ณ วันศุกร์สุดท้าย เดือนเมษายน ปี 827 บนชั้นที่สามสิบเอ็ดของหอคอยเวทมนตร์อัลลินเต็มไปด้วยผู้คนเสียงดังเซ็งแซ่
“ที่นี่น่าจะมีนักเวทมารวมตัวกันเยอะที่สุด…” ไฮดี้พูดติดตลกกับแคทรีนา แอนนิค และเพื่อนๆ ของนางท่ามกลางฝูงชน
ลูเซียน ‘ผู้บัญชาอะตอม’ อีวานส์ กำลังจะเปิดชั้นเรียนวิชาโลกจุลภาคเช้าวันนี้ นักเวทส่วนใหญ่ต่างก็ปรารถนาและแสวงหาโอกาสเข้าร่วมชั้นเรียน ผู้นำของวิทยาลัยเวทมนตร์โฮลต์ถึงกับต้องออกข้อกำหนดว่า อาจารย์และศิษย์ของวิทยาลัยมีสิทธิเลือกว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้ แต่สำหรับนักเวทคนนอกนั้นต้องขึ้นอยู่กับเวลาที่สมัครเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงสิทธิพิเศษหรือว่าระดับใดๆ ทั้งสิ้น
สปรินต์ขมวดคิ้วใส่ไฮดี้ “ทำไมเจ้าต้องลากเรามานี่? ถ้าเจ้ามีคำถามอะไร เจ้าก็ถามส่วนตัวได้อยู่แล้ว”
ไฮดี้หัวเราะเบาๆ “นานแล้วนะที่เราไม่ได้เห็นอาจารย์ขึ้นเวที เราจะพลาดโอกาสนี้ได้ไง?”
ถ้านับนางเป็นตัวอย่าง จอมเวทส่วนใหญ่ในสถาบันอะตอมรับงานเสริมที่วิทยาลัยเวทมนตร์โฮลต์ และคืน ‘สิทธิพิเศษ’ ที่ได้รับจากอาจารย์ให้สังคม
“ก็จริง ข้าคิดถึงชีวิตที่ไร้กังวลในโรงเรียนเวทมนตร์” เลย์เรียเดินตามไฮดี้เข้าไปในชั้นเรียน
ผู้ดูแลหอคอยพรอสเปลล์เปิดวงเวทพับอวกาศชั่วคราว ทำให้ห้องเรียนสามารถรองรับผู้คนได้หลายพันคน
เมื่อสภาพแวดล้อมไม่อำนวยให้พิจารณาคำถามมากนัก แอนนิคก็เห็นด้วยกับความคิดที่ฉุกละหุกของไฮดี้ “โอกาสแบบนี้หายาก ไม่รู้เมื่อไหร่อาจารย์จะจัดสอนทางการแบบนี้อีก นี่น่าจะช่วยให้เราเห็นข้อผิดพลาด เห็นว่าเราผิดอะไรบ้าง ดูสิ ท่านแกสตัน ท่านหญิงอิซาเบลลา ท่านแลร์รี่ ท่านเดียป ท่านเค ท่านหญิงซาแมนธา และท่านหญิงราเชล…อยู่นี่กันหมด”
เขาตั้งใจจะเอ่ยชื่อนักเวททุกคนที่เขารู้จัก แต่ไม่ช้าก็พบว่ามันยากยิ่งกว่าการศึกษาโลกจุลภาคเสียอีก
“ใช่เลย ตรงเผง ที่แอนนิคพูดแหละเป้าหมายหลักของข้า” ไฮดี้ยืมทฤษฎีของแอนนิคมาพูดหน้าตาเฉย และพาทุกคนไปที่ที่นั่ง
แคทรีนาสูดลมหายใจ “วันนี้อาจารย์จะบรรยายเรื่องอะไร?”
