เคร้งๆ รถไฟหัวจักรเวทมนตร์แล่นไปบนรางอย่างรวดเร็ว และทิวทัศน์อันงดงามที่นอกหน้าต่างก็เลื่อนผ่านไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็วพอๆ กัน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับโนดาเนียลย์ เด็กสาวชาวเอลฟ์ผู้ไม่เคยขึ้นยานพาหนะประเภทนี้มาก่อน
ปู๊น! ปู๊น! ปู๊น! เสียงหวูดดังก้อง ก่อนที่รถไฟจะหยุดลง
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่โนดาเนียลย์ได้ขึ้นนั่งบนรถไฟหัวจักรเวทมนตร์ แต่นางก็พอจะเข้าใจในเรื่องพื้นฐานของรถไฟ ด้วยเพราะเป็นคนชอบฟังรายการวิทยุเสียงแห่งอาร์คานา นางรู้ว่าการหยุดรถกลางทางนั้นมักจะหมายถึงอุบัติเหตุ
ไอริสทีนเคยมาที่สภาเวทมนตร์หลายครั้งแล้ว นางพลันสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ดังนั้น นางจึงร่ายคาถาไปที่ดวงตาและมองไปทางชายป่าที่อยู่ห่างไกลออกไป
พื้นที่แคบๆ ระหว่างป่ากับรางรถไฟนั้น มีกลุ่มสัตว์ป่าคลุ้มคลั่งอยู่กลุ่มใหญ่ที่กำลังโจมตีใส่มนุษย์ผู้อยู่ฝั่งตรงกันข้าม
มีมนุษย์อยู่ราวๆ หนึ่งร้อยคน ซึ่งแต่ละคนสวมเสื้อเกราะห่วงเหล็กสีเงินตามมาตรฐานกับหมวกเหล็ก พวกเขายืนเรียงแถวกันสามแถว โดยที่ในมือถือ ‘ไม้เหล็ก’ สีดำอยู่
พวกสัตว์ป่าที่กำลังโจมตีอยู่นั้นแต่เดิมเป็นสัตว์ป่าทั่วๆ ไป มีทั้งเสือ หมาป่า กระต่าย และแพะ แต่ในยามนี้ บนร่างกายของพวกมันกลับมีเกล็ดอาบโลหิตงอกออกมา โดยมีเมือกสีเหลืองไหลอยู่ตามซอกเกล็ด ดวงตาของพวกมันแดงฉานและเต็มไปด้วยความกระหายในการฆ่าฟัน
“การครอบงำงั้นรึ ปีศาจชั้นสูงลอบออกมาจากป่าสตรู๊ปอย่างนั้นหรือ” ไอริสทีนตั้งข้อสังเกตด้วยความประหลาดใจ สำหรับนางแล้ว ภาพที่เห็นช่างคุ้นตาเหลือเกิน มันเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ในป่าสตรู๊ปก่อนหน้านี้มิมีผิด!
โนดาเนียลย์กล่าวขณะครุ่นคิดอย่างหนัก “ตอนที่จู่ๆ รอยแยกแห่งอเวจีขยายตัว พวกท่านผู้เฒ่าคงจะยุ่งอยู่กับการรับมือกับราชันย์โลหิตและพวกดยุกปีศาจ ส่วนปีศาจตนอื่นๆ มีนักรบทั่วไปกับนักผจญภัยในนิรนามนครคอยต้านทาน มันจึงเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่บางตัวจะเล็ดรอดออกไปได้…”
“พวกสัตว์ที่ถูกครอบงำเป็นอันตรายมาก เหตุใดโฮล์มจึงส่งทหารที่มีระดับพลังเพียงอัศวินฝึกหัดมาจัดการกับพวกมันกันเล่า” ไอริสทีนโทษตัวเองหลังจากที่เห็นสถานการณ์ตรงหน้า อุบัติเหตุย่อมหลีกเลี่ยงได้หากว่าสติของแลงค์เชียร์ไม่ถูกความโลภครอบงำ
นางยืนขึ้นและกำลังจะเปิดหน้าต่างห้องโดยสารเฉพาะแขกพิเศษ พร้อมจะช่วยเหลือมนุษย์รับมือกับสัตว์ที่ถูกปีศาจครอบงำ
ปัง! ปัง! ปัง! หลังจากเกิดเสียงดังขึ้นหลายครั้ง บรรดาสัตว์ป่ากระหายเลือดที่หลั่งไหลมาไม่หยุดก็เหมือนกับโดนค้อนล่องหนไล่ทุบจนร่วงลงไปนอนอาบโลหิต
“นั่นอะไรกัน” เป็นตอนนี้เองที่ไอริสทีนให้ความสนใจกับ ‘ไม้เหล็กสีดำ’ ที่หน้าตาแทบจะเหมือนกันหมดในมือทหารมนุษย์ทุกนาย
โนดาเนียลย์มองสังเกตอย่างถ้วนถี่ ก่อนจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาในฉับพลันนั้น “มันคล้ายกับปืนไรเฟิลไอน้ำแรงดันสูงของพวกคนแคระเลยเพคะ!”
