บทที่ 649 ลองบอกเหตุ
ภายในห้องประชุมของสภาสูงสุด…
หลังจากลูเซียนพูดจบ วิเซนเตก็พูดขึ้น “อาร์คานาต้องสร้างขึ้นด้วยฐานของภาพความเข้าใจ อะไรที่ไม่สามารถจินตนาการและเข้าใจไม่ได้จะเป็นเพียงคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน เพราะงั้น ขอยินดีด้วยกับบรูคและโอลิเวอร์ นี่เป็นรากฐานการเล่นแร่แปรธาตุใหม่ และทฤษฎีที่ดีที่สุดในโลกจุลภาค งานของพวกเจ้าทำให้เรากลับสู่หลักฐานที่เป็นรูปธรรมอีกครั้ง จากปริศนาเมทริกซ์ที่คดเคี้ยวอยู่กลางอากาศโดยไม่มีรากฐาน”
“ไร้สาระ รากฐานจริง ๆ ของอาร์คานาก็เป็นสิ่งที่สังเกตได้ อะไรที่สังเกตไม่ได้ มันก็ไร้ประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องมัวไปกำหนดภาพของมันหรอก” เฟอร์นันโดแสดงความคิดใหม่ออกมาด้วยอารมณ์เดือดดาล
ลูเซียนอธิบายเพิ่ม “การใช้ภาพกับโลกมหภาคและจุลภาคโดยไม่ระวังจะผิดตรรกะพื้นฐาน อาจเกิดความผิดพลาดใหญ่หลวง”
“แต่ไม่ว่ายังไง อิเล็กตรอนก็มีลักษณะเหมือนคลื่น” โอลิเวอร์ร่วมวงพิพาท
ความคิดแปลกประหลาดของหลาย ๆ คนที่มาจากมิติพิเศษต่าง ๆ กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อดักลาสเคาะโต๊ะเบา ๆ “ไว้ค่อยคุยเรื่องสมการคลื่นหลังประชุมเสร็จ ขอให้สงบนิ่งไว้อาลัยเคลาส์ห้านาที เราจะให้เจ้าแห่งนรกชดใช้”
ลูเซียนหลับตาลงไว้อาลัยเงียบ ๆ หวังว่าการคาดคะเนเรื่องลักษณะของวิญญาณของเขาจะถูกต้อง ไม่อย่างนั้น…
ต่อมา สภาเวทมนตร์ก็อภิปรายกันเรื่องนักบุญแห่งสัจธรรม ธานอส และไวเค็น และเห็นด้วยกับข้อเสนอของดักลาส เฟอร์นันโด และลูเซียนที่จะสั่นคลอนความศรัทธาและวางแผนให้ไวเค็นคิดว่าสภาเวทมนตร์ยังไม่รู้ความลับของเขา ด้วยการเผยแพร่เรื่องที่มีทั้งข้อมูลผิดถูกปะปนกัน ขณะเดียวกัน หน่วยข่าวกรองกลางก็จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพื่อตามล่ากลุ่มพระคาร์ดินัลหลวงบางส่วนที่กำลังมีบทบาทสำคัญในตอนนี้
เนื่องจากมีเพียงไม่กี่ประเด็นที่สามารถส่งเรื่องถึงสภาสูงสุดได้ การประชุมจึงจบลงไม่ถึงชั่วโมง จู่ ๆ เฮลเลนที่ตั้งใจอ่านข้อมูลตลอดเวลาก็เงยหน้าขึ้น “ถ้าระบบการเล่นแร่แปรธาตุใหม่ตามสมการคลื่นโอลิเวอร์-บรูคสอดคล้องกับการทดลองของเราและแก้ปัญหาที่เราเจอได้ นั่นมันหมายความว่ายังไงล่ะ?”
