The Dark King – Chapter 576 วิหคสายฟ้า
“แมงมุม 6 ตา!” เทียนตกตะลึงทันทีเมื่อได้เห็นสัตว์หลายตัวนี้ มันเป็นสัตว์ร้ายระดับ 65 ดูจากขนาดตัวของมันแล้วตอนนี้มันอยู่ในช่วงโตเต็มวัย
ไอช่าฟันมีดสั้นของเธอออกไปทันที
ฉัวะ!
เธอใช้มีดสั้นในมือตัดใยแมงมุมสีเขียวของแมงมุม 6 ตาที่พ่นออกมาทันที
ปากใหญ่ที่ด้านหลังของแมงมุมกรีดร้องและทันใดนั้นร่างกายของมันก็พลิกตัวไปทางด้านหนึ่ง มันพยายามหลบใยแมงมุมที่ดีดกลับมาของตนเองแต่ก็สายเกินไป ร่างกายของมันถูกใยแมงมุมสีเขียวที่ตนเองพ่นออกไปรัดเอาไว้ทันที
ไอช่ายกเท้าของเธอขึ้นและเตะออกไปทันที
ปัง! แมงมุมถูกเตะเข้าไปที่ศีรษะ กะโหลกศีรษะของมันยุบลงไปทันทีและร่างกายของมันก็พุ่งลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็วราวกับอุกกาบาต
ไอช่ามองไปที่มันแต่ก็ไม่ได้หยุดดูหรือหันไปเก็บมีดสั้นของตนเอง เธอบินออกไปอย่างรวดเร็ว
เทียนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเธอสามารถฆ่าสัตว์ร้ายระดับ 65 ได้ในพริบตา แม้ว่าเศษฝุ่นที่ฟุ้งกระจายขึ้นมาจะทำให้เขามองเห็นได้ไม่ชัดเจนแต่การเตะไอช่าอย่างรุนแรงและการที่สัตว์ร้ายตัวนั้นลงไปกระแทกพื้นด้วยความเร็วขนาดนั้นทำให้มันต้องตายอย่างแน่นอ
“แมงมุม 6 ตาตัวนี้คงจะหิวมากถึงต้องมาล่าเหยื่อที่บินอยู่บนท้องฟ้า” เทียนคิดในใจ เขาเคยอ่านข้อมูลของแมงมุม 6 ตามาบ้างแล้ว มันเป็นสัตว์ร้ายที่สามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ ส่วนใหญ่แล้วมันจะใช้ชีวิตอยู่บนบกแต่มันก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ในน้ำได้หลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ปากของมันอยู่ที่หน้าท้องซึ่งสามารถใช้หายใจได้
เทียนคิดว่าไอช่าจะต้องมีประสบการณ์การต่อสู้เป็นจำนวนมากแน่นอนเพราะเธอสามารถหาวิธีเอาชนะศัตรูได้ภายในพริบตา เช่น ไม่เป็นไรการตัดใยแมงมุมสีเขียวก่อนหน้านี้
“ไม่ใช่แค่พลังเท่านั้น เธอเหนือกว่าเราในทุกๆด้าน” เทียนคิดในใจ เขาแอบคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องออกแรงเพื่อฝึกฝนเคล็ดวิชาใหม่ที่ได้เรียนรู้มาแล้ว แม้ว่าเขาจะสามารถป้องกันตัวเองได้แต่เขาก็ยังต้องการพลังเพื่อจะเอาชนะทุกๆคนที่อยู่ภายในกำแพงชั้นในให้ได้
ฟิ้ว!
พวกเขายังคงบินไปเรื่อยๆเทียนมองลงไปยังพื้นที่เขตสีแดงของแดนรกร้างจากท้องฟ้าซึ่งตอนนี้พอจะมีซากปรักหักพังของเมืองให้เห็นและไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย มันเป็นแดนรกร้างที่แท้จริงเมื่อเทียบกับพื้นที่เขตสีส้ม
เมื่อพวกเขาบินต่อไปอีกประมาณ 7-8 นาทีก็มีก้อนหินที่ถูกโยนขึ้นมาจากพื้นดิน
ไอช่ารีบหมุนตัวหลบก้อนหินที่ตรงเข้ามาทันที
เทียนมองลงไปข้างล่างและเห็นสัตว์ร้ายที่เหมือนกับคิงคองสีดำสูงประมาณ 7 เมตรยืนอยู่และมีกองหินอยู่ข้างๆมัน มันมีขนสีดำหนา บนศีรษะของมันมีเขาสีดำ มันคือ วานรอสูรคลั่ง สัตว์ร้ายระดับ 62
ฟิ้ว!
