บทที่ 414 ปราสาทที่ลุกโชนไปด้วยแสงไฟ
ลูเซียนยืนจ้องมองไปที่ปราสาทที่เหมือนกับนกอินทรีสีดำที่อยู่บนหน้าผา ตอนนี้เขาไม่มีหน้ากากเปลี่ยนร่างแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่เขาจะถูกจับได้โดย ‘แดรกคูลา’ เพราะก่อนหน้านี้ ‘แดรกคูลา’ เคยเห็นเข้าแล้วที่ ‘สุสานสฟิงซ์’
ไรน์หายตัวไปในทะเลทรายทางตอนใต้ของ ‘อาณาจักรกัสตา’ และเมื่อ ‘แดรกคูลา’ กำลังตามหาไรน์ เขาก็ได้พบกับนักเวทระดับสูงผู้ลึกลับที่มีของมีค่ามากมายใน ‘สุสาน’ แต่ถ้า ‘แดรกคูลา’ เห็นนักเวทคนเดียวกันอยู่ที่ ‘ปราสาทผู้สังเกตการณ์’ ในภายหลัง เขาจะเชื่อมโยงเรื่องราวได้แน่นอน
ลูเซียนหยิบนาฬิกาพกออกมา เพื่อดูเวลาอีกครั้ง เขาร่ายเวทช่วยเหลือใส่ตัวเอง น้ำยาเวทมนตร์ทั้งหมดลงไปเท่าที่จะทำได้ และถือดาบ ‘ยุติธรรมจืดจาง’ เอาไว้ในมือ ลูเซียนตรวจสอบอย่างรอบคอบว่าเกิดอะไรขึ้นรอบๆ ปราสาท ในขณะเดียวกันเขาได้เปิดแว่นเลนส์เดียวเอาไว้ เพื่อที่หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับนาตาชา นางก็จะสามารถติดต่อกับเขาได้
แน่นอนว่าลูเซียนยังคงทำตามแผนเดิมของเขาโดยไม่รับความช่วยเหลือจากนาตาชา แต่นั่นก็อาจทำให้เขามีปัญหา และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
ลูเซียนสันนิษฐานว่าเวลาห้านาทีก็เพียงพอแล้วที่ ‘ไวเคานต์เฮสเตอร์’ ผู้เป็นลูกหลานของ ‘แดรกคูลา’ จะรายงานต่อ ‘แดรกคูลา’
ลูเซียนเริ่มนับเวลา อีกเหตุผลที่เขาเลือก ‘ไวเคานต์เฮสเตอร์’ ก็คือ ‘แดรกคูลา’ ค่อนข้างจะถูกใจเขา
และลูเซียนเชื่ออย่างเต็มที่ว่านาตาชาจะทำสิ่งที่เขาขอร้องได้อย่างแน่นอน พวกเขาต่างก็ไว้วางใจซึ่งกันและกัน
เวลาผ่านไป สามนาทีห้าสิบหกวินาทีต่อมา ‘ยุติธรรมจืดจาง’ ก็เริ่มสั่นราวกับว่ามีศัตรูที่น่ากลัวกำลังเข้ามาใกล้
ดาบของลูเซียนสามารถสัมผัสความรู้สึกได้ที่ขอบหน้าผาใกล้กับ ‘ปราสาทผู้สังเกตการณ์’ ซึ่งมีพลังที่อ่อนแอ แต่ร้ายกาจอย่างยิ่งกระจายไปทั่ว พลังเหล่านั้นประกอบด้วยความมืดที่บริสุทธิ์ และลมหายใจแห่งความตาย
ลูเซียนกลั้นหายใจและเริ่มนับถอยหลัง
“สิบ เก้า แปด…”
‘ปราสาทผู้สังเกตการณ์’ ปกคลุมไปด้วยความมืดมิดตลอดเวลา ที่ดูเหมือนจะสว่างขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าชั้นของฝุ่นถูกกำจัดไปแล้ว ชั้นของแสงสลัวที่ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากความเร็วที่ลูเซียนใช้กับตัวเอง
“…ห้า สี่ สาม…”
สายลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านไป คืนนี้ไม่มีเสียงเลยยกเว้นเสียงกรอบแกรบเล็กน้อยที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตจากความมืด ลูเซียนหยิบยาที่จะช่วยเร่งความเร็วในการบินของเขาออกมาและดื่มลงไปทั้งหมด
“…สอง หนึ่ง”
เมื่อเขาไปถึงจุดหมายสุดท้าย ลูเซียนก็ทิ้งความกังวล และความกลัวไว้เบื้องหลัง เขาพุ่งไปที่ปราสาทอย่างรวดเร็ว
ลูเซียนรู้สึกถึงสายลมแรงที่พัดตีลงบนใบหน้าของเขา และป่าอันมืดมิดก็ถอยร่นอย่างรวดเร็วเหมือนกระแสน้ำสีดำ สิ่งมีชีวิตจากความมืดหลายตัวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยความประหลาดใจ
ลูเซียนไม่มีโอกาสเหลียวหลังมามอง เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะคว้าโอกาส และกลับออกมาอย่างปลอดภัย!
