The Dark King – Chapter 636 ผู้บุกรุก
ลึกเข้าไปในปราสาทเก่าแก่ของตระกูลมิลาน ทางเดินที่มืดสลับซับซ้อนเรียงรายไปทั่วทั้งปราสาท ประตูแต่ละแห่งเต็มไปด้วยกลไกมากมายและประจําการโดยอัศวินแห่งความมืด หลังจากเดินผ่านห้องต่างๆมากมาย ในที่สุดหมาป่าโลกันต์และคนทั้งเก้าที่มากับเขาก็มาถึงห้องโถงอันมืดมิดที่ใช้ประชุมผู้อาวุโส
ภายในห้องโถงมีบริเวณกว้างขวางเป็นพิเศษและมีหินบะซอลต์สีขาวขนาดใหญ่ประดับอยู่บนผนัง หินสีขาว ขนาดใหญ่นี้มองเผินๆอาจจะคิดว่าแร่ธรรมชาติทั่วๆไป แต่ที่จริงแล้วมันเป็นผลึกเรืองแสงพิเศษ
หมาป่าโลกันต์เหลือบมองไปรอบๆห้องโถง การตกแต่งที่นี่รวมถึงโต๊ะกลมและเก้าอี้ของผู้อาวุโสทั้งสิบสองคนรวมถึงเครื่องประดับต่างๆตามผนังห้องล้วนเป็นสิ่งที่ชายชราคุ้นตาอย่างมาก ดูเหมือนว่าการตกแต่งของที่นี่จะคล้ายกับห้องโถงในโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์และสว่างไสวแม่ในเวลากลางคืนก็สา มารถมองเห็นได้
แต่ห้องโถงแห่งนี้กลับมืดมิดและขุ่นมัวแม้ในเวลากลางวันก็แทบมองไม่เห็นอะไรเลย
“พวกชั่วร้าย แม้แต่ห้องประชุมก็ยังเลียนแบบโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที!” หมาป่าโลกันต์เยาะเย้ยในใจและในขณะเดียวกันก็รู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย หลังจากหาที่นั่งของตนเองเจอชายชราก็นั่งลงและออกคําสั่งให้อัศวินแห่งความมืดทั้งสองคนคอยคุ้มกันเขาอยู่ข้างหลังเก้าอี้ตลอดเวลา ส่วนคนอื่นๆก็ให้กลับออกไปข้างนอกเพื่อรอคํา
เมื่อมองไปที่บุคคลทั้ง 4 ที่มาถึงก่อน หมาป่าโลกันต์มองดูเฉยๆใบหน้าของเขาไม่มีการแสดงออกใดๆ แต่เมื่อมองผ่านใบหน้าของชายชราคนหนึ่งเขาก็รู้สึกตกตะลึงอยู่ในทันที ตลอดระยะเวลาที่เขาเป็นผู้อาวุโสของพื้นที่หมายเลข 9 เป็นเวลาหลายเดือน เขาได้ยินชื่อเสียงของราชันย์ทั้งสามมามากมาย
ราชันย์ดาบ ราชันย์โลกใต้ดินและราชันย์รัตติกาล ชื่อสามชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดีไม่ว่าจะเป็นโบสถ์แห่งความมืดหรือโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์
“ราชันย์ดาบมาถึงแล้ว ราชันย์โลกใต้ดินกับราชากลางคืนควรจะมาถึงในเร็วๆนี้ สมเด็จพระสันตะน่าจะได้เห็นสิ่งนี้ด้วยตนเอง .. “ดวงตาของหมาป่าโลกันต์สั่นไหวเล็กน้อยและความเกรงกลัวในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความดูถูกเหยียดหยาม ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เป็นชื่อของอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์และเป็นเทพแห่งสงครามผู้ไม่เคยพ่ายแพ้!
ว่ากันว่าแม้แต่ภายในกําแพงชั้นในที่มียอดฝีมือมากมาย ด้วยการยิงธนูของเขาเพียงครั้งเดียวก็สามารถสยบศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ทั้งมด!
มุมปากของชรามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาเล็กน้อย เขาค่อยๆหันศีรษะมองออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆ และหวังว่าเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านไปไม่นานผู้คนก็ทยอยเข้ามาในห้องโถงอย่างไม่ขาดสาย การแต่งตัวของผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ ล้วนแตกต่างจากหมาป่าโลกันต์ ส่วนใหญ่พวกเขาสวมเสื้อคลุมสีดําและหมวกขนาดใหญ่เพื่อปิดบังใบหน้าเมื่อรวมกับความมืดภายในห้องโถงที่มีเพียงแสงสลัวทําให้แทบจะมองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขาเลย ส่วนหมาป่าโลกันต์ที่สวมชุดสูทของชนชั้นสูงมันทําให้เขาดูแตกต่างไปจากคนอื่นและเป็นจุดสนใจจากของใครหลายๆคน
อย่างไรก็ตามหมาป่าโลกันต์เชื่อว่าการแต่งตัวที่แตกต่างเพียงอย่างเดียวจะไม่ทําให้ตัวตนที่แท้จริงของเขาถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน บุคคลส่วนใหญ่ของโบสถ์แห่งความมืดล้วนมีความผิดปกติและผิดเพี้ยน ชุดของเขาก็รวมอยู่ในงานอดิเรกที่แปลกประหลาดซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล
“บรรยากาศภายในห้องยังคงเหมือนเดิม มีเพียงความมืดมิดและแสงสลัวๆ “ทันใดนั้นเสียงก็ดังมาจากข้างนอกและตามมาด้วยชายหนุ่มร่างผอมบางด้วยท่าทางที่เย็นชาเดินเข้ามาและมองไปรอบๆห้อง ดวงตาของเขาหยุดจ้องมองไปที่หมาป่าโลกันต์อยู่ชั่วครู่จากนั้นก็เดินไปยังที่นั่งของตนเอง!
