บทที่ 496 แหวนคอนกัส
“? ? ?”
ลูเซียนไม่รู้ว่าเขาควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไรดีเมื่อเห็นผลของเวทระบุตัวตน โดยเวทระบุตัวตนไม่บอกข้อมูลอะไรออกมาเลย เขาสันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะแหวนวงนี้มีพลังเกินกว่าระดับพลังของเขาในตอนนี้มาก
“อะไรกัน?” นาตาชาสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของลูเซียนเปลี่ยนไป
เนื่องจากที่นี่มีกันอยู่เพียงสองคน ลูเซียนจึงไม่ได้ซ่อนความรู้สึกของเขาแต่อย่างใด
ลูเซียนพยักหน้า “ข้าจะวิเคราะห์แหวน ช่วยระวังหลังให้ข้าด้วย หากมีอะไรผิดปกติ ช่วยตัดการเชื่อมโยงระหว่างแหวนกับข้าทันที”
“ระวังตัวด้วยนะ” นาตาชากำดาบแน่น ยืนอยู่ข้างๆ ลูเซียน
ลูเซียนแผ่นพลังวิญญาณของเขาออกไปและใช้พลังสัมผัสแหวนสีดำธรรมดาๆ วงนี้อย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น พลังวิญญาณของลูเซียนก็ถูกลากไปยังพรมแดนมายาแห่งหนึ่ง เขายืนอยู่บนผืนดินไร้ชีวิตที่แตกระแหงภายใต้ท้องฟ้ามืดสลัว รอบตัวเขาเป็นทุ่งกอหญ้าแห้งๆ และแม่น้ำสีเขาปนเทา อย่างไรก็ตาม ดวงอาทิตย์สีขาวบนท้องฟ้าก็แผ่รัศมีพลังชีวิตอันร้อนแรง
ณ ดินแดนอันแร้นแค้นแห่งนี้ หลุมศพและหินจารึกสีดำหน้ากระจัดกระจายไปทุกที่ หินจารึกหลายแท่งถ้าไม่เอียงเจียนล้มก็แตกหัก และมีหลายแท่งที่ดูเหมือนพุ่มไม้เตี้ยๆ บนดินแดนรกร้าง
อย่างไรก็ตาม ฉากหลังนี้เผยให้เห็นภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในสายตาของลูเซียน ทั้งหินจารึก หลุมศพ แม่น้ำ และเมฆโสโครกต่างเชื่อมต่อกันซับซ้อนเกินกว่าที่แม้แต่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจ ภาวะซับซ้อนของโครงสร้างที่เห็นโกลาหลยิ่งกว่าโครงสร้างเวทมนตร์ที่ลูเซียนเคยเห็นมาก่อน และเพียงแค่มองดูภาพนี้ก็ทำให้ลูเซียนรู้สึกหน้ามืดและอ่อนแรง
ลูเซียนมองข้ามภาพมายาทั้งหมดไปก่อน แล้วจึงค่อยๆ เริ่มวิเคราะห์ไปทีละน้อย การวิเคราะห์ครั้งนี้ยากกว่าปกติ แต่ลูเซียนก็ไม่ได้ตั้งเป้าจะวิเคราะห์โครงสร้างทั้งหมด แต่เพียงต้องการรู้ศักยภาพของแหวนเท่านั้น
ลูเซียนร่าย ‘เวทระบุตัวตน’ เป็นระยะๆ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เขาก็สืบรู้ได้ในที่สุดว่าแหล่งควบคุมพลังของแหวนมาจากไหน
เมื่อถอนพลังวิญญาณออก ลูเซียนก็พูดกับนาตาชาอย่างอิดโรย “ข้าต้องพักก่อนสิบห้านาที แล้วข้าจะกระตุ้นแกนควบคุมพลังของแหวนและเรียกใช้พลังวิญญาณที่คอนกัสฝังไว้ภายใน เจ้าต้องใช้โอกาสนี้กำจัดพลังของเขาทิ้งด้วยดาบยุติธรรมจืดจาง”
