นอกจากนี้ มหาจอมเวทสองในหกคนก็เคยเป็นลูกศิษย์ของดักลาส บรูค ‘จักรพรรดิแห่งการควบคุม’ เป็นลูกศิษย์ของดักลาสอยู่นาน ส่วนเฮลเลน ไพรซ์ ‘แม่มดแห่งแดนน้ำแข็ง’ ก็เคยเป็นลูกศิษย์อยู่ไม่นานนัก
‘กระท่อมแห่งพาล์เมรา’ เป็นกลุ่มเวทมนตร์ที่ควบคุมดินแดนตอนเหนืออันไกลโพ้นตั้งแต่ยุคจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณ ในยุคสมัยที่รุ่งเรือง กลุ่มกระท่อมแห่งพาล์เมรามีนักเวทชั้นตำนานถึงสามคน แต่หลังจากรวมเข้าเป็นหนึ่งกับสภาเวทมนตร์ การพัฒนาของทางกลุ่มก็เชื่องช้ามาก เนื่องจากทางกลุ่มไม่คุ้นเคยกับหลักเกณฑ์อาร์คานา เนื่องจากเฮลเลนเป็นผู้มีพรสวรรค์สูงและเข้าใจในอาร์คานาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง อาจารย์ของนางจึงคิดว่านางเก่งเกินไปสำหรับเขาและขอให้ดักลาสรับไปสอนต่อ
สำหรับเฮลเลน ดักลาสเป็นเหมือนพ่อที่คอยสนับสนุนท้องฟ้าของสภาเวทมนตร์ และส่องแสงนําทางการศึกษาอาร์คานา แต่ตอนนี้ เขากำลังพูดว่า ‘บางที ข้าอาจคิดผิดมาตลอด’ แล้วจะไม่ให้นางรู้สึกว่าโลกทั้งใบและทั้งชีวิตของนางล่มสลายได้อย่างไร? นางตกตะลึงสุดขีดจนกระทั่งลืมไปว่าต้องทำการแทรกแซงสัญญาณ
“บางที เสียงนี้อาจถูกมนุษย์ครึ่งเทพปลอมขึ้น…” เฮลเลนพยายามอธิบาย
…
“บางที ข้าอาจคิดผิดมาตลอด”
เฟลิเปกำลังฟัง ‘ความจริงของโลก’ ภายในหอคอยเวทมนตร์ของเขา ณ เมืองไฮด์เลอร์
ในตอนแรก เขาคิดว่าประธานดักลาสเป็นแขกรับเชิญพิเศษ แต่ไม่นานเขาก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ อย่างไรก็ตาม เนื้อหาการสนทนาของทั้งสองคนช่างมีเสน่ห์บทความด่างพร้อยที่เขาต้องฟังอย่างควบคุมไม่ได้
เมื่อผู้ก่อตั้งระบบอาร์คานา ผู้สำรวจเขตแดนแห่งอาร์คานา และผู้นำแห่งจอมเวทพูดถึงความเจ็บปวดว่าเขาอาจคิดผิดมาตลอด แม้แต่คนอวดดีอย่างเฟลิเปก็ยังรู้สึกประหลาดใจและความสุกสกาวในแววตาของเขาก็จางหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
“ท่านจะบอกเราว่าเราผิดมาตั้งแต่ต้น ทั้งๆ ที่เรามาไกลถึงเพียงนี้ หลังจากทำงานกันมาอย่างหนักอย่างนั้นหรือ?”
