The Dark King – Chapter 556 ทางเลือก – 1
“ผงไล่แมลง?” เทียนประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเธอจะพกอะไรแบบนี้ติดตัวไว้ เขามองไปที่ขวดแก้วและถามว่า “มันจะได้ผลหรอครับ?”
“มันน่าจะได้ผล นายลองใช้ดูสิ” ไอช่ายิ้มขึ้นมาบนใบหน้าที่ซีดเซียว รอยยิ้มของเธอนั้นเปรียบเสมือนแสงที่เบ่งบานในความมืด
เทียนจ้องมองรอยยิ้มของเธอราวกับต้องมนต์สะกด แต่ในไม่ช้าเสียงของแมลงที่กรีดร้องออกมาก็ทำให้เขากลับสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง เขารีบหยิบขวดใส่ผงไล่แมลงและเปิดฝาขวดออก มีกลิ่นแปลกๆคล้ายกำมะถันลอยขึ้นมาจู่โจมจมูกของเขาทันที
เขาเทผงไล่แมลงลงในมือแล้วโปรยไปยังแมลงที่ทะลุผ่านเปลวไฟเข้ามา
ผงไล่แมลงค่อยๆล่วงหล่นโปรยปรายลงมาราวกับหิมะ
เทียนจ้องมองแมลงที่เข้ามาอย่างใจจดใจจ่อ พวกมันกระสับกระส่ายและกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวราวกับเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่ากลัวจากนั้นพวกมันก็วิ่งกระจัดกระจายหนีออกไปคนละทิศทางในทันที
เทียนรู้สึกดีใจอย่างมากเขาไม่คิดว่าผงไล่แมลงจะมีประสิทธิภาพมากขนาดนี้ เขาเทผงไล่แมลงไปรอบๆเปลวไฟทันทีเพื่อป้องกันแมลงที่ฝ่าเปลวไฟเข้ามา จากนั้นก็เทผงไล่แมลงลงบนมือของเขาผสมกับดินบนพื้นแล้วโยนไปทางฝูงแมลง
แมลงวิ่งหนีกระจัดกระจายระส่ำระสาย ฝูงแมลงที่กำลังหนีดูคล้ายกับผ้าสีดำที่กำลังถูกฉีกออกจากกัน
เทียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาปิดขวดและส่งมันกลับไปให้ไอช่าและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “มันช่วยได้มากจริงๆครับ”
ไอช่าเอื้อมมือออกไปเพื่อหยิบขวดมาใส่ในกระเป๋าของเธอ เธอยิ้มและพูดว่า “คราวนี้ฉันต้องขอขอบคุณนายที่ – แค่ก! แค่ก!”
แก้มของเธอนูนขึ้นมาเล็กน้อยและทันใดนั้นก็มีเลือดจากปากของเธอกระเด็นไปโดนเก้าอี้
เทียนตกใจอย่างมาก เขารีบเข้าไปใกล้เธอแล้วพูดว่า “คุณไหวหรือเปล่าครับ? คุณควรนอนพักก่อนนะ”
หลังจากที่ไอช่าไอออกมาเป็นเลือดใบหน้าของเธอก็ซีดมากยิ่งขึ้น เธอส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร พิษแพร่กระจายมากกเกินไปและมันได้แทรกซึมเข้าไปในอวัยวะภายในของฉันแล้ว ฉันคงทนได้อีกไม่นาน นายควรออกไปจากที่นี่ไม่งั้นนายอาจจะต้องตายไปพร้อมกับฉัน”
