บทที่ 664 การสังเกตเปลี่ยนโลก
ภายในห้องบรรยายขนาดใหญ่ บรรยากาศเงียบมากจนได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจ
ลูเซียนเปิดอุปกรณ์ทดลอง ภายในภาพฉายบนผนัง มีจุดแสงจำนวนมากปรากฏขึ้น มันปรากฏขึ้นอย่างไร้รูปแบบ ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจุดแสงจะโผล่ขึ้นตรงไหนต่อไป
จุดแสงปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ ไฮดี้อ้าปากหวอค้างด้วยความประหลาดใจ ในสายตาของนาง เต็มไปด้วยภาพการแทรกสอดของแสงที่ดูงดงามและคลาสสิก!
จอมเวทต่างสูดหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความประหลาดใจ หมดข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติคลื่นของอิเล็กตรอน ไม่มีทฤษฎีอนุภาคล้วนๆ ทฤษฎีไหนที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ได้
“การแทรกสอดของอิเล็กตรอนผ่านร่องคู่…” ดักลาสที่หลังห้องบรรยายพูดเสียงเบาๆ เขายังรับผลการทดลองไหวอยู่
ในปีที่ผ่านมา ความลับของเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของโลกจุลภาค และผลของการทดลองมากมายทำให้ดักลาส เฟอร์นันโด และจอมเวทแถวหน้าคนอื่นๆ เตรียมใจไว้แล้วสำหรับแนวคิดกลุ่มหมอกอิเล็กตรอน และมีความเข้าใจทวิภาคของคลื่น–อนุภาคลึกซึ้งยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องหนึ่งที่ขัดแย้งกับลูเซียนก็คือพวกเขาเชื่อว่ายังมีคำอธิบายคุณสมบัติพวกนี้เพิ่มเติม กลศาสตร์ควอนตัมของลูเซียนจึงยังไม่สมบูรณ์แบบ
แม้จะเห็นภาพการแทรกสอดของแสง มหาจอมเวททั้งหลายก็ยังคงตื่นเต้นกันมาก แต่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ากลุ่มหมอกอิเล็กตรอนจะมีคุณสมบัติเป็นคลื่นบริสุทธิ์เช่นนี้!
ด้วยภาพริ้วแสงและความมืดเหนือจินตนาการที่ปรากฏ ลูเซียนหันข้างเล็กน้อยและชี้ไปที่แสง “หลายๆ คนอาจสงสัยภาพตรงหน้า หรืออุปกรณ์ทดลองของข้า ถ้าเป็นอย่างหลัง เชิญมาตรวจดูได้ตลอด แต่ถ้าเป็นอย่างแรก ข้าก็จะบอกว่าพวกท่านกำลังเห็นสิ่งที่ควรจะได้เห็น!”
“ถ้าอิเล็กตรอนมีคุณสมบัติคลื่นอย่างเดียว แสงจะผ่านทีละร่องเท่านั้น และเราจะเห็นภาพเลี้ยวเบนสองภาพซ้อนกัน แต่การทดลองนี้พิสูจน์แล้วว่านั่นไม่จริง นี่เป็นภาพเลี้ยวเบนมาตรฐานตามปกติ นั่นหมายความว่าอิเล็กตรอนรับอิทธิพลจากอิเล็กตรอนอีกตัวที่ตามมา หรือไม่ตัวอิเล็กตรอนเองจะแทรกสอดผ่านร่องคู่พร้อมกัน จึงเกิดเป็นการแทรกสอดตัวเอง ฉะนั้น ภาพจึงเกิดขึ้นบนหน้าจอ”
“ไม่ว่าคำอธิบายไหนจะถูก ความเป็นไปได้ทั้งสองพิสูจน์คุณสมบัติของคลื่นบริสุทธิ์”
น้ำเสียงลูเซียนจริงจังและเคร่งขรึม จังหวะในการพูดก็ควบคุมเป็นอย่างดี จอมเวทที่ฟังอยู่กำลังก้าวผ่านม่านแห่งปริศนา แต่ต่างรู้ดีว่าเข้าใกล้ความจริงอันศักดิ์สิทธิ์ไปเรื่อยๆ แม้จะยังคลุมเครือก็ตาม
“อันที่จริง ข้าได้ทดลองเพิ่มเติม หลังลดกำลังแผ่นปล่อยอิเล็กตรอน เกิดอิเล็กตรอนขึ้นตัวเดียว อิเล็กตรอนอีกตัวจะถูกปล่อย หลังจากตัวแรกผ่านสองร่องนั้นไป จึงตัดความเป็นไปได้ที่จะมีการแทรกสอดระหว่างอิเล็กตรอนทิ้งไปได้เลย ตามที่ข้าคิดไว้ พอผ่านไปสักพัก ก็จะมีริ้วการแทรกสอดเหมือนกัน!”
