The Dark King – Chapter 559 ความตายของเทียน
ราวกับว่าเวลาได้ผ่านไป 1,000 ปีแล้ว
แต่มันผ่านไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
ในหุบเหวที่มืดไอช่าเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย เธอเดินไปเรื่อยๆและภายในใจมีแต่ความว่างเปล่าเหมือนกับซอมบี้ จนกระทั่งความรู้สึกแสบร้อนไปทั่วร่างกายราวกับถูกไฟแผดเผาได้ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์ในทันที
ภายในกำแพงน้ำแข็งที่เงียบและมืดมิด ขนตาของไอช่าสั่นเทาจากอากาศที่เหน็บหนาวและดวงตาของเธอก็ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็พบกับความมืดที่ปกคลุมบริเวณรอบๆ เธอค่อยๆยกมือขึ้นโดยจิตใต้สำนึกและเอื้อมไปยังบริเวณท้องของตนเองที่รู้สึกแสบร้อน เธอคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ดีมันเป็นอาการของความรู้สึกหิวโหย น้ำย่อยในกระเพาะของเธอในตอนนี้เหมือนกับทะเลที่เต็มไปด้วยพายุโหมกระหน่ำ มันกัดผนังกระเพาะอาหารของเธออย่างรุนแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
เธอรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปกระเพาะอาหารของเธอจะต้องถูกย่อยโดยน้ำย่อยของตัวเองแน่ๆ ไอช่าค่อยๆประคองตัวเองขึ้นมา ฝ่ามือของเธอก็ไปสัมผัสเข้ากับบางสิ่งที่เย็นและแหลมคม เธอหันศีรษะของเธอไปมองและรู้สึกตกตะลึงในทันที
เขาคือชายหนุ่มผมสีดำ – เทียน ในขณะนี้ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยอากาศที่หนาวเย็นและเกราะที่เขาสวมอยู่ก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ สิ่งที่เธอเพิ่งสัมผัสไปก็คือผมของเขา ตอนนี้ผมสีดำที่อ่อนนุ่มถูกแช่แข็งจนกลายเป็นหนามที่แหลมคม
“ฉันยังไม่ตายอย่างนั้นหรอ?” ไอช่าตกตะลึง หลังจากที่เธอจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เธอจะสลบไป เธอก็รีบยื่นมือออกไปเพื่อช่วยเทียนอย่างเร่งรีบ แต่ทันทีที่เธอสัมผัสร่างของเทียนปลายนิ้วของเธอก็หดกลับโดยสัญชาตญาณ เธอรู้สึกเจ็บที่ปลายนิ้วราวกับถูกงูพิษกัด ไอช่ามีสีหน้าที่ประหลาดใจเพราะแม้แต่ความหนาวเย็นจากน้ำแข็งก็ไม่สามารถกัดกินผิวหนังเธอได้
อุณหภูมิในร่างกายของเขาต่ำกว่าน้ำแข็งอย่างนั้นหรอ?
แม้ว่าเธอจะไม่มีความรู้ในเรื่องพวกนี้ แต่เธอได้ต่อสู้กับสัตว์ร้ายนานาชนิดในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันมาหลายปีและเผชิญหน้ากับสถานการณ์ทุกรูปแบบ มันทำให้เธอเข้าใจว่าหากอุณหภูมิของน้ำต่ำกว่าน้ำแข็งมันก็จะแข็งตัว ซึ่งก็หมายความว่าเลือดในร่างของเทียนถูกแช่แข็งไปแล้ว!
หากเลือดแข็งตัวแล้วเขาจะยังมีชีวิตรอดอยู่ไหม?
เมื่อคิดเรื่องนี้ใบหน้าของเธอก็ซีดในทันที ไอช่ารีบเอื้อมมือไปแตะที่คอของเขา ซึ่งเป็นจุดที่ดีที่สุดในการตรวจสอบว่าเขาตายไปแล้วหรือแค่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ แต่เมื่อเธอสัมผัสไปที่คอของเทียนกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบสนองกลับมา!
เขาตายแล้วอย่างนั้นหรอ?
ฝ่ามือของเธอสั่นเล็กน้อยและจ้องมองเขาด้วยความงุนงง ต่อมาเธอก็ละสายตาจากเทียนเมื่อรู้สึกถึงอากาศที่หนาวเย็นจากสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเธอ ไอช่ามองไปรอบๆและรู้สึกประหลาดใจในทันทีที่เห็นกำแพงน้ำแข็ง
เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก สำหรับความรู้ของเธอน้ำแข็งไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้แม้แต่ในวันที่หนาวที่สุดของฤดูหิมะสีดำก็ตาม มีเพียงมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถยืมพลังแห่งธรรมชาติและสร้างมันขึ้นมาได้ จากรูปร่างของกำแพงน้ำแข็งนี้ไอช่าคิดต้องเป็นฝีมือของมนุษย์แน่ๆ เห็นได้ชัดว่ากำแพงน้ำแข็งแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยเทียน
เขาเป็นนักบวชจากมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรอ?
เธอจ้องมองกำแพงน้ำแข็งอยู่ชั่วครู่จนกระทั่งสังเกตเห็นจุดความร้อนยาวประมาณ 7-8 เมตรที่เคลื่อนที่ไปมาอยู่ในความมืด เธอมองลงไปบริเวณน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งที่อยู่ตรงหน้าและเธอก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะที่เธอไม่ได้สติและรู้ว่าทำไมถึงมีกำแพงน้ำแข็งอยู่ตรงนี้ได้
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปกปิดกลิ่นเลือดของเธอ!
