The Dark King – Chapter 530 ยูจินผู้เกรี้ยวกราด
“ออกไปตรวจสอบหรอ?”
“แล้วใครจะออกไป? ใครจะยอมออกไป?”
เอียน มาร์ติน และคนอื่นๆต่างก็ขมวดคิ้ว
ยูจินรู้สึกได้ว่าเทียนกำลังจ้องมองมาที่เขา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยและพูดออกมาด้วยความเย็นชาว่า “ทำไมนายเอาแต่จ้องมองฉันหลังจากที่พูดเรื่องนี้?”
“ฉันว่านายเหมาะสมที่สุดที่จะขึ้นไปตรวจสอบสถานะการข้างบน” เทียนพูดอย่างตรงไปตรงมา
ยูจินเกือบจะหัวเราะออกมา “นายเป็นคนเสนอความคิดนี้ออกมาไม่ใช่ว่านายจะอาสาไปเองหรอ? แล้วทำไมต้องเป็นฉัน?”
เทียนตอบกลับมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง “การต่อสู้ก่อนหน้านี้นายยังไม่ได้ทำอะไรเลย นี่เป็นโอกาสของนายแล้วที่จะทำให้ทุกคนในทีมกลับมาเชื่อใจนายอีกครั้ง นายมีพละกำลังที่ยอดเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นยังถนัดการต่อสู้ระยะประชิด รู้หรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงเสนอว่านายควรไป? มันเป็นเพราะสถานการณ์ทั้งหมดในตอนนี้! การเป็นส่วนหนึ่งของทีมก็ต้องสร้างประโยชน์ให้กับทีมหน่อยสิ จริงไหม?”
ใบหน้าของยูจินแดงขึ้นมาด้วยความโกรธแต่สายตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาหันไปมองเอียน มาร์ติน และคนอื่นๆ เขาเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยราวกับว่าทุกๆคนอยากจะรู้ว่าเขาจะตอบกลับไปว่าอย่างไร
“ถ้านายเสนอชื่อฉันเพราะความสามารถของฉันอย่างนั้นฉันก็ขอเสนอชื่อของนายบ้างเพราะนายเองก็มีความสามารถไม่ต่างจากฉัน นายเป็นคนมีไหวพริบอยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้นนายยังสามารถเห็นได้ว่าสัตว์ร้ายตัวนั้นนอนหลับอยู่หรือว่าออกไปแล้วโดยไม่ต้องเข้าไปใกล้” ยูจินกำหมัดของเขาเอาไว้แน่นและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เขาไม่ได้พูดถึงพละกำลังหรือความสามารถในการต่อสู้เพราะมาร์ตินและเอียนคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม ถ้าหากเขาพูดถึงพละกำลังอาจจะทำให้ทั้งสองคนไม่พอใจได้
เขาไม่อยากจะมีปัญหากับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมดังนั้นจึงเลี่ยงที่จะพูดประเด็นนี้
เทียนตอบกลับมาว่า “ฉันสามารถมองเห็นความร้อนที่อยู่ในร่างกายของสัตว์ร้ายได้ แต่ลสัตว์ร้ายตัวนั้นสามารถเข้ามาใกล้มัจจุราชไร้เงาและฆ่ามันได้ทันที มันหมายความว่าสัตว์ร้ายตัวนี้เป็นสัตว์ร้ายประเภทเลือดเย็นซึ่งฉันไม่สามารถมองเห็นความร้อนในร่างกายของมันได้”
“แก!” ยูจินจ้องมองมาที่เขาและตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “แกยังโกรธฉันอีกหรือไงที่ฉันเข้าไปขัดขวางแกไม่ให้แกได้อยู่ใกล้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น?”
เทียนตกตะลึง
เอียน มาร์ติน และคนอื่นๆก็ตกตะลึงไม่ได้ยินคำพูดของเขา
เทียนยังคงเฉยเมย เขารู้ว่ายูจินพยายามเล่นสกปรก
“แล้วนายจำหน้าของเด็กผู้หญิงคนนั้นได้หรือเปล่า?” เทียนหันไปมองยูจินที่ยังคงโกรธ ยูจินและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง พวกเขาคิดว่าเทียนอาจจะกำลังแก้ตัวแต่เทียนก็พูดต่อไปว่า “นายยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?! เด็กผู้หญิงคนนั้นสูงแค่ครึ่งหนึ่งของนายเท่านั้น มากสุดเธอก็น่าจะอายุประมาณ 7-8 ขวบ! นายทำให้ฉันรู้สึกอยากจะอ้วกออกมา! ฉันยอมรับว่าฉันไม่พอใจนาย แต่สิ่งที่ฉันพูดออกไปนั่นคือสิ่งที่ฉันคิดมาดีแล้วและนายคือผู้ที่เหมาะสมที่สุด”
ยูจินตกตะลึงขณะที่เขาจ้องมองไปที่เทียนที่แสดงละครได้อย่างแนบเนียน เขาสร้างเรื่องขึ้นมาและพยายามโจมตีเทียน แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเทียนจะสามารถแก้ตัวได้อย่างแนบเนียน
นี่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก ยิ่งไปกว่านั้นยูจินยังรู้สึกได้ถึงสายตาที่ดูรังเกียจของเอียน โรสแมรี่ และคนอื่นๆที่มองมาที่เขา
ยูจินคิดว่าเทียนจะปฏิเสธข้อกล่าวหานี้จากนั้นพวกเขาก็จะได้โต้เถียงกัน แต่การแสดงของเทียนงั้นเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้ไปมาก
เหี้ยมโหดเกินไปแล้ว!