“พูดให้ชัดขึ้น อิเล็กตรอนเป็นคลื่นความน่าจะเป็น มันอยู่ทุกที่ในอวกาศ แทรกสอดตัวเองและผ่านร่องคู่พร้อมกัน!” ลูเซียนประกาศ
อิซาเบลลาและซาแมนธาตกใจมาก ไม่ต่างกับจอมเวททั้งหลาย ทุกคนไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร อิเล็กตรอนมีมวล ประจุไฟฟ้า และร่องรอย แต่ก็อยู่ได้ทุกที่ในอวกาศ! เป็นไปได้ยังไง?! อิเล็กตรอนยังเป็นสสารอยู่หรือไม่?
ถ้าอิเล็กตรอนยังเป็นสสารและมีคุณสมบัติเช่นนี้ แล้วมนุษย์ล่ะ? มนุษย์ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็ก แล้วมนุษย์จะอยู่ทุกหนทุกแห่งในอวกาศได้หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น จอมเวทก็น่าจะไปถึงแลนซ์และอัลโต้ได้พร้อมกันในก้าวเดียว!
โลกจุลภาคเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจอมเวทจะหาทางเชื่อมต่อโลกจุลภาคกับโลกมหภาค!
เฮลเลนตั้งอกตั้งใจมองภาพตรงหน้า นิ้วของนางแนบลงบนแก้ม นางตกอยู่ภวังค์ความคิด แม้จะยากลำบากอยู่บ้าง สมาชิกสภาสูงสุดก็ยอมรับทฤษฎีกลุ่มหมอกอิเล็กตรอน หลังจากได้เห็นประสบการณ์ของลูเซียนและเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ หัวของพวกเขายังคงปลอดภัยอยู่ชั่วคราว ไม่ระเบิดออก
สำหรับจอมเวทคนอื่นๆ พวกเขาไม่เข้าใจโลกจุลภาคลึกซึ้งพอจะทำให้หัวระเบิด ไม่เคยมีใครใช้ทฤษฎีว่าด้วยโลกจุลภาคสร้างโลกแห่งปัญญา หัวของพวกเขาก็อยู่รอดปลอดภัยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อคำอธิบายกลุ่มหมอกอิเล็กตรอนถูกเปิดออกมา จอมเวทกว่าร้อยคนต้องทุกข์ทรมาน พวกเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าอิเล็กตรอนจะเข้าไปอยู่ในโลกแห่งปัญญาของตนได้อย่างไร
โลกแห่งปัญญาของจอมเวทพวกนี้ถึงขีดจำกัด จนไม่อาจรับอะไรไปได้มากกว่านี้
“หมอกอิเล็กตรอนมีอยู่จริง แต่ความน่าจะเป็นไม่ใช่คุณสมบัติสำคัญที่สุด…” ซาแมนธาพึมพำด้วยความเจ็บปวด ถ้าจอมเวทยอมรับว่าความน่าจะเป็นเป็นเนื้อแท้ของอิเล็กตรอน ทุกคนก็ต้องยอมรับว่าความน่าจะเป็นก็เป็นเนื้อแท้ของโลก แนวคิดปรัชญานิยัตินิยมจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ นางต้องยึดมั่นในเหตุผลเพื่อรักษารากฐานความคิด
แต่นางก็ตระหนักถึงความจริงว่าการยืนกรานแบบนี้ไม่ช่วยให้นางพัฒนาพลังถึงชั้นตำนาน ไม่แม้แต่ระดับผู้วิเศษก็ตาม!