เธอยังคงบินต่อไปโดยไม่สนใจเจ้าลิงยักษ์ที่อยู่ด้านล่างเลย
เทียนรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเขาที่แบบไอช่าเอาไว้ คงยากมากแน่นอนที่เขาจะสามารถหลบการโจมตีกะทันหันแบบนี้ได้ เหมือนที่ไอช่าเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ การบินผ่านพื้นที่เขตสีแดงของแดนรกร้างเป็นเรื่องที่อันตรายมากอย่างแน่นอน
เขากรอกตาของตนเองและหันไปพูดกับไอช่า “พวกเราน่าจะบินให้สูงขึ้นไปอีกเพื่อหลบการโจมตีของพวกสัตว์ร้ายที่อยู่บนพื้น”
“ถ้าทำอย่างนั้นจะอันตรายกว่า” เธอพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า
“อันตรายกว่าหรอครับ?”
“เหนือก้อนเมฆพวกนี้คือที่อยู่ของวิหคสายฟ้า” เธอพูดต่อไปว่า, “วิหคสายฟ้าจะรวมตัวกันเป็นฝูง ถ้าหากว่ามันเห็นพวกเราแม้แต่ฉันก็ต้องหนี”
เทียนรู้สึกประหลาดใจ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองก้อนเมฆสีเทาที่อยู่เหนือศีรษะของตนเอง โลกใบนี้ช่างเต็มไปด้วยอันตรายอย่างแท้จริง
ฟิ้ว!
เสียงลมยังคงพัดเข้ามาอย่างรุนแรงในขณะที่ไอช่ายังคงบินต่อไปราวกับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมงไอช่าก็พูดออกมาเบาๆว่า “พวกเรากำลังเข้าไปในพื้นที่หมายเลข 1 เขตสีแดงของแดนรกร้าง พื้นที่บริเวณนั้นอยู่ใกล้กับพื้นที่เขตสีดำของแดนรกร้างมากที่สุดและยังเป็นที่ตั้งของฐานที่มั่นของตระกูลดราก้อนของพวกเรา”
เทียนมองลงไปด้านล่างและเห็นพื้นดินสีดำเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในไม่ช้าเขาก็เห็นป้อมปราการเหมือนกับเมืองโบราณที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงสูงร้อยเมตร มีอาคารหลายหลังที่อยู่ด้านในกำแพงแห่งนี้
“ที่นี่คือฐานที่มั่นของตระกูลดราก้อน”
ฟิ้ว!
ไอช่าพุ่งตัวลงไปที่เมืองนั้นทันทีราวกับเงาดำที่ลงมาจากท้องฟ้า
บนกำแพงสูงของป้อมปราการแห่งนี้มีทหารที่เดินตรวจตราอยู่พวกเขาสวมชุดเกราะที่มีตราของตระกูลดราก้อน คนพวกนี้ย่อมเป็นผู้พิทักษ์ตระกูลดราก้อนอย่างแน่นอน
“ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์?” พวกเขารู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นไอช่าแต่ก็รีบเข้ามาทำความเคารพทันที “คารวะ ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์”
ความจริงแล้วไอช่าไม่ได้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปแล้วแต่พวกคนที่อยู่ในแดนรกร้างแห่งนี้คงยังไม่รู้อย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงเรียกเธอว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์
“นายพลทั้ง 8 คนอยู่ที่ไหน?” ไอช่าเก็บปีกขนาดใหญ่ของตนเองและถามออกไปด้วยความเฉยชา
เทียนรีบปล่อยมือของเขาที่จับเอวของเธอออกทันที
ไอช่าหันมามองเทียนด้วยสายตาที่อบอุ่นแต่เมื่อเธอหันไปมองพวกผู้พิทักษ์สายตาของเธอก็กลายเป็นเย็นชาอีกครั้ง
“ท่านต้องการพบนายพลคนไหนครับ?” ผู้พิทักษ์คนนั้นดูประหม่าเล็กน้อยเมื่อเขาถามออกมา
เธดอหรี่ตาของตนเองลงและไม่ได้ตอบอะไรกลับมาก่อนที่จะหันกลับไปและเดินไปที่ขอบกำแพงทันที เธอกระโดดลงมาจากกำแพงและในตอนก่อนจะถึงพื้นนั้นเธอก็งอเข่าของตนเองเพื่อรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้และทำให้เกิดหลุมลึกขนาดใหญ่ 2 หลุมบนพื้น
จากนั้นเธอก็ก้าวออกไป
เทียนก็กระโดดตามเธอมาแต่เขาเลือกที่จะม้วนตัวเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
“คารวะท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
“คารวะท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
เมื่อพวกผู้พิทักษ์ที่อยู่ในป้อมปราการแห่งนี้ได้เห็นไอช่าพวกเขาก็รีบก้มศีรษะลงทันทีและแอบมองเทียนที่อยู่ด้านหลังของเธอ ไม่เห็นชุดเกราะของเขาทุกๆคนก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า “เขาคงเป็นคนที่โชคดีมากๆที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ช่วยเหลือข้างนอกนั่น”