The Dark King – Chapter 549 สัตว์ร้ายที่จุติใหม่
ดวงตาของเทียนเย็นชาขึ้นมาทันที เขาคว้าไปที่กระดองของเพรชฆาตเงาอสูร
กร๊อบ!
กระดองของมันฉีกขาดออกทันทีและเลือดสีเขียวก็ไหลทะลักออกมาจนเปื้อนมือของเทียน
ถุงมือที่เขาสวมใส่อยู่เริ่มฉีกขาดและมีรอยไหม้ มือของเขารู้สึกปวดร้อนราวกับว่าโดนไฟเผา
เขารีบสะบัดมืออย่างรวดเร็วเพื่อให้เลือดของเพรชฆาตเงาอสูรออกไปมากที่สุดจากนั้นก็ใช้เท้าของตนเองเหยียบมันเอาไว้กับพื้น
เทียนกระทืบซ้ำอีกครั้งเพื่อไม่ให้มันหนีไปไหนได้ เท้าของเขาในตอนนี้เป็นเหมือนขวานเล่มใหญ่ที่กดลำคอของสัตว์ร้ายตัวนี้เอาไว้กับพื้น จากนั้นเขาก็หยิบมีดสั้นของตนเองขึ้นมาอีกครั้ง
ปัง!
มีดสั้นแทงทะลุลำคอของเพรชฆาตเงาอสูรจนสุดและกระแทกกับพื้น
เพรชฆาตเงาอสูรยังคงกรีดร้องออกมาและพยายามดิ้นทุรนทุราย
เมื่อเห็นว่ามันตายยากเหลือเกินเทียนก็เริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมา เขายกขาของตนเองขึ้นอีกครั้งและกระทืบซ้ำเข้าไปที่ศีรษะของมัน
ปัง!
ศีรษะของเพรชฆาตเงาอสูรจมเข้าไปในดินทันทีและเกิดหลุมที่มีขนาดเท่ากับลูกฟุตบอลขึ้นมา
แม้ว่าศีรษะของมันจะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงแต่ร่างกายของมันก็ยังสามารถขยับได้อยู่และหางของมันก็รัดขาของเทียนเอาไว้แน่นราวกับงู
เทียนรู้สึกได้ว่าหางของมันที่รัดขาของเขาอยู่นั้นไม่ได้มีแรงมากนักจึงโล่งใจ เขารู้ว่ามันต้องตายแน่นอน เขาแกะหางของมันที่พันขาของเขาอยู่ออกและใช้ปีกของตนเองบินขึ้นไปด้านบนเพดานหินอีกครั้ง เมื่อไปถึงด้านบนเพดานเขาก็ใช้เท้าของตนเองถีบไปที่เพดานเพื่อเร่งความเร็วและใช้แรงและความเร็วทั้งหมดพุ่งตัวลงมากระทืบไปบนหลังของเพรชฆาตเงาอสูร
ตู้ม!