เทียนรู้สึกใจสลายและเขาไม่รู้ว่าจะช่วยได้ยังไงได้แต่มองไปที่กระเป๋าของเธอและพูดว่า “คุณมีผงยาแก้พิษหรือเปล่าครับ? คุณสามารถใช้มันเพื่อยื้อเวลาในตอนนี้ได้ บอกผมมาว่ากองบัญชาการใหญ่ของแดนรกร้างตั้งอยู่ที่ไหน ผมสามารถบินและพาคุณไปยังกองบัญชาการใหญ่ได้”
“กองบัญชาการใหญ่อยู่ไกลจากที่นี่มาก” ไอช่าส่ายหัวเล็กน้อย “มันตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีแดงที่ลึกที่สุดของแดนรกร้าง แม้ว่านายจะสามารถบินได้ก็ต้องใช้เวลานานมาก” นอกจากนี้การบินในเขตพื้นที่สีแดงของแดนรกร้างนั้นอันตรายมาก มันไม่เหมือนกับพื้นที่ล่าสัตว์บริเวณใกล้กำแพงยักษ์ซึ่งยากมากที่จะได้พบสัตว์ร้ายที่สามารถบินได้ แต่ในแดนรกร้างนี้สัตว์ร้ายที่รับมือได้ยากที่สุดคือสัตว์ร้ายที่บินได้ ถ้าไม่จำเป็นนายไม่ควรบิน มันจะดึงดูดความสนใจของสัตว์ร้าย”
เทียนใช้ความคิดอีกครั้งและเขาก็นึกถึงมังกรบินที่เขาเคยเห็นในกำแพงยักษ์ แม้ว่ามังกรบินไม่ได้ทำร้ายผู้คน แต่มันก็เป็นสัตว์ร้ายที่บินได้ เมื่อมีมังกรที่บินได้ก็อาจจะมีสัตว์ร้ายตัวอื่นที่บินได้อยู่อีกเขาแค่ไม่เคยเห็นในพื้นที่ของนักล่าก็เท่านั้น ซึ่งทำให้เขามองข้ามในเรื่องนี้ไป แต่ที่นี่คือพื้นที่ที่ไกลที่สุดจากกำแพงยักษ์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมีรังสีและยังไม่มีผู้ใดได้ค้นพบ – แดนรกร้าง ซึ่งอาจจะมีสัตว์ร้ายประเภทต่างๆที่เขาไม่คาดคิดอยู่ที่นี่ก็เป็นได้
“คุณมาที่นี่คนเดียวหรอครับ?” เทียนคิดครู่หนึ่งแล้วถามต่อว่า “คุณมาที่นี่เพื่อไล่ล่าคนของตระกูลแฟเทอร์ คุณไม่ได้พาเพื่อนร่วมทีมมากับคุณเลยหรอครับ?”
“ใช่” มุมปากของไอช่าขยับขึ้นเล็กน้อยแล้วเธอก็พูดว่า “มันช้าเกินกว่าจะค้นหาเขาด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันจึงนำทีมค้นหามาด้วยสองทีม พวกเขาอยู่ใกล้ๆนี่แหละ แต่พวกเราจะให้พวกเขาเจอตัวไม่ได้ พวกเขาจะฆ่าเราในทันทีที่รู้ว่าฉันกำลังบาดเจ็บสาหัส”
“เป็นไปได้ยังไงกันครับ!” เทียนประหลาดใจ แต่เขานึกถึงบางสิ่งบางอย่างในทันทีและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “พวกเขาเป็นคนของเฮย์ลี่อย่างนั้นหรอครับ?