อารยธรรมไอน้ำของคนแคระนั้นเป็นอารยธรรมที่สาบสูญไปแล้ว แต่ชาวเอลฟ์มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมันดี ต้องขอบคุณตำรามากมายที่รวบรวมเอาไว้นับแต่ยุคสมัยเทวตำนาน
“ไม่มีกระเป๋าสะพายหลังสำหรับสร้างไอน้ำแรงดันสูง…ไม่มีควัน…แต่ทำร้ายศัตรูด้วยกระสุนความเร็วสูงทั้งสองอย่าง พลังโจมตีดีเทียบเท่าอัศวินทั่วไป…” ไอริสทีนจำแนกข้อแตกต่างระหว่างอาวุธชิ้นนี้กับฟืนไรเฟิลไอน้ำแรงดันสูงอย่างละเอียด
ปัง! ปัง! ปัง! นายทหารทั้งสามแถวแนว สองแถวหน้านั่งคุกเข่า ส่วนอีกแถวยืนอยู่หลังสุด คอยสลับกันยิงและหยิบกระสุนทองแดงจากกระเป๋ามาเติมเข้าไปในซอง
ไอริสทีนพบว่ากระสุนเหล่านั้นมีวงแหวนเวทง่ายๆ สลักเอาไว้ ด้วยสัมผัสถึงไอพลังแปรธาตุได้อย่างเบาบาง
ปัง! ปัง! ปัง!
แม้ว่าสัตว์ที่ถูกปีศาจครอบงำจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วยิ่ง แต่ในดวงตาแดงฉานของพวกมันกลับไม่มองสิ่งใดอื่นนอกจากศัตรู และพวกมันก็ไม่คิดจะทำอะไรนอกจากฉีกกระชากร่างของศัตรูให้เป็นชิ้นๆ แล้วกินอีกฝ่ายทั้งเป็น ดังนั้น การเล็งเป้าที่พวกมันจึงเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ ระยะยิงก็กว้างมาก พวกมันสามารถหลบลูกกระสุนที่ยิงมาลูกเดียวได้ แต่ไม่ใช่กับกระสุนที่ยิงมาหมดซองเช่นนี้ จำนวนของพวกมันจึงลดฮวบอย่างรวดเร็ว และล้มลงกลายเป็นศพนอนเกลื่อนพื้น
“ระดับล่างสุดของโฮล์มได้รับการเสริมพลังให้แข็งแกร่งด้วยอาวุธเช่นนั้น” ไอริสทีนเอ่ยเสียงแผ่ว “พวกเขาสามารถจัดตั้งกองกำลังเพิ่มได้อีก และจะเป็นกองกำลังทหารที่อาจทำร้ายอัศวินที่แท้จริงได้เลยทีเดียว”
โนดาเนียลย์ส่ายศีรษะ “แล้วอย่างไรเล่าเพคะ พวกเขาย่อมถูกกวาดล้างอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ยามต้องเผชิญหน้ากับนักรบชั้นสูง เหมือนกับอารยธรรมไอน้ำในอดีตกาล และพวกเขาก็จะสูญเสียเลือดเนื้อครั้งใหญ่เมื่อพบเจอกับเหล่านักเวทและอัศวินที่สามารถโจมตีระยะไกลได้อยู่ดีนะเพคะ”
“ผู้มีพลังระดับสูงก็มาจากระดับล่าง” ขณะเฝ้ามองการต่อสู้ที่อยู่ไกลออกไป ไอริสทีนก็พูดต่อว่า “หากอาวุธและชุดเกราะเช่นนั้นสามารถผลิตออกมาได้ทีละมากๆ เหมือนกับของวิเศษที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตอนนี้ อาณาจักรโฮล์มและสภาเวทมนตร์จะได้เปรียบอย่างยิ่งในการต่อสู้ของผู้มีพลังต่ำกว่าชั้นสูง”
ในอดีต กองอัศวินหนึ่งกองจะมีอยู่ห้าร้อยนายมากสุด และอาณาจักรหนึ่งๆ ก็จะมีเพียงสามถึงสี่กองอัศวิน อัศวินฝึกหัดนั้นเรียกได้ว่าไร้ประโยชน์ แต่หากว่าอาวุธและชุดเกราะสามารถผลิตออกมาได้ในจำนวนมาก นั่นหมายความว่าจะมีอัศวินเพิ่มขึ้นอีก อัศวินนั้นมีน้อย แต่อัศวินฝึกหัดกลับมีอยู่อย่างล้นเหลือ แล้วไหนจะคนธรรมดาทั่วไปที่สามารถเป็นอัศวินฝึกหัดอีกเล่า!