นาน ๆ ครั้งที่นานจะตั้งคำถามระหว่างการประชุม เมื่อพูดกันถึงไวเค็น นางก็ยอมเสียเวลาตั้งใจฟังดู
“ถ้าทฤษฎีต่าง ๆ อธิบายออกมาเหมือนกัน ก็หมายความว่าทฤษฎีพวกนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน” ดูเหมือนแฮททาเวย์จะคิดเรื่องนี้มานานแล้ว “เนื่องจากคลื่นและอนุภาคมีทั้งคุณสมบัติและลักษณะของอิเล็กตรอน กลศาสตร์เมทริกซ์และกลศาสตร์คลื่นก็อาจเท่ากันด้วยนะคะ”
ดักลาส เฟอร์นันโด เชลซี และเอริก้าต่างพยักหน้า “เราลองพิสูจน์ดูได้”
“ข้าคิดว่าวิธีทางคณิตศาสตร์ก็น่าจะเพียงพอ” บรูคคิดอยู่สักพักใหญ่แล้วก็พยักหน้า
แม้ว่าโอลิเวอร์จะคิดว่ามันเป็นไปได้ แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก ในสายตาของเขา กลศาสตร์เมทริกซ์น่าจะเป็นกรณีพิเศษของลักษณะอนุภาคในกลศาสตร์คลื่น
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ สมาชิกของสภาสูงสุดก็ออกจากที่ประชุม ลูเซียนและเฟอร์นันโดเป็นคนสุดท้าย
“ข้าว่าคำอธิบายของโอลิเวอร์ เรื่องนัยสำคัญเชิงอาร์คานาของฟังก์ชันคลื่นยังมีปัญหาอยู่ มันมีความขัดแย้งในตัวเองตอนที่เขาพยายามแก้โมเดลอะตอม ลองดูว่าโอลิเวอร์จะอธิบายยังไง” เฟอร์นันโดพูดขึ้นอย่างครุ่นคิดและสุขุม
ลูเซียนพยักหน้า “คำอธิบายเรื่องนัยสำคัญเชิงอาร์คานาของฟังก์ชันคลื่นต้องอยู่บนพื้นฐานปรากฏการณ์การทดลอง”
…
เริ่มต้นเดือนแห่งการเก็บเกี่ยว (กันยายน) ภายในห้องเรียนของวิทยาลัยเวทมนตร์โฮลต์…
โอโนเร คลาร์ก และเพื่อนร่วมชั้นเรียนกำลังรอเออร์เนสโต้มาแจกวารสาร เช่น อาร์คานา เวทมนตร์ และธรรมชาติ ไฮดี้ยืนอยู่ที่แท่นปราศรัย กำลังสอนวิชา ‘การเล่นแร่แปรธาตุใหม่เบื้องต้น’ นางดูท่าทางไม่ค่อยสู้ดี มองเท้าตัวเองที่ขยับไปมาตลอดเวลา ราวกับว่านางกำลังจะเหยียบรังมด
“อาจารย์ไฮดี้ดูไม่ค่อยสบายเหรอเปล่า?” คลาร์กกระซิบกระซาบกับโอโนเร ไม่ใช่เพราะเขาช่างสังเกต แต่เพราะอาการของไฮดี้ดูออกชัดเจน
โอโนเรส่ายหน้า “ข้าจะไปรู้ได้ไง? สงสัยถูกท่านอีวานส์ตำหนิมาจากสถาบันอะตอม หรืออาจทะเลาะกับเพื่อนมาก็ได้ ใครจะไปรู้ เหมือนว่าเราจะเปลี่ยนตำราใหม่อีกแล้วเหรอ?”
“ฮ่า ๆ เป็นไปได้ไง? เราต้องระวังอย่าให้นางหัวเสีย” คลาร์กเตือนโอโนเร
แม้ไฮดี้จะพยายามเลียนแบบวิธีการสอนของลูเซียน แต่ว่าแต่ละคนก็มีบุคลิกเป็นของตัวเอง จนนางค่อย ๆ ถูกลับหลังเรียกว่า ‘รอยยิ้มปีศาจ’
ตอนนั้นเอง เออร์เนสโตเดินถือกระเป๋าเวทมนตร์ใส่วารสารเข้ามา ท่าทางผิดปกติ เขาพูดห้วน ๆ “มาหยิบวารสารตามลำดับ”
ด้วยความสนิทชิดเชื้อกับเออร์เนสโต หลังจากการทดลองการเลี้ยวเบนอิเล็กตรอนครั้งก่อน โอโนเรก็สันนิษฐานว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นจากสีหน้าของเขา “เกิดทฤษฎีหรือการทดลองหักล้างอีกหรือไง?”