จอมเวทจากสำนักโหราศาสตร์ต่างก็เป็นทุกข์ แต่โชคดีที่ลูเซียนยังไม่ได้นำการทดลองที่อ้างถึงมาแสดงในวันนี้
ลูเซียนลดมือลง มองไปรอบๆ ห้องขนาดใหญ่ แล้วก็พูขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบสุขว่า “เนื่องจากการทดลองที่ปล่อยอิเล็กตรอนทีละตัวใช้เวลานาน ข้าจะไม่แสดงให้ดู ท่านมาที่สถาบันอะตอม ขออนุญาตใช้อุปกรณ์และทดลองด้วยตัวเองได้เลย”
“ถ้าท่านไม่อยากเข้าแถวรอ ให้ลองเทียบกับการทดลองแทรกสอดของแสงดู ใช้อุปกรณ์แค่ไม่กี่ชิ้น ทุกคนทดลองได้เองเลยในห้องทอลอง”
แล้วลูเซียนก็ทวนการทดลองซ้ำโดยละเอียด
จากนั้นเขาก็สรุปว่า “หลังผ่านไปสักพักใหญ่ ท่านน่าจะเห็นริ้วแสง นั่นหมายความว่าโฟตอนเดี่ยวก็มีคุณสมบัติการแทรกสอดตัวเอง”
จอมเวทบางคนยังคงปิดปากเงียบสนิทเพราะกลัว บ้างก็ตัวสั่นเทิ้มด้วยความตื่นตาตื่นใจ
ในตอนนี้อง โอลิเวอร์ก็ถามขึ้น “ลูเซียน ตอนนี้ทฤษฎีทั้งหมดของเจ้าสร้างขึ้นจากทวิภาคของคลื่น–อนุภาค หากเป็นทฤษฎีคลื่นอย่างเดียว คุณสมบัติของอนุภาคก็น้อยกว่ากลุ่มคลื่นสินะ ถ้างั้นทั้งการทดลองแทรกสอดร่องคู่และคุณสมบัติการแทรกสอดตัวเองก็ไม่เห็นมีอะไรให้เราประหลาดใจ เพราะทั้งคู่ก็สอดคล้องกับคุณสมบัติคลื่น ข้ายังมีคำถามว่า สถานการณ์แบบไหนถึงจะเกิดการซ้อนทับของควอนตัม? ทำไมถึงไม่ใช้กับโลกมหภาค?”
“แล้วทำไมจู่ๆ คลื่นความน่าจะเป็นของเจ้าจึงกลายเป็นจุดๆ พอถึงหน้าจอและสูญเสียความน่าจะเป็น?” โอลิเวอร์พูดต่อ
คำอธิบายของเขาดูสมเหตุสมผลสำหรับจอมเวทที่ฝักใฝ่ทฤษฎีคลื่น จากมุมมองนี้ การทดลองนี้ดูไม่ได้น่าตกใจและเหลือเชื่ออะไรขนาดนั้น
เฟอร์นันโดชิงตอบก่อนลูเซียน “โอลิเวอร์ ถ้าอิเล็กตรอน และอนุภาคขนาดเล็กอื่นๆ เป็นคลื่นจริงๆ ทำไมถึงไม่แสดงคุณสมบัติของคลื่นล่ะ? เราถูกสร้างขึ้นจากอนุภาคพวกนี้! คำถามของเจ้าเกี่ยวกับวิธีที่เราเปลี่ยนทฤษฎีโลกจุลภาคไปมหภาค คงไม่ให้ข้าเตือนเจ้าหรอกว่าคลื่นจะ ‘ตาย’ ถ้าไม่มีคุณสมบัติอนุภาคสนับสนุน!”
แม้เฟอร์นันโดจะไม่เห็นด้วยกับลูเซียนทั้งหมด แต่เขาก็เคารพในพลังของคณิตศาสตร์และผลของการทดลองที่เป็นรูปธรรม
การตอบของเฟอร์นันโดทำเอาจอมเวทหลายคนหน้านิ่วคิ้วขมวด พอพูดกันถึงการเชื่อมต่อกับโลกมหภาค ปัญหาแท้จริงก็ผุดขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าการถกเถียงดุเดือดอาจจะปะทุได้ทุกเมื่อ ลูเซียนยกมือขึ้นและยิ้ม “ในแง่การทดลองแทรกสอดอิเล็กตรอนผ่านร่องคู่ ข้ามีอีกหนึ่งการทดลองติดตามผล เป็นทางเลือก ให้พวกท่านได้เห็น”
อะไร?! ยังมีการทดลองอีกหรือเนี่ย?
