The Dark King – Chapter 577 ฐานที่มั่นของตระกูลดราก้อน
“พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของมนุษย์” เทียนตรวจสอบความร้อนของผู้พิทักษ์เหล่านี้ด้วยการมองเห็นของเขาแต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้เหนือกว่าผู้พิทักษ์ทั่วๆไป
หรือว่าผู้พิทักษ์ตระกูลดราก้อนทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็มีความแข็งแกร่งระดับนี้?
หลังจากที่ไอช่าเดินผ่านไปเหล่าผู้พิทักษ์ก็เงยหน้าขึ้นมา พวกเขาพยักหน้าให้เทียนและยิ้มเชิงดูถูกเหยียดหยามในตอนที่เทียนมองมาที่พวกเขา
เทียนหันไปมองหน้าพวกเขาทีละคนด้วยความสงบนิ่ง
ไอช่าเดินไปตามถนนซึ่งถูกขนาบข้างด้วยอาคาร
ในขณะที่เขาเดินผ่านอาคารหลังหนึ่งนั้นเทียนก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิงและเสียงหัวเราะของผู้ชายดังออกมา เมื่อเขามองเข้าไปในอาคารนั้นก็เห็นจุดความร้อนหลายจุดที่อยู่ภายในนั้นและมีจุดความร้อนหนึ่งที่ดูอ่อนแอที่สุด ดูเหมือนว่าจุดความร้อนที่อ่อนแอนี้จะเป็นหญิงสาวจากรูปร่างที่เขาได้เห็น
“นี่คืออะไรหรอครับ?” เทียนหันมาถามไอช่า
ไอช่ามองมาที่เขาพร้อมกับดวงตาของเธอที่เบิกกว้างขึ้น “นายสนใจเรื่องนี้ด้วยหรอ?”
เทียนรู้สึกอายและไอออกมาเบาๆ “เปล่าครับ ไม่ใช่ ผมแค่อยากรู้ว่าทำไมคุณถึงสร้างที่แบบนี้ในป้อมปราการนี้ด้วย”
ไอช่ายังคงเดินต่อไปบนถนนและพูดออกมาว่า “ผู้พิทักษ์ตระกูลดราก้อนต้องอยู่ที่แดนรกร้างแห่งนี้เป็นเวลานาน จากบ้านของตนเองมาไกลและต้องทิ้งชีวิตที่สบายมาที่นี่ ชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้วยความเสี่ยง ถ้าหากไม่มีอะไรคลายเครียดอาจทำให้พวกเขาต้องเป็นบ้าได้”
มันทำให้เทียนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นใน คุกหนามดอกไม้ นักโทษทุกๆคนต่างก็บ้าคลั่งเพราะพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ได้เพียงในห้องขังเท่านั้น ถ้ากำแพงชั้นในเป็นเหมือนกรงคนพวกนี้ที่อาศัยอยู่นอกกำแพงควรจะเป็นอิสระและมีความสุข แต่ความจริงก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อมีนกออกมาจากกรงพวกมันทุกตัวจะต้องตาย…
หรือว่านี่คือคุกจริงๆของมนุษย์?
เทียนยังคงใช้ความคิดขณะที่เดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขาได้ยินเสียงที่ดังเข้ามา “คารวะท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดคุณก็กลับมาที่นี่! พวกเราเป็นกังวลกันมาก!”
เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่พูดขึ้นมา
เทียนมองออกไปและเห็นชายหนุ่ม สูง ผอม หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง เขามีผมสีทองและสวมชุดคลุมสีขาวซึ่งช่วยเสริมความหล่อเหลาของเขาให้เพิ่มขึ้นไปอีก สิ่งเดียวที่ขัดแย้งก็คือบนแก้มของเขานั้นมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่
“ฉันออกไปนานแค่ไหน? ” ไอช่าถามกลับมา
ชายหนุ่มคนนั้นดูประหลาดใจเมื่อเขาตอบกลับมาว่า “คุณออกไปประมาณ 40 วันแล้วครับ”
เทียนรู้สึกประหลาดใจ ครั้งสุดท้ายที่ไอช่าออกไปจากที่นี่คือตอนที่เขากำลังหนีตายจาก พาร์นา ชายหนุ่มจากตระกูลแฟเทอร์ในพื้นที่เขตสีส้มและนั่นทำให้เธอได้พบกับเขา ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมามากกว่า 1 เดือน มันหมายความว่าเขาอยู่ในแดนรกร้างแห่งนี้มาเป็นเวลาเกิน 1 เดือนแล้ว!
ไอช่าคิดในใจว่า “หลังจากนี้ก็น่าจะถึงพิธีรับเข้าตำแหน่งของเธอแล้ว”
“ยูเรก้า เป็นหนึ่งในแปดนายพลและยังเป็นเพื่อนของฉัน ยูเรก้า นี่คือเพื่อนของฉัน เทียน ฉันหวังว่านายจะดูแลเขาได้ในอนาคต” เธอรีบเข้าเรื่องและอธิบายทันที
ยูเรก้ารู้สึกประหลาดใจ ในตอนที่ไอช่าเดินเข้ามาหาเขา เขาก็เห็นเทียนที่อยู่ด้านหลังของเธอแล้ว เขาคิดว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นเพียงผู้รอดชีวิตที่ไอช่าได้ช่วยเหลือเอาไว้ในพื้นที่เขตสีส้ม แต่มันกลับกลายเป็นว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนของเธอ
หลังจากใช้เวลาหลายปีอยู่ที่แดนรกร้างแห่งนี้เขาก็รู้จักไอช่าดีพอ แม้ว่าเธอจะแข็งแกร่งมากแต่ความเป็นมิตรและการเข้าสังคมของเธอนั้นเป็นศูนย์ เธอมักจะอยู่ตัวคนเดียวและมีเพื่อนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น มันน่าประหลาดใจมากที่ชายหนุ่มธรรมดาคนนี้ได้เป็นเพื่อนกับบุตรศักดิ์สิทธิ์!