เธอหันมามองเทียนด้วยใบหน้าที่สับสน
แกร็ก! แกร็ก!
ทันใดนั้นก็มีเสียงแตกของน้ำแข็งดังขึ้นมาทำลายความเงียบสงบ
ไอช่ารู้สึกตกใจอย่างมากและสิ่งแรกที่เธอทำคือหันไปมองบริเวณน้ำที่กลายเป็น แต่ก็ไม่เจอสัตว์ร้ายที่อยู่ข้างใต้น้ำแข็ง
แกร็ก! แกร็ก!
เธอหันไปยังแหล่งกำเนิดของเสียง – ไหล่ซ้ายของเทียน
เธอรีบถอดเกราะบริเวณไหล่ของเขาออกและดวงตาของเธอก็หดเล็กลงในทันที
แขนซ้ายของเทียนถูกแช่แข็งทั้งหมด มันไม่ใช่น้ำแข็งที่มีรูปร่างโปร่งใสเหมือนทั่วๆไป แต่กลับมีสีขาวเหมือนหิมะ บนแขนของเทียนดูเหมือนกับถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวและเธอสามารถมองเห็นเส้นสีน้ำเงินซึ่งเป็นเส้นเลือดที่แขนซ้ายของเขาได้!
เสียงแตกก่อนหน้านี้มาจากไหล่ซ้ายของเทียน อากาศที่หนาวเย็นรวมตัวบริเวณแขนซ้ายของเขาและทำให้เกิดหนามน้ำแข็งงอกออกมาจากไหล่ของเขาอย่างช้าๆ และแทงทะลุเกราะบริเวณไหล่ของเขาทำให้มีเสียงแตกเกิดขึ้น
“ถูกแช่แข็ง … โรคเกร็ดเลือดน้ำแข็ง!” ไอช่าตกตะลึง เธอไม่คิดว่าเทียนจะต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคที่รักษาไม่หาย ยิ่งกว่านั้นมันเป็นโรคต้องสาปในตำนาน
“คนที่เป็นโรคเกล็ดเลือดน้ำแข็งจะมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและกลัวความหนาวเย็นมากที่สุด ถ้าเป็นคนทั่วไปพวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานแม้ว่าอุณหภูมิจะลดลงเพียงหนึ่งหรือสององศาเท่านั้น แต่ภายในกำแพงน้ำแข็งแห่งนี้อุณหภูมิติดลบเกือบ 20 องศา” เธอกัดริมฝีปากที่สั่นเทาของตนเองและกลั้นน้ำตาไว้ เธอสามารถต้านทานอุณหภูมิภายในกำแพงน้ำแข็งนี้ แต่สำหรับเทียนมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะใช้วิธีนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับตัวเองและพยายามต่อสู้กับโรคร้ายเพื่อชีวิตของเธอ!
“ทำไม ทำไมนายถึงช่วยฉันโดยไม่คิดถึงชีวิตของตัวเองเลย … ” มีน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาของไอช่าและเธอรู้สึกแน่นหน้าอก แม้ไม่มีน้องสาวคอยจ้องทำลายชีวิตและคนที่เธอรัก ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม – คนที่เกี่ยวข้องกับเธอต่างมีจุดจบของชีวิตที่เหมือนกัน
เพราะอะไรกัน?!
เธอกัดฟันของเธอและกำหมัดแน่น
เป็นเวลานานที่มีเพียงความเงียบสงัดเท่านั้น
ไอช่าค่อยๆระงับความเศร้าในใจของเธอ ไม่ว่าเธอจะเศร้าแค่ไหนก็สามารถก้าวผ่านมันไปได้เสมอ บางครั้งเธออาจจะหลงลืมมันไปหรือบางทีเธออาจจำฝังใจไปตลอด
เธอจะต้องอดทนต่อความเจ็บปวดในหัวใจของเธอและเดินหน้าต่อไป เมื่อเวลาผ่านไปบาดแผลภายในใจจะค่อยๆได้รับการเยียวยาอย่างช้าๆ จนกระทั่งเธอสามารถลืมมันไปได้
เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บบนร่างกาย เธอก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาเล็กน้อย
ไอช่าค่อยๆยื่นมือไปสัมผัสบริเวณหลังอย่างช้าๆ เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นบริเวณแผลและดูเหมือนว่ามัน กำลังดีขึ้น
ไอช่ามองไปที่เตียงน้ำแข็งที่อยู่ข้างใต้และเข้าใจได้ในทันที ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำขนาดนี้ ความเร็วในการแพร่กระจายของพิษจะช้าลงมากดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเธอสามารถต้านทานได้เป็นเวลานาน
กำแพงน้ำแข็งนี้ไม่เพียงเพื่อช่วยปิดกั้นกลิ่นเลือดของเธอเท่านั้นแต่ยังช่วยระงับพิษในร่างกายของเธออีกด้วย – ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว! แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะคิดวิธีการเช่นนี้ขึ้นมา แม้ว่าเธอจะไม่เห็นขั้นตอนการสร้างกำแพงน้ำแข็งนี้ แต่เธอรับรู้ได้ว่าเทียนใช้ความพยายามอย่างหนักและใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อสร้างกำแพงน้ำแข็งนี้ขึ้นมา
เธอกัดริมฝีปากของตนเอง จากนั้นลุกจากเตียงน้ำแข็งและประคองร่างของเทียนขึ้นมานอนราบบนเตียงน้ำแข็ง ร่างของเทียนถูกแช่แข็งอย่างสมบูรณ์และท่าทางของเขายังคงอยู่ในสภาพเดิม