The Dark King – Chapter 550 บาดเจ็บ
สัตว์ร้ายที่จุติใหม่มักจะเป็นสัตว์ร้ายระดับธรรมดาที่ได้วิวัฒนาการขึ้นมา ถ้าหากไข่วิญญาณกาฝากที่ยังไม่ฟักตัวถูกสัตว์ร้ายระดับหายากอีกตัวกินเข้าไปไข่วิญญาณกาฝากจะไปเป็นอาหารของหนอนวิญญาณกาฝากที่อยู่ภายในร่างกายของสัตว์ระดับหายากตัวนั้นเท่านั้น
เทียนจ้องมองไปที่ไข่วิญญาณกาฝากด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย แม้ว่ามันจะยังไม่ฟักตัวแต่นี่คือไข่วิญญาณกาฝากของสัตว์ร้ายระดับตำนาน มูลค่าของมันย่อมมหาศาลอย่างแน่นอน ถ้าหากว่าเขานำมันไปแลกเปลี่ยนในตลาดเขาจะได้หนอนวิญญาณกาฝากของสัตว์ร้ายระดับหายากมากกว่า 10 ตัวอย่างแน่นอน
แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เทียนเครียดขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าหากว่าเขาอยากให้มันฟักตัวออกมาเขาก็ต้องหาสัตว์ร้ายระดับธรรมดามาและให้มันกินไข่วิญญาณกาฝากเข้าไปเพื่อให้ไข่เจริญเติบโตภายในร่างกายสัตว์ร้ายตัวใหม่ และตลอดช่วงเวลานั้นเขาจะต้องเฝ้าดูแลไข่วิญญาณกาฝากอย่างใกล้ชิด
ถ้าหากเป็นตระกูลดราก้อนเรื่องเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะพวกเขาเป็นตระกูลใหญ่ดังนั้นจึงสามารถหาคนมาดูแลไข่วิญญาณกาฝากตลอดเวลาได้อย่างง่ายดาย
แต่เทียนตัวคนเดียว ถ้าเกิดเขาให้เซอร์กี้หรือคนอื่นๆรับผิดชอบเรื่องนี้นั่นก็เท่ากับว่าเขากำลังทำให้คนอื่นๆก่ออาชญากรรมขึ้นมา เพราะสิ่งที่ฟักออกจากใครคือหนอนวิญญาณกาฝากของสัตว์ระดับตำนาน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการขโมยเลยคงมีการฆ่ากันเพื่อแย่งชิงนอนวิญญาณกาฝากตัวนี้อย่างแน่นอน
หลังจากที่ได้ผ่านประสบการณ์มามากมายเทียนก็เริ่มเข้าใจจิตใจของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง ความจงรักภักดีเป็นสิ่งที่มนุษย์แสดงออกมาเพื่อให้ได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการเท่านั้น พวกเขาไม่ลังเลที่จะหักหลังเลยถ้าหากว่าการหักหลังนั้นนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่มากกว่า
“หนอนวิญญาณกาฝากระดับตำนาน… ไม่รู้ว่าถ้าใช้มันเป็นอาหารบำรุงของหนอนวิญญาณกาฝากของเราจะเป็นการสิ้นเปลืองเกินไปหรือเปล่า?” เทียนคิดในใจ ในตอนนี้เขามีความคิดมากมายอีกอย่างเขาก็มีสัญลักษณ์เวทมนตร์ของสัตว์ร้ายในตำนานด้วยเช่นกัน การได้รับหนอนวิญญาณกาฝากระดับตำนานคงไม่ทำให้เขาตื่นเต้นหรือกังวลมากนัก แต่เขารู้ดีว่าถ้าโยนสิ่งนี้เข้าไปในกำแพงยักษ์มนุษย์ทุกๆคนย่อมพร้อมที่จะสละชีพเพื่อแย่งชิงมันมาอย่างแน่นอน
ถ้าหากเขาใช้มันเพื่อบำรุงสัญลักษณ์เวทมนตร์ของตนเอง มันคงเป็นการสิ้นเปลืองเหมือนกับเอาทองคำไปทำเป็นอิฐ
เขาคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ส่ายหัวและอดทนต่อสิ่งที่ล่อลวงใจในตอนนี้ เขาจะนำไข่วิญญาณกาฝากกลับไปขายที่กำแพงยักษ์หรือไม่ก็มอบมันให้กับสหายที่เขาไว้ใจได้ แต่การเอาชีวิตรอดก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขาในตอนนี้ เขาเลิกคิดเรื่องทั้งหมดและคิดว่าตนเองจะต้องเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ในตอนนี้ไปให้ได้ก่อน
หลังจากส่ายศีรษะเทียนก็หยุดคิดเรื่องมูลค่าของไข่วิญญาณกาฝาก เขาเก็บไข่วิญญาณกาฝากเอาไว้ในหลอดแก้วและปิดฝาอย่างดีและเตรียมหาสถานที่ปลอดภัยเพื่อที่จะดูดซับมันเป็นสารอาหาร
เขามองไปรอบๆตัวด้วยความระมัดระวังเพราะอาจจะมีเพรชฆาตเงาอสูรที่ฟักออกมาจากไข่กำลังซุ่มดูเขาอยู่ในตอนนี้ เขาเดินเข้าไปหากองไข่ของเพรชฆาตเงาอสูรแล้วหยิบขึ้นมา 1 ฟองก่อนที่จะบินขึ้นไปยังถ้ำที่อยู่ข้างบนทันที
เมื่อเขานำไข่ขึ้นไปวางที่ถ้ำด้านบนแล้วเขาก็กลับลงมาที่ถ้ำด้านล่างอีกครั้ง
เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาหันมองไปรอบๆถ้ำในตอนนี้ “ทั้งหมด 37 ฟอง”
หลังจากที่นับจำนวนไข่ทั้งหมดแล้วเขาก็คิดว่าการรายงานตระกูลดราก้อนไปตามความจริงคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน เพราะนี่คือไข่ของสัตว์ร้ายระดับตำนาน แม้ว่าการทำให้ไข่พวกนี้ฟักตัวออกมาจะเป็นเรื่องยากก็ตามแต่ถ้าหากเขาโชคดีเขาก็จะสามารถทำให้ไข่พวกนี้ฟักออกมาได้ซักฟอง 2 ฟอง นั่นเท่ากับว่าเขาจะได้รับหนอนวิญญาณกาฝากระดับตำนานเพิ่มขึ้นอีก 2 ตัวเลยทีเดียว มันทำให้เขาอยากลองเสี่ยงขึ้นมาทันที
“ไม่ว่าฉันจะเก็บมันเอาไว้เองหรือเปล่า ตระกูลดราก้อนก็คงต้องคิดว่าฉันจะเก็บเอาไว้เองแน่นอน แม้ว่าฉันจะมอบไข่พวกนี้ให้กับพวกเขาทั้งหมดแต่พวกเขาก็คงคิดว่ายังมีไข่ที่ฉันซ่อนเอาไว้อีกแน่นอน” เทียนพูดกับตัวเอง “จะเก็บหรือไม่เก็บไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือเราติดร่างแหเรื่องนี้ไปแล้ว”
เมื่อเขาคิดเรื่องนี้เขาก็หยิบไข่ใบต่อไปและย้ายมันขึ้นไปไว้ที่ถ้ำด้านบน
ในตอนที่เขากำลังหยิบไข่ใบที่ 8 เทียนหยุดมือและกลับไปที่พื้นดินที่ไข่เคยอยู่ก่อนหน้านี้จากนั้นเขาก็ใช้เมือกเหลวที่มีอยู่ตามพื้นดินค่อยๆปรับสภาพพื้นดินที่ไข่เคยตั้งอยู่ก่อนหน้านี้ให้เหมือนกับพื้นดินธรรมดาที่อยู่รอบๆมัน
เมื่อเขาปรับสภาพพื้นดินเสร็จสิ้นเทียนก็หันไปมองศพของเพรชฆาตเงาอสูร เขาตัดสินใจทิ้งมันเอาไว้ที่นี่ ถ้าศพของมันยังอยู่ที่นี่อาจจะทำให้ตระกูลดราก้อนรู้สึกได้ถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่นี่ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วแม้ว่าทางตระกูลจะรู้ว่าเขาได้แอบเก็บไข่เอาไว้กับตัวเองก็อาจจะไม่ลงโทษเขาหรือโทษที่เขาได้รับอาจจะเบาลง
ฟิ้ว!