ไอช่าเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ลูบศีรษะของตนเองเบาๆแล้วพูดว่า “นั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผล แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนของเธอแต่พวกเขาก็จะไม่ปล่อยโอกาสแบบนี้ไปแน่นอน ถ้าพวกเขาฆ่าฉันได้พวกเขาจะได้รับอาวุธเวทมนต์ของฉัน อาวุธเวทย์มนตร์นี้สามารถใช้งานได้โดยลูกหลานที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ของตระกูลดราก้อนเท่านั้น พวกเขาสามารถส่งมอบมันให้กับตระกูลแฟร์เทอร์หรือตระกูลร็อคเพื่อไปเข้าร่วมกับสองตระกูลนั้นหรือมอบมันให้กับเฮย์ลี่เพื่อแลกมันด้วยสิ่งที่พวกเขาต้องการ เมื่อหลายปีก่อนเฮย์ลี่ได้กระจายข่าวอาวุธเวทย์มนตร์ออกไปเพื่อสร้างปัญหาให้กับฉัน ทุกๆคนต่างก็รู้เรื่องนี้ดี”
เทียนหน้าบึ้ง ความโกรธปะทุขึ้นมาในใจของเขา “คุณไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลดราก้อนและพวกเขาก็ไม่ได้เป็นผู้ติดตามของคุณอย่างนั้นหรอครับ? พวกเขาทำแบบนั้นกับคุณได้ยังไงกัน? ยิ่งกว่านั้นเฮย์ลี่ทำร้ายคุณมาหลายปีแล้วทำไมคุณถึงไม่กำจัดเธอตั้งแต่ก่อนหน้านี้?! “
“ผู้คนที่อยู่ที่นี่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับเข้าไปในกำแพงยักษ์และใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย การต่อสู้ที่ยาวนานทำให้พวกเขาสูญเสียความจงรักภักดีและความเป็นมนุษย์ไป” ไอช่ามองไปที่เทียน ดวงตาของเธอหรี่ลง “ฉันสัญญาไว้ว่าจะปกป้องเฮย์ลี่จนกว่าเธอจะโตพอดังนั้น -”
เทียนขัดจังหวะไอช่าทันที เขาพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ “สัญญา?! คุณสัญญากับใครหรอครับ? หรือว่าจะเป็นพ่อของคุณ?!”
ไอช่าส่ายหัวเล็กน้อยและลังเลที่จะพูดต่อไป ทันใดนั้นเธอก็มีสีหน้าที่ย่ำแย่และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ เธอยกมือขึ้นเพื่อเช็ดเลือดออกแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดกับเทียนว่า “ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เลือดของฉันจะดึงดูดสัตว์ร้ายระดับสูงมา รีบไปเร็วเข้า นายจะตายถ้ายังอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากทำให้นายต้องตายไปด้วย…”
เสียงของเธอค่อยๆเบาลงและในที่สุดเธอก็หมดสติอีกครั้งพร้อมกับเอนตัวลงไปนอนที่พื้น
เทียนช่วยพยุงเธอทันที เขามองไปยังแผลที่หลังของเธอและพบว่าสีของผ้าพันแผลค่อนข้างคล้ำเพราะเลือดที่เป็นพิษไหลออกมา ถ้าเลือดยังเป็นพิษซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนแบบนี้แผลของเธอไม่มีทางหายดีแน่นอน
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที เหมือนที่ไอช่าได้พูดไว้พิษได้กระจายไปทั่วร่างกายของเธอแล้ว เธอจะตายในไม่ช้าถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในตอนนี้
“บ้าเอ้ย!” เทียนโกรธ เขาโกรธสถานการณ์ที่โหดร้ายในตอนนี้และยิ่งโกรธที่ตัวเขาเองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ เขากัดฟันและหันไปมองด้านนอกสถานีรถไฟใต้ดิน กลิ่นของผงไล่แมลงแพร่กระจายออกไปและทำให้ฝูงตกใจกลัว
แต่กลิ่นของเลือดไอช่าก็กระจายออกไปอีกครั้ง คาดว่าอีกไม่นานสัตว์ร้ายตัวใหม่จะถูกดึงดูดมาที่นี่
เขากำหมัดแน่นและต่อยลงไปที่เก้าอี้ของรถไฟใต้ดินด้วยความโกรธ เขามองไปยังร่างที่ไร้สติไอช่าและนัยน์ตาของเขาก็เปล่งประกาย ในสถานการณ์เช่นนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการทิ้งเธอไป แต่เขากลับรู้สึกว่าถ้าเขาทำสิ่งนี้ลงไปเขาจะเสียใจไปตลอดชีวิต เธอได้ช่วยเขาไว้หลายครั้งและเขายังไม่ได้ตอบแทนอะไรเธอเลย
นอกจากพ่อแม่และพี่สาวรวมทั้งพ่อแม่บุญธรรมของเขา เขาไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณใครเลย แม้แต่ความสัมพันธ์ของเขากับผู้อาวุโสฟูรินก็เป็นเพียงมิตรภาพและหุ้นส่วนเท่านั้น แต่ไอช่านั้นแตกต่างกันเธอช่วยเขาด้วยความจริงใจโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรทั้งสิ้น!