The Dark King – Chapter 551 ปกป้อง
“เธอบาดเจ็บงั้นหรอ?” เทียนตกตะลึง
เขารีบพุ่งตรงเข้าไปหาไอช่าโดยไม่ลังเลทันที
ไอช่ากำลังยืนพิงกำแพงของอาคารหลังหนึ่งอยู่พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ เธออยากหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อหาที่ซ่อนตัว แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนล้าและความเจ็บปวดของร่างกายในทุกๆก้าวที่เธอเดินไป มันแทบทำให้เธอล้มลงไปกองบนพื้น หัวใจของเธอค่อยๆมีความคิดที่ว่าให้เธอล้มตัวลงไปนอนตอนนี้และทุกๆอย่างจะดีเอง…
แต่เธอก็รู้ดีว่าถ้าเธอเป็นลมไปหรือนอนหลับไปในตอนนี้เธอคงต้องกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้ายและพวกซอมบี้ที่อยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
ฟึบ!
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงลมที่อยู่เหนือศีรษะของตนเอง เธอมองขึ้นไปและเห็นเงาของคนคนหนึ่งกำลังร่อนลงมาที่นี่อย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกประหลาดใจและเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้แต่ก็หยุดมือเมื่อเห็นว่าคนคนนี้คือ เทียน
เทียนร่อนลงมาจากท้องฟ้าและหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เขายืนขึ้นและพูดว่า “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
ไอช่าเห็นสีหน้าของเทียนที่เต็มไปด้วยความกังวลและรู้สึกโล่งใจ เธอพูดออกมาเบาๆว่า “ฉันสบายดี”
เทียนมองไปยังสีหน้าที่เฉยเมยของเธอและรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าในเขตพื้นที่สีส้มของแดนรกร้างจะมีอะไรที่ทำให้เธอสามารถเป็นแบบนี้ได้จึงถามออกมาว่า “คุณปะทะกับเทพสังหารหรอครับ?”
“ใช่” ไอช่าพยักหน้าขณะที่เธอเดินต่อไปช้าๆ
เทียนมองไปยังทิศทางที่เธอเดินมาและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าแม้แต่ไอช่าก็ไม่สามารถสู้กับเทพสังหารได้ เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “แล้วมันตามคุณมาหรือเปล่าครับ?”
“ไม่” ไอช่าส่ายศีรษะและพูดออกมาเบาๆว่า “มันตายแล้ว”
“ตายแล้ว?” เทียนตกตะลึงไปทันทีจากนั้นเขาก็หันไปหาไอช่าและพูดว่า “คุณฆ่ามันหรอครับ?”
“อืม” ไอช่าตอบกลับมาเบาๆ ร่างกายของเธอรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้นเรื่อยๆจนเธอแทบจะลงไปนอนที่พื้นในตอนนี้
เทียนเห็นการก้าวเท้าของเธอที่เป็นไปได้อย่างยากลำบากเขาจึงรีบพูดออกมาว่า “คุณบาดเจ็บหนักมาก มีอะไรที่ผมช่วยได้หรือเปล่าครับ?”
“ไม่จำเป็น” ไอช่าส่ายศีรษะของเธอเบาๆ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นก็อดทนก้าวเท้าต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าเธอดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่การก้าวเท้าของเธอแต่ละครั้งนั้นก็เป็นไปอย่างเชื่องช้าและน่องของเธอกำลังสั่น ตอนนี้เธอพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้ตัวเองไม่ล้มลงไป
เทียนไม่คิดว่าเธอเป็นคนดื้อรั้นแต่เขาคิดว่าเธอไม่อยากเปิดเผยด้านที่อ่อนแอของตนเองต่อหน้าคนอื่น แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกันแต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกันจนถึงขนาดจะฝากชีวิตเอาไว้ได้ เพราะตั้งแต่ที่พวกเขาได้พบกันครั้งแรกในวัยเด็กจนถึงตอนนี้การพบกันของพวกเขารวมๆแล้วประมาณ 3 ครั้งเท่านั้น ดังนั้นในตอนนี้แม้ว่าเธอจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุดแต่เธอก็เลือกที่จะป้องกันตัวดีกว่าเชื่อใจคนอื่น เพราะหากเธอเลือกเชื่อใจคนอื่นในตอนนี้และสิ่งที่ออกมาไม่เป็นไปตามที่เธอคิดไว้คงมีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเธออยู่
หลังจากที่เขาคิดเรื่องนี้เทียนก็ถอนหายใจออกมาและบินออกไปทันที
ไอช่าเห็นว่าเทียนบินออกไปไกลจนลับสายตาของเธอ เธอก็กลับมาอดทนกัดฟันและเดินต่อไปอีกครั้ง
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงสายลมที่พัดเข้ามาอีกครั้ง
ไอช่าตกตะลึงและมองขึ้นไปด้านบน เธอไม่คิดว่าเทียนจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง
“ผมไปหาที่ซ่อนตัวให้คุณแล้ว ตรงนั้นคุณจะสามารถพักเพื่อรักษาตัวได้”
เทียนคว้าข้อมือเธอและอุ้มเธอขึ้นไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของเธอ จากนั้นเขาก็บินออกไปทันที เขามองไปยังถนนและจดจำสถานที่ตรงนี้เอาไว้ ไข่ทั้ง 4 ฟองที่เขานำมาด้วยก่อนหน้านี้เขาได้ซ่อนมันเอาไว้ที่อาคารข้างๆถนนเส้นนี้ เขาจะกลับมาเอามันกลับไปเมื่อพาไอช่าไปที่ปลอดภัยแล้ว
ไอช่ารู้สึกตกตะลึงเมื่อเทียนอุ้มเธอขึ้นมา ตั้งแต่เธอได้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีใครได้สัมผัสร่างกายของเธออีกเลยไม่ต้องพูดถึงชายหนุ่มตรงหน้านี้ที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับเธอเลย แต่เมื่อเธอพยายามขัดขืนก็พบว่าตนเองไม่มีพละกำลังที่จะขัดขืนได้เลย เธอทำได้เพียงยอมให้เทียนอุ้มและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเท่านั้น
เธอจ้องมองมาที่เทียนและรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มีสีหน้าที่ดูหื่นกระหายหรือประสงค์ร้ายใดๆ เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากและการมองเห็นของเธอก็เริ่มพร่ามัว เธอเห็นก้อนเมฆกัมมันตภาพรังสีสีดำที่ดูเหมือนจะอยู่ใกล้พวกเขามากและความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของเธอ “ก้อนเมฆที่อยู่บนสวรรค์จะเป็นสีดำแบบนี้หรือเปล่านะ?”