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ลูเซียนได้ศึกษาปัญหาคณิตศาสตร์ที่นำสมัยมากมายกับจอมเวทจาก ‘กลุ่มหอคอย’ ซึ่งรวมถึงเลฟสกี ดังนั้น โครงสร้างระดับตำนานภายในแหวนจึงไม่ได้ยากเกินกว่าความเข้าใจของเขา จริงๆ เขาสามารถใช้วิธีที่ชาญฉลาดกว่านี้ในการไขปริศนาได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลูเซียนขาดความรู้เชิงศาสตร์มืดและระดับพลังของเขาค่อนข้างต่ำ แม้เขาจะไม่มีปัญหากับการใช้คณิตศาสตร์ แต่ก็ต้องอาศัยการใช้กำลัง และด้วยความที่สั่งสมมามากพอของเขา ตอนนี้ การใช้กำลังก็อาจจะง่ายยิ่งขึ้น
“เจ้าหาวิธีกระตุ้นพลังแหวนเจอไหม? มันเป็นแหวนชั้นตำนาน” หลังจากรู้ว่าลูเซียนไม่ได้ข้อมูลจากเวทระบุตัวตน ความตื่นเต้นของนาตาชาก่อนหน้านี้ก็จางหายไป บางครั้ง อุปกรณ์ระดับตำนานไม่ได้นำมาซึ่งทรัพย์สมบัติหรือพลังที่ดี แต่อาจเรียกความหายนะ โดยเฉพาะเมื่อมีความแตกต่างระหว่างระดับพลังมากเกินไป
ลูเซียนยิ้ม แม้ว่าหน้าของเขาจะดูซีดอยู่เล็กน้อย “ทำไมจะไม่ล่ะ? ไม่เอาน่า ข้าอาจขึ้นเป็นมหาจอมเวทก่อนอายุสามปีเชียวนะ ข้าวิเคราะห์โครงสร้างอย่างน้อยระดับตำนานเชียวนะ”
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่หลงรัก ผู้ชายทุกคนย่อมอวดอ้างความสามารถของตนออกมา ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม
“ตอนที่ข้ารู้จักเจ้าครั้งแรก ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะฉลาดขนาดนี้ บอกตรงๆ นะ ทุกครั้งที่ข้าเห็นเจ้าเล่นกับตัวเลขและรูปร่างพวกนั้น ข้าประทับใจทุกครั้ง แม้ว่าข้าจะไม่ค่อยเข้าใจ” นาตาชาถูคางของนางและเปลี่ยนน้ำเสียงราวกับนางกำลังพูดกับผู้ด้อยอาวุโสกว่า “แต่ระวังนะ ข้าได้ยินมาว่าการใช้สมองมากเกินไปอาจทำให้หัวล้านได้”
นาตาชาเคยเข้าเรียนหลักสูตรนักเวทฝึกหัดเต็มรูปแบบตอนนางเป็นเด็ก แม่ของนางสอนนางหลายๆ เรื่อง แต่ยกเว้นการเข้าฌานสมาธิซึ่งรวมถึงการร่ายเวทมนตร์ คณิตศาสตร์ เรขาคณิต ธาตุ แม่เหล็กไฟฟ้า สนามแรง และโหราศาสตร์ แม่ของนาตาชาหวังว่านางจะเติบโตขึ้นเป็นสุภาพสตรีชั้นสูงผู้ทรงภูมิ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง นาตาชามีประกาศนียบัตรระดับมัธยมปลายเป็นอย่างน้อย หากเทียบกับในปัจจุบัน นอกจากนี้ นางก็ยังรู้เรื่องประวัติศาสตร์ การรบ ตราประจำตระกูล และมารยาทเป็นอย่างดี
ลูเซียนรู้สึกขำเล็กน้อย “เจ้าคิดว่านักเวทแก้ปัญหาอาการหัวล้านได้หรือ?”
