The Dark King – Chapter 518 วัตถุโบราณ
นอริชยิ้มเมื่อเขามองไปยังยูจิน “นายลองถามหัวหน้าของนายดูเองแล้วกัน” เขาส่งม้วนกระดาษให้เอียน “นี่เป็นรูปวาดของรอยเท้าลึกลับและรายละเอียดของภารกิจ ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดถึงกฎที่เหลือนะ”
“ไม่ต้อง” เอียนหยิบม้วนกระดาษมาจากนอริช เขาเปิดมันออกหลังจากนอริชเดินจากไป
รูบี้ ยูจิน ลูน่าและคนอื่นๆต่างมองเข้าไปในม้วนกระดาษ เทียนเห็นรอยเท้าลักษณะเหมือนกับตัวอักษร ‘Y’ ส่วนด้านหน้าของรอยเท้าแยกออกมาเป็นง่าม ส่วนท้ายของเท้านั้นดูสั้นและดูเหมือนว่าเป็นจุดที่ควบคุมความสมดุล
ส่วนหน้าของอุ้งเท้ามีความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร ส่วนด้านหลังของเท้ายาว 30 เซนติเมตร ความยาวรวมของเท้าประมาณ 1.1 เมตรซึ่งเทียบเท่ากับความสูงครึ่งหนึ่งของมนุษย์ทั่วไป ความกว้างของเท้าประมาณ 60 เซนติเมตรในขณะที่รอยเท้าจมลงไปในดินลึก 30 เซนติเมตร
“ มาร์ตินนายคิดยังไงกับรอยเท้านี้?” เอียนมองมาที่มาร์ติน
มาร์ตินมองไปยังรูปร่างของรอยเท้าอยู่ชั่วครู่ “ฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อน แต่จากกรงเล็บของมันมันดูเหมือนว่าเป็นสัตว์ร้ายประเภทคลาน อาจเป็นสัตว์ร้ายประเภทเลือดเย็นที่ชอบอยู่ในที่เปียกแฉะเช่นหนองบึง … ”
ยูจินถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น“ทำไมนายถึงคิดว่าเป็นสัตว์ร้ายประเภทคลาน นี่ไม่ใช่กรงเล็บเหรอ?”
มาร์ตินขมวดคิ้วในขณะที่เขามองไปยังมือใหม่ของทีมที่โง่เขลา ยูจินเป็นคนใจร้อนและพวกเขาต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงไม่ใส่ใจคำพูดของยูจินมากนัก เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้านายคิดว่ามันไม่ใช่สัตว์ร้ายประเภทคลานแต่เป็นสัตว์ร้ายที่เคลื่อนที่ด้วยขา 2 ขา แล้วนายจะอธิบายถึงรอยเท้าที่ตื้นนี้ยังไง ถ้าเป็นสัตว์ร้ายที่ยืน 2 ขาตามที่นายคิดจากส่วนสูงและน้ำหนักของมันลอยเท้าคงไม่ตื้นแบบนี้แน่ๆ”
ยูจินพยักหน้า เขาเข้าใจในสิ่งที่มาร์ตินกำลังอธิบาย
เอียนจ้องที่รอยเท้าชั่วครู่จากนั้นก็ม้วนมันเก็บ เขามองไปยังสมาชิกในทีมของเขา “พวกเราเหลือเวลาไม่มากแล้วและเราต้องตรวจเช็คอุปกรณ์ทั้งหมดให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่พวกนายใช้อยู่ไม่มีข้อบกพร่อง หากเราสามารถค้นหารอยเท้าลึกลับได้ก็จะได้รับคะแนนจากภารกิจพิเศษนี้ แต่มันอาจใช้เวลานานมากและเสบียงของเราอาจไม่เพียงพอ”
“รับทราบ”
พวกเขาทั้งหมดกลับไปที่ห้องเพื่อสวมอุปกรณ์ที่ได้รับมา
เทียนและยูจินได้รับอุปกรณ์พื้นฐานเป็นชุดเกราะสีดำเข้มที่ทำจากโลหะและพลาสติก หลักจากสวมใส่มันปกคลุมรอบร่างกายของพวกเขาอย่างแน่นหนามีผลึกเป็นประกายเล็กๆฝังอยู่บนข้อมือ คอ หัวเข่าและที่อื่นๆ