ไอริสทีนกล่าวต่อ “อีกอย่าง ใครเลยจะรู้ว่าสภาเวทมนตร์ได้พัฒนาอาวุธที่ทรงพลังและแม่นยำกว่านี้สำหรับอัศวินชั้นกลางและล่างไปแล้วหรือไม่”
“หากพวกเขามีอาวุธที่ใช้ในระยะไกลและมีความรวดเร็วกว่านี้ ร่วมกับวงแหวนเวทต้านทานการทำนาย แบบนี้พวกเขาก็จะสามารถระเบิดศีรษะของนักเวทที่ไม่มีเวทคุ้มกันกายจากที่ไหนสักแห่งก็ได้หรอกหรือเพคะ” เนื่องจากฟังรายการ ‘เสียงแห่งอาร์คานา’ มามาก โนดาเนียลย์จึงหลงใหลการระเบิดศีรษะมากเป็นพิเศษ
ในตอนนั้นเอง ผู้คุมขบวนที่มีหน้าที่รับผิดชอบแขกพิเศษก็เดินเข้ามา ด้วยคิดจะอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องหยุดเดินรถกระทันหัน
เมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งสอง ผู้คุมขบวนก็แย้มยิ้มกว้าง “เมื่อใดที่อาวุธประเภทนั้นพัฒนาไปมาก เวทมนตร์ป้องกันอาวุธทางกายภาพย่อมเกิดขึ้นแล้วอย่างแน่นอนขอรับ อีกอย่าง ตอนนี้ก็เป็นไปได้มากว่าชนวนเวทกับเวทมนตร์คล้ายคลึงกันนี้จะกลายเป็นเวทมนตร์ระดับกลาง”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจอันเป็นเอกลักษณ์ของเหล่านักเวทจากสภาเวทมนตร์ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา นี่คือความมั่นใจในสภาสูงสุดและอนาคตอันรุ่งโรจน์ของอาร์คานา!
“ข้าเชื่อมั่นในศักยภาพการทำวิจัยของสภา” ไอริสทีนแสดงความเป็นมิตร
ส่วนโนดาเนียลย์กลับถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ “ข้าได้ยินมาว่างานวิจัยเรื่องโลกจุลภาคของสภาหยุดนิ่งไปตั้งแต่ที่ท่านอีวานส์นำเสนอเรื่องผลกระทบจากผู้สังเกต จริงหรือไม่เจ้าคะ”
เพื่อที่จะตอบสนองความสงสัยใคร่รู้ของเหล่าสามัญชน ‘เสียงแห่งอาร์คานา’ จึงเพิ่มรายการใหม่ๆ ที่มีเนื้อหาคล้ายกับข่าวสารอาร์คานาและเวทมนตร์
ผู้คุมขบวนตอบด้วยท่าทางอับอายอย่างชัดเจน “จริงอยู่ว่าตอนนี้ยังมีการโต้แย้งว่าเหตุใดอนุภาคเล็กจิ๋วจึงแสดงคุณสมบัติแปลกประหลาดเช่นนั้นอยู่ และยังไร้ข้อสรุปที่ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อถือ ทว่า มันมิได้หมายความว่าการศึกษาขอบเขตของโลกจุลภาคจะหยุดนิ่งไปหรอกขอรับ อย่างเช่น การศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับปฏิกิริยาฟิชชั่นที่เริ่มโดยเจ้าแห่งพายุและเจ้าแห่งธาตุ อาจจะให้แหล่งพลังงานที่ดีกว่าแก่เราก็เป็นได้ขอรับ”
“ปฏิกิริยาฟิชชั่นสร้างมลพิษมากมิใช่หรือ” ไอริสทีนถามด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น
แต่ฉับพลันนั้น การต่อสู้ห่างไกลออกไปก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น จากสัตว์กลายพันธุ์ที่เหลืออยู่ไม่กี่ตัว จู่ๆ ก็มีแพะตัวหนึ่งกระโดออกมา
รูปลักษณ์ของมันเปลี่ยนแปลงไปมาก พร้อมกับมีปีกที่ดูเหมือนปีกค้างคาวงอกออกมาจากหลังของมัน เห็นได้ชัดว่ามันคือปีศาจที่มีพลังเกือบถึงชั้นสูง!