ก่อนที่สิ่งมีชีวิตจากความมืดเหล่านั้นสามารถกระทำการใดๆ ได้ ลูเซียนก็หยุดลงที่ด้านหน้าของ ‘ปราสาทผู้สังเกตการณ์’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“คิลาคิม” ลูเซียนเอ่ยรหัสออกมา
ทันใดนั้นทามกลางความมืด มีค้างคาวที่มีดวงตาสีแดงขนาดใหญ่เท่ากำปั้นนับไม่ถ้วนบินออกมาอย่างรวดเร็ว และพุ่งเป้าไปที่ลูเซียน
แม้ว่า ‘แดรกคูลา’ จะออกจากปราสาทไปแล้วตามแผนของลูเซียน เขาก็ไม่ลืมที่จะออกให้ห่างจากการสังเกตการณ์ของค้างคาวเลือดที่นี่
แม้ว่าค้างคาวเหล่านี้เป็นเพียงสังเกตการณ์ แต่พวกมันก็ยังไวต่อความรู้สึก และตื่นตัวตลอดเวลา เนื่องจาก ‘แดรกคูลา’ มีพลังพอที่จะทำให้สิ่งต่างๆ เป็นรูปร่างขึ้นมาแม้ในความฝัน ดังนั้นค้างคาวพวกนี้จึงสามารถโจมตีได้จริง!
ค้างคาวเลือดนับไม่ถ้วนทั้งบิน และหมุนวนปล่อยคลื่นเสียงเพื่อให้เกิดความรู้สึกเวียนศีรษะ
“ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ” ‘ชีวินรสายนเวท’ ‘ปราสาทมิคาลิก’ กล่าวทักทายด้วยเสียงเบาๆ จากนั้นประตูก็เปิดออกช้าๆ ราวกับว่าค้างคาวไม่มีตัวตน
ลูเซียนกระชับ ‘ยุติธรรมจืดจาง’ ในมือไว้แน่น เขาได้หลุดออกมาจากความโกรธ ความเสน่ห์ ความอ่อนแอ และอิทธิพลเชิงลบอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเขา ทำให้เขาสามารถต้านทานอาการวิงเวียนศรีษะได้ เขากระโดดไปที่ประตูที่เปิดเอาไว้เพียงครึ่งนึงอย่างรวดเร็ว
ความแข็งแกร่ง และความเร็วของลูเซียน ได้รับการพัฒนาอย่างดีด้วยยาและอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เขามี แต่เขาจะไม่ได้รับการตอบสนองที่รวดเร็ว และความสมดุล ดังนั้นลูเซียนจึงเดินอย่างโซเซเข้าไปด้านหลังประตู
ค้างคาวเลือดโจมตีอย่างรุนแรงที่ขอบประตู เวลานี้เองที่เสียงอู้อี้ของ ‘ปราสาทมิคาลิก’ ดังขึ้นอีกครั้ง
“ศัตรูโจมตี เปิดใช้งานการป้องกันชั้นแรก”
สายฟ้าสีดำปกคลุมผนัง และประตู ทันทีที่ค้างคาวสัมผัสกับสายฟ้า มันก็จะถูกเผาเป็นกองฝุ่น แต่ค้างคาวเหล่านั้นก็ไม่กลัวความตาย พวกมันยังโจมตีต่อไป
ลูเซียนดึงตัวเองขึ้น และเก็บ ‘ยุติธรรมจืดจาง’ การถอนเวทมนตร์ที่เพิ่มความแข็งแกร่งออก ทำให้ลูเซียนฟื้นสมดุลของเขาได้ จากนั้นเขาก็รีบไปที่ห้องโถงหลักเพื่อร่ายเวทมนตร์
ในขณะนี้เอง แม้ว่า ‘แดรกคูลา’ จะได้รับแจ้งว่ามีบางคนบุกเข้าไปใน ‘ปราสาทผู้สังเกตการณ์’ แต่เขาจะไม่กลับไปด้วยตนเอง เพราะตอนนี้เขาถูกล่อลวงจากไรน์ตัวปลอม!