เฟลิเปถือถ้วยไวน์สีแดงอยู่ในมือและมองออกไปนอกหน้าต่าง ทั้งเมืองไฮด์เลอร์ถูกปกคลุมด้วยความมืดของยามราตรี แสงส่องประกายวิบวับเรากับดวงดาว เหมือนกับสภาพจิตที่หวั่นไหวของนักเวททุกคนที่ได้ยินบทสนทนานี้
ถึงแม้เขาจะเป็นนักเวทศาสตร์มืด พวกเขาก็เคยได้ศึกษาเรื่องแรงโน้มถ่วงมาบ้างพอสมควร ซึ่งดูเหมือนจะบรรจุปริศนาอันลึกลับที่สุดของโลกนี้ และพวกเขาทุกคนก็ยังคงเคารพดักลาส ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสภาเวทมนตร์และระบบอาร์คานา จากก้นบึ้งของหัวใจ การประดิษฐ์แคลคูลัสและการศึกษาเรื่องรูปแบบเรขาคณิตทำให้นักเวทของทุกสำนักก้าวหน้าง่ายขึ้นและอาศัยน้ำยาและวัสดุน้อยลง
…
ณ สำนักงานใหญ่ของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ ราเวนติซึ่งมีเวรอารักขาสำนักงานในคืนนี้ ก็มีสีหน้าไม่สู้ดีและเคร่งเครียด ขณะที่เขาฟัง ‘ความจริงของโลก’ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่านประธานจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา!
เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มหอคอย และเขาก็ได้ศึกษาเรื่องแรงโน้มถ่วงอย่างลึกซึ้งเช่นกัน เขาเข้าใจดีว่าคำถาม เช่น ‘แรงโน้มถ่วงมาจากไหน? มันกระจายตัวอย่างไร? มันถูกสร้างขึ้นมาในตอนแรกอย่างไร?’ เป็นปริศนาอันยิ่งใหญ่ในการศึกษาเรื่องแรงโน้มถ่วงซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ตัวเขาเองก็มีความสับสนทำนองเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ท่านสูญเสียความมั่นใจและพูดออกมาว่าท่านผิดมาตลอดได้อย่างไร ท่านประธาน?
ไม่สำคัญว่าจะมีปัญหาหรือไม่ แต่เราก็สามารถแก้ได้ทีละปัญหา!
เป็นไปได้อย่างไรที่เราจะไขปริศนาทั้งหมดได้ตั้งแต่เริ่มต้น?
ทุกคนได้เป็นประจักษ์พยานต่อการพัฒนาระบบแรงโน้มถ่วงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของดาวเคราะห์จำลองก็ยิ่งทำให้ทุกคนเชื่อมั่นในความสมเหตุสมผลของเรื่องนี้ นั่นไม่ใช่ความก้าวหน้า แต่เป็นการถอยหลังอย่างนั้นหรือ?
เราไม่อาจหุนหันพลันแล่นกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับต้นกำเนิด เราต้องเดินบนรากฐานที่มั่นคง ซึ่งก็คือผลสำเร็จในการวิจัยในปัจจุบันของเรา!
ท่านประธาน ท่านต้องไม่สูญเสียความมั่นใจ!
ถ้าท่านสูญเสียความมั่นใจ จะมีจอมเวทอีกมากต่อมาก มีแม้กระทั่งนักเวทชั้นตำนานที่จะสับสน หลงทาง และแม้แต่สิ้นหวัง
“บางที เราน่าจะลองมองหาคำอธิบายเชิงปรัชญา บางที มันน่าจะมีปฐมเหตุและที่มาที่สร้างทุกสรรพสิ่ง เช่นนั้น ระบบการเคลื่อนที่ของวัตถุท้องฟ้าก็สามารถสมบูรณ์แบบและถูกสร้างขึ้นได้”
“บางครั้ง ข้าก็อดคิดแบบนั้นไม่ได้ ว่าอาจมีพระผู้เป็นเจ้าและปฐมเหตุอยู่จริงๆ หรือว่าระบบอาร์คานาทั้งหมดไม่อาจอธิบายได้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เหมือนกับบ้านที่ไร้ฐานราก ซึ่งอาจถล่มเพียงเพราะสายลมอันแผ่วเบา”
พระผู้เป็นเจ้า ปฐมเหตุ และระบบอาร์คานาซึ่งไม่อาจสร้างขึ้นมาโดยไม่มีแนวคิดพวกนี้… ท่านไม่ได้กำลังจะบอกเราแบบนั้นจริงๆใช่ไหม ท่านประธาน?