“เอาล่ะ… ข้าว่าเจ้าก็ถูก แต่ขุนนางจำนวนมากกำลังกังวลเรื่องนี้ เจ้าอาจจะช่วยได้ นี่เป็นแรงบันดาลใจมาตลอดไม่ใช่หรือ? ที่ให้ผู้คนได้ประโยชน์จากการใช้เวทมนตร์” นาตาชาเอ่ย
หัวข้อการสนทนาของทั้งสองเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา
ตอนที่ลูเซียนอ้างถึงแรงบันดาลใจของเขาครั้งแรกต่อหน้านาตาชา คำพูดของเขาสร้างความประทับใจต่อนาตาชาอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเป็นขุนนางระดับสูงสุด นาตาชาก็สามารถเข้าใจวิถีชีวิตของสามัญชนทั่วไปเป็นอย่างดี นางไม่สงสัยเลยว่าความคิดของลูเซียนสามารถกอบโกยเงินได้มากมายจากขุนนางและประเทศก็สามารถเจริญรุ่งเรืองจากเรื่องนี้
อีวานส์แฮร์โทนิก? ลูเซียนคิดอยู่ในหัว
แต่เขาไม่ชอบชื่อผลิตภัณฑ์แบบนี้เลยสักนิด เขาชำเลืองมองนาตาชาก่อนจะส่ายศีรษะด้วยความมุ่งมั่น “พอเถอะ เริ่มกันเถอะ”
นาตาชาสบายใจที่เห็นว่ามุกตลกของนางเล่นงานลูเซียนได้อีกครั้ง นางก็เริ่มจริงจังขึ้นและกระชับดาบแน่นอีกครั้ง
ลูเซียนสูดหายใจลึกเข้าปอดและแผ่พลังวิญญาณไปยังแหวนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ พลังวิญญาณของเขาไม่ได้สัมผัสแค่ผิวของแหวน แต่ทะลุลงไปภายในแหวน มุ่งหน้าไปยังทุ่งหินจารึกบนหลุมศพที่น่าขนลุก
ด้วยความเข้าใจในสถานที่นี้เพียงคร่าวๆ ลูเซียนอ้อมแนวป้องกันด้านนอกและตรงไปยังหนึ่งในหินจารึกสีดำรูปแบบเรียบๆ
ข้อความสีแดงจารึกบนหลุมศพก็ปรากฏขึ้นในทันที
“สถานที่เหมาะสำหรับการจองจำ ทุกคนหนีไม่พ้นการถูกจองจำในโลงศพเล็กๆ โลงนี้”
มีชื่อหนึ่งสลักไว้ด้านล่าง ‘คอนกัส’
ข้อความสีแดงนั้นเริ่มบิดเบี้ยว และกลายเป็นปากสัตว์ประหลาดที่น่าขนพองสยองเกล้า และปากพวกนั้นก็ฉีกพลังวิญญาณของลูเซียนออกมาเป็นชิ้นๆ วิญญาณผีรูปร่างมัวๆ ตนหนึ่งออกมาจากด้านหลังของหินจารึกหลุมศพ ดวงตาของมันเป็นประกายแสงสีเขียวหยก
“ลงมือเลย!” ลูเซียนบอกกับนาตาชาเสียงดังผ่านทางกระแสจิต เขากำลังเจ็บปวดทรมาน ขณะพลังวิญญาณของเขากำลังทรมานจากผลการโจมตี
นี่เป็นโอกาสดีที่สุด!
นาตาชาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว นางไว้ใจลูเซียนอย่างไร้ข้อกังหา นางฟันดาบลงบนแหวนตามคำสั่งของลูเซียน
ควันสีขาวปนเทาลอยออกมาจากแหวน และมีเสียงที่ฟังดูเหมือนว่ากลุ่มควันนั้นกำลังร้องไห้ อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังของดาบยุติธรรมจืดจาง ควันสลายไปอย่างรวดเร็ว
แล้วแหวนสีดำก็ดูสลัวลงมาก ความแวววาวของแหวนก่อนหน้านี้หายไปแล้ว
ลูเซียนใช้เวลาฟื้นพลังจากความเจ็บปวดและเริ่มประทับพลังวิญญาณของเขาลงในแหวน ขณะเดียวกันนั้น นาตาชาก็ยังคงเฝ้าระวัง เผื่อมีกับดักที่คอนกัสทิ้งไว้อีก
ทันทีที่ลูเซียนประทับพลังวิญญาณเสร็จ จู่ๆ แหวนก็เริ่มดูดพลังวิญญาณของลูเซียนเหมือนกับกระแสวนขนาดใหญ่ ภายในไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่มีอยู่ค่อนข้างมากของลูเซียนก็หมดลง เขาต้องหันไปอาศัยแหวนมงกุฎแห่งโฮล์ม ‘แหวนต้นกำเนิด’ เพื่อเรียกใช้พลังวิญญาณพิเศษที่เขาเก็บไว้ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน ลูเซียนก็อาศัยจังหวะนั้นหมุนหลุมดำในโลกแห่งปัญญาของเขามาอยู่ด้านหน้า เผชิญหน้ากับกระแสวนพลังวิญญาณขนาดใหญ่! หลุมดำสองหลุมเป็นเหมือนกับเครื่องสูบน้ำกำลังทำงานแข่งขันกัน!