เทียนเคยเห็นว่าเฮย์ลี่ก็ใช้คริสตัลที่คล้ายกันกับที่เขาได้รับ หินอุกกาบาตนี้สามารถป้องกันรังสีความเข้มสูงได้ในระดับที่ดี
นอกเหนือจากเกราะพื้นฐานทั้งสองยังได้รับอาวุธพื้นฐานอีกด้วย เทียนรายงานอาชีพของเขาในฐานะนักธนูดังนั้นเขาจึงได้รับธนูมา ธนูเป็นสีเงินและปลายทั้งสองเป็นปลายแหลมที่มีความคมมาก สายธนูเป็นสีแดงเข้มซึ่งดูเหมือนว่าจะทำมาจากชิ้นส่วนของสัตว์ร้ายบางชนิด
แม้ว่ามันจะเป็นอาวุธพื้นฐานแต่ทั้งหมดก็ทรงพลังมาก
พวกเขาได้รับกระเป๋าเป้สะพายหลังสีดำสำหรับเก็บอุปกรณ์ของพวกเขา มันทำจากวัสดุบางที่สามารถกันน้ำได้ มีกล่องอาหารสิบสองกล่องและขวดน้ำสองขวด
เทียนคำนวณว่าเสบียงนี้เพียงพอสำหรับสถานะผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของมนุษย์เป็นเวลา 12 วัน พวกเขาสามารถใช้เสบียงอาหารให้เพียงพอสำหรับครึ่งเดือนถ้าพวกเขาแบ่งเสบียงในแต่ละวันออกมาวันละเล็กน้อย
เทียนไม่ค่อยสนใจเรื่องอาหารมากนักเขาเคยใช้เวลา 3 ปีในการฝึกฝนเป็นหน่วยค้นหาเขารู้วิธีหาอาหารและน้ำนอกกำแพง นักล่า ผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของมนุษย์ และผู้บุกเบิกคงไม่มีใครยอม “เสียเวลา” ในการเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ปกติแล้วพวกเขาจะใช้เวลาทั้งหมดที่มีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและเรียนรู้เคล็ดวิชาการต่อสู้เพื่อจะได้ทำภารกิจได้สำเร็จอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้จะรู้วิธีการเอาชีวิตรอด… ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ลำบากแค่ไหนมัน แต่มันจะไม่มีความหมายอะไรเลยถ้าต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่ง
ทุกคนต่างเตรียมตัวพร้อมแล้ว
เทียนเห็นรูบี้หิ้วกระเป๋าใบใหญ่ภายในกระเป๋าเต็มไปด้วยน้ำและอาหาร ปริมาณอาหารและน้ำที่รูบี้แบกอยู่นั้นเป็นเสบียงอาหารสำหรับสมาชิกทุกคนในทีม
เทียนเข้าใจว่าเอียนกำลังวางแผนที่จะอยู่นอกกำแพงขนาดใหญ่เป็นเวลานาน แต่ถ้าสมาชิกทุกคนในทีมต้องแบกเสบียงอาหารที่มากเกินไปพวกเขาจะเคลื่อนที่ได้ช้าลง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแบ่งงานกันและทำงานร่วมกันเป็นทีม
ความรับผิดชอบหลักของรูบี้คือการรักษาอาหารและน้ำในขณะที่คนอื่นๆรับหน้าที่ต่อสู้
การแบ่งหน้าที่กันจะทำให้ทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
พวกเขามารวมตัวกันข้างนอกเพื่อเดินทางออกจากตระกูลดราก้อน
เอียนนำม้าที่ได้รับการฝึกฝนโดยตระกูลดราก้อนมาจากนั้นพวกเขาก็ขึ้นไปขี่ม้าเพื่อออกเดินทางไปที่กำแพงยักษ์
“หัวหน้าครับ เราจะอยู่นอกกำแพงยักษ์นานแค่ไหนแล้วเราจะได้กลับมาเมื่อไหร่ครับ?” ยูจินถามเอียน
เอียนตอบ “รางวัลของภารกิจหลักคือ 700 คะแนนหากเราไม่สามารถทำภารกิจหลักให้สำเร็จได้เราก็จะถูกหักคะแนน 700 คะแนน เฉลียเกือบ 100 คะแนนต่อคน!”