หลังจากชายหนุ่มนั่งลงเขาก็นั่งเอนตัวเบาๆบนเก้าอี้และพูดอย่างเฉยเมยว่า “ห้องนี้มันอะไรกัน? ใครบอกว่าห้องประชุมของโบสถ์แห่งความมืดจะต้องทาสีดํา ทําไมแสงสว่างเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์หรือยังไงกัน?”
ชายชราร่างแคระแกร็นก่อนหน้านี้ก็พูดออกมาว่า “แต่เดิมเราอาศัยอยู่ในที่มืดคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์และทําให้มันงดงามและตระการตาอย่างนั้นหรอ?”
“สิ่งนี้เรียกว่าการบ่งบอกสถานะ” ชายชราร่างแคระเกล็นพูดอย่างตรงไปตรงมา”คนจนก็ควรสวมใส่เสื้อผ้าของคนจนพวกเขาจะต้องไม่สวมใส่ชุดที่มีเกียรติ ในทํานองเดียวกันพวกขุนนางก็ไม่สามารถสวมใส่ผ้าลินินที่ไม่สามารถแตะต้องได้”
“น่าเบื่อมาก?” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา “คนจนอาจกลายเป็นผู้กล้าในวันหนึ่งและได้สวมเสื้อผ้าของชนชั้นสูงกินอาหารที่ดีๆ การลองทําลองกินสิ่งใหม่ๆมันไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอกหรอ?”
“การกินสิ่งที่ไม่คุ้นเคยอาจจะทําให้ท้องเสียได้”ชายชราพูดอย่างเฉยเมย
เมื่อได้ยินคําพูดของทั้งสองห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบ
ในตอนนี้ห้องโถงก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
ในที่สุดหมาป่าโลกันต์ก็เห็นการมาถึงของราชันย์โลกใต้ดิน เขาเป็นชายที่ร่างกายสูงใหญ่กํายําใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เด็ดขาด
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะมากันพร้อมหน้าแล้ว” ราชันย์โลกใต้ดินนั่งลงบนเก้าอี้และมองผู้เข้าร่วมประชุมจากนั้น เขาค่อยๆพูดออกมาว่า “เมื่อมากันครบแล้วจะขอเปิดประชุมผู้อาวุโส ณ บัดนี้ … “
หลังจากพูดจบเขาก็หยุดนิ่งและเงยหน้าขึ้นไปข้างบน
ทุกๆคนภายในห้องเมื่อเห็นเขามองขึ้นไปข้างบนก็รู้สึกงุนงงและมองตามเขาขึ้นไป ทันใดนั้นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมก็พูดขึ้นมาว่า”มีอะไรหรอครับ?”
“มีแขกไม่ได้รับเชิญกําลังมาที่นี่” ชายแก่ร่างแคระเกล็นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงเย็นชา
หมาป่าโลกันต์รู้สึกกระวนกระวายและใจฉันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ คนๆนั้นกําลังมาอย่างนั้นหรอ? เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นและจ้องมองสดับฟังการเคลื่อนไหวข้างบนพื้นดินเหนือศีรษะของเขาในความเงียบสงัด
“มีผู้บุกรุกอย่างนั้นหรอ?” หญิงสาวคนหนึ่งที่สวมผ้าคลุมพูดออกมา “ดูเหมือนว่าข้างบนจะมีเสียงฝีเท้าจํานวนมากและทหารของตระกูลมิลานกําลังเคลื่อนไหวเพื่อสกัดกั้นอะไรบ้างอย่าง”
ภายในใจของหมาป่าโลกันต์เต็มไปด้วยความดีใจ ดวงตาของเขาเบิกบานและเป็นประกาย “สมเด็จพระสันตะปาปามาแล้ว!”
เขารู้สึกดีใจอย่างมากแทบอยากจะยืนขึ้นและตะโกนส่งเสียงเชียร์อย่างสุดเสียง แต่เขารู้ว่าถ้าทําแบบนั้นจะต้องถูกเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่รอบๆตัวฆ่าตายแน่ๆ หมาป่าโลกันต์จึงทําได้เพียงแอบดีใจอยู่ลึกๆและนั่งอยู่เงียบๆ ไม่สามารถแสดงอาการใดๆออกมาได้