บทที่ 451 การเล่นแร่แปรธาตุสมัยใหม่
ณ หอคอยเวทมนตร์ในเมืองซัลลีแวร์ เมืองหลวงของราชอาณาจักรบริแอนน์
เพลงปิดของรายการ ‘หนึ่งสัปดาห์ในอัลลิน’ ยังคงดังก้องอยู่ในห้อง อย่างไรก็ตาม จู่ๆ ก็ถูกปิดลงด้วยมือหนึ่งที่หมุนปิดปุ่มวิทยุ ลอเร็น ผู้วิเศษที่มีรูปร่างผอมบาง มีสีหน้าเย้ยหยันและแม้แต่เคราน้อยๆ ของเขาก็จะแสดงออกถึงความเหยียดหยาม “สมเป็นลูกศิษย์เอกของนีชกา ลาร์คไม่ได้พยายามซ่อนอคติของนางเลย”
สำหรับนักเวทเช่นเขา การสืบหาข้อมูลว่าตัวตนจริงๆ ของ ‘ลาร์ค’ คือเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วย
ลอเร็นกำลังยืนอยู่ในห้องทำงานของเขา ซึ่งประดับด้วยผ้าม่านสีแดงเข้มและหลอดไฟคริสตัลสีอ่อน แล้วกำลังจ้องมองลูกศิษย์ของเขาที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน
ผู้อาวุโสซึ่งผมกลายเป็นสีงอกทั้งหัวคนหนึ่งพูดด้วยความขืนข่ม “เสียงแห่งอาร์คานา, ความจริงของโลก… ลูเซียนเป็นคนอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าพวกเขาพยายามจะปิดบังขนาดไหน แต่ก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สลักคำว่า ‘ทฤษฎีอนุภาค’ อยู่เสมอ ช่างน่าละอายใจ! รายการสื่อพวกนี้อย่างน้อยก็ต้องเป็นกลาง! กล้าดียังไงถึงปล่อยให้ลาร์คมาตั้งใจสั่นคลอนความมั่นใจของผู้สนับสนุนทฤษฎีคลื่น!”
เขาดูแก่กว่าลอเร็นมาก
“คริสตัล นั่นไม่สำคัญ” ลอเร็นพูดอย่างยากเย็น “โลกแห่งอาร์คานาเคารพความจริงเสมอ ทำให้ที่นี่เป็นที่ที่เป็นธรรมที่สุดให้อยู่อาศัย ไม่ว่าพวกเขาจะมีเล่ห์เหลี่ยมขนาดไหน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผลการทดลองจะพูดแทนเราเอง”
แม้เขาจะเพิ่งถากถางลาร์ค ลอเร็นก็ไม่มีความรู้สึกปัญหาส่วนตัวอะไรกับนาง ในฐานะผู้วิเศษซึ่งได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุดมากมาย เขาก็มีความมั่นใจและความอดทนมากพอที่จะโจมตีลูเซียนด้วยวิธีที่ทรงเกียรติด้วยผลและรูปภาพจากการทดลองเท่านั้น
ข้างๆ ของคริสตัล มีชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนคนหนึ่งนั่งอยู่ แต่ดวงตาสีน้ำตาลอมเหลืองของเขากลับเป็นดวงตาของชายชรา เขาพูดกับอาจารย์ของเขาด้วยความลังเล “อาจารย์ขอรับ… เกี่ยวกับผลการทดลอง…”
“ทำไม มานูเอล?” ลอเร็นมองหน้าเขาแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
ริมฝีปากของมานูเอลขบกันแน่นสนิทเป็นเส้นตรงบางๆ แล้วเขาก็มีความมุ่งมั่นพอที่จะพูดออกมา “อาจารย์ขอรับ… ข้าคิดว่าเราควรเตรียมพร้อมรับความจริงจากผลการทดลองที่อาจไม่สามารถหักล้างสมมติฐานควอนตัมแสงได้”
หญิงวัยกลางคนซึ่งมีผมสีม่วงอ่อนอันงดงามคนหนึ่งก็ใช้โอกาสนี้เห็นดีเห็นงามด้วย “จริงนะเจ้าคะอาจารย์ การทดลองหลายครั้งในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาทำให้เห็นว่าสมมติฐานควอนตัมแสงใช้อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
