ภายในมิติอาณาจักรแม่เหล็กไฟฟ้า บรูคหยุดเขียน มองฟังก์ชันคลื่นบนกระดาษอย่างตั้งอกตั้งใจ เขาสรุปว่ามันยอดเยี่ยมและกระชับได้ใจความ ราวกับว่าปริศนาทั้งหมดในโลกจุลภาคถูกบรรจุลงในบทความนี้
เขาไม่กังขาเลยว่าบทสรุปของเขาไม่มีที่ติ เพราะฟังก์ชันคลื่น ถ้าไขปริศนาแล้ว จะได้ผลให้ได้ชุดโซลูชันไม่ต่อเนื่อง หรือโซลูชันที่แบ่งลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการทดลองสองสามครั้ง นอกจากนี้ เขาก็ได้ผลตอบรับจากโลกความเป็นจริง โลกแห่งปัญญาที่เสียหายและเป็นปึกแผ่นของเขาก็คืนชีพกลับมา ราวกับมันจะแตกหน่อเติบโตอีกครั้งในไม่ช้า
กลศาสตร์เมทริกซ์จากมุมมองของอนุภาคและความไม่ต่อเนื่อง สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ในระบบการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย ฟังก์ชันคลื่นที่อยู่บนพื้นฐานมุมมองของคลื่นและความต่อเนื่องดูจะมีแนวโน้มที่ดีเช่นกัน อนุภาคและคลื่นรวมกันเป็นหนึ่งในระดับสูงเหมือนที่ลูเซียนบอกงั้นรึ? อนุภาคเชิงจุลภาค เช่น อิเล็กตรอน และโฟตอน เป็นวัตถุมีภาพเฉพาะที่เรายังสร้างไม่ถูกต้อง เราทำได้เพียงอธิบายคุณสมบัติของอนุภาคที่กำหนดได้ แม้ว่าคุณสมบัติจะขัดแย้งอยู่ภายใน”
เมื่อมองสูตรต่าง ๆ ในบทความของเขา บรูคนึกถึงคำถามว่าอะไรสำคัญที่สุดสำหรับเขา การทำความเข้าใจทวิภาคของคลื่น–อนุภาคและการวิเคราะห์ลักษณะของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นความหวังของเขาที่จะแปลงโฉมโลกแห่งปัญญาของเขาขึ้นใหม่ หรือแม้กระทั่งพัฒนาก้าวไปอีกขั้น
หลังการทดลองการเลี้ยวเบนอิเล็กตรอนที่หักมุมและยากจะเข้าใจ เขาก็เห็นด้วยกับคำอธิบายของลูเซียนเรื่องลักษณะของอิเล็กตรอนจากระดับสูง ไม่ยึดติดอยู่กับทฤษฎีคลื่นอีกต่อไป
กริ๊ง กระดิ่งดังขึ้นจากโต๊ะของเขา บรูคดึงสติคืนกลับมา หลังจากมีแสงวาบในดวงตา เขาก็ได้ยินเสียงโอลิเวอร์ “บรูค ท่านสร้างฟังก์ชันคลื่นอิเล็กตรอนเสร็จด้วยแล้วรึ?”
“เสร็จแล้ว เจ้าล่ะ?” บรูคเดาว่าโอลิเวอร์คงทำสำเร็จแล้วจากน้ำเสียงตื่นเต้นและสับสนของเขา
เมื่อได้ยินคำตอบของบรูค โอลิเวอร์ก็ยิ้มออกมา “งั้น เราก็ทำเสร็จเกือบพร้อมกันเลยสิ เพราะงั้นปฏิกิริยาของโลกจริงจึงไม่มากอย่างที่ข้าคิด สมการคลาสสิกที่สุดของโลกจุลภาคก็ช่วยให้ข้าทำลายอุปสรรคข้อนี้ และเอื้อมถึงประตูแห่งชั้นตำนานสูงสุดไม่ได้ เป็นไปได้ยังไง?”
