กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 436 เฉิงเฮ่าหนีไปแล้ว / ตอนที่ 437 หัวใจของผู้หญิงที่โหดเหี้ยมที่สุด
ตอนที่ 436 เฉิงเฮ่าหนีไปแล้ว
ต้องยอมรับว่าวินาทีที่เห็นเขาปรากฏตัวนั้น หัวใจเธอดีใจแทบคลั่ง ในชั่วขณะที่เห็นเขา ความรู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งหมดของเธอต่างสงบลงอย่างปาฏิหาริย์ เมื่อมีเขาอยู่ก็เหมือนกับได้กินยาอุ่นใจอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฉู่เจียเสวียนดีขึ้นแล้ว ซูซานก็พยักหน้า จากนั้นก็กลับไปพักผ่อนที่ห้อง
พอเข้ากลางคืนอากาศเย็นลงเล็กน้อย ฉู่เจียเสวียนที่อาบน้ำเสร็จแล้วอยู่ในชุดนอน ในมือถือผ้าขนหนู มือเช็ดผมเป็นระยะๆ
เมื่อนึกถึงฉากที่เจอเผยหนานเจวี๋ยคืนนี้ เธอก็รู้สึกว้าวุ่นใจ
เขาช่วยเธอมาหลายครั้งแล้ว ทำไมตั้งแต่กลับประเทศมา ท่าทางที่เขามีต่อเธอถึงได้เริ่มเปลี่ยนไปกันนะ เขาช่วยเธอครั้งแล้วครั้งล่า
เฮ้อ ถอนหายใจแผ่วเบา หยิบไดร์เป่าผมเป่ามาจนแห้งก็เข้านอนแล้ว บางเรื่องถ้าหากไม่เข้าใจก็อย่าไปคิดจะดีที่สุด การคิดมากเกินไปนั้นไม่ดีสำหรับทุกคน
วันรุ่งขึ้น หลังจากฉู่เจียเสวียนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลงมาชั้นล่างก็เจอกงจวิ้นฉือนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก เธอรู้ว่าเมื่อคืนเขาจะต้องเป็นห่วงเธอแทบแย่แน่ๆ
“จวิ้นฉือ คุณมาเช้าจังเลย” ฉู่เจียเสวียนเดินเข้ามาหากงจวิ้นฉือ มองเขาพร้อมเอ่ยปาก บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ
เมื่อคืนตอนที่เธอถูกเผยหนานเจวี๋ยอุ้มออกมาก็เห็นเขาแล้ว แต่ว่าตอนนั้นในใจของเธอกำลังหวาดกลัว ในเวลานั้นก็ไม่ทันได้คิดอย่างถี่ถ้วน ทำได้เพียงปล่อยให้เผยหนานเจวี๋ยอุ้มเธอขึ้นรถไป
“เจียเสวียน วันนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง” กงจวิ้นฉือมองฉู่เจียเสวียนแล้วเอ่ยปากทันที แววตาเผยความกังวล
สวรรค์รู้ดีว่าเมื่อคืนตอนที่ได้รับสายของเผยหนานเจวี๋ยบอกว่าฉู่เจียเสวียนถูกคนลักพาตัวไปนั้น เขากังวลมากแค่ไหน เขาร้อนใจจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
ทันทีที่ได้รับสายเขาก็รีบตามไปที่ที่อยู่ที่พวกเขาส่งมาให้ เมื่อเขามาถึงก็เห็นว่าเธอถูกเผยหนานเจวี๋ยอุ้มออกไปแล้ว
ในเวลานั้นในใจของเขาโล่งอกแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“ฉันไม่เป็นไร คุณวางใจเถอะ คุณก็เห็นว่าตอนนี้ฉันก็สบายดีไม่ใช่เหรอ” เธอยิ้มเอ่ย รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอราวกับดอกไม้
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนนี้เฉิงเฮ่าถูกตำรวจตามฆ่า แล้วก็สถานะการเป็นดาราของฉู่อีอีตอนนี้ก็ถูกแบนไปแล้ว เรื่องเมื่อคืนเป็นฝีมือพวกเขาสองคนเหรอ” กงจวิ้นฉือเอ่ย ที่จริงไม่ต้องถามฉู่เจียเสวียนเขาก็เดาออกแล้ว เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เผยหนานเจวี๋ยจะแบนฉู่อีอี