“เจ้า…!” ลอเร็นจ้องมองลูกศิษย์ของเขาอย่างโกรธเกรี้ยว เขาไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่ลาร์คพูดในรายการวิทยุจะสามารถสั่นคลอนความมั่นใจของลูกศิษย์ของเขาได้จริงๆ
“ถ้าจริง ข้าขอให้ไม่มีคำอธิบายเรื่องปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกเสียเลยจะดีกว่า!” ลอเร็นตำหนิลูกศิษย์ของเขาและเดินออกจากห้องทำงานไปด้วยความโมโห
ท่ามกลางความมืดด้านนอกหน้าต่าง เม็ดฝนของฤดูใบไม้ผลิโปรยปรายลงบนทุ่งหญ้า เป็นสัญญาณให้รู้ว่าฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตกำลังมาถึง
…
ณ สถาบันอะตอม ลูเซียนยังคงศึกษาเรื่องการสังเกตจุดแสงวาบขนาดเล็ก พยายามจะคิดหาคำตอบจากร่องรอยข้อมูลที่สับสนวุ่นวายที่เขาบันทึกไว้ ขณะเดียวกัน วงเวทที่พัฒนาแล้วกำลังส่งเสียงกระหึ่ม ขณะที่กระแสไฟฟ้าทรงพลังกำลังวิ่งผ่าน ทำให้สนามแม่เหล็กโดยรอบบิดเบี้ยวเล็กน้อย
สืบเนื่องจากการทดลองของเจ้าแห่งวายุเรื่องการใช้อะตอมฮีเลียมยิงอนุภาคไปยังแผ่นโลหะบางๆ แล้วตอนนี้ ลูเซียนก็มีเหตุผลที่สมบูรณ์แบบที่จะร้องขอไปยังคณะกรรมการวิจัยเวทมนตร์ เพื่อนำเสนอวงเวทและอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุที่พึ่งพัฒนาว่าผ่านมาตรฐานสำหรับการทดลองครบถ้วนหรือไม่ ทั้งนี้ สถาบันอะตอมเชี่ยวชาญการศึกษาโลกจุลภาคและโครงสร้างภายในของอะตอม ตั้งแต่ที่เจ้าแห่งวายุได้พิสูจน์ถึงการมีอยู่ของนิวเคลียสของอะตอมและอธิบายถึงโครงสร้างภายในของอะตอมด้วยการปะทะกันของอนุภาค สถาบันอะตอมก็มีเหตุผลนานับประการที่จะต่อยอดการทดลองบนพื้นฐานจากผลสำเร็จของเจ้าแห่งวายุ คำร้องขอของสถาบันอะตอมจะได้รับการตอบรับโดยไม่ต้องสงสัย
ในที่สุด ลูเซียนการค้นพบร่องรอยที่เขาตามหา!
อัตราส่วนประจุต่อมวล ปริมาณประจุ มวล… ข้อมูลทั้งหมดขึ้นมาในหัวของลูเซียน และในวินาทีต่อมา เขาก็กระโดดขึ้นจากเก้าอี้และเริ่มวัดอนุภาคที่ทิ้งร่องรอยไว้!
เวลาผ่านไป การทดลองของลูเซียนใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว
อัตราส่วนประจุต่อมวล เท่าเดิม!
ปริมาณประจุ เท่าเดิม!
มวล เท่าเดิม!
ตัวเลขทับซ้อนกัน!
ทันใดนั้น โลกแห่งปัญญาของลูเซียนก็รวมเป็นหนึ่งเดียวกับเขาอีกครั้ง และธาตุในท้องฟ้าและบรรยากาศโดยรอบก็เริ่มเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตาเขา แกนกลางที่ล้อมรอบไปด้วยอิเล็กตรอนเปลี่ยนเป็นส่วนที่ผสมผสานไปด้วยอนุภาคสองชนิด! ความแตกต่างเดียวระหว่างอนุภาคทั้งหมด เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน และคาร์บอนก็คือจำนวนอนุภาคที่มี!