ไอริสทีนพลันมีสีหน้าเคร่งขรึม ปีศาจที่แข็งแกร่งลอบออกมาจากป่าสตรู๊ปจริงๆ
แต่ในตอนที่นางกำลังจะยื่นมือเข้าช่วยเหล่าทหาร ก็บังเกิดสายฟ้าสีเงินสว่างเจิดจ้าฟาดลงมาเสียก่อน
แม้แต่อากาศก็คล้ายจะระเหิดหายไปเพราะแสงสว่างนั้น ปีศาจจึงมิมีแม้แต่โอกาสที่จะหลบเมื่อร่างกายท่อนบนของมันเอนไปด้านหลังแล้วระเบิดโพลง ชิ้นส่วนดำเป็นตอตะโกของร่างกายมันร่วงหล่นลงมาราวกับสายฝน
“นี่มัน…” ไอริสทีนมองเห็นอัศวินผู้หนึ่งในชุดเกราะสีเงินยืนอยู่ตรงชายป่า เขามีเส้นผมสีทองและใบหน้าอันหล่อเหลาฉายแววความมุมานะ โดยที่ในมือทั้งสองข้างของเขาถือปืนไรเฟิลรูปร่างเพรียวยาวดูซับซ้อน
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้คุมขบวนก็สูดหายใจเข้าแผ่วเบา “นั่นคือปืนเกาส์ที่ท่านอีวานส์พัฒนาขึ้นมาพะยะค่ะ มีเพียงผู้ที่มีพลังชั้นสูงใกล้เคียงกับอัศวินอาภาและนักเวทชั้นสูงเท่านั้นที่จะใช้ได้ เนื่องจากมันไม่อาจผลิตเป็นจำนวนมากได้ ตอนนี้จึงมีเพียงสามกระบอกเท่านั้นพะยะค่ะ ดูเหมือนว่าท่านนั้นจะเป็นมหาอัศวินจอห์น จากกองอัศวินดาบแห่งสัจธรรมพะยะค่ะ”
โนดาเนียลย์โล่งอก หากว่าอาวุธเช่นนั้นสามารถผลิตออกมาเป็นจำนวนมากได้โดยไม่จำกัดผู้ใช้งานแล้วล่ะก็ ผู้มีพลังชั้นสูงทั้งหลายย่อมนึกหวาดเกรงมันไม่มากก็น้อยออย่างแน่นอน!
ปู๊นๆๆ เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! หลังจากที่พื้นที่ในการต่อสู้ไม่หลงเหลือสิ่งใด รถไฟหัวจักรเวทมนตร์จึงออกตัวอีกครา
…
ภายในสถาบันอะตอมบนหอคอยอัลลิน
ไฮดี้พาไอริสทีนและโนดาเนียลย์ สหายใหม่ของนางเดินชมรอบๆ สถานที่ที่แสนโด่งดัง
เอลฟ์สาวทั้งสองหยุดชื่นชมสถาบันที่เต็มไปด้วยภาพชวนฝันและความลี้ลับมากมายมิได้เลย แต่พวกนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันค่อนข้างขัดแย้งกับธรรมชาติและเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ว่าเหล่านักเวทมีอำนาจเหนือกว่าธรรมชาติ
“เมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านลาซาร์ได้สร้างธาตุใหม่ขึ้นในตอนที่ท่านระดมยิงนิวเคลียสของอะตอมด้วยเครื่องไซโคลตรอน ธาตุใหม่คงเสถียรภาพอยู่ได้และสามารถเพิ่มลงไปในตารางธาตุ” ไฮดี้ชี้ไปทางเครื่องไซโคลตรอนตรงหน้าด้วยท่าทางภาคภูมิใจ
มันคือก้าวแรกที่เหล่านักเวทประสบความสำเร็จในด้านการสรรค์สร้างภายใต้การชี้นำของทฤษฎีการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย มิมีผู้ใดสงสัยในความถูกต้องของทฤษฎีในเรื่องนี้อีกต่อไป มันจะทำให้นักเวททั้งหลายเปลี่ยนธาตุต่างๆ เป็นทองคำได้อย่างแท้จริงและจะคงเสถียรภาพอยู่ต่อไปแม้หลังจากผลของเวทมนตร์หมดลงแล้ว! แม้ว่าวิธีการทำเช่นนั้นจะยังไม่ถูกค้นพบ แต่มันก็คงอีกไม่นานในเมื่อตอนนี้มีการค้นพบพื้นฐานทางทฤษฎีแล้ว