พวกเราเฝ้าต่อสู้กับศาสนจักรและผู้ศรัทธาในพระเจ้าแห่งจะทำมาตลอดทั้งชีวิต เพียงเพื่อจะได้รู้ว่าความภาคภูมิและศรัทธาของเราก็อาศัยพระเจ้าแห่งสัจธรรมอย่างนั้นหรือ?
ราเวนติกระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้ในทันที มือขวาของเขาสั่นอย่างรุนแรง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าประธานดักลาสพูดแบบนั้นออกมา แล้วเขาก็เริ่มตรวจสอบความถูกต้องและการพยากรณ์
นี่มันเรื่องจริง…
แม้แต่ราเวนติ ผู้วิเศษที่ตามล่าหาความจริงและรังเกียจเหยียดหยามพวกเจ้าเล่ห์เพทุบายมาตลอดทั้งชีวิต ยังดูแก่ชราและอ่อนล้า เขาเชื่อไม่ลง และเขารับไม่ได้ที่ท่านประธานจะเชื่อว่ามีพระผู้เป็นเจ้าคอยบงการทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเช่นนั้น ระบบอาร์คานาและสภาเวทมนตร์ที่เขาก่อตั้งขึ้นมาเพื่อกายเป็นเรื่องตลก และตัวราเวนติเองก็รวมเป็นหนึ่งในนั้น
“อันโนนิส เจ้ากำลังฟังความจริงของโลกอยู่หรือเปล่า? รีบใช้โหราศาสตร์ตรวจดูว่าเป็นคำพูดของท่านประธานจริงหรือไม่” ราเวนติจำได้ว่าเขาไม่เชี่ยวชาญด้านคำพยากรณ์ เขาถึงรีบติดต่อไปยังสหายสนิท
…
ขณะที่ซาแมนธากำลังตกตะลึงกับคำถามเรื่องทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของดักลาส จอมเวทจากสำนักแม่เหล็กไฟฟ้าคนหนึ่งในห้องออกอากาศก็รีบแจ้งลูเซียน ซึ่งเป็นคนที่ปลอดภัยที่สุดที่เขาสามารถติดต่อได้
หลังจากจบบทสนทนากับนาตาชาและฝากแสดงความเคารพถึงแกรนด์ดยุกแห่งออร์วาริต ลูเซียนก็อยู่ในห้องทำงานที่สถาบันอะตอมและศึกษาโครงสร้างเวทมนตร์ของตัวเองและอาร์คานาศาสตร์ต่อ เขารู้สึกถึงแรงกระตือรือร้นในการทำงานเพื่อครอบครัว ซึ่งเขาเพิ่งแลกแหวนกันและและลงหลักปักฐานความสัมพันธ์ของทั้งคู่
ทันใดนั้น แว่นตาข้างเดียวของลูเซียนก็ร้อนขึ้นมา
“ท่านอีวานส์ ฟังรายการ ‘ความจริงของโลก’ ด่วน…” เสียงชายแปลกหน้าดังขึ้นด้วยความตื่นตระหนก แต่เขาไม่อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นเนื่องจากความวิตกกังวล
ลูเซียนรีบถามออกไป แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่เข้าท่า เขาทำได้เพียงเปิดวิทยุเวทมนตร์และและปรับคลื่นไปที่ช่องรายการ ‘ความจริงของโลก’
“จะบอกว่า ระบบแรงโน้มถ่วงและระบบการเคลื่อนที่ของท่านจะล่มสลายหากไม่มีปฐมเหตุอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่”
ปฐมเหตุ? นี่เป็นแนวคิดที่พวกนักเทววิทยาคิดค้นขึ้นมาไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมท่านประธานถึงกำลังคุยเรื่องนี้กับใครสักคน?
“แล้วโลกกำเนิดมาจากไหน? ข้าเป็นใคร? พวกเราจะไปไหนกันต่อ? เราจะเจอคำตอบพวกนี้จากการศึกษาอาร์คานาหรือไม่?”