นี่คือนิวเคลียสของไฮโดรเจน! ส่วนนี้คือโปรตอน! นี่คือลักษณะของธาตุ!
ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกแห่งปัญญาของลูเซียนเกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ลูเซียนสามารถสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของรากฐานที่เกิดขึ้น เนื่องจากเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการเชื่อมต่อกับธาตุทั้งหมดได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ลูเซียนรีบคว้าโอกาสนี้เข้าสู่โลกแห่งฌานสมาธิ และตอนนี้ กำลังแย่งของเขาก็ครอบครองคุณสมบัติของทั้งอนุภาคและคลื่น นี่ไม่ใช่การผสมผสานของคลื่นและอนุภาคธรรมดาๆ เนื่องจากทุกๆ ควอนตัมพลังวิญญาณของเขาก็แสดงถึงลักษณะของคลื่น!
…
ณ อาณาจักรแห่งแม่เหล็กไฟฟ้า บรูคเดินเข้าไปในห้องทดลองของเขา
ห้องทดลองของเขาไม่ต่างจากโลกในจินตนาการ ซึ่งเต็มไปด้วยโลหะเย็น อาร์คไฟฟ้ารูปร่างและรูปแบบแปลกๆ กระโดดไปมาวูบวาบ สนามแม่เหล็กไฟฟ้าสีดำบิดเบี้ยวไปมา รวมถึงท้องฟ้ากว้างที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว…
เขาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะทดลองแร่แปรธาตุที่ซับซ้อน ด้านขวามือของเขามีบันทึกและหมายเหตุการทดลองทั้งหมดวางอยู่
บรูคมองไปยังบันทึกต่างๆ ที่เขาทำขึ้น สีหน้าแปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นบนหน้าของเขาซึ่งบ่งบอกถึงอายุของเขาได้ดี แล้วเขาก็หยุดคิดเรื่องอื่นและตั้งสมาธิกับการทดลองตรงหน้า
…
ตอนนี้เขาเดินเข้าประตูห้องทดลองมา ลอเร็นก็สงบสติอารมณ์ลงได้ เขาหันกลับไปพูดกับลูกศิษย์ที่เดินตามหลัง “มานูเอล ไดอะน่า เจ้าสองคนไปได้แล้ว ข้าจะเริ่มการทดลอง”
มานูเอลพยายามจะพูดบางอย่าง แต่ลอเร็นก็หายเข้าไปหลังประตูแล้ว
ประตูที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัดขาดลูกศิษย์ออกจากอาจารย์ของพวกเขา
“คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ?” มานูเอลพูดพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว
คริสตัลมีมีสีหน้าเย็นชา “แน่นอน สมมติฐานควอนตัมแสงไม่สามารถอธิบาย เช่น ภาพการเบนของแสง”
“ก็จริง” ไดอะนาเห็นด้วย
นางไม่ได้รู้สึกกังวลเกินไป เนื่องจากนางเชื่อว่าผลการทดลองจะไม่ได้หักมุมจนเกินไป นางยังคงมั่นใจว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คงได้เห็นโลกแห่งปัญญาของอาจารย์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งลอเร็นอาจต้องใช้เวลาสองสามปีในการซ่อมแซม ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นางค่อยๆ ปรับโลกแห่งปัญญาให้อยู่ในตำแหน่งที่สมดุลมากยิ่งขึ้น หากไม่ได้เข้าข้างฝั่งทฤษฎีอนุภาคมากขึ้น นางก็เตรียมพร้อมสำหรับผลทั้งสองทาง