เขาจ้องมองเทียนอีกหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้พบความพิเศษในตัวชายหนุ่มคนนี้
แต่ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนของไอช่า แสดงว่าเขาต้องมีความสามารถที่ซ่อนเร้นเอาไว้หรือไม่ก็มีความพิเศษอื่นๆแน่นอน
เมื่อคิดแบบนี้ชายหนุ่มผมสีทองก็ยื่นมือของตนเองออกไปทันที “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกผมมาได้เลย”
เทียนพยักหน้าพร้อมกับจับมือ เพื่อนของเพื่อนไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนกัน เพราะที่นี่มีเพียงไอช่าคนเดียวเท่านั้นที่เขารู้จัก
เมื่อเห็นว่าเทียนเป็นคนที่ค่อนข้างนิ่งและเงียบ ยูเรก้าก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมทั้งสองคนนี้ถึงเป็นเพื่อนกันได้ พวกเขาเป็นเหมือนกับนกที่มีขนเหมือนกัน
“มีแค่นายหรอที่อยู่ในป้อมปราการนี้? แล้วคนอื่นไปไหน?” ไอช่าถามออกมา
ยูเรก้ายิ้มและตอบกลับมาว่า “เอมี่กับเกบบ์ออกไปทำภารกิจ ทุกๆคนต่างก็มีเรื่องที่ต้องทำ ผมเป็นเพียงคนเดียวที่มีเวลาว่างมาต้อนรับคุณ”
ไอช่าขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีและถามกลับมาว่า “ป้อมปราการถูกโจมตีหรอ?”
” 2 ครั้ง แต่พวกเราก็สามารถกำจัดคนที่ลอบเข้ามาที่นี่ได้” ยูเรก้ามองไปที่เธอและกล่าวออกมา “ทำไมครั้งนี้คุณไปนานจัง? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? คุณบอกว่าจะออกไปฆ่าผู้บุกรุกของตระกูลแฟเทอร์ แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลแฟเทอร์ก็ยังเทียบคุณไม่ได้นับประสาอะไรกับพวกมดปลวก หรือว่าคุณปะทะกับสัตว์ร้าย?”
ไอช่าพยักหน้าเบาๆ “ฉันเจอเทพสังหาร”
“เทพสังหาร?!” ยูเรก้าตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะถามออกมา “แล้วเป็นยังไง? คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”
“ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว” ไอช่าส่ายศีรษะของเธอเบาๆ “ฉันได้รับบาดเจ็บดังนั้นจึงต้องพักฟื้นอยู่ข้างนอก” จากนั้นเธอก็เดินออกไปอีกครั้ง ด้านหน้าของเธอเป็นปราสาทขนาดใหญ่ตั้งสูงตระหง่านอยู่มันมีบันไดหลายร้อยขั้น
ยูเรก้าเดินตามเธอไปทันที “คุณหายดีแล้วแน่หรอ? ให้ผมตามหมอมาตรวจเพื่อความแน่ใจดีกว่า”
“ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
“ตรวจดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจดีกว่า”
“เอางั้นก็ได้”
“อย่างนั้นผมจะส่งหมอมาหาคุณนะครับ”
เมื่อพูดจบยูเรก้าก็วิ่งออกไปทันที เขาพยักหน้าเบาๆให้กับเทียนในตอนที่วิ่งออกไป
เทียนก็พยักหน้าตอบไปเช่นกัน เมื่อชายหนุ่มคนนี้เดินออกไปแล้วเทียนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยเพราะเขามีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อชายหนุ่มคนนี้
ไอช่าไม่ได้หันกลับมามองแต่เธอก็เหมือนเห็นสีหน้าของเทียนและพูดออกมาว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”
เทียนส่ายศีรษะของเขาทันที “ไม่มีอะไรครับ”
ไอช่ายิ้ม “นายดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่”
“ไม่มีอะไรครับผมสบายดี” เทียนรีบปฏิเสธและเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “บริเวณชายแดนของพื้นที่เขตสีแดงจะต้องมีสัตว์ร้ายเป็นจำนวนมากแน่นอน แล้วการสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่แบบนี้ขึ้นมาจะไม่ทำให้เป็นจุดสนใจของพวกสัตว์ร้ายหรอกครับ?”
ไอช่ายิ้ม “พวกเราใช้ผงเทพแมลงรอบๆป้อมปราการแห่งนี้เพื่อไล่สัตว์ร้ายให้ออกไป เว้นแต่ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์ร้ายระดับตำนาน แน่นอนว่ามีสัตว์ร้ายบางตัวที่ไม่กลัวผงเทพแมลงแต่ก็ไม่ได้มีมากนัก”