เสียงของการปะทะและเสียงกระดูกที่หักดังขึ้นมาอย่างรุนแรง
เพรชฆาตเงาอสูรยังคงดิ้นไปมาอย่างน่าสังเวชและมันก็แน่นิ่งไปทันที
เทียนเห็นว่าเพรชฆาตเงาอสูรตายแล้วจริงๆ เขามองถุงมือของตนเองที่ถูกเลือดของมันกัดกร่อน แผ่นโลหะที่อยู่บนถุงมือโดนเลือดของมันกัดกร่อนจนแทบหายไปหมด
เขาทำได้เพียงถอนหายใจและถอดถุงมือของตนเองออก เพรชฆาตเงาอสูรช่างเป็นสัตว์ร้ายที่มีปัญหามากจริงๆ การต่อสู้ยังไม่จบลงแต่อาวุธและชุดเกราะของเขาถูกทำลายไปแล้วในตอนนี้ ถ้าหากว่ามีพลังเท่ากันคงไม่มีทางที่เขาจะสามารถเอาชนะสัตว์ร้ายตัวนี้ได้เลย
“ถ้าเราไม่ทำแบบนี้… เราก็คงต้องกลายเป็นอาหารของมัน” เทียนตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่นี่โดยละเอียดขณะที่เขากำลังรอคอยให้พลังของตนเองฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ ก่อนหน้านี้เขาถูกชายหนุ่มจากตระกูลแฟเทอร์ไล่ล่าและต้องกลับมาสู้กับเพรชฆาตเงาอสูรตัวนี้ มันทำให้เขาสูญเสียพลังของตนเองไปมากกว่าครึ่ง
ในระหว่างที่พักหายใจนั้นเทียนก็เห็นกระเป๋าสัมภาระที่ตกอยู่ไม่ไกล เขารู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที ที่ตรงนั้นเคยเป็นศพของยูจิน แม้ว่าศพของเขาจะหายไปแล้วแต่กระเป๋าใบนี้คงเป็นกระเป๋าของเขาแน่นอน
“หรือว่าสัตว์ร้ายพวกนี้กินศพของเขาไปแล้ว?” เทียนหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วเปิดออก มีอาหารและน้ำสะอาดอยู่ภายในนั้น นอกจากนี้ยังมีเชือก ตะขอ ชุดก่อไฟ กระเป๋าพับเก็บได้ และสิ่งของอื่นๆที่ช่วยในการเอาชีวิตรอดได้ นอกจากของพวกนี้เขายังเห็นหลอดแก้วหลายหลอดที่เอาไว้ใช้บรรจุหนอนวิญญาณกาฝาก มีหลอดแก้วอยู่อันหนึ่งที่มีอะไรบางอย่างอยู่ภายในนั้น
ดวงตาของเทียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาจ้องมองไปยังหลอดแก้วอันหนึ่งที่มีหนอนวิญญาณกาฝากตัวเล็กๆอยู่ภายในนั้น นี่คงมาจากลิงกลายพันธุ์ที่ยูจินได้ฆ่าไปก่อนหน้านี้
“เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ย” เทียนหยิบหลอดแก้วขึ้นมาพร้อมกับยิ้ม
หนอนวิญญาณกาฝากที่อยู่ในหลอดแก้วดูเหมือนจะเห็นเทียนและรีบดิ้นไปมาภายในหลอดแก้วอีกครั้ง ผิวหนังที่ดูอ่อนนุ่มของมันพุ่งชนกับผนังของหลอดแก้วอยู่หลายครั้ง
เทียนยิ้มและพูดออกมาเบาๆว่า “ถ้าฉันจัดการปัญหาที่นี่ได้ทั้งหมดแล้วฉันจะปล่อยแกออกไป”
จากนั้นเขาก็เก็บหลอดแก้วนี้กลับเข้าไปในกระเป๋าและหยิบน้ำดื่มขึ้นมา
เขาตรวจสอบพื้นที่โดยรอบนี้โดยละเอียดพร้อมกับทานอาหารไปด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองถูกลอบโจมตีจากสัตว์ร้ายตัวนี้ เมื่อเขาทานอาหารเสร็จเขาก็กลับมาที่ศพของเพรชฆาตเงาอสูรอีกครั้ง
เทียนหยิบดาบของมาร์ตินขึ้นมาอีกครั้งและเช็ดให้สะอาดจากนั้นเขาก็แทงดาบเข้าไปที่บาดแผลของเพรชฆาตเงาอสูร เมื่อเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดเขาก็รู้สึกโล่งใจ เขาค่อยๆสอดปลายดาบที่เริ่มทื่อไปตามลำคอของมันและจากนั้นก็ออกแรงตัดศีรษะของมันออกมาทันที