หากนางสามารถทำได้ ก็คงไม่ใช่ปัญหาหนักอกสำหรับอาจารย์
ลอเร็นสวมเสื้อคลุมเวทมนตร์ และมีแสงสีเทาปกคลุมตัวเขาตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า หลังจากตรวจสอบวงเวทและอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุทั้งหมดอย่างรอบคอบ เขาก็เริ่มต้นการทดลองอย่างระมัดระวัง เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาในอดีต
…
ในโลกแห่งปัญญาของลูเซียนซึ่งรากฐานก่อตัวขึ้นเป็นรูปธรรมแล้วนั้น พลังวิญญาณของเขากระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทางในมิติอวกาศส่วนตัวของเขา ควอนตัมพลังวิญญาณรวมตัวกันกลุ่มเมฆที่ดูลึกลับและเหนือจริง แต่เมื่อลูเซียนเข้าไปใกล้ มวลหมู่เมฆก็แตกตัวกลายเป็นอนุภาคและคลื่น
เมื่อทุกอย่างสงบลง ภาพของโลกแห่งปัญญาของลูเซียนก็หายไป ลูเซียนลืมตาขึ้น เมื่อรู้ว่าขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการฌานสมาธิของเขาเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งมีชื่อว่า ‘ฌานสมาธิทวิภาคอีวานส์’ อย่างไรก็ตาม ฌานสมาธิวิธีนี้ยังอยู่ในขั้นต้น และลูเซียนยังคงต้องพัฒนาต่อไป
ด้วยวิธีเข้าฌานสมาธิวิธีนี้ ต้นทุนที่ลูเซียนต้องเสียไปในการบังคับให้ตัวเองพัฒนาสู่ชั้นอาวุโสก็ได้รับการชดเชยแล้ว ลูเซียนทดลองใช้วิธีเข้าฌานสมาธิหมายของตน และได้ข้อสรุปว่าฌานสมาธิของเขามีประสิทธิภาพดียิ่งกว่าวิธีเข้าฌานสมาธิระดับอาวุโสที่ดีที่สุดในปัจจุบันอย่างน้อยสามเท่า และช่วยให้เขาใช้เวลาเพียงอีกหนึ่งหรือสองปีเพื่อเลื่อนขั้นสู่นักเวทระดับเจ็ด
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวิญญาณของเขาก่อนหน้านี้ ลูเซียนไม่มีความก้าวหน้าใดๆ ในด้านการเพิ่มพลังวิญญาณของเขาเลย ดังนั้น เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาการร่ายเวทมนตร์ระดับหกและการสร้างเวทมนตร์บทใหม่ จนตอนนี้ ลูเซียนได้สร้างเวทมนตร์ระดับหกไว้ภายในวิญญาณยี่สิบเอ็ดบท ในจำนวนนี้ มีเวทมนตร์ใหม่สามบท ประกอบด้วย เวทความสันโดษของศาสตราจารย์ ซึ่งเป็นเวทมนตร์คำสาป และเวทมนตร์แม่เหล็กไฟฟ้าหนึ่งบท และเวทมนตร์โหราศาสตร์อีกหนึ่งบท
เมื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ ลูเซียนก็ทำการทดลองซ้ำที่เขาเพิ่งทำ แล้วเขาก็หยิบกระดาษหนังพิเศษออกมาเพื่อเขียนบทความอาร์คานา พร้อมกับปากกาขนนกและก็เริ่มเขียนบทความบนโต๊ะทดลองทันที
“…การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าเมื่อใช้ลำแสงอะตอมฮีเลียมเพื่อยิงอนุภาคไนโตรเจน ก็จะเกิดอะตอมฮีเลียมประจุบวก ดังนั้น การวิจัยครั้งนี้พบว่านิวเคลียสไฮโดรเจนสามารถสกัดได้จากนิวเคลียสไนโตรเจน ดังนั้น นิวเคลียสไฮโดรเจนจึงเป็นโครงสร้างภายในของอะตอม เนื่องจากอะตอมไฮโดรเจนมีเพียงอนุภาคเดียวดังกล่าว และในอดีต ก็เชื่อว่าเป็นอะตอมไฮโดรเจน…”