แม้แต่ทั้งเลย์เรียและทั้งนางก็แทบจะยอมแพ้กับการพัฒนาโลกจุลภาค และต้องทำงานหนักมากเพื่อตามกระแสให้ทัน ถ้าไม่ได้รากฐานคณิตศาสตร์ที่มั่นคงจากลูเซียน พวกนางคงถูกยอดจอมเวทในเรื่องโลกจุลภาคทิ้งห่างไปไกล
“นี่เป็นชั้นเรียนที่เปิดกว้างสำหรับอาจารย์และนักศึกษาทุกคน ท่านอีวานส์คงไม่ลงลึกเกินไป น่าจะเป็นการวิเคราะห์ภาพรวมให้ทุกคนเข้าใจ” อัลฟาเลียก้าวหน้าไปไกลมาก หลังจากอยู่กับสถาบันอะตอมมาสี่ปี แต่นางก็ยังไม่ค่อยเข้าใจโลกจุลภาค และต้องอาศัยบทความวิจารณ์ภาพรวมช่วยนางทำความเข้าใจ
แต่อีกมุมหนึ่ง สปรินต์พูดขึ้นอย่างมีความหวังว่า “หรือว่าอาจารย์จะเสนอทฤษฎีใหม่ที่อธิบายความไม่แน่นอนของอนุภาคจุลภาค”
“ไม่น่าใช่… นั่นเป็นปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจุลภาค และอาจกระทบต่อความเป็นจริงของโลก” แอนนิคส่ายหน้า “ตามแนวคิดที่อาจารย์เชื่อมั่น ความน่าจะเป็นและความไม่แน่นอนเป็นคุณลักษณะโดยเนื้อแท้ของอนุภาคขนาดเล็ก เป็นสิ่งรบกวนที่หลีกเลี่ยงได้จากการสังเกต ถ้าเราเจอว่าทำไมอนุภาคขนาดเล็กถึงมีคุณสมบัตินี้ หมายความว่าเราเข้าใจโลกจุลภาคอย่างถ่องแท้”
ไฮดี้ทำจมูกฟุดฟิด “คำอธิบายของอาจารย์ขัดแย้งกับทฤษฎีนิยัตินิยมเพราะงี้จอมเวทจากสำนักโหราศาสตร์ทั้งอิซาเบลลา ทั้งซาแมนธาเลยอยู่นี่”
ท่ามกลางเสียงกระซิบของทุกคน ทอมป์สัน รองอาจารย์ใหญ่แห่งวิทยาลัยเวทมนตร์โฮลต์ และสมาชิกคณะกรรมการกิจการ ก็เดินเข้ามา เขาดันแว่นขอบทองบนจมูกก่อนพูดขึ้น “เงียบ”
ด้วยความช่วยเหลือของแถวเครื่องกระจายเสียง ห้องเรียนที่แออัดก็เสียงเงียบลงทันที
“เวลาต่อจากนี้จะเป็นของท่านลูเซียน อีวานส์ ซึ่งจะมาตีความปริศนาโลกจุลภาคให้เราฟัง” เขารู้ว่าไม่วายจะถูกรุมถล่มเอา จึงรีบจบการเกริ่นนำโดยรวดเร็ว
จากนั้น ลูเซียน ในชุดสูทกระดุมสองแถวและหูกระต่ายสีเดียวกัน ก็เดินเข้ามาจากประตูด้านข้าง เขาวางหมวกทรงสูงลงบนโต๊ะ
“เวลาของทุกคนมีค่า เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า การศึกษาเกี่ยวกับโลกจุลภาคต้องย้อนกลับไปถึงสงครามทฤษฎีระหว่างคลื่นกับอนุภาคเกี่ยวกับแสง เราเริ่มเข้าใจลักษณะเฉพาะของอนุภาคขนาดเล็ก…” ลูเซียนเริ่มต้นด้วยเรื่องเบาๆ อย่างการทดลองคลื่นแสงแบบดั้งเดิมและอธิบายไปถึงการยืนยันลักษณะอนุภาคของแสง
นี่เป็นข้อมูลที่นักเวทต่างคุ้นเคย ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี และก็ดำดิ่งตามลูเซียนในไม่ช้า
…การค้นพบรังสีแคโทด การยืนยันการมีอยู่ของอิเล็กตรอน การเปิดเผยโครงสร้างภายในของอะตอม การตรวจสอบโปรตอน การเสนอการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย… ทวิภาคของคลื่น–อนุภาค ที่ถูกอ้างถึงตั้งแต่เรื่องแสง จนถึงอนุภาคขนาดเล็กทั้งหมด ความขัดแย้งระหว่างการทดลองมากมายในโลกจุลภาคกับความเป็นจริง การออกแบบกลศาสตร์เมทริกซ์ การอธิบายฟังก์ชันคลื่น และการอภิปรายจากคำอธิบาย และทวิภาคของคลื่น–อนุภาค รวมถึงความเห็นที่แตกต่างกันของมหาจอมเวทและจอมเวทระดับสูง ลูเซียนอธิบายข้อมูลทั้งหมดให้กับผู้เข้าฟังการบรรยายอย่างชัดเจน