ฉู่อีอีไม่ใช่คนที่เขารักที่สุดเหรอ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะใจร้ายถึงเพียงนี้
“เผยหนานเจวี๋ยแบนฉู่อีอีเหรอ” เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ยิน ดวงตาก็เผยความประหลาดใจ เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะใจร้ายกับฉู่อีอีจริงๆ
แต่ว่าการแบนสถานะดาราของฉู่อีอีก็ไม่ได้มีอะไรมาก การทำแบบนี้เป็นเพื่อแสดงให้เธอดูก็เท่านั้น
ฉู่อีอีไม่ได้เป็นดารา เธอก็ยังเป็นคุณเผยของเขาอย่างสบายใจได้เหมือนเดิม
ในเมื่อเผยหนานเจวี๋ยทำแบบนี้แล้ว เช่นนั้นเธอก็จะปล่อยฉู่อีอีไป ตอนนี้เฉิงเฮ่าหนีไปแล้ว นี่ต่างหากคืออันตรายที่ใหญ่ที่สุด พอนึกถึงลมหายใจที่มืดมนของเขาเมื่อคืนแล้ว หัวใจของฉู่เจียเสวียนก็สั่นสะท้าน
“ตอนนี้เฉิงเฮ่ายังไม่ถูกจับเหรอ” ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้วเอ่ย เฉิงเฮ่าคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว ตราบใดที่เขายังไม่ถูกจับ เธอก็ไม่สบายใจ
เฉิงเฮ่าคนนี้บ้าคลั่งเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าคราวหน้าเขาจะก่อเรื่องอะไรอีก
“ยังเลย ฉะนั้นนะ เจียเสวียน ช่วงนี้คุณต้องระวังตัวหน่อย ผมว่าเฉิงเฮ่าต้องคิดไม่ดีต่อคุณแน่” กงจวิ้นฉือเอื้อมมือกุมมือของฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ย ดวงตาเผยความกังวล
สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือเฉิงเฮ่ากลับมาแก้แค้นพวกเขา คุณควรรู้ว่าเฉิงเฮ่าคนนี้เป็นคนที่ค้าอาวุธเชียวนะ
“ได้” พยักหน้ารับปาก ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือไปกินข้าวเช้าด้วยกันแล้ว
ตอนที่ 437 หัวใจของผู้หญิงที่โหดเ**้ยมที่สุด
ทางนี้วันเวลาเงียบสงบราวกับสายน้ำ อีกทางหนึ่ง ชีวิตของฉู่อีอีกลับอยู่ท่ามกลางน้ำลึกกับเปลวเพลิง
หลังจากไม่มีเผยหนานเจวี๋ยคอยปกป้องแล้ว ชีวิตของฉู่อีอีก็เหมือนกับสูญเสียที่พึ่งอย่างไรอย่างนั้น ทุกข์ทรมานไปทั่วทุกที่
ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร พวกเรื่องเลวร้ายที่ฉู่อีอีเคยทำก่อนหน้านี้ได้ถูกคนปล่อยว่อนในอินเทอร์เน็ตแล้ว เพียงพริบตาเดียวชื่อเสียงของเธอก็ป่นปี้
คลื่นความคิดเห็นต่อฉู่อีอีในอินเทอร์เน็ตก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
“ช่างเป็นหัวใจของผู้หญิงที่โหดเ**้ยมที่สุด ผู้หญิงยิ่งสวยยิ่งโหดจริงๆ ด้วยนะ”
“เสียสายตาของฉันจริงๆ ฉันชอบเธอมากเลยนะ”
“คนแบบนี้เป็นดาราได้ยังไง”
“…”
ฉู่อีอีเปิดคอมพิวเตอร์ อ่านความคิดเห็นจากเว็บเหล่านั้น เธอแทบทนไม่ไหวอยากจะฆ่าคนพวกนั้นทิ้งเสีย
ปิดคอมพิวเตอร์ โยนคอมพิวเตอร์ด้วยความโมโห คอมพิวเตอร์ร่วงกระจัดกระจายอยู่บนพื้น เธอถูกโจมตีโดยกลุ่มคนไซเบอร์จนเธอไม่กล้าออกจากบ้าน
และทุกสิ่งที่เธอกำลังทุกข์ทรมานในขณะนี้ ล้วนเป็นเพราะฉู่เจียเสวียนเฮงซวยคนนั้น!
