The Dark King – Chapter 565 วิวัฒนาการครึ่งระดับ
ไม่นานเลือดหนอนวิญญาณกาฝากอสูรโลหิตสังหารก็ถูกฉีดเข้าไปภายในสัญลักษณ์เวทมนต์ของเทียน เขารู้สึกถึงความอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยบริเวณหน้าอกของตนเองและไม่นานมันก็สลายไปเพราะอุณหภูมิที่หนาวเย็น เขาไม่ได้หยุดและยังคงนำหนอนวิญญาณกาฝากตัวที่สองซึ่งเป็นหนอนวิญญาณกาฝากจากศพของนกหัวขวานแห่งความตายขึ้นมา
เทียนค่อยๆบรรจุและฉีดเข้าไป
หนอนวิญญาณกาฝากระดับหายากอีกหนึ่งตัวถูกฉีดเข้าไปในสัญลักษณ์เวทมนต์ของเขา มันกลายเป็นสารอาหารอันบริสุทธิ์ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้สัญลักษณ์เวทมนต์ของเทียน
หลังจากฉีดเสร็จเรียบร้อยเทียนก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาขยายขึ้นทันที ความรู้สึกที่อบอุ่นมาจากสัญลักษณ์มนต์บนหน้าอกแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา ทันใดนั้นเขาก็ไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไปราวกับว่ากำลังยืนอยู่กลางถนนในฤดูร้อนที่ร้อนระอุ
เขาหายใจเข้าลึกๆและหยิบหนอนวิญญาณกาฝากอีกตัวขึ้นมาและบรรจุลงในเข็มฉีดยา
เมื่อหนอนวิญญาณกาฝากตัวที่ 3 ถูกฉีดเข้าไปในสัญลักษณ์เวทย์มนตร์ของเขา เทียนรู้สึกว่าสัญลักษณ์เวทมนตร์บนหน้าอกของตนเองสั่นเล็กน้อย ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะปะทุออกมาจากสัญลักษณ์เวทย์มนตร์ของเขา
“พลังใกล้จะถึงขีดสุดแล้วอย่างนั้นหรอ” ดวงตาของเทียนเบิกกว้าง เขามองดูขวดทั้งสองที่เหลืออยู่ในมือซึ่งบรรจุหนอนวิญญาณกาฝากและไข่วิญญาณกาฝากเพรชฆาตเงาอสูร
ดวงตาของเขาส่องประกายและหยิบไข่วิญญาณกาฝากของเพรชฆาตเงาอสูรขึ้นมา จากนั้นก็บรรจุเข้าไปในหลอดฉีดยาและฉีดเข้าไปในสัญลักษณ์เวทมนต์ของตนเอง
หลังจากฉีดไข่วิญญาณกาฝากเข้าไปเทียนก็รู้สึกว่าร่างกายของตนเองขยายขึ้นอีกครั้ง ขนตามร่างกายของเขาลุกชันขึ้นและกล้ามเนื้อในร่างกายของเขาก็สั่น ร่างกายของเขาเข้าสู่สภาวะตื่นตัวเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันท่วมท้น
“เกือบแล้ว … ” เทียนกำหมัดของตนเองรู้สึกได้ถึงเลือดที่สูบฉีดเดือดพล่านไปทั่วร่างกาย ดวงตาของเขามองไปที่หนอนวิญญาณวิญญาณกาฝากสุดท้ายของมัจจุราชไร้เงา
นี่คือสิ่งของในการทำภารกิจ หากเขานำมันกลับไปส่งจะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญทองได้
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและทันใดนั้นเทียนก็เปิดฝาขวดออกอย่างรวดเร็ว บรรจุหนอนวิญญาณกาฝากที่กำลังดิ้นเข้าไปในกระบอกฉีดยาและฉีดเข้าไปในสัญลักษณ์เวทมนต์โดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
เขาเกือบจะต้องตายถึง 2 ครั้งจากการไล่ล่าโดยชายหนุ่มตระกูลแฟเทอร์และจากโรคเกล็ดเลือดน้ำแข็ง ทำให้เทียนเข้าใจว่ามีเพียงความเพ้อฝันของเขาที่จะสะสมคะแนนภารกิจโดยสุจริตเพื่อแลกกับอิสรภาพของตนเอง มันเป็นเพียงการให้ “ความหวัง” ที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังแก่พวกเขา
ในดินแดนแห่งนี้ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายมากมายกำลังรอคอยเขาอยู่ทุกหนทุกแห่ง มีทางเดียวที่จะเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตได้ก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
เมื่อหนอนวิญญาณกาฝากมัจจุราชไร้เงาถูกฉีดเข้าไปในสัญลักษณ์เวทมนต์ของเขา เทียนก็รู้สึกได้ทันทีว่าความร้อนภายในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุด มันเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้งและปะทุราวกับภูเขาไฟ ภายในร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความร้อนราวกับว่ากำลังอยู่ในทะเลเพลิง!