แล้วในที่สุดหลุมดำก็บิดอวกาศทั้งหมด ความเร็วของลูเซียนที่กำลังสูญเสียพลังวิญญาณก็ตกลงกะทันหัน แล้วลูเซียนก็ได้ยินเสียงบางอย่างแตกหัก แล้วการดูดพลังจากแหวนก็สลายไปในทันที
“เจ้าเป็นอะไรไหม?” นาตาชาถามด้วยน้ำเสียงกังวล เมื่อเห็นว่าทั้งหน้าของลูเซียนซีดเป็นไก่ต้ม
ลูเซียนถอนหายใจ “ข้าประทับพลังวิญญาณในแหวนแล้ว แต่ข้ายังไม่สามารถใช้แหวนได้ในตอนนี้”
แล้วลูเซียนก็แบ่งปันข้อมูลของแหวนให้กับนาตาชาผ่านกระแสจิต
“แหวนคอนกัส อุปกรณ์ตำนานชั้นอาวุโสระดับหนึ่ง ผู้สวมแหวนต้องมีพลังใกล้เคียงกับระดับเก้า มิฉะนั้นจะถูกเผาผลาญพลังวิญญาณทั้งหมด และกลายเป็นคนบ้า”
“ผู้มีคุณภาพที่จะสวมแหวนจะต้านทานต่อเวทมนตร์ทั้งหมดตั้งแต่ระดับหนึ่งถึงระดับแปด ต้านทานต่อเวทจองจำ เวทมือสังหารเงา เวทสูบพลังงาน เวทคำสั่ง และเวทวิญญาณโหยหวน นอกจากนี้ ผู้สวมแหวนจะมีพลังป้องกันต่อเวทมนตร์ระดับตำนานในสำนักศาสตร์มืดและภาพมายา แม้กระทั่งหากเป็นร่ายเวทมนตร์จะมีพลังระดับตำนานชั้นสูงสุด”
“ความแข็งแรงทางกายภาพ ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิต และการป้องกันทางกายภาพของผู้สวมแหวนก็จะพัฒนาขึ้นจนถึงระดับของอัศวินทองคำ ขณะเดียวกันก็พัฒนาระดับการต้านทานเวทมนตร์จนถึงชั้นตำนานระดับสอง และผู้สวมแหวนจะต้านทานเวทมนตร์พิษและโรคที่ต่ำกว่าระดับตำนาน รวมถึงเวทมนตร์คำสาปบางบทที่อาศัยพลังของศาสตร์มืด”
“นอกจากนี้ ผู้สวมแหวนจะสามารถร่าย ‘เวทล่องหนขั้นสูง’ ระดับสี่และ ‘เวทเร่งความเร็วขั้นสูง’ (ระดับหก) หากผู้สวมแหวนไม่เลือกที่จะปิดพลังเวทดังกล่าว ในทุกวัน ผู้สวมแหวนสามารถร่าย ‘เวทจองจำ’ (ระดับเก้า) ได้สี่ครั้ง ‘เวทอัญเชิญซากศพ’ (ระดับเก้า) สามครั้ง และ ‘เวทหยุดเวลา’ (ระดับเก้า) ได้สองครั้ง
“ขณะเดียวกัน แหวนวงนี้มีพลังเวทมนตร์ทรงพลังที่ทำให้ผู้สวมแหวนสามารถร่ายเวทมนตร์ระดับตำนานที่อย่างไม่คาดคิด ผู้สวมแหวนจะสามารถร่าย ‘เวทจองจำวิญญาณ’ ได้สองครั้งต่อวัน เวทเทพอสูร-ลิชโหยหวน ได้สองครั้งต่อวัน และ ‘เวทป้อมปราการซากศพ’ หนึ่งครั้งต่อวัน
“แหวนวงนี้คือแหวนที่ทรงพลังที่สุดที่สร้างขึ้นโดยเทพอสูร-ลิชผู้น่าเกรงขาม!”