เสียงของเขาฟังดูโล่งอกอย่างชัดเจน ปฏิกิริยาจากโลกจริงเกือบทำให้เขาสงสัยถึงความสำคัญหรือความสมบูรณ์ของสมการ
พูดรวม ๆ แล้ว ยากที่จะตัดสินว่าทฤษฎีไหนถูกต้องสมบูรณ์จากปฏิกิริยาจากโลกจริง เพราะก็อาจมีปฏิกิริยาตราบเท่าที่ใกล้เคียงกับความจริงกว่าทฤษฎีก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เมื่อยืนยันความถูกต้องของทฤษฎีด้วยปฏิกิริยาตอบกลับจากโลกความเป็นจริง โลกแห่งปัญญาก็อาจเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ฉะนั้น เมื่อมีการทดลองทฤษฎีที่ขัดแย้ง หัวของผู้ทดลองอาจระเบิด ถ้าความพยายามใกล้เคียงกับความจริงครั้งแรก
โอลิเวอร์เกิดความสงสัยในครั้งนี้ เพราะปฏิกิริยาตอบสนองน้อยกว่าที่เขาเคยเจอในอดีต
“บางทีน้ำหนักมันน้อยลงด้วยเหตุผลอื่นด้วย… เราต่างเปรียบเทียบตามทฤษฎีคลาสสิก ก่อนเราจะสร้างสมการคลื่นอิเล็กตรอนโดยไม่ก่อกวนความสำคัญและตรรกะของอาร์คานา จนกว่าเราจะกลับมายืนยันความถูกต้องและมองหานัยสำคัญเชิงอาร์คานาเฉพาะ ดังนั้น ก่อนที่เราจะเขียนคำอธิบายอาร์คานาเรื่องฟังก์ชันคลื่นฉบับเต็ม ปฏิกิริยาตอบสนองของโลกความเป็นจริงก็อาจลดลง” บรูควิเคราะห์หาเหตุผล เขาค่อนข้างพอใจกับฟังก์ชันคลื่น แต่เขาก็ค่อนข้างใจเย็น
โอลิเวอร์หัวเราะคิกคัก “มีนัยสำคัญเชิงอาร์คานาอะไรกัน? อิเล็กตรอนเป็นคลื่น วงโคจรและระดับพลังงานเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงของการสั่นสะเทือน แต่แน่นอน เราไม่ควรด่วนสรุปตอนที่เรายังไม่มีข้อพิสูจน์ เราต้องแก้ปัญหาในระบบการเล่นแร่แปรธาตุสมัยใหม่ รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับโมเดลไฮโดรเจนที่มีฟังก์ชันคลื่น และเราต้องหาคุณสมบัติของฟังก์ชันคลื่นอิเล็กตรอน”
เขาตื่นเต้นมาก แต่เขาก็ไม่ได้อ้างในทันทีว่าสมการคลื่นของเขาถูกต้องและใกล้เคียงกับความจริงยิ่งกว่ากลศาสตร์เมทริกซ์ของลูเซียน
“เราสันนิษฐานได้เกือบจะพร้อม ๆ กัน เราควรจะเรียกสมการนี้ว่าสมการโอลิเวอร์-บรูคดีไหม?” โอลิเวอร์เสนอ
บรูคขมวดคิ้ว แต่ก็ตอบอกมา “ไม่ใช่ปัญหา”
หลัก ๆ เพราะเขาจำได้ว่า ‘รายการความจริงของโลก’ เคยแซววิธีการตั้งชื่อแบบนี้ ชื่อของเจ้าเป็นชื่อต้นของข้า และชื่อของข้าเป็นชื่อสกุลของเจ้า เขาเองก็รู้สึกว่ามันแปลก ๆ