ไม่มีการคำนวณหรือความรู้ที่ยากเกินเข้าใจ มีเพียงความเข้าใจทั่วไปในโลกจุลภาค ทุกคนรู้สึกทึ่งและหลงลืมเวลาที่ผ่านไป
“ท่านอีวานส์นำเสนอคำอธิบายทั้งหมดอย่างเป็นกลาง เขายังวิเคราะห์ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงเกิดความขัดแย้ง เขาไม่เคยบอกว่าทฤษฎีของเขาถูกต้องที่สุด ทฤษฎีอื่นไร้ค่า” เดียปพยักหน้าด้วยความชื่นชม ทัศนคติเรื่องอาร์คานาของท่านอีวานส์ไม่มีที่ติ ยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสำเร็จมากมายตั้งแต่วัยหนุ่ม
ไม่นาน ลูเซียนก็จบการเกริ่นนำ เขายิ้มให้ทุกคน “นี่เป็นการสรุปส่วนแรกในการบรรยาย เอาล่ะ ข้าขอเตือนพวกท่านว่า ข้าพยายามเลี่ยงคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนในการบรรยายก่อนนี้ แต่สิ่งที่เราพึ่งพาได้มีเพียงแค่คณิตศาสตร์และการทดลองในโลกจุลภาคเท่านั้น”
ไฮดี้ และสหายของนางในสถาบันอะตอมไม่แปลกใจกับคำพูดของลูเซียน เพราะเป็นสิ่งที่อาจารย์พูดกรอกหูลูกศิษย์มาตลอด ส่วนจอมเวทที่ไม่เคยเรียนกับลูเซียน พวกเขาก็เข้าใจถึงความสำคัญของคณิตศาสตร์อยู่แล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงสำคัญขนาดนั้น
ลูเซียนมองไปรอบๆ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “โลกจุลภาคเป็นโลกที่เราสังเกตด้วยตาเปล่าตรงๆ ไม่ได้ วิธีการสังเกตทั้งหมดที่เรามีอยู่ส่งผลต่อโลกจุลภาคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงได้ผลลัพธ์แปลกประหลาด ซึ่งตอบได้ด้วยคำอธิบายและแบบจำลองทฤษฎีไม่ซ้ำกัน แวบแรกที่เห็นก็ดูเหมือนสมเหตุสมผลทั้งนั้น”
“อย่างไรก็ตาม ข้าอยากชี้ให้เห็นว่าในขอบเขตจุลภาค ที่ซึ่งประสบการณ์ในอดีตใช้ไม่ได้ และระเบียบวิจัยที่เราใช้ก็ผิดพลาด คำอธิบายและแบบจำลองทฤษฎีทั้งหมดต้องสร้างขึ้นบนทฤษฎีคณิตศาสตร์อย่างเคร่งครัด มิฉะนั้น จะไม่มีคำอธิบายหรือสมมติฐาน จะมีก็แต่ความเพ้อฝันและจินตนาการเท่านั้น!”
“คณิตศาสตร์ไม่โกหก…” นีชกาพูดเสียงเบา ความมั่นใจและคำพูดของลูเซียนทำให้เขาประทับใจไม่รู้ลืม
ทัศนคติที่เคร่งขรึมของลูเซียนปลุกจอมเวทส่วนใหญ่ ซึ่งเข้าใจความสำคัญของคณิตศาสตร์ในขอบเขตจุลภาคอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“ข้าเชื่อว่าพวกท่านทุกคนคงสงสัยเรื่องทวิภาคของคลื่น–อนุภาคของอิเล็กตรอน เรื่องเมฆความน่าจะเป็นที่มีอยู่เต็มอวกาศ และอิเล็กตรอนจะผ่านร่องคู่พร้อมกันได้หรือไม่…” แล้วจู่ๆ ลูเซียนก็ตั้งคำถามขึ้นมา
จอมเวทส่วนใหญ่พยักหน้าเร็วๆ มันเป็นปัญหาที่ยากและขัดแย้งกันมากที่สุดจนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตาม แอนนิคและลูกศิษย์คนอื่นๆ ของลูเซียนต่างเบิกตากว้าง ทุกคนรู้จักอาจารย์ของตนดี อะไรๆ ไม่ง่ายอย่างนั้นแน่นอน!
