The Dark King – Chapter 536 เพรชฆาตเงาอสูรในตำนาน
“รีบขึ้นมาเร็วเข้า!” เอียนตะโกนลงมาขณะที่เขานั่งอยู่ที่ปาของรู
รูบี้รีบจับเชือกเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่งขณะที่มืออีกข้างของเขาถือคบเพลิงเอาไว้ เขาใช้เท้าของตนเองเกี่ยวเชือกเอาไว้และปีนขึ้นไปด้วยพละกำลังทั้งหมดของตนเอง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงลมอะไรบางอย่างที่พัดมา เปลวไฟของคบเพลิงเริ่มสั่นและดูเหมือนว่ามันจะดับไปทุกเมื่อ
รูบี้รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมากในตอนนี้และอดไม่ได้ที่จะหันไปมองรอบๆตัว รอบๆตัวเขามีเพียงความมืดเท่านั้นจนเขารู้สึกกลัวและจินตนาการไปเอง
เขานึกถึงการตายที่น่าสะพรึงกลัวของลูน่าและกลืนน้ำลายของตนเองทันที เขาไม่กล้าจะชักช้าอยู่ที่นี่แม้แต่น้อยและออกแรงทั้งหมดของเขาในการปีนเชือกขึ้นไป
แต่เมื่อเขาปีนไปได้ครึ่งทางเขาก็ได้ยินเสียงลมดังขึ้นมาอีกครั้ง
ดวงตาของรูบี้เบิกกว้างขึ้น เขามองขึ้นไปที่ปากรูและเห็นว่ามีลูกธนูถูกยิงลงมาในตอนนี้ ลูกธนูเฉี่ยวคบเพลิงในมือของเขาไปความเร็วของมันทำให้ไฟของคบเพลิงเริ่มสั่นไหว จากนั้นก็มีเสียงดังติ๊งดูเหมือนว่าลูกธนูดอกนี้จะกระทบกับโลหะอะไรบางอย่าง
“มันอยู่ข้างหลังนาย!!” เอียนรีบตะโกนออกมาทันที “ปีนขึ้นมาเร็วเข้า!”
รูบี้หน้าซีดไปในทันที เขาทิ้งคบเพลิงที่อยู่ในมือไปทันทีและออกแรงปีนเชือกด้วยมือทั้งสองข้าง เขาขึ้นมาถึงปากรู้ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เอียนดึงมือของเขาขึ้นไปความตึงเครียดของเขาก็เริ่มหายไปเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าเท้าของตนเองถูกอะไรบางอย่างดึงเอาไว้และทำให้ร่างกายของเขาเกือบจะลงไปด้านล่างอีกครั้ง
“ไม่” รูบี้รีบยกเท้าของตนเองขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
ฟิ้ว!
ลูกธนูอีกดอกถูกยิงออกไปทันที
ติ๊ง! รูบี้รู้สึกได้ว่าเท้าของตนเองเป็นอิสระอีกครั้ง เขารีบปีนขึ้นไปทันทีขณะที่เอียนก็ออกแรงช่วยดึงเขาขึ้นมาจากรู เขายังสั่นอยู่ใบหน้าก็ซีดเซียวและเต็มไปด้วยเหงื่อมากมาย เขานั่งลงไปที่พื้นจากนั้นก็โค้งตัวลงไปมองที่รูอีกครั้ง คบเพลิงที่เขาทิ้งลงไปก่อนหน้านี้ได้ดับไปแล้ว แต่ก่อนที่มันจะดับไปดูเหมือนว่ามีเงาของอะไรบางอย่างได้วิ่งผ่านมันไป
รูบี้กลืนน้ำลายของตัวเองทันที เขารู้สึกได้ว่าตนเองรอดมาจากเคียวของยมทูตได้จากนั้นก็หันไปมองรอบๆตัวและเห็นเทียนที่กำลังถือธนูอยู่ด้านหลังของเขา เห็นได้ชัดว่าเทียนเป็นผู้ยิงธนูทั้ง 2 ดอกและช่วยชีวิตของเขาเอาไว้
เขาไม่คิดว่าเทียนที่ทุกคนพยายามทำตัวให้ห่างมากที่สุดจะเป็นคนที่ช่วยเหลือเขา เขารู้สึกซาบซึ้งใจและรู้สึกขอบคุณ “ขอบคุณสำหรับลูกธนูของนาย ฉันขอบคุณมากจริงๆ!”
