคลุมสีม่วงกล่าวขึ้นมาทันที
“ไอช่าคารวะท่านราชินีมังกร ท่านผู้นำตระกูล” หญิงสาวสวมชุดเสื้อคลุมสีเขียวคำนับไปทางราชินีมังกรและผู้นำตระกูล เธอไม่ได้กล่าวทักทายไปยังผู้อาวุโส ฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์เป็นลำดับที่สามรองลงมาจากราชินีมังกรและผู้นำตระกูล แต่ผู้อาวุโสเหล่านี้จะต้องทักทายเธอถ้าพวกเขาพบไอช่า มันเป็นส่วนหนึ่งของกฎ
ราชินีมังกรพยักหน้าเล็กน้อยขณะที่ริมฝีปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้ม
“พวกเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” ผู้นำตระกูลมองดูลูกสาวของเขา มีแววตาที่ซับซ้อนในดวงตาของเขาขณะที่เขาพูดอย่างใจเย็น “ไอช่า หลักฐานแสดงให้เห็นว่าเจ้ามีส่วนร่วมในการขโมยคัมภีร์ลับ! เจ้าจะยอมสารภาพผิดหรือไม่”
ไอช่าตอบอย่างใจเย็น “ข้าไม่ยอมรับ”
ผู้นำตระกูลงงงวย
“ไม่ยอมรับอย่างนั้นหรอ?” ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำกล่าวว่า “หลักฐานเป็นข้อพิสูจน์ในสิ่งที่เจ้าทำแต่เจ้ายังไม่ยอมรับอีก?
ไอช่าพูดอย่างไม่แยแส “ไม่ว่าท่านจะมีหลักฐานอะไรแต่ถ้าข้าไม่ได้ทำอะไรแล้วผิดแล้วข้าจะยอมรับได้ยังไง! มันไม่สำคัญว่าข้าจะยอมรับหรือไม่ ท่านได้เรียกให้พวกเรามาพบแสดงว่าพวกท่านได้ตัดสินใจไปแล้วว่าข้าเป็นคนทำ!”
เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มเบาๆ “คำพูดของท่านทำให้พวกเราดูเหมือนคนร้าย หลักฐานก็คือหลักฐาน ท่านควรรับโทษในเรื่องที่ได้ทำผิดไป!”
ไอช่า(หญิงสาวสวมชุดเสื้อคลุมสีเขียว) หรี่ตาลงขณะที่มองเด็กหญิงตัวน้อยและพูดช้าๆว่า “แล้วท่านต้องการให้ข้ารับโทษอะไร?”
เด็กหญิงตัวเล็กๆ รู้สึกราวกับว่าเธอไม่สามารถซ่อนความลับในหัวใจของเธอได้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติขณะที่เธอพูดว่า “คำตัดสินหลังจากทุกคนหารือกันได้ออกมาแล้ว มันสายเกินไปถ้าท่านต้องการจะ … “
“ไม่จำเป็น” ไอช่าขัดจังหวะเธอโดยตรง
ชายร่างผอมและคนอื่น ๆ พากันส่ายหัวขณะที่ถอนหายใจ
ผู้นำตระกูลกระซิบ “ผู้อาวุโสทั้งสิบสองคนและฉันได้ตัดสินใจเป็นเอกฉันท์ให้เจ้าและเฮลีย์ต่อสู้กัน เจ้าถูกห้ามไม่ให้ใช้ทักษะของราชันย์มังกร! หากเจ้าสามารถเอาชนะเฮลี่ย์ได้ใน 10 รอบ เจ้าจะยังคงสานะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ดังเดิม! แต่ถ้าเจ้าแพ้จะต้องสูญเสียสถานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ เฮลี่ย์จะรับตำแหน่งเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ชั่วคราว มีข้อขัดข้องหรือไม่?”
สายตาของทุกคนจดจ้องไปที่ไอช่า
การแสดงออกของไอชาไม่เปลี่ยนแปลง แต่เธอก็นิ่งเงียบ
“ไอช่าถ้าเจ้ามีข้อคัดค้านก็สามารถพูดออกมาได้” ผู้นำตระกูลพูดในขณะที่เขาเห็นว่าไอช่าเงียบไปนาน
ไอช่าพูดออกมาช้าๆว่า “ข้าไม่มี…ไม่มีข้อคัดค้าน”
มีร่องรอยของความสุขในดวงตาของไอช่าที่สวมเสื้อคลุมสีเขียว เธอกำหอกยักษ์ในมือของเธอ
“แต่…” ไอช่าพูดออกมา