“…ข้าขอตั้งชื่ออนุภาคพื้นฐานนี้ว่า ‘โปรตอน’ ประจุบวกของโปรตอนเทียบเท่าได้กับประจุลบของอิเล็กตรอน เมื่อพิจารณาถึงมวลและความสมดุลของประจุไฟ จึงกล่าวได้อย่างสมเหตุสมผลว่า อะตอมไฮโดรเจนประกอบไปด้วยโปรตอนและอิเล็กตรอน…”
“…ซึ่งสามารถสรุปได้เพิ่มเติม การวิจัยครั้งนี้พบว่ารายการธาตุในตารางธาตุก็ยังเรียงตามลำดับจำนวนของโปรตอน ด้วยประจุนิวเคลียสและทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถคาดเดาได้ว่านอกเหนือจากโปรตอน ยังมีอนุภาคอื่นซึ่งมีมวลเท่ากันแต่ไม่มีประจุอยู่ภายในนิวเคลียสของอะตอม จำนวนของอนุภาคที่เป็นกลางจะตัดสินตัวแปรของธาตุเคมี…”
ลูเซียนไม่หยุดตัวเองไว้เพียงผลการทดลอง เขายังขยายข้อสรุปต่อไปยังการก่อตั้งระบบทฤษฎี ทฤษฎีและการคาดการณ์มองไกลก้าวหน้าไปกว่าหลักฐานที่จากการทดลองในปัจจุบันตามปกติ
“…เริ่มจากแนวคิดของท่านเฟอร์นันโดที่โครงสร้างอะตอมดูเหมือนกับระบบการเคลื่อนที่ของวัตถุท้องฟ้า และด้วยการนำเสนอทฤษฎีควอนตัม โครงสร้างของอิเล็กตรอนที่โคจรภายในนิวเคลียสก็สามารถแบ่งแยกได้… กล่าวได้ว่า เราจะไม่มองว่าอิเล็กตรอนเป็นอนุภาคที่โคจรไปรอบๆ อีกต่อไป แต่เป็นระดับพลังที่ต่างไป เมื่อดูดซับและปลดปล่อยพลังงาน อิเล็กตรอนก็เคลื่อนที่แบบแปรผัน และสามารถข้ามระดับได้…”
“… เรื่องนี้พิสูจน์ได้ด้วยความไม่ต่อเนื่องของการปลดปล่อยสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน…”
ครั้งนี้ ลูเซียนไม่เลือกที่จะรอทฤษฎีสนับสนุนเขาอีกต่อไป แต่กลับกัน เขานำเสนอทฤษฎีควอนตัมเพื่ออธิบายโครงสร้างอะตอมโดยการมองข้ามการศึกษาหลายๆ ชิ้นเป็นการศึกษารากฐานและระบุการคาดการณ์อย่างชัดเจน
มีเสียงผ่าคำรามสนั่นดังอยู่ไกลๆ ในโลกแห่งปัญญาของลูเซียน เมื่ออิเล็กตรอนที่โคจรรอบๆ นิวเคลียสก็พลันหยุดลงทั้งหมด อิเล็กตรอนเดินตามรอยทางระดับพลังงานที่ต่างไป บางส่วนดูดซับควอนตัมพลังวิญญาณและการเปลี่ยนวัฏภาค และบางส่วนสูญเสียควอนตัมพลังวิญญาณเมื่อระดับพลังงานลดลง มีระดับการขึ้นลงสลับกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปลี่ยนกลับอย่างต่อเนื่องในกระแสพลังวิญญาณของลูเซียน
เขาไม่เสียสมาธิกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกแห่งปัญญาของเขา ลูเซียนก็รักษาความเร็วสูงในการเขียน
“…จำนวนอิเล็กตรอนภายนอกจะตัดสินคุณสมบัติการเล่นแร่แปรธาตุของธาตุ ปฏิกิริยาการเล่นแร่แปรธาตุสามารถบรรยายและอธิบายด้วยแนวคิดการสร้างและการสูญเสียอิเล็กตรอน ซึ่งรวมถึงการแตกตัวเป็นไอออนและสถานะเวเลนซ์ เหตุผลเบื้องหลังโครงแบบนี้ ข้าขอสันนิษฐานว่าแต่ละเปลือกของนิวเคลียสมีอิเล็กตรอนจำนวนมาก แต่ก็ยังต้องมีการศึกษาต่อไป…”
“…ในวิธีการนี้ สำนักเล่นแร่แปรธาตุจึงผนวกรวมอยู่ในสำนักธาตุโดยสมบูรณ์!”
