The Dark King – Chapter 526 หมอก
“มาร์ติน นายเป็นอะไรหรือเปล่า?” ลูน่ารีบเดินเข้าไปหามาร์ตินและมองไปที่บาดแผลของเขา
มาร์ตินส่ายศีรษะ “ไม่ต้องห่วงไป บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้นไม่ได้ติดเชื้อ”
“อย่างนั้น..ก็ดี” ลูน่ารู้สึกโล่งใจเมื่อเธอมองไปยังบาดแผลของเขา
เอียนและคนอื่นๆกลับมาประจำที่ตำแหน่งของตนเอง “ไปกันเถอะ” เอียนเดินนำออกไปทันที
มาร์ตินยิ่งไปกว่านั้น โรสแมรี่ และคนอื่นๆก็ตามไป
เทียนหันไปมองยูจิน สายตาของเทียนเย็นชาขึ้นมาทันที เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะฆ่ายูจินถ้าหากชายคนนี้ยังทำให้เขาต้องเสี่ยงชีวิตอีก เทียนกำลังคิดวางแผนทรมานยูจินและหาข้อมูลของผู้ที่บงการยูจินให้ตามเขามาที่นี่
หมอกปกคลุมภูเขาลูกนี้อย่างหนาแน่น มีกลิ่นเน่าเหม็นลอยมาในอากาศเป็นระยะๆ
เอียนเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในหมอก สัญลักษณ์เวทมนตร์ของเขาสามารถตรวจสอบอุณหภูมิได้ เขาเป็นเหมือนกับมนุษย์เทอร์โมมิเตอร์ที่แม่นยำ แน่นอนว่านี่เป็นเพียงหนึ่งในความสามารถของเขาเท่านั้น
“แปลกๆ” มาร์ตินพูดออกมาหลังจากที่พวกเขาเดินมาได้ประมาณ 200 เมตร
เอียนหันกลับไปมองเขา “มีอะไรหรอ?”
มาร์ตินมองไปที่ทุ่งหญ้ารอบตัวและพูดออกมาเบาๆ “พวกนายไม่สังเกตเลยหรอว่าหมอกมันเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ? ตอนนี้อยู่ในฤดูหิมะสีดำและอุณหภูมิก็ต่ำมาก ยิ่งไปกว่านั้นดวงอาทิตย์ก็ไม่สามารถส่องแสงลงมาได้ดังนั้นน้ำค้างบนใบหญ้าก็ไม่น่าจะมีมากนัก”
ทุกๆคนต่างหันไปมองใบหญ้าที่อยู่รอบตัวซึ่งเต็มไปด้วยน้ำค้างมากมาย มันเหมือนกับว่ามีฝนที่ตกลงมา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาอยู่ใกล้กับภูเขาลูกนี้ตั้งแต่เมื่อวานและรู้ดีว่าไม่มีฝนตกมาแม้แต่น้อย พื้นดินที่พวกเขากำลังเดินก็ไม่ได้เปียกด้วยเหมือนกัน
เอียนขมวดคิ้วขึ้นมาขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนี้ ด้วยประสบการณ์หลายปีและสัญชาตญาณบอกเขาว่ามีอะไรที่แปลกประหลาด ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังถอยกลับไปไม่ได้ในตอนนี้ พวกเขาได้ฆ่านกหัวขวานแห่งความตายไปแล้วและมัจจุราชไร้เงาก็น่าจะอยู่ใกล้ๆ ถ้าหากพวกเขาถอยกลับไปตอนนี้คงยากที่จะได้เจอกับมัจจุราชไร้เงาอีกครั้งหนึ่ง มันหมายความว่าพวกเขาจะต้องเสียเวลามากขึ้น แต่การไปต่อก็อาจทำให้พวกเขาต้องเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
เอียนครุ่นคิดและตัดสินใจออกมาว่า “ทุกๆคนระวังตัวด้วย! ถ้าพวกเราเจอกับอะไรที่ไม่ปกติอีกจะต้องรีบถอยกลับไปทันที!”