หลังจากรับวารสาร โอลิเวอร์ก็เปิดดูผ่าน ๆ ก่อนกลับไปยังที่นั่ง เขาได้คำตอบจากวารสาร ‘อาร์คานา’ ตั้งแต่บทความแรก นั่นคือ ‘สมการคลื่นของอนุภาคระดับจุลภาคและลักษณะของกลศาสตร์ควอนตัม’ โดยเอ็ดวิน บรูค และโอลิเวอร์ คอนสแตนติน
“สมการคลื่นและฟังก์ชันคลื่น…” โอโนเรไม่เคยคลางแคลงใจเลยว่าฟังก์ชันคลื่นของอิเล็กตรอนจะต้องปรากฏ หลังการยืนยันการทดลองเลี้ยวเบนอิเล็กตรอน แต่เขาก็ยังหายใจ เมื่อได้เห็นผลจริง ๆ อนุภาคระดับจุลภาคที่เป็นรูปธรรมมีฟังก์ชันคลื่น! ไม่น่าเชื่อ!
ไม่แปลกเลยที่อาจารย์ไฮดี้จะมีอาการไม่สู้ดี! เขาเข้าใจเหตุผลในทันที
หลังจากกลับมานั่ง โอโนเรสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เงียบงันและเศร้าหมองเหมือนที่ตัวเขาเองก็กำลังรู้สึกไม่ต่างกัน การพัฒนาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ ทุกคนต่างปวดหัวและแทบจะตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน
โอโนเรอ่านบทความเงียบ ๆ และค่อย ๆ หลงเสน่ห์มัน สมการคลื่นคลาสสิกที่คุ้นเคย การคำนวณและแนวคิดที่พร้อมให้เข้าใจ… มันง่ายกว่ากลศาสตร์เมทริกซ์มากนัก
ขณะเขาอ่านต่อไป โอโนเรก็ค่อย ๆ เข้าใจจนเกือบจะต้องหลั่งน้ำตา นี่คืออาร์คานา! นี่คือรากฐานของการเล่นแร่แปรธาตุใหม่! ท่านบรูคกับท่านโอลิเวอร์ยอดเยี่ยมเหลือเกิน! พวกเขามีมันสมองอัจฉริยะ!
“สุดยอดสมการคลื่นคลาสสิก! ชัดเจนและเข้าใจง่ายกว่ากลศาสตร์เมทริกซ์!” เสียงใครบางคนอุทานออกมา
“จริงรึ?” เสียงเศร้า ๆ ของไฮดี้สะท้อนไปทั่วห้องเรียนขนาดใหญ่
นักเวทที่พูดเริ่มหุบปาก แต่เขาก็ยังพูดกับตัวเอง “จริง แน่นอน!”
…
ณ สหพันธ์บทเพลงจันทรา และองค์กรหัตถ์ไร้ชีวา รวมถึงทุก ๆ ที่ที่มีนักเวทรวมตัวกัน บรรยากาศความประทับใจในบทความแผ่กระจายไปทั่ว
“อาร์คานากลับสู่จุดที่ควรเป็นเสียที!” หลังจากต้องปวดหัวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพมทั่วไปและกลศาสตร์เมทริกซ์ นักเวทสังกัดสหพันธ์บทเพลงจันทราก็แทบจะวางแผนจัดงานฉลองกันเลยทีเดียว
“ท่านบรูคกับท่านโอลิเวอร์ช่วยสร้างการเปลี่ยนยุคสมัย!”
“ข้าเกลียดตัวเองที่ไม่อาจทุ่มเทเวลาศึกษามันได้!”