เห็นได้ชัดว่าไรน์สำคัญกว่ามาก! ‘แดรกคูลา’ จะไม่ยอมเสียเวลาแม้เพียงวินาทีเดียว!
หลังจากที่ลูเซียนได้รับความสมดุลกลับมา เขาออกวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่ผ่านทะเลดอกไม้สีเลือด เขาเคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนดังนั้นเขาจึงไม่กลัว ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาเห็นอยู่ในสายตาคือประตูห้องโถงหลัก
กลิ่นหอมหวานที่ทำให้มึนงงถูกต้านทานด้วย ‘เข็มขัดสุขภาพ’ และสายตาก็ไม่สามารถส่งผลกระทบใดๆ ต่อลูเซียนได้เลยเพราะเขาไม่ได้มองมัน ลูเซียนวิ่งมาถึงห้องโถงหลักเป็นเส้นตรงเหมือนดาวตก
“คิลาคิม” ลูเซียนร่ายเวทมนตร์อีกครั้ง
แม้ว่ามันจะใช้เวลาเพียงสิบกว่าวินาที แต่ลูเซียนก็รู้สึกเหมือนใช้ทั้งชีวิตของเขา ความแข็งแรงทั้งหมดในกล้ามเนื้อของเขาถูกบีบเค้นออกมา เขารู้สึกหมดแรง
ลูเซียนดื่มน้ำยาเวทมนตร์ ‘คำอวยพรแห่งป่า’ ลงไปทั้งหมด เมื่อความรู้สึกอ่อนล้าหายไป เขาก็ได้ยินเสียงของ ‘ปราสาทมิคาลิก’ ครั้ง “ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ นอกจากแกนควบคุม ห้องพลังงาน และห้องเก็บสมบัติหลัก ท่านสามารถไปได้ทุกที่ตามที่ต้องการ
ลูเซียนไม่ลดการป้องกันของเขาลง เขาให้รหัสผ่านที่ไรน์มอบให้เขาแก่ ‘ปราสาทมิคาลิก’
“โปรดให้ข้าได้รับใช้ท่านแขกผู้มีเกียรติ” เสียงของ ‘ปราสาทมิคาลิก’ กลายเป็นอ่อนน้อมขึ้นมา “ยกเว้นแกนควบคุม และห้องเก็บสมบัติหลัก ข้าจะรับใช้ท่านดุจดั่งเจ้านายของข้า”
“ดี เริ่มที่การป้องกัน เปิดใช้งานวงแหวนเวทมนตร์ป้องกันทั้งหมด ห้ามให้ใครเข้ามายกเว้นท่านไรน์” ลูเซียนพูดเร็วมาก เขาต้องใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่าที่สุด
‘ปราสาทมิคาลิก’ ระเบิดเสียงอุทานออกมา เขารู้ว่ามันช่างจริงจังขนาดไหน จากนั้นเขาก็ตอบว่า “ตามแต่ท่านจะบัญชา”
สายฟ้าสีดำด้านนอกกำแพงนั้นหายไปหมดแล้ว แต่มีโล่โปร่งใสครอบคลุมทั้งปราสาทไว้ราวกับว่ามันเป็นส่วนขยายของปราสาท
สิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์รวมถึง ‘ต้นสกาเล็ต’ ในสวนเวทมนตร์ก็หายไปทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างถูกครอบงำด้วยความมืด
ไม่กี่วินาทีต่อมา ‘ปราสาทมิคาลิก’ ตอบว่า “วงแหวนเวทมนตร์ป้องกันเปิดใช้งานทั้งหมดแล้ว ระดับการระวังภัยอยู่ในระดับตำนาน มีคำสั่งอื่นอีกไหม?”