ทุกคนพยักหน้า
เทียนและลูน่าอยู่ตรงกลางของทีม แต่เทียนก็ไม่ได้ผ่อนคลายแม้แต่น้อยในตอนนี้ พวกเขาอยู่ในแดนรกร้างและแม้แต่ผู้บุกเบิกก็สามารถตายได้ทุกเมื่อ เขามีปีกและสามารถหนีไปจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่ได้ แต่มันก็ไม่ได้การันตีว่าเขาจะรอดชีวิตไปได้ถ้าหากเขาต้องเจอกับสัตว์ร้ายที่ทรงพลัง
“ฉันได้กลิ่นอะไรบางอย่าง” ลูน่าพูดออกมาเบาๆหลังจากที่พวกเขาเดินต่อไปได้ประมาณ 100 เมตร เธอสูดดมในอากาศและชี้ไปทางหน้าผาที่สูงชัน “มัจจุราชไร้เงาอยู่ทางนั้น ตรงหน้าพวกเรา”
เอียนมองกลับไปที่เธอ “เธอแน่ใจหรอ?”
“แน่ใจ” ลูน่าพยักหน้า “กลิ่นของมัจจุราชไร้เงามีบันทึกเอาไว้ในสารานุกรม ฉันรู้สึกได้ว่ากลิ่นนี้มันใกล้กับพวกเรามาก มันคือมัจจุราชไร้เงา!”
เอียนรู้สึกโล่งใจ เขาไม่คาดคิดว่าตนเองจะโชคดีจนได้พบมัจจุราชไร้เงาเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ได้เข้ามาในแดนรกร้าง แต่พวกเขาก็เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อยู่เสมอ เขาพูดออกมาเบาๆว่า “เตรียมตัวให้ดี! รูบี้ ทิ้งอาหารเอาไว้ตรงนี้ก่อน พวกเราต้องการแรงของนาย”
รูบี้พยักหน้าและปลดกระเป๋าสัมภาระที่อยู่บนหลังของเขาลงมาที่พื้น เขายัดกระเป๋าสัมภาระเอาไว้ที่ซอกหินแตกใกล้ๆต้นไม้ 2 ต้น
“ไปกันเถอะ!” เอียนพูดออกมาเบาๆ
ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกมาจากป่า พวกเขาเห็นสถานที่ราบเรียบซึ่งมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้า มีหน้าผาสูงชันอยู่ข้างๆ แต่มีถ้ำที่มืดมิดอยู่ด้านล่างของหน้าผาที่สูงชัน แม้ว่าเทียนจะไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านการดมกลิ่นอีกแล้วแต่เขาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็นที่ลอยออกมาจากภายในถ้ำ กลิ่นเหม็นผสมผสานกันจนทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้
เอียนมองไปที่ถ้ำและพูดออกมาเบาๆว่า “เตรียมคบเพลิง!”
รูบี้หยิบคบเพลิงออกมาหลายแท่งจากกระเป๋า เขาจุดคบเพลิงขึ้นมาและยื่นให้กับเอียน มาร์ติน และยูจิน เทียน โรสแมรี่ และลูน่านั้นสามารถมองเห็นในความมืดได้จึงไม่ต้องใช้คบเพลิง
เอียนก็สามารถมองเห็นในความมืดได้ แต่เขาเลือกที่จะหยิบคบเพลิงขึ้นมาและโยนเข้าไปในถ้ำ
ฟู่ว!