ฟู่ว!
เทียนมองผ่านถนนหลายเส้นอย่างรวดเร็วและพุ่งตัวลงมาก่อนที่จะเข้าไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งหนึ่ง เขาเห็นว่าถนนที่อยู่ด้านข้างของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งนี้ถล่มลงมาแล้วและมันเผยให้เห็นรางรถไฟที่อยู่ด้านล่างพร้อมกับรถไฟ 2 ขบวน ตรงกลางของขบวนรถไฟนั้นถูกผนังด้านบนที่ถล่มลงมาทับและเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและเถาวัลย์มากมาย
มีโครงกระดูกมากมายที่อยู่รอบๆสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นโครงกระดูกของมนุษย์
เทียนมองไปรอบๆที่นี่และสามารถจินตนาการได้อย่างง่ายดายว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง เขากระโดดลงมาพร้อมกับไอช่าและเข้าไปในรถไฟฟ้าใต้ดินขบวนหนึ่งทางกระจกบานที่แตก มีโครงกระดูกและซากศพเน่ามากมายบนที่นั่งทั้งสองด้านของรถไฟฟ้าใต้ดิน ผิวหนังของซากศพเน่านั้นมีสีเทาและมันแตกต่างจากศพที่เหลือเพียงโครงกระดูกอย่างสิ้นเชิง
เห็นได้ชัดว่าซากศพเน่าพวกนี้คือซอมบี้
เทียนเดินเข้ามาและตกตะลึงเมื่อได้เห็นซอมบี้พวกนี้ ปากของพวกมันเริ่มขยับช้าๆและพวกมันเริ่มลุกขึ้นยืนเมื่อเขาเดินเข้ามาในขบวนรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งนี้
เทียนไม่สนใจพวกมันและเดินผ่านไปยังที่นั่งบนรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งนี้ เขาเตะโครงกระดูกที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ออกไปและค่อยๆวางไอช่าลงบนเก้าอี้ตัวนี้ ในเวลาเดียวกันพวกซอมบี้ก็เริ่มเดินเข้ามาหาพวกเขา ดวงตาของพวกมันเป็นสีเขียวและกำลังจ้องมองเทียนด้วยความดุร้าย พวกมันเดินเข้ามาช้าๆและยกมือขึ้นมากางกรงเล็บออกจากนั้นก็วิ่งเข้ามาหาเทียนทันที!
“ขอยืมก่อนนะครับ” เทียนเห็นมีดสั้นที่อยู่บนขาของไอช่าและดึงออกมาทันทีโดยไม่รอคำตอบของเธอ เขาพุ่งตัวไปทันทีจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาหาไอช่าอีกครั้งพร้อมกับเก็บมีดสั้นไว้ที่เดิมและพูดว่า “ขอบคุณครับ”
ตึก ตึก ตึก
พวกซอมบี้ที่พุ่งเข้ามาหาเทียนก่อนหน้านี้ต่างก็ถูกตัดหัวจนลงไปกองที่พื้นแต่เลือดของพวกมันไม่ได้ไหลออกมา
ไอช่าจ้องมองมาที่เทียนและปากของเธอก็ขยับเล็กน้อยพร้อมกับพูดเบาๆว่า “ขอบคุณ”
เทียนยิ้ม “คุณช่วยผมเอาไว้หลายครั้งแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะตอบแทนคุณบ้าง”
“ที่ฉันช่วยนายเอาไว้เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย” ไอช่าพูดออกมาเบาๆ เธอรู้สึกได้ว่าการมองเห็นของเธอเริ่มพร่ามัวมากขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้ดีว่าคงอดทนต่อไปอีกไม่ไหวแน่นอนแล้วพูดออกมาบอกว่า “ฉันอยากจะนอนสักงีบ นายช่วยปกป้องฉันหน่อยและอย่าให้ใครรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่”
เทียนพยักหน้า “ผมจะปกป้องคุณเอง”