The Dark King – Chapter 540 หมูในคอก
เมื่อชายหนุ่มของตระกูลแฟเทอร์พยายามล่อให้หนอนวิญญาณกาฝากออกมาจากศพของสัตว์ร้าย เทียนและคนอื่นๆก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แม้ว่านี่มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการหนีแต่พวกเขาก็ไม่กล้าขยับตัวไปไหน
ทุกคนรู้ดีว่าใครที่ขยับเป็นคนแรกจะต้องถูกฆ่าเป็นคนแรกอย่างแน่นอน
พวกเขาเคยเป็นผู้ที่เก่งกาจแต่ในตอนนี้เป็นเหมือนหมูที่อยู่ในคอกเท่านั้น ไม่มีโอกาสตอบโต้ ไม่มีโอกาสต่อรอง และไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย สุดท้ายแล้วพวกเขาก็คงต้องถูกฆ่าตายทีละคน!
หลังของเอียนเต็มไปด้วยเหงื่อมากมาย เขารู้สึกได้ว่าลำคอของตนเองเริ่มแห้งและต้องกลืนน้ำลายลงไป เขารู้ดีว่าการที่ต้องมารอคอยชายหนุ่มตรงหน้าเก็บหนอนวิญญาณกาฝากที่ควรเป็นของเขาเป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจ แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงอดทน
โอกาสรอดเดียวของเขาคือการอดทนให้มากกว่าคนอื่น
แต่เขาก็ไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนี้
เวลาที่ผ่านไปนั้นช่างยาวนานจนทุกๆคนรู้สึกได้ถึงความทรมานทุกวินาที
สีหน้าของเทียนก็ดูย่ำแย่ในตอนนี้ ถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเขาคงต้องทรมานจนตายแน่นอนแต่ก็ไม่มีใครอยากจะหนีออกไป เขารู้ว่านั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่นอน
ในตอนนี้เขาตระหนักขึ้นมาได้ว่าความตายคือจุดจบของมนุษย์อย่างแท้จริง
เขาไม่คิดที่จะฝากชีวิตของตนเองเอาไว้กับอีก 3 คนที่อยู่ข้างๆเขาในตอนนี้และมองไปรอบๆตัว เขาใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว โอกาสรอดเดียวของเขาก็คือการหนีไปตอนที่ชายหนุ่มคนนั้นหยิบหนอนวิญญาณกาฝากขึ้นมาจากศพ!
ในตอนนั้นแม้ว่าเขาจะหนีไปชายหนุ่มคนนั้นคงจะไม่คิดไล่ตามมาแน่นอน
เขาไม่อยากอดทนรออยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ทุกๆคนต่างก็หวาดกลัวความตายแต่ก็ไม่มีใครยอมขยับเป็นคนแรก และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปสุดท้ายแล้วทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ก็คงต้องตายแน่นอน
หลังจากเห็นว่าหนอนวิญญาณกาฝากได้หายไปแล้วชายหนุ่มคนนั้นก็เดินมาหาพวกเขาช้าๆ
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เทียนก็หยุดแผนที่เขาวางเอาไว้ทันที
เขาไม่เห็นว่าชายหนุ่มคนนี้ได้รับหนอนวิญญาณกาฝากแล้วหรือยัง หรือว่าความเร็วของชายหนุ่มคนนี้เร็วมากจนตาของเขามองไม่ทัน? เขาเก็บหนอนวิญญาณกาฝากมาแล้วจริงๆใช่ไหม?
หรือว่า… ในศพของสัตว์ร้ายตัวนี้ไม่มีหนอนวิญญาณกาฝาก?!
“พวกแก…” สีหน้าของชายหนุ่มเย็นชามากยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ “ใครเป็นคนเอาหนอนวิญญาณกาฝากไป?”
ทุกๆคนต่างก็ตกตะลึง
เทียนนึกถึงการคาดเดาของเขาก่อนหน้านี้ เขารีบชี้นิ้วไปที่เอียนด้วยสัญชาตญาณทันทีและพูดขึ้นว่า “อยู่ที่เขา”
เอียนตกตะลึงขึ้นมาทันทีหลังจากที่เขาเห็นเทียนชี้นิ้วมาที่ตนเอง เขารีบตอบกลับไปว่า “ไม่ ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ฉัน มันโกหก!”
“จริงหรอ?” ชายหนุ่มคนนั้นตอบกลับมาอย่างเฉยเมยและเดินไปหาเอียนช้าๆก่อนที่จะยื่นมือออกมาและพูดว่า “ส่งมันมาให้ฉัน”
เอียนจ้องมองเขาด้วยความหวาดกลัว ในตอนนี้เขารู้ดีว่าอธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์ ชายหนุ่มคนนี้อาจจะไม่ได้เชื่อที่เทียนพูดแต่เขาก็อยากเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ว่ายังไงชายหนุ่มคนนี้ก็ต้องหาเหยื่อผู้โชคร้ายที่ถูกฆ่าเป็นคนแรกอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้โชคร้ายในตอนนี้!
เมื่อเขาคิดเช่นนี้แก้มของเขาก็กระตุกขึ้นมาทันทีและใบหน้าของเขาก็เริ่มดูบิดเบี้ยว เขากัดฟันพร้อมกับใช้มีดในมือของตนเองฟันไปที่ชายหนุ่มคนนั้น ในเวลาเดียวกันเขาก็จับตัวโรสแมรี่ที่อยู่ข้างๆเขาเข้ามาและผลักเข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้นเพื่อยื้อเวลา เขารู้ดีว่าต่อหน้าชายหนุ่มคนนี้โรสแมรี่นั้นไม่ต่างอะไรกับมดปลวก แต่โรสแมรี่จะต้องต่อสู้ดิ้นรนขัดขืนแน่นอน และนั่นคงช่วยยื้อเวลาให้เขาไปได้หลายวินาที!