หวังอวิ๋นไฉ่ได้ยินเสียงข้างล่าง รีบเดินขึ้นมาทันที เปิดประตูออกก็เห็นฉู่อีอีนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าโกรธจัด บนพื้นมีคอมพิวเตอร์โน้คบุ๊คนอนอยู่ ในขณะนี้หน้าจอดับไปแล้ว
“อีอี ลูกทำอะไรน่ะ พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ” หวังอวิ๋นไฉ่เดินมานั่งที่ข้างเตียง มองฉู่อีอีพร้อมเอ่ยปาก ตั้งแต่ที่ฉู่อีอีถูกส่งกลับบ้านฉู่ ฉู่อีอีก็ไม่เคยออกไปไหนเลย
เห็นเธอในสภาพแบบนี้ หัวใจของหวังอวิ๋นไฉ่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“หนูจะออกไปเจอผู้คนได้ยังไง ตอนนี้คนข้างนอกพูดถึงหนูยังไงแม่ไม่รู้เหรอคะ” ฉู่อีอีตะคอก น้ำตาเปล่งประกายอยู่ในดวงตา เธอในสภาพนี้จะเจอคนได้ยังไง
ตอนนี้ทันทีที่เธอออกไป ทุกคนก็จะหัวเราะเยาะเธอ ด่าเธอ ตอนนี้เธอก็เหมือนหนูข้างถนนที่ทุกคนไล่ตี
แน่นอนหวังอวิ๋นไฉ่รู้ว่าตอนนี้ฉู่อีอีอยู่ในช่วงเวลาอ่อนไหว แต่ว่าการที่เธอขังตัวเองอยู่ในบ้านทั้งวันแบบนี้ก็ไม่ใช่ทางออกนี่นา ทำแบบนี้ไม่ช้าก็เร็วจะต้องป่วยแน่
“อีอี ลูกฟังแม่พูดนะ ตอนนี้ลูกฝึกฝนจิตใจให้ดี ห้ามหมดกำลังใจเด็ดขาดเข้าใจไหม ลูกยังมีโอกาส เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ได้เกลียดลูกไม่ใช่เหรอ” หวังอวิ๋นไฉ่มองฉู่อีอีพร้อมเอ่ยด้วยความจริงใจ ดวงตาเป็นประกาย
เธอเชื่อว่าเผยหนานเจวี๋ยชอบฉู่อีอีอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ แบบนี้ ลูกสาวของเธอทำดีมากมายแบบนั้น สุดท้ายผลลัพธ์กลับกลายเป็นแบบนี้ เธอจะพอใจได้อย่างไร
อีกอย่าง บ้านฉู่ยังต้องพึ่งเผยหนานเจวี๋ยเพื่อเลี้ยงดูปากท้อง ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากเขา พวกเธอจะต้องกัดก้อนเกลือกินหรืออย่างไร
หลายปีมานี้ เหตุผลที่ทำให้บ้านฉู่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างหรูหราแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะมีเผยหนานเจวี๋ยอยู่ บรรดาญาติๆ จึงหันมามองพวกเธอ แต่เมื่อเห็นว่าพวกเธอเกิดเรื่องแล้ว ตอนนี้วิ่งเร็วกว่าสุนัขเสียอีก ราวกับกลัวว่าจะทำให้พวกเขาลำบาก
“จริงเหรอคะ” ในที่สุดฉู่อีอีก็ได้ยินคำพูดของหวังอวิ๋นไฉ่ มองเธอพร้อมเอ่ยด้วยดวงตาที่พร่ามัว
เผยหนานเจวี๋ยยังมีความรู้สึกต่อเธอจริงๆ เหรอ ไม่อย่างนั้นเขาจะปล่อยเธอทำไมกันล่ะ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉู่อีอีก็ราวกับมีชีวิตชีวาขึ้นมา ยกมือปาดคราบน้ำตาบนใบหน้า เปิดผ้าห่มลงมาจากเตียง เธอดูกระปรี้กระเปร่ามาก เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วออกไปกับหวังอวิ๋นไฉ่แล้ว
ฉู่อีอีสวมแว่นดำอันใหญ่บนใบหน้า บดบังใบหน้าเรียวเล็กเกือบทั้งหมด ริมฝีปากทาลิปสติกสีแดงเข้ม เข้ากับผิวขาวดุจหิมะของเธอ ผมยาวหยิกปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง
ในเวลานี้เธอกำลังเดินช้อปปิ้งเคียงข้างกับหวังอวิ๋นไฉ่
“อีอีเอ๊ย เข้าไปดูร้านนี้กัน” หวังอวิ๋นไฉ่เห็นว่าเสื้อผ้าในร้านหนึ่งไม่เลวจึงลากฉู่อีอีเดินเข้าไปแล้ว