The Dark King – Chapter 635 คําเชิญ
ในไม่ช้รถม้าก็มาถึงปราสาทตระกูลมิลาน
เมื่อมาถึงบริเวณประตูปราสาทที่มีอัศวินเฝ้าอยู่รถม้าก็หยุดเคลื่อนที่ จากนั้นหมาป่าโลกันต์ก็หยิบบัตรเชิญออกมาและส่งมันออกไปให้อัศวินแห่งความมืดทางหน้าต่าง
หลังจากกวาดสายตาอ่านบัตรเทียบเชิญจบ อัศวินเฝ้าประตูก็จ้องมองไปยังทหารม้าทั้งสองด้านของขบวนรถและพูดออกมาว่า “ผู้ที่ได้รับเชิญให้มาร่วมการประชุมสามารถนําสมาชิกและผู้ติดตามเข้าไปได้รวมทั้งหมดสิบคนเท่านั้นครับ”
หมาป่าโลกันต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เรียกอัศวินแห่งความมืดที่อยู่ใกล้ๆเข้ามา และกระซิบว่า “เลือกทหารที่มีฝีมือดีที่สุดมาให้ฉัน 2 3 คนส่วนคนที่เหลือให้ออกไปอยู่บริเวณนอกปราสาท จําไว้ว่าอย่าออกไปไกลมากนัก”
“ครับ ท่านผู้อาวุโส” มาร์โก้พยักหน้าและหันกลับไปเพื่อเลือกอัศวินแห่งความมืดที่ฝีมือดี
“เชิญครับ” อัศวินเปิดประตูขนาดใหญ่ของปราสาทและโค้งคํานับเชื้อเชิญอย่างนอบน้อม
เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของอัศวินเฝ้าประตูที่เต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและเคารพผู้ที่มีตําแหน่งสูงกว่า ทําให้หมาป่าโลกันต์ยิ่งรู้สึกนับถือตระกูลมิลานมากขึ้น ในขณะเดียวกันชายชราก็รู้สึกเสียใจที่เมืองแห่งนี้รับใช้โบสถ์แห่งความมืด
ก่อนที่จะเข้าไปในปราสาท หมาป่าโลกันต์ได้กําชับกับมาร์โก้ว่า “นายอยู่ที่นี่เพื่อรับมือกับเจ้านั่น”
มาร์โก้ลังเลอยู่ชั่วครู่และพูดออกมาว่า “ท่านหมายถึงคนที่บุกเข้ามาในห้องประชุมของเราหรอครับ…”
หมาป่าโลกันต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายแค่พูดตามที่ฉันบอกก็พอ”
มาร์โก้เกาหัวของตนเองและพูดออกมาว่า “ผู้อาวุโสพวกเขาไม่มีบัตรเชิญ มันไม่มีประโยชน์ที่จะให้ผมดักรอ เขาอยู่ที่นี่จํานวนสมาชิกของพื้นที่เขตที่ 9 ของเราครบสิบคนแล้ว อัศวินที่เฝ้าประตูจะไม่ยอมปล่อยให้เขาเข้าไปแน่นอนครับ”
หมาป่าโลกันต์เห็นความคิดที่ตื้นเขินของเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและพูดว่า “นั่นมันเรื่องของพวกเขา นายทําตามที่ฉันสั่งก็พอ”
มาร์โก้พยักหน้าและยิ้มอย่างขมขึ้น “รับทราบครับ”
มาร์โก้ยืนอยู่ที่บริเวณประตูขนาดใหญ่และคอยเฝ้าดูรถม้าที่วิ่งผ่านประตูเข้าไปในปราสาท หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงรถม้าที่ดังก้องอยู่ภายนอก ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนทันทีและมองออกไปที่รถม้าที่กําลังวิ่งตรงเข้ามา เมื่อมาร์โก้เห็นธงบนรถม้าใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาไม่คิดว่าจะได้พบกับศัตรูเก่าในที่แห่งนี้
ไม่นานหลังจากที่รถมาหยุดเพื่อแสดงบัตรเชื้อเชิญให้กับอัศวินที่เฝ้าประตู รถม้าคันนั้นก็เริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง และตรงเข้าไปยังปราสาท