หลังจากการสนทนาจบลง บรูคก็เคาะโต๊ะ “กลศาสตร์เมทริกซ์จากมุมมองของอนุภาคสามารถแก้ปัญหาในการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยได้ และยังถูกพาดพิงในวงกว้าง… หมายความว่านัยสำคัญเชิงอาร์คานาของฟังก์ชันคลื่นแตกต่างจากคลื่นปกติใช่ไหม?…”
“เรื่องฟังก์ชันคลื่น ข้าน่าจะต้องเขียนจดหมายถึงเฟอร์นันโด แฮททาเวย์ เฮลเลน วิเซนเต และรวมถึงลูเซียน”
เขาไม่ได้เอ่ยถึงดักลาส เพราะเขาเชื่อว่าโอลิเวอร์คงเป็นฝ่ายเขียนจดหมายหาดักลาสเอง เขายังเชื่อว่าลูเซียนที่เสนอทฤษฎีทวิภาคคลื่น-อนุภาค คงไม่มองว่าฟังก์ชันคลื่นยอมรับไม่ได้
…
ถึงแม้เขาจะเคยเห็นภาพจักรวาล ลูเซียนก็ยังติดอยู่ในความคิดเดิม ๆ ในการศึกษาอาร์คานา และยึดถือทุกอย่างตามข้อมูลการทดลองและการสังเกต เนื่องจากเขามีวิสัยทัศน์กว้างไกลกว่าจอมเวทคนอื่น ๆ แล้วทำไมเขาต้องเสี่ยงซี้ซั้ว? และที่สำคัญกว่านั้น การศึกษาก็เป็นกระบวนการเรียนรู้และการทำความเข้าใจ ลูเซียนไม่อยากตกเป็นฝ่ายจนมุม ถ้าเขาไม่มีหลักฐานอ้างอิงในอนาคต
เสียงเข็มนาฬิกาพกเดินดังให้ได้ยิน เตือนเขาว่าถึงเวลามื้อค่ำ นาตาชาดูกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นหลังจากไม่ต้องมาคอยกังวลอะไร นางเดินเข้ามาพร้อมกับจดหมายสองฉบับ “ลูเซียน จดหมายจากท่านบรูคและท่านโอลิเวอร์ ดูเหมือนทั้งสองคนจะพบความก้าวหน้าใหม่”
หลังจากภาระหน้าที่ในฐานะราชินีเสร็จสิ้น นาตาชามักช่วยเป็นเลขาให้ลูเซียน โดยช่วยเขาส่งจดหมายและคอยหยิบจับเอกสารการทดลอง นางจึงสรุปเรื่องเอาได้จากความหนาของซองจดหมาย แต่ลูเซียนก็มักห้ามไม่ให้นางเข้าห้องทดลอง ตอนที่เขาทำการทดลองที่เข้มงวด เพราะเขายังไม่ลืมอุบัติเหตุที่นางก่อขึ้นครั้งก่อน
หลังจากเปิดจดหมาย ลูเซียนก็ยิ้มออกมาพอเริ่มอ่าน
“มีอะไร? การทดลองของท่านบรูคมีอะไรผิดปกติเหรอ?” นาตาชาเกาคางถามด้วยความสงสัย นางยังไม่มีความรู้มากพอที่จะเข้าใจบทความเรื่องฟังก์ชันคลื่น และเพียงอนุมานเอาจากสีหน้าของลูเซียน
ลูเซียนเอนหลังพิงเก้าอี้ นาตาชาวางมือของนางบนหน้าผากของเขาและช่วยนวดให้เขาผ่อนคลาย
“อัศวินทองคำแข็งแกร่งจริง ๆ” ลูเซียนแซวนาง
นาตาชาเลิกคิ้ว “ข้ายังไม่ได้ลงน้ำหนักเต็มแรงเลยนะ ไม่งั้นสมองเจ้า คงเละ เลือดแดง ๆ เศษสมองกระจายไปทั่วแล้ว”
“… เราไม่พูดถึงอะไรแบบนั้นในเวลาดี ๆ แบบนี้ได้ไหม?” ลูเซียนเบะปาก
นาตาชาหัวเราะ “ในฐานะภรรยาของเครื่องบดศีรษะ ข้าว่านี่เรื่องปกตินะ เอาล่ะ เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามข้าเลย ผลทดลองของท่านบรูคมีอะไรผิดปกติไหม?”