“100 คะแนนไม่น้อยไปหน่อยหรอ! พวกเรากำลังทำภารกิจที่เสี่ยงตายแบบนี้และจะได้รับ 100 คะแนนต่อคน! คนที่อยู่เบื้องบนไม่ขี้เหนียวไปหน่อยหรอ!” ยูจินบ่น
เอียนหันมามองเขา “100 คะแนนเป็นผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีและสามารถนำไปแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่จำเป็นได้หลายอย่าง”
ยูจินมองมีดสั้นที่เอวของเอียน “มีดของคุณต้องใช้คะแนนเท่าไหร่เพื่อแลกมันมาครับ?”
เอียนยิ้ม “มีดเล่มนี้มีชื่อว่า “กระหายเลือด” มันทำจากฟันหน้าของสัตว์ร้ายระดับ 52 ฉันจ่ายไปประมาณ 850 คะแนนเพื่อแลกมันมา”
“มากขนาดนั้นเลยหรอครับ?” ยูจินถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับมีดเล่มนี้หรอครับ? มันสามารถตัดเหล็กได้ง่ายดายเหมือนหั่นเนยหรือเปล่าครับ? มีดของผมก็สามารถทำแบบนั้นได้เหมือนกัน”
รูบี้หันมามองเขาแล้วกลอกตาเมื่อเห็นยูจินทำตัวโง่เขลา “มีดของนายไม่สามารถเฉือนเนื้อสัตว์ร้ายที่อยู่เหนือระดับ 50 ได้! ผิวหนังและเกล็ดของสัตว์ร้ายเหล่านั้นแข็งกว่าเหล็กมาก! การโจมตีด้วยกรงเล็บจากสัตว์ร้ายนั้นมากพอที่จะทำลายมีดของนายได้! นายเข้าใจไหมว่าฉันหมายถึงอะไร”
ยูจินตกตะลึงกับคำพูดของเขา
เทียนกำลังขี่ม้าอยู่ด้านหลัง ยูจินเป็นมือใหม่เหมือนเขาแต่ดูเหมือนว่า…ยูจินไม่เคยออกไปนอกกำแพงยักษ์และไม่เข้าใจว่าการต่อสู้ข้างนอกนั้นโหดร้ายแค่ไหน
“ครับหัวหน้า” ยูจินถามคำถามอื่นต่อด้วยความอยากรู้ “ทำไมนอริชถึงไม่เล่ารายละเอียดของภาระกิจพิเศษที่ 1 และ 2 ให้พวกเราฟังหล่ะครับ?”
เอียนไม่ได้หันกลับไป “ภารกิจทั้งสองนั้นเป็นภารกิจที่มีมานานแล้วและมันไม่เคยถูกเปลี่ยน ภารกิจแรกคือการตามหาวัตถุโบราณ! หรือค้นหาที่ตั้งและพิกัดของวัตถุโบราณเหล่านั้น! ถ้าทำสำเร็จจะได้รับรางวัลอย่างงดงาม!”
“ภารกิจที่สองคือการรวบรวมพืชที่เรียกว่า ‘หญ้ามังกร’ มันเป็นอาหารจานโปรดของหนอนมังกรสามารถแลกเปลี่ยนหญ้ามังกรได้ต้นละ 10 คะแนน”
ยูจินรู้สึกประหลาดใจ “วัตถุโบราณคืออะไร? โบราณสถานอย่างนั้นหรอ? พวกมันอยู่ในซากปรักหักพังหรือเปล่า?”
เอียนตอบว่า “ไม่แน่นอน! ซากปรักหักพังได้ถูกทำลายลงเกือบหมดแล้วแม้แต่ทองแดงที่แตกก็แทบไม่มีเหลือ แต่ยังมีวัตถุโบราณที่ซ่อนอยู่ใต้ดินหรือในภูเขาบางแห่งที่ไม่ได้รับความเสียหายจากฝนหรือค่ารังสีที่กัดกร่อนจนเสียหาย”