ความร้อนที่มากมายนี้ทำให้เขารู้สึกว่าร่างกายของตนเองกำลังจะละลายและไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดนี้ได้อีก ในตอนนี้เทียนรู้สึกปวดหัวอย่างมากและได้ยินเสียงรอบๆตัวเลือนลาง เขาได้ยินเสียงแตกของอะไรบางอย่างอยู่ใกล้ๆ
เขาอ้าปากกว้างเพื่อสูดลมหายใจเข้าไปและมองไปในทิศทางของเสียง
เขารู้สึกตกตะลึงทันที
เส้นเลือดที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟโผล่ออกมาทั่วผิวหนังของเขาและดูเหมือนว่ามีลาวาสีแดงไหลผ่านอยู่ข้างในด้วย ส่วนที่ซับซ้อนที่สุดของเส้นเลือดพวกนี้คือบนหน้าอกของเขาที่มีสัญลักษณ์เวทมนต์ฝังอยู่
ภายใต้เส้นเลือดสีแดงสดในร่างกายของเขาดูเหมือนว่ามันกำลังแตกออกอย่างช้าๆและในเวลาเดียวกันสีขาวซีดก็ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆบนแขนของเขาไปจนถึงบริเวณหลังมือ ดูเหมือนว่ากระดูกของเขาจะโผล่ออกมาจากภายในร่างกายของเขาและค่อยๆปกคลุมทั่วร่างกาย
“ไม่ดีแน่!” ไอช่าที่อยู่ข้างๆเขาตะโกนออกมาทันที
เทียนงงงวย ในขณะที่เขากำลังจะหันศีรษะของตนเอง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่ด้านหลังศีรษะและความมืดก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
เขาสลบไป
…
เป็นเวลาที่ยาวนานมาก
เทียนรู้สึกว่าคอของตนเองค่อนข้างเจ็บ เขาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆและลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ เขายังอยู่ในกำแพงน้ำแข็งที่มืดมิด เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและลุกขึ้นนั่งบนพื้นอย่างช้าๆ ความทรงจำจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้วิ่งเข้ามาในจิตใจของเขาและเขาหันหัวของเขาและมองไปรอบๆ
“นายฟื้นแล้วหรอ?” ไอช่าเดินมาจากเตียงน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ด้านหลังเขา
เทียนมองดูเธออย่างสงสัย “คุณทำให้ผมสลบไปหรอครับ?”
“ใช่” ไอช่าพยักหน้าเบา ๆ “ฉันคิดว่านายเป็นหน่วยลาดตระเวณแดนรกร้างขั้นแรกเริ่มแล้วซะอีก แต่จากการใช้หนอนวิญญาณกาฝากเหล่านั้นนายสามารถข้ามไปเป็นหน่วยลาดตระเวณแดนรกร้างระดับสูงได้โดยตรงแต่ร่างกายของนายจะเปลี่ยนไปมาก
เทียนรู้สึกตกใจ “ผมข้ามระดับไปยังหน่วยลาดตระเวณแดนรกร้างระดับสูงไม่สำเร็จหรอครับ?”