“ทั้งความตายและการจองจำล้วนทำให้ผู้คนหวาดกลัว”
“คอนกัส”
นาตาชานิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนจะถอนหายใจออกมา “นี่เป็นแหวนที่ทรงพลังมาก หากคอนกัสเลือกใช้ ‘เวทหยุดเวท’ เราคงถึงจุดจบแน่ๆ”
“ข้าไม่คิดเช่นนั้น” ลูเซียนส่ายศีรษะและชี้ไปที่มือซ้ายของเขา “ข้ามีมนุษย์ครึ่งเทพสองตนอยู่ในร่าง แม้ว่าจะไม่มีตนไหนสู้ได้โดยตรง แต่การมีตัวตนอยู่ทำให้ข้าต้านทานต่อเวทมนตร์มากมาย รวมถึงเวทหยุดเวลา คอนกัสคงรู้เรื่องนี้ดี”
‘เวทหยุดเวลา’ เวทมนตร์ระดับเก้า ทำได้เพียงหน่วงเวลาไว้สั้นๆ เท่านั้น เวทมนตร์บทนี้ไม่สามารถหยุดเวลาได้สมบูรณ์
นาตาชาพยักหน้า แล้วนางก็ถอนหายใจอีกครั้ง “น่าเสียดายที่เจ้าใช้แหวนไม่ได้… ข้าคิดว่าเราน่าจะมีหวังรอดชีวิตมากขึ้นในอีกวันครึ่งที่เหลือ”
“เราใช้ไม่ได้ แต่มีบางคนใช้ได้ ตราบใดที่เราเจอเป้าหมายที่มีพลังใกล้เคียงระดับเก้าและควบคุมเขาได้ เราจะทำให้เขาสวมแหวนแทนเรา แล้วก็จบปัญหา” ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ดวงตาของนาตาชาเป็นประกาย “เอาล่ะ! พวกเทพเจ้าเทียมเท็จในโลกนี้ไม่ได้ทรงพลังเหมือนพระเจ้าเทียมเท็จในโลกของเรา! เป้าหมายที่เจ้าพูดถึงคือ…?”
“แอล เทพเจ้าแห่งการฟื้นคืนชีพ” ลูเซียนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว
แล้วเขาก็หยิบลูกแก้วคริสตัลออกมาและเริ่มสืบหาตำแหน่งของแอล
อย่างไรก็ตาม ลูกแก้วคริสตัลกลับไม่แสดงผลอะไรเลย เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ลูเซียนขมวดคิ้ว “แอลมีบางอย่างผิดปกติ ข้าพลาดอะไรบางอย่าง”
“ลองดูฟรานซิส เขาน่าจะอยู่ใกล้ตัวแอล” นาตาชาแนะนำ
ลูเซียนพยักหน้าและเริ่มร่ายเวทมนตร์อีกครั้ง หลังจากผ่านไปสักพัก ลูเซียนก็เงยหน้าขึ้นบอกกับนาตาชา “ฟรานซิสอยู่ใกล้กับเรามาก! ตอนนี้ เขาน่าจะอยู่ในหุบเขาแห่งความตาย!”