ในโลกปัญญาของเขา อิเล็กตรอนรอบๆ นิวเคลียสของอะตอมเริ่มแลกเปลี่ยนกับอนุภาคอื่นรอบๆ และสารและสสารก็เริ่มก่อตัว โลกแห่งปัญญาของลูเซียนก็สมบูรณ์และมีสีสันมากยิ่งขึ้น ซึ่งรูปแบบเวทมนตร์ของ ‘เวทจัดลำดับธาตุ’ ก็ได้รับการพัฒนายิ่งขึ้น และโครงสร้างก็ใกล้เคียงจะสมบูรณ์แบบแล้ว!
ปากกาขนนกในมือของลูเซียนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นำเสนอความคิดอันทรงภูมิของลูเซียนลงบนกระดาษหนัง
ความมืดของยามราตรีภายนอกหน้าต่างก็มืดยิ่งขึ้น อากาศชื้นเป็นลางบอกเหตุถึงฝนที่กำลังมาถึง
…
ในห้องทดลอง เมื่อเก็บข้อมูลมากขึ้น และภาพก็ค่อยๆ สมบูรณ์แบบ คิ้วของบรูคก็ขมวดเป็นปม
เมื่อบันทึกข้อมูลกลุ่มสุดท้ายเสร็จ บรูคก็ไม่เขียนบทสรุปใดๆ แต่กลับกัน เขามองออกไปนอกหน้าต่างในมิติพิเศษของเขา อาณาจักรแห่งแม่เหล็กไฟฟ้า แล้วก็ถอนหายใจออกไปมาในที่สุด
ตู้ม! ตู้ม!
ท่ามกลางฟ้าผ่าเสียงดังสนั่น สายฟ้ารุนแรงและหนักหน่วงปะทะลงบนสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่บิดเบี้ยวในทันทีจากด้านบน และทำลายกระแสไฟฟ้าที่กำลังไหลผ่านและอาร์กไฟฟ้าที่ส่องแสงวูบวาบออกเป็นชิ้นๆ!
ภายใต้พื้นของมิติพิเศษ สารและสสารทั้งหมดก็แตกต่างภายใต้พลังของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า พลังทำลายล้างพังทลายมิติอวกาศนี้ง่ายดายราวกับเหยียบย่ำหญ้าแห้งๆ และบดขยี้ไม้เน่าๆ
พลังนี้ไม่อาจหยุดได้ ดูเหมือนจุดจบของมิติอาณาจักรแม่เหล็กไฟฟ้า
“อาจารย์ขอรับ…” ในหอคอยเวทมนตร์สั่นไหวอย่างรุนแรง บาเร็ตมองขึ้นไปชั้นบนอย่างสิ้นหวัง
…
ณ ราชอาณาจักรบริแอนน์
สายตาของเขาจ้องมองข้อมูลและรูปภาพจากการทดลอง ลอเร็นไม่อาจระงับความตื่นตระหนกได้อีกต่อไป
“เป็นไปไม่ได้!”