“ไม่ นี่เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่” ลูเซียนพูดออกมาอย่างจริงใจ
…
ไม่นานหลังจากสำรวจโลกแห่งวิญญาณ ดักลาสก็เรียกประชุมสภาสูงสุด เตรียมพร้อมอภิปรายประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้ รายงานที่เฟอร์นันโด ลูเซียน และเขาตั้งใจส่งทำให้คิดได้ว่าธานอสและไวเค็นกลายเป็นมนุษย์ครึ่งเทพไปแล้ว พวกเขาเพียงแต่บอกว่าธานอสกับไวเค็นกลายเป็นมนุษย์ครึ่งเทพด้วยการรวบรวมความเชื่อ และกลายเป็นปีศาจยุคบรรพกาลผ่านวงเวทพิเศษโดยไม่ลงรายละเอียดที่พวกเขารู้มา
นั่นก็เพราะทั้งหมดกังวลว่าจะมีคนจากสภาสูงสุดก้าวสู่หนทางแห่งหายนะของปีศาจยุคบรรพกาลอีกครั้ง ทั้งสามเก็บความลับนี้ไว้กับตัว และจะไม่เปิดเผยกับสภาสูงสุด จนกว่าดักลาสหรือใครสักคนกลายเป็นมนุษย์ครึ่งเทพบนวิถีทางแห่งอาร์คานา เมื่อถึงตอนนั้น วิถีทางที่สว่างไสวก็จะนำทางให้ทุกคน และเชื่อว่าคงมีไม่กี่คนที่จะเลือกเส้นทางที่จะก่อปัญหาตามมา ถึงแม้พวกเขาจะเป็นฝ่ายเลือกเอง มนุษย์ครึ่งเทพก็สามารถจัดการพวกเขาได้โดยง่าย
ลูเซียนมาเร็วกว่าเวลานัดตามนิสัยของเขา แต่ห้องประชุมว่างเปล่า และเคลาส์ก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ปกติแล้ว เคลาส์จะเป็นคนที่มาประชุมเร็วที่สุด
เมื่อเห็นอย่างนั้น ลูเซียนก็ถอนหายใจและรู้สึกเศร้า
หลังจากเขานั่งลงสักพัก ราเวนติที่มีผมหงอกขาวก็เดินเข้ามา หลังจากลูเซียนเสนอกลศาสตร์เมทริกซ์และแก้ปัญหามากมายในการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย เขาก็กลายเป็นเจ้าแห่งธาตุผ่านพิธีกรรมโดยไม่รอช้า เนื่องจากพลังระดับชั้นตำนานของเขาคาบเกี่ยวกับระดับของแฮททาเวย์ เขาจึงได้ได้ตำแหน่งชั้นตำนนานว่า ‘กระแสแห่งธาตุ’
“ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ ท่านราเวนติ” ลูเซียนลุกขึ้นยืนแสดงความยินดี
ราเวนติพยักหน้าทักทาย “ถ้าเจ้าไม่เสนอการเปลี่ยนแปลง ข้าคงไม่ได้ขึ้นชั้นตำนานเร็วขนาดนี้”
“ไม่มีใครช่วยนักเวทที่ไม่ทุ่มเท่ทำงานและศึกษาให้กลายเป็นชั้นตำนานได้หรอกขอรับ” ลูเซียนแสดงความชื่นชมออกมาเล็ก ๆ
ราเวนติส่ายหน้า “ข้าดีใจกับโลกจุลภาคกับปริศนาที่เจ้าเสนอเสียมากกว่าความก้าวหน้าของข้า”