ยูจินกำหมัดแน่นขณะที่เขาจ้องมองไปที่เทียน
เทียนก็กำลังมองกลับมาที่เขาด้วยเช่นกัน หน้าอกของเขากระเพื่อมอย่างรุนแรงและลมหายใจของเขาก็เริ่มแรงมากขึ้นเพราะความโกรธ
“ฉันเห็นด้วย” โรสแมรี่พูดขึ้นมา “ยูจิน ไม่ได้ทำอะไรเลยในการต่อสู้ครั้งที่แล้ว สัตว์ร้ายตัวนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวมานานแล้วฉันคิดว่ามันน่าจะหลับไปแน่นอน ถ้านายไปเงียบๆคงไม่มีอันตรายอะไร”
ยูจินเกือบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อเขาได้ยินคำพูดของโรสแมรี่ ไม่อันตรายงั้นหรอ? แล้วทำไมแกไม่ออกไปเองวะ?
มาร์ตินจ้องมองไปที่เทียนจากนั้นก็หันไปมองยูจิน “ฉันเองก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ ถ้าพวกเราต้องส่งคนออกไปดูจริงๆคนที่เหมาะสมที่สุดก็คงเป็นยูจิน”
ยูจินกำลังกัดฟันด้วยความโกรธ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? เหมาะสมที่สุดงั้นหรอ?
เอียนมองมาที่ยูจิน “นายคงต้องรับหน้าที่มีแล้วล่ะเพราะนี่คือความเห็นของทุกๆคน พวกเราจะเตรียมช่วยเหลือนายเองถ้าหากมีอันตรายอะไรเกิดขึ้น”
“ใช่” รูบี้พูดต่อไปว่า “ไม่ต้องกลัวหรอก เทียนก็บอกแล้วว่าสัตว์ร้ายตัวนี้น่าจะหลับอยู่ นายแค่ไปตรวจสอบดูจากระยะไกลๆก็พอ แล้วนายจะกลัวอะไรกัน?”
ยูจินตะโกนกลับมาว่า “กลัวหรอ? อย่างนั้นแล้วทำไมพวกนายไม่ไปเองล่ะ?”
รูบี้กรอกตาของเขา “ฉันเหมือนคนที่วิ่งเร็วมากหรือไง?”
ยูจินเงียบไปทันที เขาจ้องมองไปที่ทุกๆคนและรู้สึกได้ว่าตนเองเหมือนกับลูกแกะที่กำลังเข้าไปในโรงฆ่าสัตว์ พวกเขาคงไม่ส่งเทียนหรือรูบี้ออกไปดูสถานการณ์แน่นอน รูบี้อยู่ในทีมมานานและทุกๆคนรู้จักเขาเป็นอย่างดี เทียนก็เป็นคนที่ขาดไม่ได้ในทีมเพราะเขามีความสามารถในการมองเห็นความร้อน แปลเขามีหน้าที่แค่ต่อสู้เท่านั้น มาร์ตินและเอียนก็มีหน้าที่แค่ต่อสู้แต่พวกเขาเป็นคนสำคัญในทีม
สีหน้าของยูจินกลับมาเป็นปกติเมื่อเขาจ้องมองไปที่เทียน “การเฝ้ามองจบลงแล้ว ถ้าแกอยากจะตายมากนักฉันก็จะเติมเต็มความปรารถนาของแกเอง!”
ดวงตาของเทียนเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาได้ยินที่ยูจินพูดออกมา
เอียนรีบตอบกลับมาทันทีเมื่อเขาได้ยินที่ยูจินพูด “ยูจิน นายอย่าทำตัวแบบนี้สิ!”
“นายหมายความว่าไง?” มาร์ตินจ้องมองไปที่ยูจิน
รูบี้และโรสแมรี่ก็จ้องมองมาที่ยูจินด้วยเหมือนกัน พวกเขาไม่ได้พยายามช่วยเหลือเทียนแต่แค่เกลียดยูจินเท่านั้น
“เอ่อ …” ยูจินยิ้มขึ้นมาเมื่อเขาเห็นท่าทีของทุกๆคน รอยยิ้มของเขาดูเหมือนกับคนโรคจิตและเขาพูดออกมาเบาๆว่า “เอียน มาร์ติน และทุกๆคน… ฉันขอแนะนำว่าพวกนายจะเข้ามายุ่งปัญหาระหว่างฉันกับมันจะดีกว่า!”
เอียนขมวดคิ้ว “ฉันไม่สนใจว่าพวกแกจะมีปัญหาอะไรกันแต่ฉันไม่อนุญาตให้คนในทีมต่อสู้กันระหว่างปฏิบัติภารกิจ!”
ยูจินหัวเราะออกมา “นายพูดถูก! ฉันเองก็มีภาระกิจของตนเองเหมือนกัน!”
“ภารกิจของนาย?”
ยูจินดึงดาบของตนเองออกมาช้าๆ “นายอย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นแล้วแม้พวกนายจะกลับไปที่กำแพงยักษ์ได้แต่ก็คงรอดไปไม่ได้แน่นอน! เด็กหนุ่มคนนี้ทำให้ท่านหญิงเฮลี่ย์ไม่พอใจ ฉันถูกส่งมาเพื่อจับตามอง แต่ในเมื่อมันอยากจะตายมากนักฉันก็จะเติมเต็มความปรารถนาของมันให้เอง!”