มือของเขาสั่นเทา ลอเร็นพยายามหยุดอาการสั่น แต่โลกแห่งปัญญาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แทรกแซงวิญญาณ และเขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้ทำการทดลองต่อไป
ผลการทดลองปรากฏออกมา อยู่ตรงหน้าเขา สีหน้าของลอเร็นบิดเบี้ยว ราวกับว่ามีปีศาจเข้าสิง ความกลัวที่ไร้ขอบเขตเข้าเกาะกินเขา
“…ตามความฉับไวของเวลา แสงแสดงคุณสมบัติที่เด่นชัดของคุณสมบัติของควอนตัม ตามการเฉลี่ยนของเวลา แสงก็แสดงคุณสมบัติของคลื่น ดังนั้น บางทีเราควรเปิดใจให้กว้างเมื่อต้องมีการอภิปราย”
ลอเร็นนึกถึงบทความของลูเซียน
เขาไม่เข้าใจ เขาส่ายศีรษะและพูดพึมพำกับตัวเอง “เรื่องอย่างนี้เป็นจริงได้อย่างไร?”
ในโลกแห่งปัญญา คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าขยายตัวและเคลื่อนไหววูบวาบ!
เหมือนกับกำลังเป่าลูกโป่ง หัวของลอเร็นกำลังขยายใหญ่ขึ้นๆ แล้วเขาก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
หัวของเขาระเบิดออกเมื่อขยายจนถึงขีดจำกัด ดอกไม้ไฟนองเลือดก็ระเบิดขึ้นอย่างเงียบๆ
เนื้อสีแดงและขาวกระจัดกระจายไปทั่วพื้นราวกับเม็ดฝน
…
“…ในสารกัมมันตภาพรังสี ข้าพบร่องรอยของธาตุใหม่ ซึ่งตรงกับสิ่งที่ข้าคาดการณ์ไว้ทุกประการ ในกระบวนการสลายให้กัมมันตรังสี พลังงานและนิวเคลียสของฮีเลียมถูกปล่อยออกมา จึงเกิดธาตุใหม่ขึ้น…”
“…ตั้งแต่มนุษย์เข้าถึงเวทมนตร์ ความฝันของการเปลี่ยนธาตุเป็นทองก็ยังคงอยู่เสมอ นี่ไม่ใช่เพียงการตามหาความร่ำรวย แต่เป็นการแสวงหาความจริงของโลก เนื่องจากเราประสงค์จะเข้าใจความลับของการเปลี่ยนสาร!”
“…อย่างไรก็ตาม เป็นเวลานับพันปีในอดีต ปฏิกิริยาแร่แปรธาตุไม่ได้มีเพียงปฏิกิริยาเดียวซึ่งสามารถเปลี่ยนสสารโดยไม่ต้องอาศัยวงเวทถาวรใดๆ… ตรงหน้าประตูแห่งดินแดนต้องห้ามที่เป็นของพระเจ้าเท่านั้น มนุษย์อย่างเราก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้…”
“…แต่ตอนนี้ หลังจากการค้นพบโครงสร้างภายในอะตอม ด้วยการศึกษาธรรมชาติของการสลาย เราก็พบเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสสารและการสร้างธาตุใหม่จากรากฐาน! ตามทฤษฎีของข้า แม้ว่าผลที่ได้อาจไม่คุ้มที่เสียไป แต่ตอนนี้เราสามารถเข้าถึงพลังที่ครั้งหนึ่งพระเจ้าผูกขาดได้! ตอนนี้เราสามารถเห็นความลับที่ลึกที่สุดที่อยู่เบื้องหลังสสาร และเรากำลังอยู่บนเส้นทางความสำเร็จในความฝันที่มีร่วมกันของนักเวทในอีกหลายๆ รุ่น!”
“…นี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของอาร์คานา แต่ก็ยังเป็นการพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่ของอารยธรรมมนุษย์!”
“…การเดินทางที่เฝ้ารอเราอยู่เต็มไปด้วยความท้าทายและความเสี่ยง แต่เราก็หวังว่าเราสามารถเดินทางไปด้วยกันไกลว่าเดิม”
เมื่อวางกระดาษหนังเรียงหน้าเรียบร้อย ลูเซียนก็เขียนชื่อบทความ
“การเล่นแร่แปรธาตุสมัยใหม่”
ภายนอกหน้าต่าง สายฟ้าของฤดูใบไม้ผลิก็คำรามลงมา และชีวิตก็เริ่มเข้าสู่ความเจริญรุ่งเรือง