“อาจารย์เตรียมการทดลองอิเล็กตรอนผ่านร่องคู่เสร็จแล้วรึ?” หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ไฮดี้ก็นึกถึงโครงการที่อาจารย์กำลังง่วนอยู่ขึ้นมาได้ นั่นจะเป็นการยืนยันครั้งสำคัญถึงการมีอยู่ของอิเล็กตรอนในทวิภาคของคลื่น–อนุภาค!
แอนนิคกับสปรินต์ไม่สนใจจะคุยกับนาง พวกเขาเพ่งสายตาไปที่เวที รอประโยคต่อไปของอาจารย์ด้วยหัวใจที่เต้นแรง
หลังจากเงียบไปนาน ลูเซียนก็พูดขึ้นว่า “เราจะพักห้านาที จากนั้น ข้าขอเสนอการทดลองอิเล็กตรอนผ่านร่องคู่”
“อะไรนะ?” เสียงอุทานด้วยความตกใจดังก้องไปชั้นเรียน การทดลองสำคัญขนาดนี้จะมาเสนอในโอกาสนี้หรือ?
หลังจากพากันตกตะลึงในตอนแรก พวกเขาก็ตื่นเต้น พวกเขาจะได้เป็นสักขีพยานประวัติศาสตร์และปาฏิหาริย์เชียวหรือนี่?
ลูเซียนไม่พูดอะไรต่อ เขาแค่เอาแผ่นโลหะธรรมดาๆ ออกมาแผ่นหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีร่องด้วยซ้ำ ถ้าไม่อย่างนั้น ร่องคงมีขนาดเล็กเกินกว่าจะสังเกตเห็น
“ร่องเล็กๆ แบบนั้นต้องใช้เวลาแกะหลายเดือน แม้จะใช้เวทมนตร์ชั้นตำนานก็เถอะ” เหล่าจอมเวทกระซิบกัน บางส่วนก็รีบแจ้งอาจารย์ของตนให้มาร่วมงาน พวกเขาเชื่อว่าเหล่าผู้วิเศษจะไม่หยุดอยู่กับที่
ลูเซียนหยิบอุปกรณ์ออกมาทีละชิ้น ไม่นาน ก็ตั้งเวทีทดลองยืนยันการแทรกสอดของอิเล็กตรอนผ่านร่องคู่เสร็จ ในระหว่างนี้ ลูเซียนก็ดึงภาพจากหน้าจอตัวส่งสัญญาณด้วยวงเวท และฉายไปบนผนัง หลังจากขยายให้ใหญ่ขึ้น
ตอนนั้นเอง บรูค และโอลิเวอร์ ซึ่งเป็นมหาจอมเวทอีกสองคน ก็มาถึง ทั้งสองไม่แปลกใจที่ลูเซียนทำแผ่นโลหะที่ต้องใช้ในการทดลองอิเล็กตรอนผ่านร่องคู่เสร็จก่อนพวกเขา ก็ลูเซียนเป็นผู้มีพลังชั้นตำนานที่ใกล้ขึ้นสู่ระดับสาม และเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งในเรื่องโลกจุลภาคอย่างไร้ข้อกังขา
ทั้งสองน่าจะนั่งรอผลการทดลองสุดท้ายเฉยๆ แต่การศึกษาอาร์คานาและความจริงทำให้พวกเขาต้องยืนขึ้นกลางห้องบรรยาย เพื่อขอดูการทดลองด้วยตาตนเอง โดยไม่ห่วงภาพพจน์ของตนเองแล้ว
อีกหนึ่งนาทีถัดมา ดักลาสก็อยู่ที่นั่น เฟอร์นันโดก็อยู่ที่นั่น เฮลเลนก็อยู่ที่นั่น และแฮททาเวย์ก็อยู่ที่นั่น ทุกคนล้วนเป็นนักเวทชั้นตำนานและผู้วิเศษ
ลูเซียนก้มหน้าลงหลับสายตา จากนั้นเขาก็หัวเราะฝืดๆ ที่ไม่มีใครได้ยิน แล้วเขาก็ลืมตาขึ้นและเดินเข้าไปยังอุปกรณ์ทดลอง “ต่อไปนี้ เราจะทำการทดลองอิเล็กตรอนผ่านร่องคู่”