ชายวัยกลางคนที่อยู่ในขบวนรถม้าที่กําลังวิ่งเข้ามายังปราสาทเมื่อเห็นมาร์โก้ที่นั่งอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ยักคิ้วขึ้นและพูดออกด้วยน้ําเสียงเย้ยหยันว่า “นี่มันมาร์โก้ไม่ใช่เหรอ? นายละทิ้งพื้นที่หมายเลข 9 ของตนเองและมาที่นี่ในฐานะสุนัขเฝ้ายามอย่างนั้นหรอ? “
สีหน้าของมาร์โก้ดูย่ําแย่และเขาก็พูดออกไปอย่างเยือกเย็นว่า “นายก็ยังคงเลี้ยงสุนัขไว้ในปากเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน”
“ใช่ลองมองดูสิ” ชายวัยกลางอ้าปากกว้างพร้อมกับหัวเราะ
มาร์โก้รู้สึกอึดอัดในใจและพูดออกมาอย่างใจเย็นว่า “ถ้าดาบของนายมีความสามารถเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของปากก็คงไม่ถูกฉันไล่ล่าและวิ่งหนีหางจุกตูด! “
สีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ฉันถูกตามล่าก็จริง แต่ที่นายสามารถไล่ล่าฉันได้เพราะความสามารถของนายคนเดียวอย่างนั้นหรอ? “
มาร์โก้ตกตะลึง เขาไม่คิดว่าชายคนนั้นไม่เพียงจะปฏิเสธแต่ยังพูดจาเสียดแทงกลับมาด้วย แต่สิ่งที่ชายคนนั้นพูดออกมาเป็นเรื่องจริงทั้งหมดทําให้มาร์โก้ทําได้เพียงกําหมัดของตนเองด้วยความโกรธ
หลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็กระซิบกับมาร์โก้ว่า “ครั้งนั้นถือว่านายโชคดีและครั้งต่อไปจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแน่นอน” หลังจากพูดจบเขาก็สะบัดเชือกจูงม้าแล้วขับรถม้าออกไป
มาร์โก่ไม่คิดว่าคนๆนี้จะไร้ยางได้ขนาดนี้ เขาพยายามอดกลั้นและไม่ลากชายคนนั้นลงมาสั่งสอนไม่งั้นเขาคงจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเสียงรถม้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง มาร์โก้ยืนขึ้นและมองออกไปที่รถม้า เมื่อเห็นผู้อาวุโสในพื้นที่หมายเลข 3 เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นกลัว
ในไม่ช้รถม้าของพื้นที่หมายเลข 3 ก็ผ่านการตรวจสอบของอัศวินรักษาประตูและเข้าไปในปราสาท
อัศวินแห่งความมืดที่อยู่ทั้งสองด้านของรถม้าสังเกตเห็นมาร์โก้ที่ยืนอยู่ข้างน้ําพุในจัตุรัส พวกเขาก็มองอย่างเฉยเมยโดยไม่พูดอะไรออกมาและเคลื่อนที่ผ่านจัตุรัสเข้าไปยังปราสาท
มาร์โก้มองตามหลังพวกเขาไปอย่างเงียบๆและรู้สึกโล่งใจเมื่อพวกเขาหายเข้าไปในปราสาท
หลังจากผู้อาวุโสของพื้นที่หมายเลข 3 มาถึงผู้อาวุโสของพื้นที่อื่นๆก็ทยอยเข้ามาทีละคน ในไม่ช้าดวงอาทิตย์ก็ส่องแสงประกายลงมาบนจัตุรัส มาร์โก้หยิบนาฬิกากลไกพกพาอันมีค่าของเขาออกมาแล้วมองไปที่มันอีก 10 นาทีก็จะเป็นเวลา 9 โมงซึ่งเป็นกําหนดการเริ่มประชุม
“เขาไม่มาอย่างนั้นหรอ?” มาร์โก้สงสัยและเงยหน้าขึ้นมองออกไปตามถนน
เมื่อเขามองออกไปก็พบกับรถม้าที่อยู่ไกลออกไป รถม้าคันนั้นไม่มีธงประดับอยู่ด้านบนและมีผู้ติดตามสี่คน ทําหน้าที่คอยดูแลรถม้า พวกเขาไม่สวมชุดเกราะอัศวินแต่กลับสวมชุดเกราะนักล่าลักษณะแปลกตา
“พวกเขามาแล้ว” ดวงตาของเขาส่องประกายเล็กน้อย
คนเฝ้าประตูเห็นรถม้ามาถึงที่ประตู หยุดทันทีและพูดว่า “ที่นี่คือปราสาทของตระกูลมิลาน ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้าเด็ดขาด!”