วาคีน ประธานสหพันธ์บทเพลงจันทรา ถูคิ้วพูดด้วยความรู้สึกหลากหลาย “คลื่นเป็นรากฐานการดำรงอยู่จริง”
ก่อนหน้านี้ พวกเขาเถียงกันเพียงว่าแสงและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นหรือไม่ แต่นอกเหนือความคาดหมาย ตอนนี้แม้แต่อนุภาคพื้นฐานก็เป็นคลื่นเหมือนกัน พวกเขาคว้าชัยชนะมาได้อย่างไม่คาดคิด
“อย่างไรก็ตาม ลักษณะอนุภาคของอิเล็กตรอนและโฟตอนก็ชัดเจนมาก…” จูรีเซียนรินน้ำเย็นให้ประธาน “นอกจากนี้ ต้องมีคำยืนยันและสรุปให้เห็นว่าสามารถสร้างระบบการเล่นแร่แปรธาตุใหม่ด้วยสมการคลื่น”
วาคีนกับนักเวทคนอื่น ๆ ก็รู้เรื่องนี้ดี เพราะจอมเวทส่วนใหญ่ไม่มีความคิดที่จะถอนตัวจากเวทีอาร์คานา ถ้าไม่ใช่เวทีแห่งชีวิต ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
“โดยเฉพาะ ลูเซียน อีวานส์ ไม่ได้เสนอความเห็นอะไร?” วาคีนพูดเสียงเบา
คำพูดของเขาได้รับเสียงเห็นชอบทันที นักเวทหลายต่อหลายคนพึมพำด้วยความกลัว “ปีศาจเครื่องบดหัวคนนั้น…”
จูรีเซียนเพียงแค่ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่นให้กับความเจ็บช้ำของพวกเขาที่เกือบจะเป็นการเรียนรู้แบบมีเงื่อนไข “ยืนยันเสียก่อนว่าสมการคลื่นอธิบายโมเดลการเล่นแร่แปรธาตุใหม่ได้หรือไม่”
…
ภายในหอคอย…
เบิร์กเนอร์ ‘ศาสดาพยากรณ์’ อธิบายคำถามเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปให้นาตาชาและซาแมนธาฟัง
ในบรรดาอัจฉริยะที่โด่งดังรุ่นเดียวกับลูเซียน จูรีเซียน แลร์รี่ และยูลิสซิส ได้พัฒนาขึ้นสู่ชั้นอาวุโส หลังจากทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ราเชลก็มีพัฒนาการอันยอดเยี่ยมด้วยผลงานด้านโหราศาสตร์และภาพมายา ส่วนซาแมนธาก็ก้าวหน้าขึ้น หลังจากการใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปตอบคำตอบที่นางสงสัยด้านโหราศาสตร์
ดังนั้น นางจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป อย่างไรก็ตาม นางต้องปรึกษากับอาจารย์บ่อยครั้ง เนื่องจากนางยังไม่เข้าใจดี อาจารย์ของนาง นีชกา ไม่เข้าใจทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปถ่องแท้มากนักเช่นกัน พวกนางจึงต้องขอความช่วยเหลือจากดักลาสและศาสดาพยากรณ์บ่อย ๆ หรือบางทีก็เขียนจดหมายหาลูเซียน
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมการโอลิเวอร์-บรูค… การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกำลังเกิดขึ้นกับโลกจุลภาคทุก ๆ สามเดือน” ศาสดาพยากรณ์แสดงด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
หลังจากการประชุมของสภาสูงสุด ฐานทัพการสำรวจในโลกแห่งวิญญาณย้ายกลับไปยังเมืองไฮด์เลอร์ และถึงรอบที่อะทาแมน ‘แดนป้องกันขั้นสูงสุด’ จะเป็นผู้ดูแลฐานทัพ
นีชกายิ้ม “สำนักโหราศาสตร์น่าจะเน้นเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป เราก็คงไม่เกี่ยวข้องกกับโต้เถียงอันดุเดือด”
“แล้วยังไง? ดาวเคราะห์เกิดขึ้นมาจากอนุภาคขนาดเล็กด้วย” ซาแมนธาไม่ค่อยเห็นด้วยกับอาจารย์
เบิร์กเนอร์ยิ้มตอบ “ข้าเห็น้วยกับมุมมองการพิเคราะห์ของลูเซียน เราบอกไม่ได้ว่าอิเล็กตรอนเป็นคลื่น เราบอกได้เพียงว่ามันมีคุณสมบัติของคลื่น นอกจากนี้ ในการเปลี่ยนผ่านจากจุลภาคเป็นมหภาค ดูเหมือนปัจจัยแปลก ๆ จะปกป้องสถานะแปลก ๆ ในโลกจุลภาคจากการกำหนดแผนที่ในโลกมหภาค ดังนั้น การโต้แย้งไม่อาจกระทบต่อรากฐานของสำนักโหราศาสตร์”
ขณะพูด จู่ ๆ เขาก็ตะลึงงัน มีอะไรหนา ๆ ปิดกันดาวจรัสฟ้าแห่งเทวลิขิต มันต้องเป็นลางบอกเหตุแน่นอน!
การพิพาทเรื่องโลกจุลภาคจะกระทบต่อจักรวาลมหภาคหรือไม่?
ทำไมเขารู้สึกแข็งแรงกว่าเดิม?
มีสิ่งสำคัญกำลังจะ ‘ถูกทำลาย’?
…………………………………………………………………………………