ลูเซียนชี้ไปที่อุปกรณ์ทดลองและพูดว่า “เราสามารถเพิ่มเครื่องบันทึกเวทมนตร์ในแต่ละร่อง เพื่อดูว่าอิเล็กตรอนหนึ่งตัวผ่านร่องคู่พร้อมกันหรือร่องเดียว ข้าจะตั้งสัญญาเตือนไม่เหมือนกัน เราจะได้รู้ว่ามันผ่านร่องขวา ร่องซ้าย หรือทั้งสองร่อง”
ลูเซียนหยิบอุปกรณ์เวทมนตร์มาบันทึกและยื่นให้จอมเวทที่อยู่รอบๆ ดูว่าเขาไม่ได้ทำอะไรกับอุปกรณ์บันทึก
ขณะกำลังเตรียมอุปกรณ์ เหล่าจอมเวทก็อภิปรายกันไม่หยุด
“แอนนิค ตามคำอธิบายของอาจารย์ เราคงได้เห็นสัญญาณเตือนทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน แต่เสียงต่างกันใช่ไหม?” ไฮดี้ถามแอนนิค ซึ่งค่อนข้างมีความรู้ในเรื่องโลกจุลภาค
โอลิเวอร์แทรกเข้ามา “ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมท่านอีวานส์ถึงอยากทำแบบนี้ ถ้าสัญญาณเตือนทั้งสองดังพร้อมกัน นั่นหมายความว่าอิเล็กตรอนแทรกสอดร่องคู่พร้อมกัน จะพิสูจน์คุณสมบัติของคลื่นบริสุทธิ์ อย่างที่ข้าบอก ถ้าผิดแผนขึ้นมา แนวคิดแทรกสอดตัวเองที่ท่านอีวานส์เพิ่งเอ่ยถึงก็จะไร้น้ำหนัก…”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การทดลองนี้ไม่เป็นผลดีต่อท่านอีวานส์!
แอนนิคฟังการอธิบายอย่างเงียบๆ ครู่ต่อมา เขาก็ตอบกลับ “ข้าเดาว่าสัญญาณเตือนจะดังฝั่งเดียว ท่านอีวานส์พยายามพิสูจน์คุณสมบัติอนุภาคของอิเล็กตรอน…”
“แล้วการแทรกสอดตัวเองล่ะ” เลย์เรียถาม นางรู้สึกอะไรบางอย่าง และเริ่มกังวลหนัก
ทั้งแอนนิคและสปรินต์ไม่มีคิดเห็นอะไรเพิ่ม ทั้งคู่หันไปมองอุปกรณ์ตรงหน้า ต่างเฝ้ารอผล
ลูเซียนพูดกับผู้ฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ข้าจะปล่อยอิเล็กตรอนให้ช้าลง ท่านจะเห็นสัญญาณเตือนกันชัดๆ”
แล้วรูปแบบบนวงเวทก็สว่างขึ้น สัญญาณเตือนที่ต่างกันดังขึ้นทั้งคู่ แต่ไม่พร้อมกัน!
“ครั้งละร่องนึงเหรอ?” ไฮดี้พึมพำ “ …แล้วการแทรกสอดตัวเองล่ะ?”
ในตอนนี้เอง ก็มีคนอ้าปากค้าง แล้วหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสับสน “ริ้วการแทรกสอดอยู่ไหน?!”
ไฮดี้หันไปมองที่กำแพง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าจุดแสงที่รวมตัวกันไม่ได้ก่อริ้วการแทรกสอดอย่างที่เห็นตอนแรก แต่เป็นคุณสมบัติของอนุภาคเท่านั้น!
เมื่อจ้องกำแพงตาเขม็ง ตาของดักลาสเปิดกว้างขึ้นเล็กน้อย “ความพยายามสังเกตคุณสมบัติอนุภาคของอิเล็กตรอนทำให้คุณสมบัติของคลื่นหายไป…?”
เหมือนที่หลักความไม่แน่นอนอธิบายโมเมนตัมและตำแหน่ง…?
โอลิเวอร์ส่ายหน้าเบาๆ เหมือนมีบรรยากาศดำทะมึนลอยอยู่รอบตัวเขา
ลูเซียนที่ยืนอยู่ด้านหน้าใช้มือขวาชี้ไปที่ภาพการทดลอง
“พอเราไม่สังเกต อิเล็กตรอนจะอยู่ในสถานะซ้อนทับ นี่อธิบายด้วยแบบจำลองหมอกอิเล็กตรอน แต่พอเราต้องการดูคุณสมบัติของคลื่น และทดลองหา อิเล็กตรอนจะแสดงคุณสมบัติคลื่นบริสุทธิ์และคุณสมบัติของการแทรกสอดตัวเองให้เห็น…”
“…เมื่อเราต้องการดูคุณสมบัติอนุภาคของอิเล็กตรอน มันจะเดินตามความต้องการของเรา และแสดงคุณสมบัติอนุภาคบริสุทธิ์ให้เราเห็น…”
“…ฉะนั้นแล้ว สถานะและลักษณะของอิเล็กตรอนจึงขึ้นอยู่กับการสังเกตของเรา ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่เราต้องการ!”
ช่างน่าขนลุกจริงๆ! เหล่าจอมเวทในห้องต่างก็สับสนอลหม่าน! การสังเกตของคนๆ เดียวเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบเชียวหรือ?!
นี่มันวิเศษยิ่งกว่าเวทมนตร์เสียอีก!
………………………………………………………