บินขึ้นไปที่ถ้ำด้านบนและเห็นไข่ 8 ฟองที่เขาวางไว้บนพื้น เขาถือออกไปได้แค่ครั้งละ 4 ฟองเท่านั้นดังนั้นเขาจึงต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง เขาหยิบไข่ขึ้นมา 4 ฟองและเดินออกจากถ้ำแห่งนี้ไปทันที
“ฉันต้องหาที่ซ่อนไข่พวกนี้เอาไว้ ไม่รู้ว่าไข่พวกนี้จะฟักตัวออกมาเมื่อไหร่แต่ถ้าหากว่ามันฟักตัวตอนที่เราไม่อยู่ที่นี่คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากแน่นอน” เทียนขมวดคิ้วขึ้นมาขณะที่เขากำลังใช้ความคิด ถ้าเขากลับไปที่ตระกูลดราก้อนในตอนนี้และแจ้งเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือนเพื่อที่จะได้กลับมาที่แดนรกร้างแห่งนี้อีกครั้งกับภารกิจใหม่
ถ้าหากภารกิจใหม่ของเขาอยู่คนละพื้นที่กับตำแหน่งที่เขาได้ซ่อนไข่เอาไว้เขาก็ต้องหาเวลาแอบหนีออกมา
เขารู้สึกว่าปัญหานี้ค่อนข้างยุ่งยาก หลังจากที่ใช้ความคิดอยู่นานในที่สุดเขาก็ตัดสินใจซ่อนไข่พวกนี้เอาไว้โดยแยกออกจากกัน เขาได้แต่หวังว่าเพรชฆาตเงาอสูรพวกนี้จะไม่เติบโตเร็วเกินไปในตอนที่มันฟักออกมาจากไข่
ฟิ้ว!
เขาบินออกจากถ้ำไปทันทีและเห็นศพของมาร์ตินระหว่างทาง ทันใดนั้นเขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และกลับไปที่เส้นทางที่เขาใช้หนีก่อนหน้านี้
เพียงไม่นานเขาก็มาถึงตำแหน่งที่รูบี้ถูกฆ่าตายไปและเขาก็รีบขุดดินบริเวณที่มีหญ้าขึ้นรกสูงรอบๆศพทันที
ไม่นานเขาก็ได้พบกับกระเป๋าของรูบี้ที่อยู่ด้านใต้หญ้าที่ขึ้นสูงพวกนี้ นอกจากอุปกรณ์สำหรับปีนเขาแล้วภายในกระเป๋ายังมีขวดน้ำและกระป๋อง นอกจากนี้ยังมีผงที่ใช้ห้ามเลือด ยาแก้พิษ และยาแก้ปวด ยังมีหลอดแก้วที่มีหนอนหน้าตาแปลกประหลาดอยู่ภายในนั้น ตอนที่เขาเปิดกระเป๋าออกมาเมื่อหนอนที่อยู่ภายในหลอดแก้วได้พบกับแสงสว่างที่ส่องเข้ามามันก็เริ่มดิ้นทันที
เทียนรู้สึกโล่งใจหลังจากที่หาเจอ หนอนทั้ง 3 ตัวนี้คือหนอนวิญญาณกาฝากของนกหัวขวานแห่งความตาย อสูรโลหิตสังหาร และมัจจุราชไร้เงา
“หนอนวิญญาณกาฝากของมัจจุราชไร้เงาต้องใช้เพื่อส่งภารกิจ แต่เรายังสามารถกินหนอนอีก 2 ตัวที่เหลือได้” เทียนพูดในใจ เขาเก็บหนอนวิญญาณกาฝากเข้าไปในกระเป๋าของตนเองทันทีจากนั้นก็บินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับไข่ทั้ง 4 ใบที่อยู่ในมือเพื่อมองหาพื้นที่เหมาะสมสำหรับซ่อนไข่พวกนี้
หลังจากที่บินสูงมาเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เทียนก็ยังหาพื้นที่เหมาะสมไม่ได้ เขาบินไปที่เมืองแห่งหนึ่งที่กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว แม้แต่ห้องใต้ดินที่อยู่ใต้อาคารบางหลังก็โดนถล่มไปหมดแล้ว เขาไม่สามารถซ่อนไข่เอาไว้ที่นี่ได้เพราะในตอนที่ผู้พิทักษ์ตระกูลดราก้อนมาทำภารกิจที่นี่พวกเขาจะต้องหาห้องใต้ดินสำหรับนอนพักในเวลากลางคืนเพื่อความปลอดภัย
ยิ่งไปกว่านั้นผนังคอนกรีตของห้องใต้ดินก็ถูกกัดเซาะจนอ่อนแออย่างยิ่งบางทีไข่ของเพรชฆาตเงาอสูรอาจจะถูกผนังหล่นลงมาทับก่อนที่มันจะได้ฟักกออกมาก็เป็นได้
เทียนขมวดคิ้วขณะที่เขายังคงหาพื้นที่เหมาะสมต่อไป ทันใดนั้นปลายสายตาของเขาก็หันไปเห็นคนคนหนึ่งที่เดินอยู่บนถนนที่พังทลาย นั่นคือไอช่า
ในตอนนี้ผมของเธอรกรุงรังและร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเศษฝุ่นและคราบเลือด เธอได้รับบาดเจ็บ ดูจากท่าทางการเดินของเธอ แล้วการบาดเจ็บครั้งนี้คงรุนแรงจนทำให้เธอไม่สามารถเดินอย่างปกติได้แน่นอน