“ไม่ใช่ตอนนี้ คำตอบพวกนี้ยังอยู่ในหมวดหมู่ปัญญา”
ลูเซียนเข้าใจแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติขณะที่เขากำลังฟังต่อ เขารีบตัดการสื่อสารแล้วติดต่อไปยังมหาจอมเวทเฮลเลน ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลความปลอดภัยในคืนนี้
ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ สายของนางไม่ว่าง เขาไม่สามารถติดต่อนางได้
“ไม่ คำตอบพวกนี้อยู่ในหมวดหมู่เทววิทยา ตราบใดที่ท่านยอมรับว่ามีพระผู้เป็นเจ้าและปฐมเหตุ ทุกคำถามต่างมีคำตอบ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลูเซียนรู้สึกขนพองสยองเกล้ามากยิ่งขึ้น ไม่มีเวลาติดต่อท่านหญิงเฮลเลนแล้ว หากเกิดเรื่องผิดปกติ อาจารย์ของเขาจะอยู่เสมอ!
“สวัสดี” เฟอร์นันโดอารมณ์ไม่ดีนัก หลังจากถูกขัดจังหวะการวิจัย
“อาจารย์ขอรับ รายการความจริงของโลกถูกแทรกซึม คนจากศาสนจักรกำลังพยายามล่อลวงท่านประธาน! ข้าติดต่อท่านหญิงเฮลเลนไม่ได้เลย!” ลูเซียนพูดอย่างเร็ว
“ความจริงของโลก?” ในฐานะบุรุษผู้มุทะลุ เฟอร์นันโดรีบกลับออกจากมิติพิเศษไปยังหอคอยเวทมนตร์อัลลิน และมุ่งหน้าไปที่ห้องสมุดของเฮลเลน ด้วยความกังวลว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับนาง
สำหรับดักลาส เฟอร์นันโดเชื่อใจเขาในฐานะสหายเก่า และสมเหตุสมผลหากโลกแห่งปัญญาของเขาจะล่มสลายเพราะทฤษฎีอาร์คานาใหม่ แต่สองคนนี้กำลังคุยกันถึงว่าเขาจะบูชาพระเจ้าแห่งสัจธรรมและเข้าร่วมกับศาสนจักรอย่างนั้นหรือ?
นักบุญสัจธรรมซึ่งถูก ‘เวทเปลวไฟนิรันดร์’ เล่นงานคู่ควรกับความศรัทธาของเขาตรงไหน?
หลังจากเขาเปิดประตูห้องสมุดของเฮลเลนเข้าไป เขาก็เห็นนางพูดพึมพำกับตัวเองอยู่หลังโต๊ะทำงาน “แรงโน้มถ่วงคืออะไร? ลักษณะของแรมโน้มถ่วงคืออะไร…” เฟอร์นันโดรู้สึกเศร้าสลด ดักลาสพูดอะไรกันแน่ถึงทำให้เฮลเลนสับสนได้ถึงเพียงนี้?