เมื่อตัดศีรษะของมันออกมาแล้วเทียนก็นั่งลงไปที่พื้นพร้อมกับใช้ดาบของตัวเองเขี่ยเลือดของมันที่ไหลออกมาจากร่างกายเพื่อค้นหาหนอนวิญญาณกาฝาก
“ดูจากความแข็งแกร่งของเพรชฆาตเงาอสูรตัวนี้แล้วมันน่าจะอยู่ในระยะเจริญเติบโต หวังว่ามันจะมีหนอนวิญญาณกาฝากแล้วนะ” เทียนเริ่มรู้สึกคาดหวัง เขาตั้งใจค้นหาหนอนวิญญาณกาฝากแต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังคงระมัดระวังเช่นกันในตอนนี้
แม้ว่าจะผ่านไปกว่า 10 นาทีแล้วและเทียนก็ได้ค้นหาทั่วร่างกายของมันแต่เขาไม่เห็นเงาของหนอนวิญญาณกาฝากเลย เขาเริ่มรู้สึกผิดหวังขึ้นมา แต่ในขณะที่เขากำลังคิดจะยอมแพ้เขาก็เห็นเส้นเลือดแปลกประหลาดที่อยู่บนศีรษะของสัตว์ร้ายตัวนี้ มันเป็นเส้นเลือดรูปตัว S ที่มีขนาดใหญ่กว่าเส้นเลือดอื่นๆโดยรอบ
เทียนเขาค่อยๆใช้ดาบในมือของตนเองกรีดไปที่เส้นเลือดนี้อย่างระมัดระวัง และพบว่าภายในเส้นเลือดมีหนอนวิญญาณกาฝากตัวหนึ่งกำลังนอนอยู่
แต่หนอนวิญญาณกาฝากตัวนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อยราวกับว่ามันได้ตายไปแล้ว
เทียนอยากจะเข้าไปตรวจสอบดูใกล้ๆแต่เขากลัวว่าถ้าหากเขายื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วหนอนวิญญาณกาฝากจะใช้โอกาสนี้ดีดตัวขึ้นมาแล้วโจมตีไปที่ดวงตาของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงต้องมองดูฮ่าๆๆเท่านั้น
หลังจากได้ดูจนทั่วแล้วเขาก็แน่ใจว่ามันตายแล้วจริงๆ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ยื่นดาบของตนเองเข้าไปเขี่ยสะกิดมัน
เขากำลังจะตายเพราะความตึงเครียด
หนอนวิญญาณกาฝากยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
เทียนขมวดคิ้วและทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบทสนทนาของเอียนและคนอื่นๆก่อนหน้านี้ “มันคือไข่วิญญาณกาฝากหรือเปล่า?”
ไข่วิญญาณกาฝากคือไข่ของหนอนวิญญาณกาฝากที่ยังมีอายุน้อย เมื่อสัตว์ร้ายระดับหายากได้เข้าสู่ระยะเจริญเติบโตไข่นี้ก็จะฟักตัวออกมาเป็นหนอนวิญญาณกาฝาก สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นเหมือนกับไข่วิญญาณกาฝากที่เอียนเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ ถ้าหากว่าสัตว์ร้ายระดับหายากขึ้นไปถูกฆ่าตายก่อนที่ไข่วิญญาณกาฝากจะฟักตัว ไข่วิญญาณกาฝากจะหยุดเจริญเติบโตและจะไปเติบโตในร่างกายของสัตว์ร้ายระดับธรรมดาตัวอื่นที่กินมันเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อฟักตัวออกมาแล้วหนอนวิญญาณกาฝากที่ฟักออกมาจากไข่นั้นจะถ่ายทอดความสามารถบางอย่างของสัตว์ร้ายระดับหายากไปสู่สัตว์ร้ายระดับธรรมดาที่ได้กินไข่เข้าไปและจะทำให้สัตว์ร้ายระดับธรรมดาตัวนั้นมีความสามารถจากหนอนวิญญาณกาฝากเพิ่มขึ้นมา แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เขียนเอาไว้ในสารานุกรมสัตว์ร้าย พวกผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของมนุษย์ต่างก็เรียกสัตว์ร้ายระดับธรรมดาเหล่านี้ว่า “สัตว์ร้ายที่จุติใหม่”