เมื่อมองไปยังเครื่องไซโคลตรอนตรงหน้า ไอริสทีนก็นิ่งเงียบไปนาน ‘นี่เหล่านักเวทได้เริ่มฉกฉวยพลังแห่งธรรมชาติมาภายใต้ทฤษฎีการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยอันรุ่งโรจน์ของท่านอีวานส์แล้วงั้นหรือ’
เห็นเช่นนั้น โนดาเนียลย์จึงเปลี่ยนเรื่อง “ไฮดี้ งานวิจัยปัญญาประดิษฐ์ของเจ้าเป็นอย่างไรแล้วบ้างเล่า”
ไฮดี้ตอบด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจนัก “กลุ่มทำวิจัยของเรากำลังรวบรวมต้นแบบด้วยหลอดสุญญากาศและวงแหวนเวท อาจารย์ของเราบอกว่าการลองทำมักดีกว่าเอาแต่คิด และนั่นก็คือวิธีที่เราจะค้นพบปัญหาทั้งหลาย เพราะผลิตภัณฑ์สุดท้ายนั้นใหญ่และหนักเกินไป และความเร็วในการคิดคำนวณก็ไม่สูงพอ นักเวทหลายคนจึงบอกว่ามันอาจใช้การอะไรไม่ได้…แต่ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมต้องค่อยๆ พัฒนาไปทีละน้อย! เมื่อไหร่ที่การศึกษาเรื่องคริสตัลเจาะลงลึกกว่านี้ ข้าเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์จะเป็นส่วนประกอบสำคัญของเหล่าโกเลมและชีวินรสายนเวท!”
นั่นคือสิ่งที่นางจะคาดหวังได้มากที่สุดในยามนี้
หลังจากได้ยินคำพร่ำบ่นของไฮดี้ ไอริสทีนกับโนดาเนียลย์ก็ส่งยิ้มให้กันแล้วปลอบใจนาง
…
ภายในหอคอยเวทมนตร์อัลลิน หน้าประตูลับสู่แกนพลังงานของนครลอยฟ้า…
“อาจารย์สร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นเสร็จแล้วหรือขอรับ” ลูเซียนพอจะคาดการณ์อะไรได้หลังจากที่ทั้งสองมาถึงจุดหมายปลายทาง
แม้ทั้งสองจะมีความเห็นขัดแย้งกันในเรื่องผลกระทบจากผู้สังเกต เฟอร์นันโดก็มิได้มีท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับลูเซียนเพราะเรื่องนั้น ทั้งคู่ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างอาจารย์ลูกศิษย์ เขาพยักหน้าแล้วตอบว่า “เราปรับแบบจำลองบางตัวตามที่เจ้าแนะนำและสร้างเครื่องปฏิกรณ์ต้นแบบที่ใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรองของอัลลินได้แล้วล่ะ”
หลังจากวิเคราะห์ปฏิกิริยาฟิชชั่นในวิศวกรรมผันกลับ พวกเขาก็เริ่มศึกษาวิจัยในด้านนั้น ทว่า เพราะการวิเคราะห์ของพวกเขายังไม่ละเอียดพอ และผลที่ออกมาก็หาได้แสดงฟังก์ชั่นของนิวตรอนแต่อย่างใด ความคืบหน้าจึงเป็นไปได้ช้ายิ่ง จนกระทั่งไม่นานมานี้ที่พวกเขาสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นขึ้นมา ซึ่งพลังที่ส่งออกมานั้นรุนแรงกว่าพลังที่ใส่เข้าไปนัก
…
นครเรนทาโต ในเขตคนงานที่คนแคระมารวมตัวกัน…
ผู้เฒ่าออกัสตุสกำลังกราบบูชาอนุสรณ์เหล็กสีเงินอย่างทุ่มเททั้งกายและใจในตอนที่ฮาโรลด์วิ่งเข้ามา เขายกมือขึ้นปิดดวงตาแล้วทำความเคารพเสียก่อน “ขอไอน้ำจงยิ่งใหญ่ยืนยง”
จากนั้น เขาก็วางมือขวาลงแนบลำตัวแล้วเอ่ยกับออกัสตุสว่า “ท่านผู้เฒ่าขอรับ มีสหายร่วมเผ่าพันธุ์ด้านนอกผู้หนึ่งอ้างตัวว่ามาจากอาณาจักรคนแคระขอรับ เขาบอกว่าเขาเป็นทูตของพระเจ้าแห่งไอน้ำผู้ยิ่งใหญ่ขอรับ”