เมื่อสมาชิกสภาสูงสุดคนอื่น ๆ เข้าห้องประชุมา หัวข้อการอภิปรายก็เปลี่ยนเป็นเรื่องสมการคลื่นโอลิเวอร์-บรูค
ในจังหวะนั้นเอง บรูคกับโอลิเวอร์ที่หารือกันมาตลอดทางก็มาถึง
ดักลาสลุกขึ้นยืนพร้อมกับรอยยิ้ม “ยินดีด้วยกับผลความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่”
บรูคพูดด้วยน้ำเสียงสุขุมเหมือนเดิม “ยังมีงานต้องทำอีกมาก จนกว่าเราจะสร้างระบบการเล่นแร่แปรธาตุใหม่ด้วยสมการคลื่นที่แตกต่างจากของกลศาสตร์เมทริกซ์ มันก็ยังไม่ยิ่งใหญ่จริง ๆ หรอกขอรับ”
“ยังไงก็เถอะ นี่เป็นหมุดหมายสำคัญในการศึกษาโลกจุลภาค” เชลซี โฮลต์ ปราชญ์แห่งจันทรา พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น หลังจากทรมาทรกรรมกับกลศาสตร์เมทริกซ์มาหลายเดือน นางจึงตื่นเต้นสุด ๆ ที่ได้คำตอบจากสมการคลื่นที่นางคุ้นเคย “ข้าศึกษาสมการนี้มาหลายวัน หวังว่าจะไขปริศนาของทุกอย่างได้”
เฟอร์นันโดก็พึมพำออกมา “ผลวิจัยของเจ้าก็ไม่เลว”
“ฮ่า ๆ ข้ายังเชื่อว่าจะสร้างระบบการเล่นแร่แปรธาตุใหม่ที่เข้าใจง่าย กระชับ คลาสสิก และเป็นที่ยอมรับให้กับจอมเวทที่ไม่ซับซ้อน วุ่นวาย และเข้าใจยากเหมือนกลศาสตร์เมทริกซ์” โอลิวเวอร์พูดพร้อมกับรอยยิ้ม “ลูเซียน ข้าไม่ได้บอกว่ากลศาสตร์เมทริกซ์ของเจ้าผิดหรอกนะ แต่มันใกล้กับคณิตศาสตร์บริสุทธิ์เกินไป มันขาดนัยสำคัญเชิงอาร์คานา และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะศึกษา ได้ยินมาว่าเจ้าเวท 99% ของวิทยาลัยเวทมนตร์โฮลต์ต่างสาปแช่งกลศาสตร์เมทริกซ์”
นอกจากนี้ ธรรมชาติของทุก ๆ สิ่งก็คือคลื่น”
หลังจากฟังก์ชันคลื่นปรากฏขึ้น ทฤษฎีคลื่นและทฤษฎีอนุภาคก็ดูเหมือนจะวิวาทกันอีกครั้ง แต่ด้วยแนวคิดที่ลูเซียนเสนอก่อนหน้านี้ ข้อพิพาทเลยไม่ได้อุบัติในทันที แฮททาเวย์กับคนอื่น ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เมื่อรู้สึกว่าทุกคนกำลังมอง ลูเซียนยิ้มออกมา “ข้ามีคำถามเกี่ยวกับฟังก์ชันคลื่น นัยสำคัญเชิงอาร์คานาคืออะไรกันแน่?”
“มันคือฟังก์ชันการกระจายอิเล็กตรอนเป็นคลื่นในอวกาศ แล้วทำไมอิเล็กตรอนถึงมีลักษณะเป็นอนุภาค ข้ามีแนวคิดจะเสนอ แล้วจะอธิบายลงบทความในภายหลัง” โอลิเวอร์พูดอย่างมาดมั่น “ลูเซียน เจ้ามีคำถามอีกไหม?”
ลูเซียนยิ้มตอบ “ยังไม่มีขอรับ”