“ไม่ต้องคิดมากหรอก” เทียนหันไปมองรอบๆแล้วพูดว่า “ที่นี่ก็ยังไม่ปลอดภัย สัตว์ร้ายที่อยู่ข้างล่างพร้อมที่จะไล่ตามพวกเรามาได้ทุกเมื่อ พวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี่ทันที”
เอียนรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่ารูบี้ปลอดภัย เขาพยักหน้าและพูดขึ้นมาว่า “ทุกๆคนเตรียมตัวใช้ผงซอมบี้ พวกเราจะพยายามเคลื่อนไหวโดยไม่รบกวนพี่เบิ้มที่อยู่ข้างนอกมากที่สุด”
มาร์ตินก็มองมาที่เทียนดูเหมือนว่าความเกลียดชังในดวงตาของเขาจะลดลงไปแล้ว เขานำผงซอมบี้ออกมาจากกระเป๋าเพื่อปกปิดกลิ่นของตนเองจากนั้นก็รอคอยทุกคน
พวกเขากลับไปยังทางเดิมที่เข้ามาก่อนหน้านี้โดยพยายามทำให้เกิดเสียงเบามากที่สุดแม้ว่าจะต้องเดินผ่านกองกระดูกด้วยเช่นกัน
ยิ่งเข้าใกล้ปากถ้ำมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกกังวลมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่เทียนก็ต้องกลั้นลมหายใจของตนเอง เขาเตรียมแผนสำรองเอาไว้ — ถ้าหากสัตว์ร้ายตัวนี้รู้ตัวเขาจะรีบวิ่งสวนกับมันออกไปนอกทำทันที ทันทีที่เขาออกไปได้เขาก็จะบินขึ้นไปบนฟ้าด้วยปีกของตนเอง แม้ว่ามันจะทำให้ความสามารถของเขาต้องเปิดเผยต่อหน้าเอียนและคนอื่นๆแต่พวกเขาก็ต้องรอดไปก่อนถึงจะไปบอกต่อเรื่องนี้ได้
ในถ้ำมืดและชื้นนอกจากกลิ่นเน่าและกลิ่นเลือดแล้วมีกลิ่นแปลกๆอย่างอื่นอีก มันเหมือนกับกลิ่นของซากศพที่ถูกทิ้งให้แห้งเอาไว้และกลิ่นนี้ก็คล้ายคลึงกับกลิ่นในรังที่อยู่ด้านใต้ก่อนหน้านี้แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง
เมื่อพวกเขาได้กลิ่นที่แปลกประหลาดนี้ก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที พวกเขารู้ว่าพี่เบิ้มตัวนี้คงอยู่ห่างจากพวกเขาไปไม่ไกลแล้ว
กล้ามเนื้อทุกๆส่วนของเทียนเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เขาพร้อมที่จะวิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุดตลอดเวลา
เอียนหันไปมองมาร์ตินเมื่อถึงทางเลี้ยวเพื่อส่งสัญญาณว่าพวกเขาอาจจะพบกับสัตว์ร้ายตัวนี้ได้ทุกเมื่อ มาร์ตินก็รู้สึกได้ว่ากลิ่นนี้รุนแรงจนเขาต้องเอามือมาปิดจมูก เขารู้สึกได้ว่าระยะห่างระหว่างพวกเขากับสัตว์ร้ายตัวนี้ใกล้กันมากแล้ว เขาถืออาวุธของตนเองเอาไว้แน่นและพยายามเดินให้เงียบที่สุด
จากนั้นเขาก็รวบรวมความกล้าของตนเองและโผล่หน้าออกไปมองที่ทางเลี้ยวว่าเจออะไรหรือไม่
ทุกคนตกตะลึงไปเมื่อเห็นมาร์ตินยืนนิ่งในตอนนี้ หัวใจของพวกเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นระรัว ทุกๆคนต่างก็ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
หลังจากนั้นครู่หนึ่งมาร์ตินก็กลับมาและส่งสัญญาณมือบอกให้ทุกคนเงียบที่สุด จากนั้นเขาก็เดินไปข้างหน้าช้าๆ
เทียนพยายามควบคุมลมหายใจของตนเองจากนั้นก็เดินตามมาร์ตินไปที่เงียบที่สุด เขาเห็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของทางเลี้ยวนี้และเข้าใจทันทีว่าทำไมมาร์ตินถึงยืนนิ่งไปก่อนหน้านี้ มีร่างอันมหึมาที่นอนปิดทางเข้าถ้ำแห่งนี้อยู่ ร่างกายของมันคล้ายกับกิ้งก่าและแมงป่อง แม้ว่ามันจะมีขนาดที่มหึมาแต่ร่างกายของมันก็ผอมเพียวและสามารถเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ได้ ทั่วร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเงิน มันมีหางที่เหมือนกับแมงป่องอยู่หลายเส้น ขาของมันยื่นออกมาจากท้องสั้นบ้างยาวบ้างซึ่งดูแปลกประหลาดอย่างยิ่ง มันดูเหมือนกับขาของแมงมุมแต่ก็คล้ายกับขาของตะขาบด้วยเช่นกัน
เทียนรู้สึกกลัวทันทีที่เขาได้เห็นสัตว์หลายตัวนี้ แต่เขาก็สามารถนึกข้อมูลของสัตว์ร้ายตัวนี้ออกมาได้ทันที มันคือ 1 ใน 8 สัตว์ร้ายระดับตำนาน — เพรชฆาตเงาอสูร!