เทียนค่อยๆยกม่านขึ้นและพูดกับอัศวินเฝ้าประตู “คุณไม่ได้ขอบัตรเชิญจากผมแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราไม่ได้รับเชิญ?”
ทหารเฝ้าประตูตกตะลึงเขาจําได้ว่าแขกสิบสองคนในรายชื่อผู้ได้รับเชิญมากันครบแล้ว ทําไมตอนนี้มีสิบสามคนกัน เนื่องจากคุณเป็นแขกของตระกูลเรา โปรดแสดงบัตรเชิญด้วยครับ”
เทียนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดกับเซอร์กี้อยู่หน้ารถม้า “เอาออกมาให้เขาดู”
เซอร์กี้ยิ้ม “ได้ครับ” เขากระโดดลงจากม้าไปยังอัศวินเฝ้าประตูทันที
อัศวินมองเขาอย่างประหลาดใจและกําลังจะพูดบางอย่างออกมา เมื่อเห็นเงาดําวิ่งตรงเข้ามาอัศวินก็ตกใจ และกําลังจะยกมือขึ้นต่อสู้ ทันใดนั้นอัศวินเฝ้าประตูก็มีรู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่สามารถบรรยายได้ร่างกายกระตุกเล็กน้อยและล้มลงไปกระแทกพื้น
เซอร์กี้ยิ้ม “นี่คือบัตรเชิญที่พวกเราได้รับ เป็นยังไงบ้าง?”
“มันดูดีเหมือนกับดอกไม้” เกล็นกระโดดออกจากม้าอีกตัวชําเลืองไปยังอัศวินเฝ้าประตูที่เหลือที่กําลังตกตะลึง เธอเคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมมีดสั้นที่ถืออยู่ในมือ อัศวินที่ล้อมรอบพวกเขาอยู่ก็ค่อยๆล้มลงทีละคน
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับเทียน เขาค่อยๆเปิดม่านขี้เอื้อมมือไปที่ไอช่าที่นั่งอยู่ในรถม้าประคองเธอก้าวลงบันไดทีละขั้นอย่างระมัดระวัง เมื่อเขาหันกลับไปที่ประตูปราสาทอีกครั้งก็พบว่า อัศวินที่เฝ้าประตูทั้งหมดล้มลงกับพื้นจมอยู่ในกองเลือด เซอร์กี้ เกล็น เกว็นเน็ทและนอยซ์ค่อยๆเดินผ่านกองเลือดออกมา และผลักประตูปราสาทออก
“กาเบรียล เป็นยังไงบ้าง” เทียนทักทายคนขับรถม้าของตนเอง
กาเบรียลเพิ่งเคยติดตามเทียนออกมาทําภารกิจเป็นครั้งแรก เมื่อเห็นศพอัศวินจมอยู่ในกองเลือด ใบหน้าของเขาก็ซีดเซียวอย่างมาก
เทียนสวมเสื้อคลุมอย่างแน่นหนาบนไหล่ของตนเองและจูงมือไอช่า เมื่อเขาเดินเข้าไปในประตูขนาดใหญ่ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ดวงตาของเขาขยับเล็กน้อยและพูดว่า “ทุกคนเข้าไปข้างในกันหมดแล้วหรอ? “
สีหน้าของมาร์โก้ดูซีดเซียวและมองไปที่เทียน เขาคิดว่าเทียนจะล่าถอยเมื่ออัศวินเฝ้าประตูไม่อนุญาตให้เข้าไป แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือพวกเขาบุกฝ่าเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง!
“ขะ-เข้าไปรอกันข้างในแล้วครับ” มาร์โก้พยายามสงบสติและตอบกลับอย่างรวดเร็ว “พวกเขาทั้งหมด เข้าไปรอคุณอยู่ข้างในครับ”
เทียนพยักหน้าเล็กน้อยในขณะที่จูงมือไอช่า