แต่ในขณะที่เอียนโจมตีออกไปนั้น ทันใดนั้นร่างกายของโรสแมรี่ก็บิดเป็นท่วงท่าแปลกๆที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถทำได้ เธอคว้าไปที่ข้อมือของเอียนอย่างง่ายดายและผลักเขาให้เข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้น จากนั้นเธอก็ใช้โอกาสนี้วิ่งลงไปจากภูเขาพรุ่งนี้ทันที
เอียนกำลังอยู่ในความตกตะลึง
ทันทีที่เขาถูกผลักเข้าไปข้างหน้าสมองของเขาก็ว่างเปล่า
เทียนและรูบี้ก็รู้สึกตัวได้ทันที แม้ว่าพวกเขาจะประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้แต่พวกเขาก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้พลาดไปและวิ่งลงไปจากภูเขาลูกนี้ทันทีโดยใช้เส้นทางเดียวกัน แม้ว่าการใช้เส้นทางที่แตกต่างกันอาจจะทำให้มีคนหนึ่งที่รอดไปได้แน่นอนแต่พวกเขาชำนาญเส้นทางนี้มากกว่าและคิดว่าตนเองสามารถไปได้เร็วกว่าอีกฝ่าย ยิ่งไปกว่านั้นเส้นทางลงเขาที่พวกเขาใช้นั้นก็ราบเรียบและไม่ค่อยมีสิ่งกีดขวางมากนักจึงทำให้พวกเขาสามารถวิ่งลงไปด้วยความเร็วสูงสุดได้และค่อยแยกกันเมื่อถึงพื้นที่ปีนเขา
ในตอนนี้ทั้งสามคนวิ่งลงไปในที่เดียวกัน
เอียนขาอ่อนจนลงไปคุกเข่าที่พื้น ขณะที่เขาพยายามยืนขึ้นมานั้นเขาก็เห็นขาของชายหนุ่มคนนั้นที่กำลังก้าวเข้ามาหาตนเอง เขาแข็งใจและเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ
ชายหนุ่มคนนั้นยกร่างของเอียนขึ้นมาราวกับนกอินทรีที่กำลังจับไก่ สายตาของเขายังคงจ้องมองไปที่ทั้ง 3 คนที่วิ่งลงจากภูเขาไปแล้ว
หัวใจของเอียนกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่ง เขาพูดออกมาเสียงสั่น “นายท่าน ผมจะบอก….”
เสียงของเขาหายไปทันที
ชายหนุ่มใช้มืออีกข้างหนึ่งของเขาจะไปที่ศีรษะของเอียนและบิดเบาๆ กร๊อบ! คอของเอียนหักทันที จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเขา เขาก็ยังไม่มีความกล้าที่จะไปสู้กับชายหนุ่มตรงหน้านี้
ฟิ้ว!
ชายหนุ่มโยนศพของเอียนออกไปทันทีจากนั้นร่างกายของเขาก็หายไปจากจุดที่เขายืนอยู่
ที่ตีนเขานั้นมี 3 คนที่กำลังวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
หนึ่งในนั้นกำลังวิ่งด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ นั่นคือเทียน
ฟู่ว!
ปีกบางๆ 2 ปีกยื่นออกมาจากช่องว่างเล็กๆที่ด้านหลังของชุดเกราะ มันเป็นปีกที่โปร่งแสงเหมือนกับปีกของแมลงและกำลังกระพืออย่างรวดเร็ว ยากที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ ด้วยปีกของแมลงอสูรโลกันต์ทำให้เทียนสามารถเทียนพุ่งตัวออกไปได้รวดเร็วกว่าโรสแมรี่ ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็มาถึงพื้นดินด้านล่างภูเขาและทิ้งโรสแมรี่และรูบี้เอาไว้ด้านหลัง
“ขอให้โชคดี…” เทียนไม่ได้หันมองกลับไปแต่เขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ที่อยู่ด้านหลังของตนเองได้ เขารู้ดีว่าทั้ง 2 คนที่อยู่ด้านหลังของตนเองในตอนนี้คงจะถูกตามทันในไม่ช้าก็เร็วและเขาต้องหาวิธีหนีชายหนุ่มคนนั้นให้ได้
โดยปกติแล้วปีกที่เขามีนั้นทำให้เขาได้เปรียบในเรื่องการหนีอยู่เสมอแต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น ปีกค้างคาวขนาดใหญ่ที่ชายหนุ่มคนนั้นมีจะต้องบินได้เร็วกว่าปีกของเขาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ชายหนุ่มคนนั้นยังมาจากตระกูลแฟเทอร์และเขาน่าจะมีเคล็ดวิชาที่เกี่ยวข้องกับการบินด้วยอย่างแน่นอน
“อ๊ากก!” ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากด้านหลังของเขา
เทียนรับรู้ได้อย่างทันทีว่านี่คือเสียงของรูบี้ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเผชิญกับอะไรบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัว สีหน้าของเทียนเปลี่ยนไปทันที ระยะห่างระหว่างพวกเขากับถ้ำนั้นถือว่าไกลพอสมควรนี่หมายความว่าชายหนุ่มสามารถไล่ตามกับพวกเขาได้ในระยะเวลาสั้นๆ มันแสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นมีความเร็วที่เหนือกว่าพวกเขามากแค่ไหน