นี่คือสัตว์ร้ายที่มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับแมลงอสูรโลกันต์!
มันไม่เหมือนกับแมลงอสูรโลกันต์ เพรชฆาตเงาอสูรมีความสามารถในการหลบซ่อนตัวและซุ่มโจมตีได้เป็นอย่างดี มันอยู่ในจุดสูงสุดถ้าหากจัดอันดับสัตว์ร้ายที่มีความสามารถในการซุ่มโจมตี นี่ทำให้มันน่ากลัวยิ่งกว่าแมลงอสูรโลกันต์ แม้แต่สัตว์ร้ายที่มีระดับสูงกว่าเพรชฆาตเงาอสูรก็ต้องหวาดกลัวการซุ่มโจมตีของพวกมัน
สีหน้าของทุกๆคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขารู้แล้วว่าสัตว์ร้ายตัวนี้คือตัวอะไรและไม่คิดว่าจะได้พบกับสัตว์ร้ายในตำนานที่พื้นที่เขตสีส้มของแดนรกร้าง!
สายตาของเอียนเป็นประกายด้วยความโลภแต่มันก็ถูกแทนที่ด้วยความกลัวทันที เขาพยายามกลั้นหายใจในตอนนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเพรชฆาตเงาอสูรที่เป็นยอดฝีมือในการหลบซ่อนตัว ทักษะการหลบซ่อนตัวของพวกเขาก็กลายเป็นเด็กๆไปเลย
เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที ถ้าหากว่าเขารู้ว่าพี่เบิ้มที่อยู่ด้านบนเป็นสัตว์ร้ายในตำนาน เพรชฆาตเงาอสูร เขาอาจจะยอมอดตายอยู่ที่ทำด้านล่างจะดีกว่า แต่ในตอนนี้เขาออกมาได้ครึ่งทางแล้วสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้นั่นก็คือเดินต่อไปโดยไม่ให้สัตว์ร้ายตัวนี้รู้ตัว
“ดูเหมือนว่าเพรชฆาตเงาอสูรตัวนี้จะโตเต็มวัยแล้ว มันน่าจะมีระดับอยู่ที่ 64–67” เทียนหันไปมองเพรชฆาตเงาอสูร ในสารานุกรมได้เขียนข้อมูลของสัตว์ร้ายในตำนานเอาไว้ด้วยเช่นกันแต่มันมีข้อมูลเพียงแค่ช่วงที่เติบโตเต็มวัยเท่านั้น ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าเกล็ดสีเงินของเพรชฆาตเงาอสูรนั้นดูเหมือนกับเกล็ดสีเงินที่เขาได้พบที่ปากถ้ำก่อนที่จะเข้ามา
นอกจากนี้เพรชฆาตเงาอสูรยังมีศีรษะที่เป็นสามเหลี่ยมซึ่งคล้ายคลึงกันกับสัตว์ร้ายที่อยู่ภายในรังด้านล่างมาก ศีรษะของมันเป็นสามเหลี่ยมและนูนขึ้นมาจนเหมือนเป็นเขาที่ดูน่ากลัว
เทียนรู้สึกได้ทันทีว่าสัตว์ร้ายตัวนี้ดูน่าเกลียดและน่ากลัวเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่ามันได้ยึดครองถ้ำแห่งนี้ไปแล้ว มัจจุราชไร้เงาและอสูรโลหิตสังหารคงเป็นอาหารที่เพรชฆาตเงาอสูรหามาได้! ไข่ที่อยู่ในรังด้านล่างนั้นก็คงเป็นของเพรชฆาตเงาอสูร แต่รูปร่างของเพรชฆาตเงาอสูรที่พึ่งฟักออกมาจากไข่นั้นแตกต่างจากตัวเต็มวัยทำให้ทุกๆคนไม่รู้ว่ามันคือสัตว์ร้ายตัวไหน
มีสัตว์ร้ายหลายชนิดที่ตอนที่มันเกิดมาและตอนที่พวกมันโตเต็มวัยมีรูปร่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เทียนรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวเมื่อเขามองไปที่เพรชฆาตเงาอสูรที่ยังคงนอนหลับอยู่ สายตาของเขาค่อยๆหันไปมองปากถ้ำที่อยู่ด้านหน้าของตนเอง มันอยู่ด้านหลังของเพรชฆาตเงาอสูรไม่ไกลมากนัก ตราบใดที่เขาวิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุดของตนเองและใช้ปีกช่วยเสริมความเร็วเขาต้องรอดออกไปได้อย่างแน่นอน!
“เกือบถึงแล้ว!” เขาค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆ
กร๊อก!
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง
ดวงตาของเทียนเบิกกว้างขึ้นมาทันที แม้ว่าเขาจะไม่หันไปมองแต่ก็รู้ว่าเสียงนี้มาจากไหน — ดูเหมือนว่ารูบี้จะเหยียบโดนกองกระดูกที่อยู่ที่พื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