The Dark King – Chapter 512 ทีมที่ 7
“รับทราบครับ ท่านผู้อาวุโส”
ทันใดนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นเด็กที่มีรูปร่างผอมผิวซีดแต่หน้าตาหล่อเหลา เขามองมาที่เทียน “ตามฉันมา”
เทียนพยักหน้า เขาแปลกใจเพราะเขาไม่รู้สึกถึงความร้อนของนอริชที่ดูเหมือนอยู่ในห้องโถงนี้มาโดยตลอด ยิ่งกว่านั้นเทียนมองไปที่เด็กหนุ่ม เขาไม่เห็นความร้อนจากร่างกายของชายคนนี้ราวกับว่าเขาเป็นซากศพที่เดินได้
“เลือดของเขา…เหมือนกับโรคเกล็ดเลือดน้ำแข็ง” นัยน์ตาของเทียนเบิกกว้างขึ้นขณะที่เดินตามหลังเด็กหนุ่มคนนั้น แต่เขาก็คอยระมัดระวังตัวตลอดเวลา เทียนคาดเดาว่าที่เขาไม่สามารถมองเห็นความร้อนจากร่างของเด็กหนุ่มคนนี้อาจเป็นเพราะเขามีสัญลักษณ์เวทมนตร์พิเศษที่สามารถหลีกเลี่ยงการรับรู้ของเขาได้
พวกเขาออกจากภูเขาแห่งนี้ทันทีหลังจากออกจากห้องโถงมา พวกเขามาถึงภูเขาอีกลูกหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาก่อนหน้านี้ มีปราสาทที่งดงามที่บริเวณชิงเขา มีผู้คนนับสิบอยู่ในปราสาทและปล่อยความร้อนออกมาในระดับที่ต่างกัน
บางคนดูเหมือนจะเป็นคนธรรมดา เทียนสันนิษฐานว่าพวกเขาเป็นคนรับใช้หรือมีสัญลักษณ์เวทมนตร์พิเศษที่สามารถลดความร้อนในร่างกายของพวกเขา
พวกเขากำลังเดินขึ้นตามเนินเขา ระหว่างเดินทางนอริชและเทียนไม่มีการพูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขามาถึงเขตที่อยู่อาศัยนอริชก็กล่าวว่า “เดินตามฉันมา”
เทียนเดินตามหลังเด็กหนุ่มคนนั้นไป พวกเขาเดินไปตามทางด้านบนของภูเขามีอาคารบ้านเรือนกระจายอยู่ตามภูเขาร อบๆบ้านเต็มไปด้วยสวนที่สวยงาม
นอริชหยุดเดินขณะที่มาถึงอาคารหลังหนึ่งที่อยู่ตรงใจกลางภูเขา เขาหยุดอยู่บริเวณนอกรั้วแล้วตะโกนว่า“เอียน!”
เทียนยืนอยู่ข้างหลังนอริชขณะที่เขามองดูอาคารที่อยู่เบื้องหน้าของเขา ภายในอาคารมีความร้อนแผ่กระจายออกมาจาก 5 ร่าง หนึ่งในนั้นทรงพลังมากความร้อนที่แผ่ออกมาเกือบจะเท่าความร้อนในร่างกายของไซรัส อีกสามคนอ่อนแอกว่าคนแรกเล็กน้อย คนที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในระดับเดียวกับฟรานซิส
ไม่มีใครตอบสนองต่อเสียงตะโกนของนอริชเนื่องจากทุกคนต่างนั่งหรือยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม
แอด ~~ ประตูถูกเปิดออก
ชายหนุ่มที่มีผมสีขาวเปิดประตูออกมา ไม่มีการแสดงออกใดๆจากสีหน้าของเขาแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมืดมน
เทียนรู้ว่าชายผู้นั้นมีสัญลักษณ์เวทย์มนตที่สามารถอำพรางพลังของตนเองได้
เอียนตกใจเมื่อเห็นเทียนยืนอยู่ข้างหลังนอริช เขาขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น”
นอริชยิ้ม “ทีมของนายมีสมาชิกเพิ่มอีกคน เขามีชื่อว่าเทียน สมาชิกคนใหม่ล่าสุดของทีมของนาย!”
เอียนขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่เทียน “เขามาจากตระกูลดราก้อนไหม? ก่อนหน้านี้เขาทำหน้าที่อะไร ดูเหมือนว่าเขาจะอ่อนแอมาก”
นอริชยิ้ม “เทียนเป็นเพียงนักล่าระดับสูง ก่อนที่ภารกิจต่อไปจะเริ่มขึ้นเขาจะได้รับทรัพยากรที่จะทำให้เขาไปถึงผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของมนุษย์และสามารถติดตามทีมของนายได้”
“นักล่าระดับสูง?” เอียนมองเทียนด้วยสายตาที่ดูถูก
“นายพูดว่าอะไรนะ? เป็นแค่นักล่าระดับสูงอย่างนั้นเหรอ?” ชายรูปร่างกำยำที่มีผิวสีเข้มรีบวิ่งออกจากอาคาร เขามองไปที่นอริช “พวกเราทำอะไรผิดอย่างนั้นหรอ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานายพามือใหม่มาเข้าทีมเราและตอนนี้ก็พามาเพิ่มอีกคน นายเห็นทีมที่ 7 เป็นอะไรกัน? เรามาที่นี่เพื่อรับพวกเด็กใหม่อย่างนั้นหรอ?”
นอริชยิ้ม “มันเป็นคำสั่งของผู้อาวุโส”
“นาย!” ชายผิวดำจ้องมาที่เขา
นอริชกล่าวว่า “เอียน ผู้อาวุโสได้มอบเด็กใหม่ให้สองคน ภารกิจต่อไปจะอยู่ในพื้นที่สีส้ม ดังนั้นอย่าบ่นอะไรเลย” นอริชเดินจากไปทันทีที่เขาพูดจบ
เอียนและชายผิวเข้มยืนตะลึงไปครู่หนึ่ง ดวงตาของพวกเขาจ้องมาที่ร่างกายของเทียนและพวกเขาถอนหายใจ
“เทียนเข้ามา” เอียนมองไปที่เทียน
เทียนเข้าไปในอาคาร
ภายในอาคารกว้างขวางมาก แต่ภายในห้องอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิง มีเศษขนมปังอบ,เศษเปลือกผลไม้และอื่นๆอีกมากมายบนพื้น ภายในห้องแห่งนี้มีอากาศที่แย่มาก มีคนไม่กี่คนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เท้าของพวกเขาวางก่ายอยู่บนโต๊ะขณะใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกียจคร้านและเศร้าหมอง
เทียนเคยเห็นบรรยากาศที่มืดมนแบบนี้มาก่อนในตอนที่เขาเป็นนักล่า ความรู้สึกเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังจากการต่อสู้ที่ต้องเดิมพันชีวิตด้วยความเป็นและความตาย
“เรามีสมาชิกใหม่ชื่อเทียน” เอียนชี้ไปที่เทียนขณะที่เขาเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขานั่งลงบนโซฟาที่ไม่มีใครนั่ง
คนอื่นๆภายในห้องมองมาที่เทียนแต่ไม่ใครยืนขึ้นเพื่อทักทายเขา
คนที่มีความร้อนเบาบางที่สุดเป็นเด็กผมบลอนด์ที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า เขามองเทียนด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น เขารู้สึกว่าได้พบกับสหายร่วมชะตากรรมเข้าแล้ว
อีกคนเป็นผู้หญิงที่รูปร่างเรียวบางที่คอยสังเกตเทียนอย่างเงียบๆ
“มือใหม่อีกแล้วหรอ?” ชายหนุ่มที่เอนกายพิงโซฟาด้วยท่าทางที่เกียจคร้านพูดออกมา
ชายผิวเข้มคนก่อนหน้านี้กล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธ “ผู้อาวุโสตั้งใจที่จะทำให้ทีมที่ 7 กลายเป็นทีมที่เต็มไปด้วยมือใหม่หรือไง! เรามีกันเจ็ดคน 2 คนที่เพิ่งมาเป็นมือใหม่ดูเหมือนว่าเราจะต้องกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กอย่างนั้นหรอ!”
เอียนเงียบ
ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสขณะที่เธอมองเทียน “ฉันคิดว่าผู้อาวุโสตัดสินใจว่าพวกเราไม่ควรทำภารกิจในพื้นที่สีแดงของดินแดงรกร้างหลังจากที่พวกเราสูญเสียสมาชิกของเราไปที่นั่น! ดังนั้นเขาจึงส่งมือใหม่สองคนมาให้เราทำงานในพื้นที่สีส้ม ฉันคิดว่าพวกเขาต้องการให้เราฝึกสอนสองคนนี้!”
ห้องตกอยู่ในความเงียบสงัดหลังจากเธอพูดจบ
เอียนส่ายหัวหและถอนหายใจ “แต่ความเสี่ยงของภารกิจในพื้นที่สีส้มของดินแดนรกร้างก็ไม่ต่ำอย่างที่คิด พวกเราไม่ควรประมาท! เราจะได้รับคะแนนนับพันถ้าทำภารกิจในพื้นที่สีส้มสำเร็จ!”
ชายหนุ่มผมสีทองที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขาถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น “คุณต้องการ บอกพวกเราว่าอะไรกันแน่?”
หญิงสาวมองไปที่เขาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเราเสียหัวหน้าทีมของเราซึ่งเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม…”