เขาเชื่อว่าเฮลเลนไม่มีทางจำเสียงคนอื่นผิดเป็นเสียงดักลาส
“ฟรังซัวส์ตระหนักถึงปัญหาพื้นฐานของอาร์คานา เขาจึงกลับสู่อ้อมแขนของพระผู้เป็นเจ้า ดักลาส จงอย่าปฏิเสธ เจ้าก็เริ่มศรัทธาในปฐมเหตุและพระผู้เป็นเจ้าแล้วเช่นกัน”
พายุที่ห้อมล้อมอยู่รอบตัวเฟอร์นันโดจู่ๆ ก็หยุดลงโดยพลัน เขามองไปที่วิทยุเวทมนตร์ ราวกับว่าเขากำลังรอฟังคำตอบของดักลาสด้วยเช่นกัน
“ใช่ ข้าไม่อาจปฏิเสธว่าเชื่อในปฐมเหตุและพระผู้เป็นเจ้าอยู่บ้าง”
น้ำเสียงอันไร้อารมณ์ของดักลาสดังก้องไปทั่วห้องสมุดของเฮลเลน
เฮลเลนหลับตาลงในทันที หยดน้ำตาที่ใส่ราวกับน้ำแข็งก็หลั่งออกมา ความเศร้าสร้อยจากสุดขั้วหัวใจแผ่กระจายไปทั่ว
เฟอร์นันโดตะลึงงันแล้วจึงถอนหายใจยาว
“นี่คือบันทึกเสียงการสนทนาของพระสันตะปาปาในมิติพิเศษของดักลาส นักเวทผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ก็ยังเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า”
เสียงที่ฟังดูสงบสุขและยิ้มร่าดังออกมา ปลอบประโลมผู้ฟังทุกคน
“หากท่านสงสัยว่าบันทึกเสียงนี้เป็นของปลอมหรือไม่ ท่านนักเวท ท่านสามารถตรวจสอบได้ด้วยการพยากรณ์และโหราศาสตร์ของท่านตามสบาย”
ซ่า ซ่า ซ่า เสียงกระแสไฟฟ้าดังขึ้นอีกครั้ง และเสียงโฆษณาก็กลับมาเป็นปกติ
“จินเคลา จินเคลา สูตรที่ดีที่สุด! เก็บเกี่ยวพืชผลอุดมสมบูรณ์!”
ทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสนุกครื้นเครง แต่บรรยากาศกลับหน้าเศร้าอย่างยิ่ง เฮลเลนพูดออกมาด้วยเสียงอันแหบพร่า “ข้าไม่คาดคิดว่าท่านประธานที่สู้กับศาสนจักรมาตลอดทั้งชีวิตจะเชื่อในพระเจ้าและตั้งคำถามถึงทฤษฎีอาร์คานาของตัวเขาเอง…”
“ไม่ นั่นไม่ใช่วิธีของดักลาส! ข้าไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคนที่ใกล้กับความจริงของโลกขนาดนั้นจะเชื่อเรื่องเหลวไหลอย่างพระเจ้าแห่งสัจธรรม!” เฟอร์นันโดคำราม “เฮลเลน เจ้าไปหาดักลาสในมิติพิเศษของเขา ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น! ข้าจะไปหาเบิร์กเนอร์ ให้เขาตรวจดูว่าเป็นบทสนทนาของจริงไหม โป๊บเป็นมนุษย์ครึ่งเทพ เขาอาจมีวิธีที่เราไม่รู้!”
เสียงคำรามดั่งพายุของเฟอร์นันโดปลุกให้เฮลเลนตื่น ใช่ การหลับหูหลับตาสงสัยในตัวท่านประธานโดยไม่มีการยืนยันบทสนทนาไม่ใช่จิตวิญญาณแห่งอาร์คานา!
…
“ใช่ ข้าไม่อาจปฏิเสธว่าเชื่อในปฐมเหตุและพระผู้เป็นเจ้าอยู่บ้าง”
เพล้ง รูปปั้นโปร่งแสงตัวหนึ่งบนโต๊ะราเวนติถูกเขากวาดตกพื้นโดยไม่รู้ตัว แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เมื่อเห็นเศษรูปปั้นที่แตกกระจายมากมาย ราเวนติรู้สึกว่าเขาเห็นการล่มสลายของหนึ่งในเสาค้ำยันระบบอาร์คานา ช่องโหว่ที่ไม่อาจรักษาได้ปรากฏบนท้องฟ้าแห่งอาร์คานา
ปราสาทแห่งอาร์คานาอันงดงามและหฤหรรษ์ดูเหมือนจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน โลกทั้งใบตกสู่ความมืดมิด
“ไม่ ท่านประธานจะคิดแบบนั้นได้อย่างไร? ทำไมเขาถึงพูดถึงพระผู้เป็นเจ้า…”
………………………………………………..