เสียงคบเพลิงกลิ้งเข้าไปภายในถ้ำ มันกลิ้งเข้าไปจนสุดปลายถ้ำ ทุกๆคนสามารถเห็นฉากที่น่าสะอิดสะเอียนได้ ผนังถ้ำทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยเศษเนื้อเน่าที่กระจัดกระจายอยู่
กลิ่นเหม็นที่ทุกคนรู้สึกได้ลอยมาจากที่นี่อย่างแน่นอน คบเพลิงทำให้ทุกคนได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นมันก็ดับไป
ทุกๆคนอยู่ข้างนอกและกำลังรอคอยว่าจะมีอะไรออกมาหรือไม่ พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ตลอดเวลา
เวลาผ่านไปช้าๆ
พวกเขารออยู่หน้าปากถ้ำมากว่า 10 นาทีแล้วแต่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย
เอียนขมวดคิ้ว หรือว่ามัจจุราชไร้เงาจะหนีไปแล้ว?
เขามองไปรอบๆตัว เอียนหยิบก้อนหินขึ้นมาและเดินเข้าไปใกล้ๆปากถ้ำ เขาโยนก้อนหินเข้าไป เสียงของก้อนหินที่กระทบกับผนังถ้ำดังขึ้นมาทันที
เอียนรีบถอยกลับมาขณะที่เขายังคงจ้องมองไปที่ถ้ำที่อยู่ตรงหน้า
ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแม้ว่าพวกเขาจะรอต่อไปประมาณ 5 นาที
เอียนเริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมา
มาร์ติน โรสแมรี่ และลูน่าก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย พวกเขาไม่อยากเข้าไปในถ้ำที่ดูอันตรายและน่าสะอิดสะเอียน มัจจุราชไร้เงาย่อมได้เปรียบเมื่ออยู่ในรังของมัน ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ภายในถ้ำก็เล็กมากทำให้พวกเขาไม่สามารถร่วมกันต่อสู้ได้ การต่อสู้ภายนอกถ้ำจะทำให้พวกเขาได้เปรียบมากกว่า
แต่มัจจุราชไร้เงาก็ไม่ยอมออกมา!
เว้นแต่ว่านี่จะไม่ใช่รังของมัน!
ทุกๆคนกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ เอียนพูดขึ้นมาเบาๆว่า “ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะไม่ได้อยู่ในถ้ำ เราต้องเข้าไปเพื่อรอคอยเวลาซุ่มโจมตี แต่ก็ต้องระวังตัวให้ดีเพราะมัจจุราชไร้เงาอาจจะหลบซุ่มโจมตีพวกเราอยู่ภายในนั้นได้!”
แม้ว่ามัจจุราชไร้เงาจะไม่ได้มีสติปัญญาและความฉลาดมากนักแต่พวกเขาก็ต้องระวังตัวให้ดีอยู่เสมอ
ทุกๆคนพยักหน้าและเดินตามเอียนเข้าไปในถ้ำ
ลูน่าใช้มือปิดจมูกของตนเองเอาไว้อย่างแน่นหนาเมื่อเดินเข้าไปใกล้ปากถ้ำ สีหน้าของเธอดูย่ำแย่มากและดูเหมือนว่าเธอพร้อมที่จะอ้วกออกมาตลอดเวลา ประสาทสัมผัสทางด้านกลิ่นที่ดีของเธอเล่นงานเธอแล้วในตอนนี้
เทียนมองไปรอบๆแต่เขาก็ไม่เห็นจุดความร้อนใดๆเลย แต่มัจจุราชไร้เงานั้นเป็นสัตว์ร้ายประเภทเลือดเย็นจึงทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นความร้อนในร่างกายของมันได้
เทียนมองเห็นเกล็ดสีเงิน 2 ชิ้นเมื่อพวกเขาเดินเข้ามาในถ้ำได้ประมาณ 4-5 เมตร เกล็ดที่พวกเขาเห็นนั้นเต็มไปด้วยของเหลวและส่งกลิ่นเหม็นออกมา
เทียนตกตะลึงทันที มัจจุราชไร้เงาไม่มีเกล็ด นี่หมายความว่ามีสัตว์ร้ายอีกตัวที่อยู่ในถ้ำนี้อย่างงั้นหรอ?