เวทผูกดวงโหราศาสตร์ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ชัดเจนของฟรานซิสได้ แต่ผลจากเวทมนตร์ก็มากพอที่จะทำให้ลูเซียนตัดสินใจเบื้องต้นเรื่องนี้ได้
“แม้เราไม่รู้ว่าพวกเขาวางแผนอะไร แต่นี่ก็น่าจะเป็นโอกาสของเรา” นาตาชาเอ่ย แล้วนางก็มองดูที่แหวนด้วยแววตาผิดหวัง “หากเราใช้แหวนได้ ไม่ว่าเราจะใช้แผนไหน มันก็คงง่ายกว่ามาก”
ลูเซียนยิ้ม “มีสองวิธีที่จะพัฒนาพลังขึ้นระดับเก้า”
“เจ้าหมายถึงอะไร?” นาตาชาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
ลูเซียนอธิบายต่อ “วิธีแรก พลังวิญญาณของเจ้าจะต้องพัฒนาถึงระดับเก้า แต่ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น อีกวิธีหนึ่ง ต้องมีโลกแห่งปัญญาที่เป็นปึกแผ่น”
“เจ้ากำลังจะบอกว่า…” นาตาชาเริ่มเข้าใจขึ้นมา
ลูเซียนพยักหน้า “ตอนข้าคิดค้นการเล่นแร่แปรธาตุสมัยใหม่ โลกแห่งปัญญาของข้าก็ใกล้เคียงกับระดับแปดแล้ว หรือจะพูดได้ว่า ระดับอาร์คานาของข้าสูงกว่าระดับเวทมนตร์”
แม้ว่าระดับอาร์คานาของแต่ละคนจะมาจากการสะสมค่าความน่าเชื่อถืออาร์คานา จึงอาจดูเหมือนน่าเชื่อถือน้อยกว่าเมื่อเทียบกับระดับเวทมนตร์ แต่จริงๆ แล้ว มันสะท้อนถึงโลกแห่งปัญญาของแต่ละคนได้ในระดับหนึ่ง
“แต่มันก็ต้องใช้เวลา เจ้าไม่มีเวลามาทำวิจัยเอาตอนนี้หรอกนะ?” นาตาชาถาม
ลูเซียนหยิบแหวนขึ้นมาและขอให้นาตาชาไปกับเขา
เมื่อทั้งคู่ขึ้นมาจากถ้ำใต้น้ำและข้ามไปถึงอีกฝั่งของภูเขา ลูเซียนก็พบถ้ำลับอีกแห่งหนึ่งและบอกกับนาตาชาด้วยเสียงเบาๆ
“ตอนนี้ข้าไม่มีเวลา แต่ข้าทำงานวิจัยมานานมากพอ”
ขณะเขากำลังอธิบาย ลูเซียนก็หยิบกองเอกสารออกมาจากกระเป๋าเวทมนตร์และบอกว่า “เอกสารพวกนี้เป็นข้อมูลที่ท่านดักลาสรวบรวมเกี่ยวกับดาวเทียมและปัญหาที่เขาค้นพบ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ข้าพยายามไขปริศนาพวกนี้”
“เพราะเหตุนี้ตอนที่เจ้าโทรหาข้า เสียงของเจ้าถึงฟังดูใกล้และชัดมากขึ้นใช่ไหม?” นาตาชานึกทบทวน “แล้วตอนข้าถามทำไมเจ้าไม่ตอบ”
“…” ลูเซียนพยักหน้าจริงจัง
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ลูเซียนทำงานร่วมกับเลฟสกีและจอมเวทคนอื่นๆ เรื่องเรขาคณิตอีวานส์ ซึ่งทำให้พวกเขาเจอกับปัญหามากมายที่สามารถแก้ได้ด้วยการวิเคราะห์เทนเซอร์เท่านั้น ดังนั้น ลูเซียนจึงทำการศึกษาอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องการสรุปทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษและทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป
แม้ว่าลูเซียนไม่ได้ก้าวหน้ามากนักในเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป แต่เรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษก็เกือบสมบูรณ์แล้ว!
ช่วงการวางแผน การเก็บข้อมูล และการเฝ้ารอตลอดสามปีที่ผ่านมาควรเห็นผลได้แล้วในตอนนี้!
ลูเซียนกางกระท่อมแร่แปรธาตุและเริ่มเขียนบทความของเขาภายใต้การเฝ้ามองอย่างสงสัยของนาตาชา
“เรื่องพลศาสตร์ไฟฟ้าของวัตถุที่เคลื่อนที่และสมการมวล–พลังงาน”
ภายนอกถ้ำ ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปทั้งดวงแล้ว