ในเวลานี้เอง ในที่สุดลูเซียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่า ‘เจ้าชายแดรกคูลา’ จะหวนกลับมาอีกครั้ง เขาก็คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามนาทีเพื่อทำลายโล่ และกลไกการป้องกันของปราสาท
“เปิดไฟ เปิดทั้งหมด” ลูเซียนสั่ง
“รับทราบ” ‘ปราสาทมิคาลิก’ ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ‘ชีวินรสายนเวท’ เข้าใจความหมายของสิ่งนี้
สิ่งมีชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ามืดใต้หน้าผา นี้เป็นครั้งแรกที่ปราสาทสว่างไสว แสงสว่างมากราวกับว่าสามารถส่องทะลุผ่านความมืดมิดที่หนาที่สุดได้
สิ่งมีชีวิตจากความมืดสับสน
แสงไฟแรกส่องสว่างขึ้นทีละจุดในทุกๆ ห้องของปราสาท ภายในเวลาไม่กี่วินาทีปราสาททั้งหลังก็สว่างไสวด้วยแสงไฟ องค์ประกอบรายละเอียดทั้งหมดของปราสาทถูกเปิดเผยให้เห็น
เมื่อความมืดถูกขับออกไป แสงจันทร์ก็สว่างส่องเข้ามาในปราสาทโดยตรง เนื่องจากมีการสะท้อนจากผนัง และกระจกที่มีรัศมีสีเงินบริสุทธิ์อยู่หน้าห้องโถงหลักทำให้ดูเหมือนสงบและเย็น
“เปลี่ยนข้าเป็นท่านไรน์ ใช้เวทมนตร์แปลงกายที่ดีที่สุด” ลูเซียนสั่งการอีกครั้ง สิ่งสุดท้ายที่เขาต้องทำคือให้ ‘แดรกคูลา’ รู้ว่ามีนักเวทคนหนึ่งชื่อลูเซียน
“รับทราบ” ‘ปราสาทมิคาลิก’ ตอบด้วยความเคารพ
บรรยากาศมืดมิดตกลงมาปกคลุมลูเซียน และเมื่อมันหายไปเวทมนตร์แปลงกายก็มีผลทันที
ทุกวินาที ที่ลูเซียนก้าวเข้ามาในรัศมีแสงจันทร์ นั้นทำให้เขารู้สึกยากที่จะอธิบาย
ขณะที่ลูเซียนกำลังจะร่ายเวทมนตร์อัญเชิญแบบพิเศษที่ไรน์สอน แสงจันทร์ก็พลันหายไปราวกับว่าทั้งท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเงาขนาดใหญ่!
“เจ้าแมลงน้อยโสโครก! ข้าจะกินเจ้า!
เสียงต่ำๆ ที่เต็มไปด้วยความโกรธ ภายใต้อำนาจมหาศาลนี้ ต้นไม้ในป่าทั้งหมดถูกหักโค่น สิ่งมีชีวิตจากความมืดระเบิดทีละตัวเหมือนกับประทัด แม้แต่โล่ที่ปกคลุมปราสาทก็เริ่มส่งเสียงประท้วง
‘เจ้าชายแดรกคูลา’ กลับมาแล้ว! นี่เร็วกว่าที่ลูเซียนคาดไว้ซะอีก!
เกิดอะไรขึ้นกับนาตาชา
การอัญเชิญยังคงดำเนินต่อไปในขณะที่ดวงจันทร์สีเงินถูกปิดกั้น?
ความคิดทั้งสองอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันในใจของลูเซียน