ซองจดหมายสีขาวเกลี้ยงเกลาประดับด้วยกลีบดอกไม้เนื้อเนียนสวยจนกลืนไปกับกระดาษ ซึ้งดูต่างจากรูปทรงปกติของฝ่ายไปรษณีย์อย่างสิ้นเชิง ซองจดหมายนี้ดูราวกับงานศิลปะชิ้นหนึ่งมากกว่า แต่อาลีไม่ได้สนใจรายละเอียดเหล่านั้น ดวงตาของเขาถูกตรึงอยู่กับลายมือที่เขียนอย่างสวยงามบนซองจดหมายมากกว่า ลายมือที่สวยงามเหล่านี้ช่างดูคุ้นเคยมากจนหัวใจของอาลีเริ่มร้อนรน ตอนนี้ร่างกายของเขาถึงกับไม่สามารถสัมผัสกับความหนาวเย็นจากต้นฤดูใบไม้ผลิได้อีก
อาลีกระตือรือร้นเกินกว่าที่จะรอไปเปิดจดหมายที่ห้องเรียน เขาเปิดซองและดึงจดหมายออกมาจากนั้นเขาก็คลี่จดหมายออกอย่างระมัดระวังขณะเดินท่ามกลางลมหนาว
“ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ข้าค่อนข้างรู้สึกกังวลเมื่อข้าไม่ได้รับจดหมายใดๆ จากเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าประสบอุบัติเหตุหรือเป็นเพราะครั้งที่พวกเราได้ติดต่อกันครั้งแรกข้าได้ทำร้ายความรู้สึกของเจ้าไป แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะติดต่อเจ้าได้อย่างไร แต่โชคดีที่ความจริงนั้นไม่ใช่อย่างที่ข้าคิด …
“ …โรงเรียนของเรามีวันหยุดเทศกาลปีใหม่สองเดือน ข้าเห็นว่าเจ้ามีจดหมายอยู่ไม่กี่ฉบับ ข้าขอโทษที่ปล่อยให้เจ้าต้องรอนาน ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย… ข้าดีใจที่เจ้ามาที่นครเรนทาโต ไม่ว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จในอนาคตหรือไม่แต่ข้าก็เชื่อว่ามันจะนำพาความมั่งคั่งมาสู่ชีวิตของเจ้า ดังเช่นที่ท่านฟาร์แฮมประพันธ์ไว้ในบทละครที่ชื่อ ‘ดินแดนพันบึง’ ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับเขา จากคำกล่าวที่ว่า สำหรับเด็กๆ ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ช่วงปีทองนี้เจ้าควรอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มเติมประสบการณ์ให้มากขึ้น และไปสัมผัสกับโลกที่สวยงามและโหดร้ายใบนี้ให้มากขึ้น
“ …มีโอกาศมากมายในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตราบใดที่เจ้ามีความกล้าหาญ และตั้งใจจริงเจ้าก็จะสามารถทำได้ แต่ถ้าเจ้ากลัวความล้มเหลวและไม่กล้าที่จะแบกรับและเผชิญกับสิ่งใดๆ โอกาสที่มีก็จะหลุดลอยออกจากมือของเจ้าไป …
“ …เจ้าคงต้องอยู่ในนครเรนทาโตสักสองสามเดือนแล้ว แล้วตอนนี้ชีวิตของเจ้าสะดวกสบายหรือไม่? เจ้าได้ประทับใจกับสิ่งใหม่ ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่ข้าได้อธิบายไว้ในจดหมายไหม? เมื่อตอนที่ข้าอ่านจดหมายที่เขียนด้วยตัวเอง ข้าก็รู้สึกว่าใบหน้าของข้าแทบจะลุกเป็นไฟเพราะข้านั้นเต็มไปด้วยความหวังและความหลงใหลต่อเจ้า ข้าอดใจไม่ไหวที่จะเขียนบรรยายออกมาให้งดงามและโรแมนติกที่สุด แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าข้าทำเกินไปหน่อยและหลายๆ อย่างก็ไม่ได้เป็นความจริงซะทีเดียว อาลีเจ้าคิดว่าไง?
“ …ถ้าพูดถึงการหางานในการสัมมนา และการหารายได้ในช่วงสองสามปีแรกข้าคิดมาเสมอว่าโรงเรียนสามัญอาจจะไม่ดีเท่าหลานเซียง แต่ถ้าเจ้าต้องการความสำเร็จที่มากขึ้นและการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นก็มีเพียงแค่โรงเรียนสามัญเท่านั้นที่จะสั่งหาความรู้ที่เจ้าต้องการได้ ในช่วง 3 ปีแรกเจ้าอย่าเพิ่งใจร้อน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้เรียนรู้นั้นจะเป็นการบ่งบอกว่าเจ้าเก่งอะไรและชอบอะไร จากนั้นเจ้าจะต้องดูดซับ ‘สารอาหาร’ ที่จำเป็นในช่วงสองปีหลัง …
“ …นอกจากการเรียนแล้ว เจ้าก็อย่าลืมที่จะ ‘หล่อหลอม’ ตัวเองให้กลมกลืนเข้าเรนทาโตด้วยนะ ด้วยสิ่งนี้เจ้าจะได้รับรู้ทุกรายละเอียดที่น่าประหลาดใจมากมายท่ามกลางช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ซึ่งนั้นจะเป็นโอกาสของเจ้า ดังนั้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงเวลาที่เจ้าออกไปหางานชั่วคราว ข้าขอแนะนำให้เจ้าออกไปข้างนอกบ่อยๆ เพื่อตัวเจ้าเอง …
“ …มีร้านชาแดงที่มีสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและชาก็อร่อยบนถนนกุหลาบ นอกจากนี้พวกเขายังแทนที่วงดนตรีด้วยเครื่องเล่นแผ่นเสียงเวทมนตร์ และมีนักดนตรีเพียงสองคนเท่านั้น…ยังมีโรงละครตัวตลกในเขตการปกครองที่ยังจัดแสดงละครตลกอยู่ … แม้ว่าเขตอีเกรตจะเป็นย่านที่ยากจน แต่จะมีการผจญภัยมากมายรอให้เจ้าได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ แม้ว่าคำพูดของพวกเขาอาจจะดูเกินจริง แต่ความรู้ของพวกเขาก็ทำให้เจ้าได้เปิดหูเปิดตาเช่นกัน…ตกกลางคืน เขตการปกครอง เขตขุนนาง และถนนราชินีจะทำให้เจ้าเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่ดูราวกับมีดวงดาวบนพื้นโลกได้…”
เจนแนะนำเรนทาโตด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ และหลีกเลี่ยงสถานที่หรูหรา การกระทำเช่นนี้ทำให้อาลีรู้สึกดีมาก
ในจดหมายไม่มีข้อความใดที่แสดงถึงเรื่องรักใคร่เลย นี้เป็นการพูดคุยระหว่างเพื่อนแบบสบายๆ แต่ใส่ใจทุกรายละเอียด ทุกตัวอักษรช่างอบอุ่นและดูเกรงใจ อาลีตื่นเต้นมาก เขาอ่านจดหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาแทบจะตัดใจวางมันไม่ลงแม้ว่าจะเข้าใกล้ห้องเรียนแล้วก็ตาม
“ …ข้าได้ที่สองใน ‘การสอบปีใหม่’ และหลังจากวันหยุดนี้ข้าจะได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมชมหอคอยเวทมนตร์อัลลินและสถาบันอะตอมด้วย … เมื่อก่อนข้าก็เคยไปที่อัลลิน แต่ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปชมทั้งสองสถานที่ แต่ตอนนี้ข้ามีโอกาสแล้ว ข้าหวังว่าสถาบันอะตอมจะยิ่งใหญ่กว่าที่ข้าคิด…”
อาลีนึกถึงย่อหน้าที่สามจนถึงย่อหน้าสุดท้ายในจดหมายของเจน แม้ว่านางจะพยายามไม่คุยโม้เกี่ยวกับความสำเร็จก็ตาม แต่เขาก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความปีติยินดีของนางจากตัวอักษรเหล่านี้
เมื่อนึกถึงการสอบ หัวใจของอาลีก็เริ่มเต้นรัว ผลการสอบประจำเดือนจะประกาศเร็ว ๆ นี้ เขาจะมีโอกาศได้เข้าไปที่อัลลินหรือไม่น่ะ?
อาลีนั่งลงบนเก้าอี้อย่างไม่สบายใจ เขารู้สึกว่าเขาแทบจะสงบสติอารมณ์ไว้ไม่ได้ จนท่านไบรอันผู้สอน “พื้นฐานของอาร์คานา” เข้ามาในห้อง
“ตอนนี้จะประกาศอันดับของการสอบประจำเดือน โชคดีเป็นของยี่สิบอันดับแรกที่จะได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมชมนครลอยฟ้า” ไบรอันกล่าวด้วยรอยยิ้ม ห้องเรียนทั้งห้องเงียบสนิทราวกับถูกแช่แข็ง
“โดเน่ …” ไบรอันเริ่มขานชื่อ ทุกครั้งที่เขาหยุด ใครบางคนจะอุทานออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้
เมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคย คำอุทานแสดงความยินดีก็ดังขึ้น แต่อาลีก็ยิ่งวิตกมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ทำไมไม่มีชื่อของเขา? คะแนนสอบของเขาไม่สามารถพาเขาก้าวเข้าไปอยู่ในยี่สิบอันดับแรกหรือ?
“ริคาร์โด” ไบรอันขานชื่อทั้ง 20 อันดับเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีชื่อข้า ไม่มีจริงๆ อาลีถูกความหงุดหงิดเกาะกุมหัวใจ เขาไม่เคยลิ้มรสความขมขื่นจากความล้มเหลวขนาดนี้มาก่อน ในอดีต ตอนเขาอยู่ที่บ้านเกิดเขาก็เคยล้มเหลว แต่ก็ยังไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดมากขนาดนี้
จนถึงชื่อที่สามสิบ อาลีก็ยังไม่ได้ยินชื่อของเขา ความผิดหวังนี้ทำให้เขาตระหนักถึงความจริงที่ว่าพื้นฐานของเขายังอ่อนเกินไป ยังมีช่องว่างด้านระยะเวลาประมาณหนึ่งหรือสองปีระหว่างเขากับเพื่อนร่วมชั้นที่อาศัยอยู่ในเรนทาโต หรือผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากนักวิชาการ หรือนักเวทฝึกหัด แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างหนัก แต่เขาก็ต้องพยายามเช่นนี้ไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปีเพื่อตามให้ทัน
เจ้าจะแข่งขันกับคนอื่นได้อย่างไรในเมื่อจุดเริ่มต้นของเจ้าแตกต่าง? หลายคนคงเลือกที่จะยอมแพ้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตามอาลีก็นึกถึงกำลังใจของเจน และความคาดหวังของพ่อแม่ เขากำหมัดแน่นและสาบานว่าจะตามให้ทัน ในขณะที่คนอื่นกำลังพยายาม เขาก็จะพยายามให้หนักขึ้นสิบเท่า!
ปลายเดือนมีนาคม อาลีที่ทุ่มเทให้กับการเรียนก็ไปที่ประตูโรงเรียนเป็นประจำทุกสองสามวัน ในที่สุดเขาก็ได้จดหมายจากเจนอีกครั้ง
“ …ครั้งที่แล้วเจ้าบอกว่าสนใจในพวกของวิเศษ และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ข้าคิดว่าเป็นเพราะเราทั้งคู่ต่างก็หลงใหลในวิทยุเวทมนตร์ ตะเกียงเวทมนตร์ โทรศัพท์แบบมีสาย โทรเลขและรวมถึงเนื้อหาใน ‘เสียงแห่งอาร์คานา’ แต่ยังมีความแตกต่างขนาดใหญ่ระหว่างสิ่งประดิษฐ์ง่ายๆ และการเล่นแร่แปรธาตุที่แท้จริง
“ …ถ้าเจ้าสนใจจริงๆ เจ้าก็สามารถไปที่ห้องสมุดของโรงเรียน หรือห้องสมุดของเรนทาโตเพื่อยืมหนังสือ ‘โครงสร้างเวทมนตร์’, ‘องค์ประกอบการเล่นแร่แปรธาตุ’, ‘128 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไอเทมเวทมนตร์ง่ายๆ’ และ ‘ประวัติของของวิเศษ’ ‘หมื่นเหตุผล : ปริมาณการเล่นแร่แปรธาตุ’ ที่เรียบเรียงโดยเจ้าชายอีวานส์ เพราะมีทั้งข้อมูล และความบันเทิง …
“ …ในช่วงกลางเดือนนี้พวกเราต้องไปที่นครลอยฟ้า แม้ว่าเรื่องนี้จะเรียกความทรงจำแย่ๆ ของเจ้ากลับมา แต่ข้าก็ยังอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของข้าให้กับเจ้า ข้าคิดว่าสิ่งนี้จะสามารถบรรเทาความเสียใจของเจ้าได้ …
“ข้าเคยไปที่นครลอยฟ้าหลายครั้ง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รถไฟลอยขึ้นจากพื้น ข้าทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นจากก้นบึ้งของหัวใจเสมอ ข้ากลัวเพราะข้างล่างมันดูเหมือนมด แต่ข้าก็ยังตื่นเต้นไม่อย่างนั้นข้าก็คงไม่มีทางสนุกไปกับความรู้สึกที่วิ่งอยู่บนท้องฟ้าได้หรอกถ้าไม่มีรถไฟไอน้ำเวทมนตร์และนครลอยฟ้า เพราะสุดท้ายก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะกลายเป็นนักเวททางการได้ ข้าเรียนอาร์คาน่าศาสตร์ และเวทมนตร์มาหลายปีแล้ว แต่ข้ายังเป็นแค่นักเวทฝึกหัด …
“ …ระหว่างทาง รถบัสคันยาวที่พาพวกเราไปหอคอยเวทมนตร์อัลลินดันเกิดปัญหา จากนั้นก็มีโกเลมออกมาจากหอคอยเวทมนตร์ ดวงตาของมันเป็นสีแดง มันผลักรถบัสทั้งคันเข้าไปที่หอคอยเวทมนตร์อัลลิน ข้าคิดว่าบางครั้งโกเลมก็ไม่ได้มีไว้เพื่อการต่อสู้เท่านั้น …
“ …หอคอยเวทมนตร์อัลลินมีสถาปัตยกรรมที่ต่างไปจากอาคารในเรนทาโตอย่างสิ้นเชิง แต่มันก็เข้ากันได้ดีกับรถวิเศษ อากาศยาน รถไฟไอน้ำเวทมนตร์ ปืนระเบิด เครื่องปรับอากาศเวทมนตร์ และตะเกียงเวทมนตร์ ข้ารู้สึกว่าพวกเขาสร้างบรรยากาศอันที่เป็นเอกลักษณ์ และรูปแบบของยุคสมัยนี้เข้าด้วยกัน …
“ …ในห้องปฏิบัติการทางพันธุกรรมพวกเราไม่พบท่านเฟลิเป้ แต่เราได้รับแจ้งว่าเขาไปที่เทือกเขาแห่งความมืดเพื่อเก็บตัวอย่าง นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับข้า แต่เพื่อนสนิทของข้าเสียใจมากเพราะนางชื่นชมท่านเฟลิเป้ และนางก็อยากเป็น ‘หมอ’ ที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์และทักษะทางกายวิภาค …
“ …ห้องปฏิบัติการทางพันธุกรรมไม่ได้เป็นอย่างที่ข้าคิด พืชทั่วไป และสัตว์แปลกๆ หลายชนิดถูกเลี้ยงอยู่ที่นั่น สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์บางส่วนเป็นสิ่งเดียวในห้องทดลองที่ทำให้ข้ารู้สึกขนลุก มีหนึ่งในห้องทดลองที่เต็มไปด้วยเมือก ข้าเห็นทุกที่เต็มไปด้วยเลือดมันน่ากลัวมาก สัตว์บางชนิดสามารถกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวและน่าขยะแขยงได้ตลอดเวลา เจ้านึกภาพกระต่ายที่มีสองหัว หรือสุนัขที่ไม่มีขนออกไหม?
“ …โชคดีที่เพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่รู้สึกตกใจมาก พวกเราจึงได้ออกเดินทางไปที่สถาบันอะตอมทันที
“ท่านลาร์ซา และท่านไฮดี้มาร่วมต้อนรับพวกเรา และพาเดินชมสถานที่รอบๆ สถาบัน นี้ช่างเหมือนกับสิ่งที่ข้าได้จินตนาการไว้ มีวงแหวนเวทมนตร์ที่ซับซ้อนและลึกลับทุกประเภท รวมถึงรูปแบบการเล่นแร่แปรธาตุที่เรืองแสงเป็นสีที่แตกต่างกัน …
“ …เมื่อท่านไฮดี้เปิดเครื่องเครื่องจับอนุภาค วงเวทย์ที่อยู่บนผนัง พื้นและเพดานก็เปล่งแสงพร้อมกันก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม และบางส่วนก็เป็นสีโปร่งแสง ข้าตกใจมาก ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในความฝัน สิ่งที่ข้าเห็นในสถาบันอะตอมทำให้ข้ารู้สึกว่าถ้ามาถึง ‘อนาคต’ แล้ว ข้าไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น แต่ถ้ารู้สึกจริงๆ ว่านี่คืออนาคต
ความคิดเห็น
“ …อาลี เจ้ารู้ไหมว่ามีวงแหวนเวทกระจายเสียงภายในสถาบันอะตอมที่ส่งไปถึงห้องสงเกตการณ์จักรวาลที่ทำให้เจ้าสามารถสังเกตอวกาศได้?”
อาลีรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นในคำพูดของนาง และเขาเองก็รู้สึกตื่นเต้นด้วยเช่นกัน เรื่องราวในสถาบันอะตอมนั้นเต็มไปด้วยความสดใส เขาแทบจะอยากไปที่นั่นเดี๋ยวนี้
“ห้องสงเกตการณ์จักรวาล? สังเกตอวกาศ?” มันเป็นอะไรที่เกินความฝันของเขาด้วยซ้ำ!
“ …อาลี ท่านไฮดี้บอกข้าว่าในอนาคต ‘เสียงแห่งอาร์คานา’ จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับจักรวาลมากขึ้น และยังจำลองพื้นที่ด้วยทักษะภาพลวงตาเพื่อให้เราสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ถ้าพวกเราได้ที่หนึ่งในรอบชิงชนะเลิศเดือนมิถุนายน พวกเราก็จะมีโอกาสได้ไปที่ห้องสงเกตการณ์จักรวาลจริงๆ!
“พวกเรามาพยายามด้วยกันไหม?”
“แน่นอน!” อาลีกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น เขารู้สึกราวกับอยู่ในใจกลางจักรวาลอันไร้ขอบเขต ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงช่วงเวลามากล้นในช่วงอายุของเขา
…
แลนซ์ นครศักดิ์สิทธิ์
เบเนดิกต์ที่ 3 กำลังมองไปนอกหน้าต่างและพิจารณาข้อมูลของหน่วยสืบราชการลับที่เขาเพิ่งจะได้รับ
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ ลูเซียน อีวานส์ ได้ยืมข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับมหาสมุทรไร้พรมแดน”
……………………………