“เปล่า” ไอช่าส่ายศีรษะเล็กน้อยและพูดว่า “ประสบความสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้นายกลายเป็นหน่วยลาดตระเวณแดนรกร้างระดับสูงครึ่งหนึ่งแล้ว เมื่อถึงเวลาต่อสู้นายยังสามารถปรับสภาพร่างกายของตัวเองเพื่อปลุกสถานะร่างแปลงอสูรก่อนหน้านี้ได้ เมื่อนายสงบสติอารมณ์หลังจากต่อสู้สถานะร่างแปลงอสูรจะจางหายไปและร่างกายของนายก็จะกลับมาเป็นปกติ “
เทียนตกตะลึงมีภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปของตัวเองก่อนหน้านี้ลอยเข้ามาในจิตใจของเขา กระดูกที่ถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อและเลือดภายในร่างกายดูเหมือนว่าพวกมันจะขยับออกมาจากร่างกายของเขา
อย่างไรก็ตามเขาจะดูเหมือนโครงกระดูกหากสถานะร่างแปลงอสูรของเขายังดำเนินต่อไป และเมื่อเขากลับไปที่กำแพงในอนาคต เขาจะถูกบังคับให้ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมิดตลอดไปแม้ว่าเขาจะไม่มีภาพลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับโบสก์แห่งความมืดก็ตาม
“ขอบคุณครับ” เทียนพูดกับไอช่า
ไอช่าถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดว่า “อย่าโทษตัวเองเลย หากนายต้องการที่ก้าวข้ามระดับต่อไปนายจะต้องฉีดหนอนวิญญาณกาฝากหรือเรือนร่างแห่งพระเจ้าเข้าไป พวกมันจะช่วยกระตุ้นร่างกายของนายก้าวข้ามระดับอีกครั้ง แต่ฉันขอแนะนำให้รอจนกว่าฉันจะช่วยนายสร้างอาวุธเวทย์มนตร์ได้สำเร็จก่อนค่อยพยายามก้าวข้ามระดับอีกครั้ง ถึงตอนนั้นสถานะร่างแปลงอสูรของนายจะถูกผนึกโดยอาวุธเวทมนตร์และจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตปกติของนายภายในกำแพง “
เทียนพยักหน้าเล็กน้อย
ตอนนี้เขาสามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งของหน่วยลาดตระเวณแดนรกร้างระดับแรกเริ่มได้ก็เพียงพอแล้ว
การปรากฏตัวของโครงกระดูกภายนอกก่อนหน้านี้ทำให้เกิดเงามืดในหัวใจของเขา
“นี่สำหรับนาย นายจะสวมมันมั้ย?” ไอช่ามอบสิ่งที่มีขนสีดำและหันหน้าของเธอหนีในขณะที่พูด
เทียนรับมาดูอย่างรวดเร็วมันเคยเป็นขนของหนูกระดูกที่เขาเคยกินมาก่อน ดูเหมือนว่ามันจะถูกเย็บให้กลายเป็นเสื้อคลุมขนสัตว์ เขามองไปที่ไอช่าและพูดว่า “คุณเย็บมันขึ้นมาหรอครับ?”
“ฉันเย็บมันตอนที่นายกำลังหมดสติ” ไอช่ายอมรับด้วยเสียงต่ำ
“ผมหมดสติไปนานมากเลยหรอครับ?” เทียนประหลาดใจ
ไอช่าหันไปมองเทียนและพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “นายหาว่าฉันเย็บช้าอย่างนั้นหรอ?”
เทียนไม่คิดว่าสีหน้าของเธอจะเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ เขาพูดอย่างเร่งรีบ “ไม่ ไม่ใช่ครับ ผมแค่กังวลว่าผมสลบนานจนเกินไป”
“เปล่าเลย” ไอช่าส่งเสื้อให้กับเทียนแล้วบอกว่า “ที่นี่หนาวมากนายลองใส่มันดู”
คราวนี้เทียนไม่กล้าที่พูดอะไรอีกและรีบใส่เสื้อโค้ทขนสัตว์อย่างรวดเร็ว เสื้อโค้ทมีขนาดที่พอดีกับตัวเขา เทียนอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยรอยยิ้มออกมาว่า “คุณวัดขนาดร่างกายของผมหรอครับ? ผมใส่มันได้พอดีตัวเลย”